ยินดึต้อนรับ สู่ ขีวิต ความคิด และตัวตน ของคนผมขาว

ผมขาว
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





คนผมขาว ชื่อจริง ดวงตา ถาวรรัตน์ เป็นคนไม่สำคัญ คนหนึ่ง ผมขาวแล้ว แต่ไม่ยอมย้อมให้ดำเหมือนอีกหลายคนเพื่อนๆ เลยแซวว่า ยายผมขาว แต่ก็ชอบ

ด้วยวัยเข้ากลางคนมาได้ 49 ปีเศษ แล้ว ผ่านร้อนผ่าน
หนาวมาพอสมควร เฉียดตายก็หลายครั้ง

เมื่อ 6 ตุลาคม 2519 ครั้งหนึ่ง
ป่วย ครรภ์เป้นพิษ ชนิดรุนแรง เมื่อ ตั้งครรภ์ ลูกทั้ง สองคน อีกครั้ง สองครั้ง

มีลูกพิการด้านสายตา 1 คน คือ น้องโรส ไช้ชื่อที่นี่ว่า คนตาพิการ

จึงอยากจะบอก เล่า อะไรต่อมิอะไร ที่ได้ประสบมา ทั้งในด้านชีวิตส่วนตัว และการทำงาน มุมมองของชีวิต ให้เพื่อนพ้อง น้องพี่ได้ฟัง ก่อนจะแยกย้ายกันไป


e mail คุยกับ ผมขาว












free counter
Send Flowers

Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
7 ธันวาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ผมขาว's blog to your web]
Links
 

 
ต้นปอ กอจาก ขนำริมฝั่งน้ำ ปากพนัง เชียรใหญ่ นครศรีฯ

สถานที่เยียวยาใจ เมื่อวัยกลางคน

เป็นความโชคดีที่ได้คู่ชีวิต ที่มีความคล้ายคลึงกันในหลายด้าน ด้วยมีวิธีคิดที่คล้ายกัน มีวิถีชีวิตที่คล้ายกัน ทำให้สื่อความรู้สึกได้ตรงกันไม่ยาก

เราใช้ชีวิตอย่าง เศรษฐกิจพอเพียง มีที่ดินผืนเล็กๆอยู่ ประมาณ 5 ไร่ ที่ริมแม่น้ำ ปากพนัง เชียรใหญ่ นั่งเรือหางยาวจากปากพนังมา ตามคลองใหญ่ มาทางเชียรใหญ่ ไช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึง แต่ปัจจุบันนี้ มีถนนถึงหน้าบ้านแล้ว แต่ก็ยังชอบนั่งเรืออยู่

เราคิดว่า จะใช้เวลา สัก 5 ปี ค่อยๆ ปรับปรุง ภูมิทัศน์ ที่ลุ่มๆ ดอนๆ ให้สม่ำเสมอกัน โดยพยายามที่จะคงสภาพตามธรรมชาติเอาไว้ ไม่ปรุงแต่งมากนัก

เวลา 2 ปีผ่านไปด้วยการปรับระดับพื้นที่ผิวดินให้อยู่ตัว ปีที่ 3 เราก็ค่อยๆสร้าง “ขนำน้อย” ด้วยเงินเล็กๆน้อยๆของเรา

มีญาติอายุประมาณ 60 ปีอยู่คนหนึ่ง แต่ทว่ามีร่างกาย แข็งแรงมากคนหนึ่ง แกใช้ไม้เสม็ดที่แกปลูกไวัเอง นำมาทำเป็นโครงบ้านให้ แล้วแกก็ทำไปเรื่อยๆ เป็นแรงหลักอยู่คนเดียว บางครั้งก็มีญาติคนอื่นมาช่วยเมื่อต้องยกวัสดุหนักๆ หรือเมื่อต้องมุงกระเบื้องหลังคาเท่านั้นที่แกไม่สามารถทำได้คนเดียว

ทำไปบ้าง หยุดไปบ้าง สร้างมันด้วย เวลา และ ความรัก มีเงินพอก็มาสร้าง หมดเงิน ก็หยุด รอเงินเดือนออก ลุงก็เข้าใจ แต่ไม่ยอมเป็นหนี้ ไม่ได้รีบร้อนอะไรขนาดนั้น

จากเดือนสิงหาคม 2548 เราก็ทำเสร็จ เมื่อเดือน กันยายน 2549 นาน 1 ปี กว่าๆ พร้อมด้วย ต้นไม้ที่ค่อยๆปลูก ทีละต้น สองต้น งามมาก โดยเฉพาะ ต้นสักทอง ตอน นี้พื้นดิน มีหญ้าขึ้นเขียวชอุ่ม ต้นไม้ เจริญเติบขึ้นทีละน้อยๆ แม่น้ำมีน้ำไหลเป็น โค้งคุ้ง สวยงาม เมื่อมองออกจากตัวขนำ

มีต้นไม้หอม เช่น ต้นจำปี การะเวก ที่พี่ชายสามี ชำมาให้ รวมทั้ง ประใหมสุหรี ต้นโต ที่พี่ธัญยกมาให้ทั้งต้นจากจังหวัด สุราษฎร์ธานี

นอกจากนี้ ก็ยังมี ต้นตะเคียน ต้นศรีตรัง ที่ยกให้โดย คุณหมอชุมพร จากโรงพยาบาลสงขลา และ มะม่วง ขนุน มะพร้าว อย่างละต้น สองต้น มังคุดก็มี ปลูกไว้ร่วมสิบต้น แต่ไม่รอด เหลืออยู่สองต้น

ขนำเรามีสิ่งอำนวยความสะดวก ด้วยน้ำประปาหมู่บ้าน และไฟฟ้า เมื่อมี แม่ขนำ ก็มี ลูกขนำ ที่มุงหลังคาด้วย สังกะสีใต้ต้นสะแก อยู่บนขอบบ่อปลา เนื้อที่ เกือบ 2 ไร่ เลี้ยงปลาตามธรรมชาติ

ลูกขนำนี้ อากาศ ปลอดโปร่ง โล่ง เพราะไม่มีฝากั้น ใช้ปลีกวิเวก แบบเรียบง่าย คือ นอนกรน ส่งเสียงดังได้โดยไม่รบกวนใคร บางครั้งก็ใช้เป็นครัวชั่วคราว ตั้งวงกินข้าวกันอย่างมีความสุข ท่ามกลางสายลมเย็น และทิวทัศน์ที่สวยงาม

เด็กๆก็ตกปลาจากบ่อได้ในตอนกลางวัน พอตอนกลางคืน ถ้าสมาชิกอยู่กันครบ 5 คน มี พ่อ แม่ ลูก และ พ่อเฒ่า 90 ปี เราก็ กางมุ้งนอนเรียงกัน นอกระเบียง 1 มุ้ง ในเรือน 2 มุ้ง มีห้องน้ำ ห้องส้วม สะดวกใช้สำหรับผู้สูงอายุ

เมื่ออยู่กับตัวเอง เรานั่งสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดอย่างเต็ม ที่ มองสรรพสิ่งธรรมชาติรอบตัว ฟังเสียงน้ำไหล ลมพัดกิ่งไม้ ต้นจากก็ใบไหวๆ ไปมา ตามแรงลม มันสงบ เย็นสบายจริงๆ

ลูกๆก็ได้วิ่งเล่น ตามประสาเด็ก ลูกสาวโต เป็นวัยรุ่น ตาพิการ ก็นั่งทำการบ้านบ้าง อ่านหนังสือบ้าง ฟังเพลงจากวิทยุบ้าง

ในยามนี้ มีหนังสือดีๆ ที่มีคุณค่าต่อการใช้ชีวิต และ วิธีคิดที่สร้างสรรค์ทั้งหลาย ก็ค่อยๆถูกบรรจงออกมาอ่านทีละหน้า 2 หน้า อย่างสงบ

เล่มหนึ่งที่ชอบอ่านมากๆ อ่านแล้ว ไม่เคยเบื่อเลย คือเรื่อง “ความเรียบง่ายไร้กาลเวลา” แปลโดย อ. สดใส ขันติวรพงศ์ เป็นหนังสือแปลที่มีคุณค่ามาก ในการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายอย่างนี้

ธรรมชาติของคนเรา ส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้ มักหมกมุ่นอยู่กับ งาน งาน และ งาน จนลืมดูแล จิตวิญญาณ ของตนเอง ชีวิตที่ต้องการแต่วัตถุ บ้านงามๆ รถสวยๆ เครื่องแต่งกายดีๆ ใช้ชีวิตตามศูนย์การค้า เป็นเรื่องของวิถีชีวิตคนเมืองเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเราเห็นว่า น่าจะมิใช่ วิถีชีวิตที่เราต้องการ จะเลือก จะเป็น

เราสองคน จึงเตรียมพื้นที่สำหรับ ตัวเองและลูกๆ เพื่อให้เขาได้ซึมซับ ธรรมชาติ ซึมซาบความรู้สึกที่มีความอบอุ่นจากเครือญาติ ซึ่งแม้จะอยู่ท่ามกลางความยากไร้ของชนบท แต่ความมีน้ำใจที่ ชาวบ้าน เพื่อนบ้าน ญาติ มีให้กันนั้น ไม่เคยแห้งเหือดจากหัวใจ

วันนี้มีกล้วยน้ำว้า 1 หวี มาฝาก มีมะละกอ 1 ลูก วันนี้มีข้าวสาร 1 ถุง เหล่านี้เป็นน้ำใจ แม้เขาจะไม่มีเงิน แต่เขาก็อยากให้ด้วย ความรัก
ที่หาได้ยาก ในสังคมเมือง

ชนบท ผู้คนส่วนใหญ่ยังยากจนเหมือนเดิม อย่างไร ก็อย่างนั้น มีหนี้สินกันแทบทุกครัวเรือน เราสามารถรับฟังความทุกข์ของเขาได้ แต่เขาก็สามารถสร้างความสุขให้ตัวเองได้อย่างอดทน เลี้ยงหมู เลี้ยงวัว เลี้ยงเป็ด เ ลี้ยงไก่ ปลูกผัก ปลูกผลไม้ รดน้ำ พรวนดิน ทำงานไป พักไป เป็นอย่างนี้มาอย่างยาวนาน

เมื่อก่อนนั้น ถนนหนทางไปมาลำบาก เดี๋ยวนี้บ้านเมืองเจริญขึ้น ชนบทได้รับการดูแลมากขึ้น จึงมีน้ำประปา ไฟฟ้าใช้ เพิ่มความสะดวกในการหาอาหาร เพื่อให้มีแรงที่จะทำมาหากิน เลี้ยงลูก เลี้ยงครอบครัวต่อไป

ช่วงเวลาพักผ่อนของเรา / ครอบครัว ที่นี่ มีเพียงวัน เสาร์ และอาทิตย์ เดือนละ ครั้ง หรือ 2 ครั้งเท่านั้น แต่ก็สามารถเพิ่มพลังใจ พลังชีวิตได้อย่างมากมาย

เราได้ความสงบ เย็น และ นิ่ง เพื่อที่จะรองรับฟัง ความทุกข์ น้ำตาของเพื่อนร่วม โ ลก ที่เดินเข้ามาหา คนแล้ว คนเล่า วันแล้ว วันเล่า ไม่เคยจบสิ้น

ห้องทำงานของเรา ที่ทำงานของเราเป็นเหมือนศาลา ที่แบกรับความทุกข์ ที่เขาได้ปลดปล่อย เสียงสะอื้น น้ำตาที่พรั่งพรู เพียงถูกสัมผัสด้วยสายตาที่อบอุ่น และจริงใจ

สัมผัสมือ ให้ความรู้สึกที่ แผ่วเบา เป็นกำลังใจ เมื่อเขารู้สึกดีขึ้น เขาก็สามารถที่จะ มีแรง มีพลัง ที่จะต่อสู้กับอุปสรรค ปัญหาได้อีก ครั้งแล้ว ครั้งเล่าที่เป็นอย่างนี้ของชีวิต แต่ละชีวิต ที่มีอะไรต่อมิอะไรมากมายกดดันอยู่ เขากลับไปด้วยความสุข สดชื่นขึ้น เขาสา มารถดูแลตัวองได้ เขาสามารถ ยอมรับ ความเป็นจริงของเขาได้

ถ้าเรามีความรักในเพื่อนมนุษย์เป็นพื้นฐานของจิตใจ ไม่ยากเลยที่คุณ จะสามารถเข้าถึง วิชาชีพสังคมสงเคราะห์ อย่างแท้จริงได้

เมื่อลักษณะงานเป็นเรื่องของการดูแลใจผู้อื่น รับรู้ความทุกข์ของผู้อื่น ช่วยให้เขาคลี่คลายปัญหาได้ ด้วยตัวของเขาเอง ให้เขาตัดสินใจ เลือกใช้วิถีชีวิต ด้วยตัวของเขาเอง เขาจะต้องยืนหยัดต่อสู้ได้ด้วยตัวเอง รักตัวเอง ภูมิใจตัวเอง

ตัวเราเอง ก็เช่นเดียวกัน ก็ต้องมีวิธีการดูแลใจ ดูแลจิตวิญญาณของตัวเราเองด้วย มิเช่นนั้น ความเครียดก็จะถามหา โรคาทั้งปวงก็จะมาเยือน ความดัน โรคหัวใจ มะเร็ง และ อีกหลายๆโรคประจำตัว

การเยียวยาหัวใจตนเอง ด้วยสถานที่ปลดปล่อยที่มีความสุข จึงต้องเกิดขึ้น อย่างมีคุณค่ามากทางความรู้สึก

งาน งาน งาน ทั้งหลาย ถูกปล่อยออกไป เติมเต็มความว่าง ความรู้สึก อิ่มสุข เพื่อรับความทุกข์ของผู้คนได้อีกมากมาย คนทำงานด้วยหัวใจเดียวกัน ความรู้สึกเดียว กัน เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้สังคม

เรายินดีให้ขนำน้อยของเรา เป็นที่พักพิงใจ ได้นะ หากเพื่อนต้องการพักผ่อนด้วย ชีวิตที่เรียบง่าย อยู่ใกล้กับอำเภอ 8 กิโลเมตรเอง อยู่ใกล้ตลาดนัดวันเสาร์ ไม่เกิน 2 กิโลเมตร อยากเดิน ก็ได้เดิน อยากขี่จักยาน ก็ได้ขี่ ไม่มีรถยนต์ผ่านบ่อย

ใครเบื่อเมือง ก็ยินดีต้อนรับ


“ขนำน้อย ต้นปอ กอจาก” 164 หมู่ที่ 1 ต.ไสหมาก อ.เชียรใหญ่ จ. นครศรีฯ

ไม่คิดค่าใช้จ่ายอะไรทั้งสิ้น ขอเพียงเอาต้นไม้เล็กๆ มาปลูก คนละต้น ก็พอแล้ว

รูป ขนำ ต้นปอ กอจาก อยู่ที่นี่ค่ะ //outdoors.webshots.com/album/550582384ibWvyN


Create Date : 07 ธันวาคม 2549
Last Update : 7 ธันวาคม 2549 13:01:23 น. 8 comments
Counter : 919 Pageviews.

 
ขอเด็กฉวาง (จันดี) เข้ามาแจมด้วยคนน่ะครับ


โดย: ลิเบอร์ลัท (Austin Dash ) วันที่: 7 ธันวาคม 2549 เวลา:16:09:50 น.  

 
อ่านแล้วเห็นภาพตามเลยค่ะ แต่พอเข้าไปดูรูป
แบบนี้เค้าไม่เรียกขนำแล้ว เค้าเรียกบ้านค่ะ
ขนำมันต้องเล็กๆๆไม่ใช่เหรอคะ ที่บ้านสาวเขียน พ่อทำขนำไว้ เล็กนิดเดียว พ่อชอบไปนอนที่นั่นบ่อยๆๆ
ตอนนี้พ่อเสียไปแล้ว ขนำเลย ว่างไปเลยค่ะ คิดถึงพ่อจัง


โดย: สาวเขียน วันที่: 7 ธันวาคม 2549 เวลา:22:53:41 น.  

 
แฮ่.......ตามมาอีกรอบ ใช้ชื่อ"สาวเขียน" เพราะว่าญาติๆตั้งให้ค่ะ
สาวเขียนจริงๆแล้วเป็นชื่อคนบ้า แถวพัทลุง
ญาติๆซึ่งตอนนั้นก็เป็นเด็กๆด้วยกัน เค้าคงเห็นสาวเขียนบ้าๆบอๆ
เหมือนคนบ้าที่ชื่อ"สาวเขียน"หน่ะค่ะ เค้าเลยเอามาเรียก
จนกระทั่งโตไปมีครอบครัวกันเกือบหมดแล้ว บางคนยังติดปาก
เรียกว่า"สาวเขียน"อยู่เลย ก็เลยเอามาตั้งเป็นชื่อบล๊อคค่ะ
บ้านพ่อสาวเขียนอยู่บางจาก แต่เดี๋ยวนี้รถเข้าไปถึงแล้ว
ย่าสาวเขียนชื่อ สุ่น ตรีตรงค่ะ เสียไปหลายปีแล้ว
เผื่อคุณรู้จัก
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ สาวเขียนจะติดตามอ่านเรื่องราวของคุณผมขาวและลูกสาวน๊ะคะ


โดย: สาวเขียน วันที่: 8 ธันวาคม 2549 เวลา:7:28:02 น.  

 
เพิ่งได้ต้นสายหยุดมา2ต้นจะเอามารวมกับต้นปอกอจากสักต้นได้ไหม


โดย: เคท มอสส์ IP: 203.113.77.7 วันที่: 9 ธันวาคม 2549 เวลา:21:46:48 น.  

 
ยินดีครับ คุณ เคท มอสส์
ตอนนี้ ถ้าดูตามรูป ต้นไม้ส่วนมาก เป็นต้นไม้ที่มีอยู่เดิม เพิ่มมาก็เพียงต้น สักทอง 10 กว่าต้น ต้นปอ ริมคลอง และต้นจาก กำลัง ขยายตัวมันเอง เพิ่มขึ้นมาก ต้นไม้ใหม่ๆ ยังไม่โต ต้องรอ เวลาอีกสักหลายปี
เมื่อไร จะมาเที่ยวล่ะครับ คุณ เคท


โดย: ทวีศักดิ์ ถาวรรัตน์ (ผมขาว ) วันที่: 12 ธันวาคม 2549 เวลา:15:31:10 น.  

 
หายไปเพาะต้นสายหยุดอยู่นาน
เดี๋ยวพ้นผ่านปีใหม่แล้วจะขออนุญาตหิ้วต้นสายหยุดไปหยุดขุดหลุมปลูกไม่ไกลจากต้นปอ กอจากนะคุณผมขาวและคุณทวีศักดิ์

ปีใหม่นี้ ขออวยพรให้ครอบครัวถาวรรัตน์มีความสุข สงบจากธรรมชาติที่บ้านสวนเชียรใหญ่นะคะ


โดย: เคท มอสส์ IP: 203.113.77.7 วันที่: 29 ธันวาคม 2549 เวลา:19:29:15 น.  

 
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
โครงสร้างภายในของปลายยอดพืช
บริเวณปลายยอดพืชสามารถแบ่งออกเป็นบริเวณ(region/zone) ได้ทั้งหมด 3 บริเวณด้วยกันคือ
1.บริเวณเซลล์แบ่งตัว(region of cell division)
2.บริเวณเซลล์ยืดตัว(region of cell elongation)
3.บริเวณเซลล์เจริญเต็มที่ (region of maturation)
1.โครงสร้างภายในของลำต้นที่ตัดตามขวาง
เมื่อนำปลายยอดของพืชมาตัดตามขวางบริเวณเซลล์เจริญเต็มที่จะพบว่าโครงสร้าง ภายในประกอบด้วยเนื้อเยื่อชนิดต่างๆตามแต่ชนิดของพืชโดยแบ่งได้ดังนี้
‡1.1โครงสร้างภายในของลำต้นพืชใบเลี้ยงคู่
1.epidermis
เป็นเนื้อเยื่อที่อยู่ชั้นนอกสุด ทำหน้าที่ป้องกันอันตรายให้แก่เนื้อเยื่อภายในของลำต้น ส่วนใหญ่เซลล์เรียงตัวเพียงชั้นเดียว พืชบางชนิด epidermis มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นส่วนของ trichome / hair และ guard cell ในต้นพืชที่อายุมากส่วนใหญ่แล้วส่วนของ epidermis จะหลุดหายไปเพราะถูกแทนที่ด้วยส่วนของคอร์ก
2.cortex (คอร์เทกซ์)
คอร์เทกซ์เป็นชั้นของลำต้นที่มีอาณาเขตตั้งแต่ใต้ epidermis เข้ามาจนถึงเนื้อเยื่อเอนโดเดอมิส(endodermis) ดังนั้นในชั้นคอร์เทกซ์จึงประกอบด้วยเนื้อเยื่อชนิดต่างๆได้แก่
- 1.parenchyma เป็นเนื้อเยื่อส่วนใหญ่ที่พบภายในลำต้น
- 2.chlorenchyma ทำหน้าที่ช่วยในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
- 3.aerenchyma ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการสะสมอากาศ โดยเฉพาะพืชน้ำ
- 4.collenchyma เพิ่มความแข็งแรงให้แก่ลำต้น
- 5.sclerenchyma(fiber)ให้ความแข็งแรงแก่ลำต้น
3.stele (สตีล)
สตีลเป็นชั้นที่ถัดเข้ามาจากชั้นคอร์เทกซ์ โดยมีอาณาเขตตั้งแต่ใต้ endodermis เข้ามาจนถึงใจกลางของลำต้น แต่เนื่องจากในลำต้นเนื้อเยื่อ endodermis ส่วนใหญ่เห็นได้ไม่ชัดเจนหรือหนังสือบางเล่มก็กล่าวว่าในลำต้นจะไม่มีเนื้อ เยื่อ endodermis ทำให้ชั้นสตีลในลำต้นแบ่งแยกออกจากชั้นคอร์เทกซ์ได้ไม่ชัดเจนเหมือนในส่วน ของรากพืช
ภายในชั้นสตีลจะประกอบด้วยเนื้อเยื่อที่สำคัญคือ
- 1.vascular bundle
หมายถึงกลุ่มของเนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการลำเลียง ภายในเนื้อเยื่อ vascular bundle ของพืชใบเลี้ยงคู่ประกอบด้วย กลุ่มเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร(phloem)เรียงตัวอยู่ทางด้านนอกและกลุ่มเนื้อ เยื่อลำเลียงน้ำ(xylem)เรียงตัวอยู่ทางด้านในหรือด้านที่ติดกับ pith ระหว่าง xylem กับ phloem จะมีเนื้อเยื่อเจริญที่เรียกว่า vascular cambium คั่นกลางอยู่ทำหน้าที่แบ่งเซลล์เพื่อให้กำเนิด xylem และ phloem
- 2.pith
เป็นเนื้อเยื่อที่อยู่ส่วนกลางของลำต้น ส่วนใหญ่เป็นเนื้อเยื่อประเภท parenchyma จึงทำหน้าที่ในการสะสมสารต่างๆ ลำต้นของพืชใบเลี้ยงคู่บางชนิดเนื้อเยื่อในส่วนนี้อาจสลายไปกลายเป็น ช่องกลวงกลางลำต้น เรียกช่องนี้ว่า pith cavity

‡1.2โครงสร้างภายในของลำต้นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว
1. epidermis
เป็นเนื้อเยื่อที่อยู่ชั้นนอกสุด ทำหน้าที่ป้องกันอันตรายให้แก่เนื้อเยื่อภาย
ในของลำต้น ส่วนใหญ่เซลล์เรียงตัวเพียงชั้นเดียวและมีอยู่ตลอดไป ยกเว้นใน ต้นพืชตระกูลปาล์มจะมีเฉพาะในปีแรกเท่านั้นเพราะต่อมาจะมีเนื้อเยื่อคอร์ก (cork) มาแทน
2. cortex
มีเนื้อเยื่อบางๆ1-2 ชั้น ส่วนใหญ่เป็นเนื้อเยื่อชนิด parenchyma และส่วนใหญ่ไม่พบ endodermis ทำให้อาณาเขตแบ่งได้ไม่ชัดเจน
3. stele
- 3.1 vascular bundle
กลุ่มของเนื้อเยื่อลำเลียงของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ส่วนของ xylem, phloem จะเรียงตัวกันมองคล้ายๆใบหน้าคน มีส่วนของ vessel อยู่บริเวณคล้ายดวงตา ส่วน phloem อยู่บริเวณคล้ายหน้าผาก xylem และ phloem จะถูกล้อมรอบด้วยเนื้อเยื่อ parenchyma หรืออาจเป็น sclerenchyma และเรียกเซลล์ที่มาล้อมรอบนี้ว่า bundle sheath
vascular bundle ของพืชใบเลี้ยงเดี่ยวส่วนใหญ่ไม่พบเนื้อเยื่อเจริญ vascular cambium ยกเว้นหมากผู้หมากเมีย และพืชตระกูลปาล์ม
- 3.2 pith
เป็น เนื้อเยื่อที่อยู่ส่วนกลางของลำต้น ส่วนใหญ่เป็นเนื้อเยื่อประเภท parenchyma พืชใบเลี้ยงเดี่ยวบางชนิด เช่น ข้าวโพด ในเนื้อเยื่อของ pith นี้จะพบ vascular bundle กระจายอยู่เต็ม นอกจากนี้พืชบางชนิดเนื้อเยื่อในส่วนนี้อาจสลายไปกลายเป็นช่องกลวงกลางลำ ต้น เรียกว่า pith cavity เช่นต้นไผ่ ต้นข้าวเป็นต้น


โดย: จากกอ IP: 118.173.11.183 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:54:23 น.  

 
ชนิดของลำต้น
1.ลำต้นเหนือดิน
ลำต้นเหนือดิน เป็นต้นที่ปรากฏอยู่เหนือพื้นดินทั่วๆไปของต้นไม้ต่างๆ ยังเปลี่ยนแปลงรูปร่างและหน้าที่ได้ต่างกันดังนี้
1. ลำต้นเลื้อยขนานไปกับผิวดินหรือผิวน้ำ (prostrate หรือ creeping stem) ส่วนใหญ่พืชพวกนี้มีลำต้นอ่อน ตั้งตรงไม่ได้ จึงต้องเลื้อยขนานไปกับผิวดิน
2. ลำต้นเลื้อยขึ้นสูง (climbing stem หรือ climber) พืชพวกนี้มีลำต้นอ่อน แต่ไต่ขึ้นสูงโดยขึ้นไปตามหลักหรือต้นไม้ที่อยู่กติดกัน วิธีการไต่ขึ้นสูงนั้นมีอยู่หลายวิธี คือ
- 2.1 ใช้ลำต้นพันหลักเป็นเกลียวขึ้นไป (twining stemหรือ twinter) การพันอาจเวียนซ้ายหรือเวียนขวา
- 2.2 ลำต้นเปลี่ยนเป็นมือเกาะ (stem yendri หรือ tendrilcimber) มือจะบิดเกาะเป็นเกลียวคล้ายสปริงเพื่อให้มีการยืดหยุ่น เมื่อลมพันผ่านมือจะยืดหดได้
- 2.3 ใช้รากพัน (root climber) เป็นลำต้นที่ไต่ขึ้นสูงโดยงอกรากออกมาบริเวณข้อยึดกับหลักหรือต้นไม้อื่น รากพืชเหล่านี้หากยึดกับต้นไม้จะไม่แทงรากเข้าไปในลำต้นของพืชที่เกาะ ไม่เหมือนพวกกาฝาก
- 2.4ลำต้นเปลี่ยนเป็นหนาม(stem spine)บางทีเรียกลำต้นชนิดนี้ว่าสแครมเบลอร์(scrambler)เพื่อใช้ในการไต่ ขึ้นที่สูงและยังทำหน้าที่ป้องกันอันตรายอีกด้วย หนามเหล่านี้จะแตกออกมาจากบริเวณซอกใบ หนามบางชนิดเปลี่ยนแปลงมาจากใบ หนามบางชนิดไม่ใช่ทั้งลำต้น บและกิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปแต่เปลี้ยนจากผิวนอกของลำต้นงอกออกมาเป็นหนามเช่น หนามกุหลาบ
3. ลำต้นที่เปลี่ยนแปลงไปมีลักษณะคล้ายใบ(cladophyll)ลำต้นที่เปลี่ยนไปอาจแผ่ แบนคล้ายใบหรือเป็นเส้นเล็กยาวและยังมีสีเขียว ที่มีสีเขียวต่อกันเป็นท่อนๆนั้นเป็นส่วนของลำต้นที่เปลี่ยนแปลงไป ส่วนใบที่แท้จริงเป็นแผ่นเล็กๆติดอยู่รอบๆข้อ เรียกว่าใบเกล็ด
นอกจากนั้นยังมีลำต้นอวบน้ำเป็นลำต้นของพืชที่อยู่ในที่แห้งแล้งกันการน้ำ จึงมีการสพสมน้ำไว้ในลำต้น
2.สำต้นใต้ดิน
จำแนกจากรูปร่างลักษณะดังนี้
1.แง่งหรือเหง้า(rhizome)สำต้นใต้ดินจะอยู่ขนานกับผิวดิน เห็นข้อปล้องได้ชัดเจน ตามข้อมีใบสีน้ำตาลที่ไม่มีคลอโรฟีลล์ มีลักษณะเป็นเกล็ดเรียกว่าใบเกล็ด หุ้มตาเอาไว้มีรากงอกออกจากเหง้า ตาอาจแตกแขนงเป็นใบอยู่เหนือดิน หรือเป็นลำต้นอยู่ใต้ดินก็ได้
2.ทูเบอร์(tuber)เป็นลำต้นใต้ดินที่งอกออกมาจากปลายไรโซม มีปล้องเพียง3-4ปล้องตามข้อไมมีใบเกล็ดและรากสะสมอาหารเอาไว้มากในลำต้นส่วน ใต้ดิน จึงดูอ้วนใหญ่ แต่บริเวณที่เป็นตาจะบุ๋มลงไป
3.หัวกลีบ(bulb)เป็นลำต้นใต้ดินที่ตั้งตรง อาจมีส่วนพันดินบ้าง ลำต้นมีขนาดเล็กมีปล้องที่สั้นมาก บริเวณปล้องมีใบเกล็ดที่ซ้อนกันหลายชั้นจนเห็นเป็นหัว อาหารสะสมอยู่ในใบเก็ด ในลำต้นไม่มีอาหารสะสม บริเวณส่วนล่างของลำต้นมีรากเส้นเล็กๆ แตกออกมาหลายเส้น
4.คอร์ม(corm)เป็นลักษณะของลำต้นที่ตั้งตรง เก็บอาหารไว้ในลำต้นจึงมีลักษณะอวบใหญ่ ทางด้านล่างมีรากเส้นเล็กๆหลายๆเส้น ที่ข้อมีใบเกล็ดบางๆหุ้ม ตาแตกออกมาจากข้อมีใบชูขึ้นสูงหรืออาจเป็นลำต้นใต้ดินต่อไป


โดย: นาE พี IP: 118.173.11.183 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:55:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.