Group Blog
ภาพยนตร์
<<
มีนาคม 2550
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
19 มีนาคม 2550
Marie Antoinette : รองเท้าผ้าใบของพระราชินี
All Blogs
Happy-go-lucky : คิดแง่บวก
My sweet sonata : ได้โปรดบรรเลงเพลงสุดท้าย
Too much ,too many more ! : หมอเปลี่ยนหัว (ละครเวที)
The Fall : เรื่องเล่าของการหล่น
บริเวณนี้อยู่ภายใต้การกักกัน : This Area is Under Quarantine
The coffin : ปลดกรรม
Les chansons damour : แล้วจะร้องเพลงรัก
Emerald : มรกตในอากาศ
รักแห่งสยาม : Thus love is
Blackbird : ติดกับ
Once upon a time single drop of blood
The Piano Teacher : รัก...บาด
Eternal summer : เรื่องรักของบางเรา
พลอย : มากกว่าบอกคำว่า...รัก
Memories of Matsuko : ชีวิตบัดซบ
Me Myself : ผู้หญิง...ที่หายไป
Pans labyrinth : หลง...จินตนาการ
Sunshine : อาทิตย์ดับ
The Fountain : ณ ที่น้ำพุแห่งสุดท้าย I shall be your eve.
Riding alone for thousands of miles : พันลี้ในหัวใจ
Marie Antoinette : รองเท้าผ้าใบของพระราชินี
4:30 am. ดึกเกินกว่าที่จะข่มตานอน
No Regret : ถ้าครั้งนี้จะไม่มีคำว่าเสียใจ
La maison de Himiko ความรักไม่มีเพศ
Narnia เมื่อ Jesus Christ กลายเป็นสิงโต
The beat that my heart skipped
Marie Antoinette : รองเท้าผ้าใบของพระราชินี
ใครทันได้เห็นรองเท้าคอนเวิร์สซุกอยู่ใต้โต๊ะ ในฉากที่พระนางมารี อังตัวเน็ต เลือกรองเท้าส้นสูงคู่ใหม่บ้างไหมครับ ?
คนฝรั่งเศส เชื่อว่า รองเท้าเป็นตัวแทนของคนใส่ มันบอกความเป็นทั้งหมดทั้งมวลของตัวคุณ เมื่อคุณบอกคนฝรั่งเศสว่า je suis bien dans mes pompes ( ฉันรู้สึกดีในรองเท้าคู่นี้ของฉัน ) นั่นแสดงว่าชีวิตของคุณราบรื่นและคุณมีความสุขกับชีวิตของคุณ แต่ถ้าเป็นตรงกันข้าม มันอาจจะไม่ได้หมายความแค่ว่าคุณต้องการเปลี่ยนรองเท้าคู่ใหม่ แต่หมายถึง เปลี่ยนชีวิตของคุณเสียใหม่ทั้งชีวิต
ในหนังเรื่องล่าสุดของโซเฟีย คอปโปลา ผู้หญิงที่เขย่าหัวใจผมมาแล้วครั้งหนึ่งจาก Lost in translation เล่าเรื่องชีวิตตั้งแต่วันแรกของเจ้าหญิงออสเตรียที่ต้องเดินทางเข้าสู่ประเทศฝรั่งเศสเพื่อสมรสทางการเมืองกับรัชทายาทของประเทศมหาอำนาจ ถึงวันที่เธอได้กลายเป็นพระราชินี จวบจนกระทั่งในช่วงท้ายสุดของชีวิต
เท่าที่จำได้ เมื่อครั้งที่หนังไปเปิดตัวฉายที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์นั้น มีข่าวว่าคนฝรั่งเศสลุกขึ้นโห่เมื่อหนังจบ ช่างคนฝรั่งเศสเถอะครับ พวกเขามีเลือดชาตินิยมอยู่ในตัวค่อนข้างสูง ( chauvinism ) จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เมี่อผู้หญิงอเมริกันคนหนึ่งลุกขึ้นมาสร้างหนังเรื่องของพระราชินีต่างชาติที่ต้องทุกข์ทรมานในราชสำนักฝรั่งเศสแล้วพวกเขาจะไม่พอใจ
ทั้งที่จริงๆแล้ว ผมว่าหนังของโซเฟียไม่ได้ต้องการเน้นประเด็นสำคัญในส่วนของการวิพากษ์ระบอบราชสำนักฝรั่งเศสมากอย่างที่บางคนอาจจะตีความ ผมว่าประเด็นสำคัญของเธอ มีเพียงแค่ต้องการเสนอภาพของผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่งที่แปลกแยก และ กำลังค้นหาตัวตนที่แท้จริง ในโลกที่เธอไม่รู้จัก และ ไม่นึกฝันว่าจะได้เข้ามาสัมผัสต่างหาก
ประเด็นของคนแปลกแยก คนเหงา ที่ถูกขังอยู่ในโลกที่ตัวเองไม่คุ้นเคยนั้น เป็นประเด็นที่ดูเหมือนว่าโซเฟีย คอปโปลา สนใจมาตั้งแต่ครั้งที่เธอทำ The virgin suicides ซึ่งแม้แต่ใน Lost in translation เอง ประเด็นที่ว่านั้นก็เด่นชัดเสียจนไม่อาจจะหลบหน้าหนีได้
มารี อังตัวเน็ต เป็นพระราชินีต่างชาติในราชสำนักฝรั่งเศสที่โดดเด่นเหลือเกิน และนั่นก็เป็นเพราะบุคลิกส่วนพระองค์ ความหลงใหลในแฟชั่น ความฟุ้งเฟ้อสารพันต่างๆของพระองค์นั้น เกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้านั่นไม่เป็นเพราะผลจากความอัดอั้น และโหยหาความสุข
ลองนึกถึงเด็กสาวอายุ 14 ที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายที่เธอไม่เคยเห็นหน้า กับพิธีรีตองสารพัดสิ่งที่เธอต้องเจอตั้งแต่ตื่นนอน และ เมื่อเธอถูกปล่อยให้ยืนเปลือยกาย รอการแต่งตัวจากบรรดานางในราชสำนักลำดับขั้นต่างๆ เธอบ่นว่าสิ่งต่างๆเหล่านั้น มันช่างไร้สาระสิ้นดี คำตอบที่ได้รับกลับเป็นว่า แต่พระนาง ที่นี่คือแวร์ซายน์
ใช่ครับ ที่นั่นคือแวร์ซายน์ และ มารี อังตัวเน็ต เริ่มรับรู้
เธอใช้มันเป็นหนทางไปสู่ความสุข และ พาตัวเองหนีจากระบบระบอบที่รายล้อมอยู่ เด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่งจึงใช้ระเบียบที่กักขังตัวเธออยู่นั้นหนีไปสู่เสรีภาพ และคริสตีน ดันส์ ที่ไม่เคยสวยเลยในหนังกี่เรื่องต่อกี่เรื่องของเธอ ก็สามารถเป็นตัวแทนของเด็กสาวเจ้าปัญหาในโลกที่เธอไม่เคยรู้จักได้อย่างสมบูรณ์
และเมื่อรองเท้าคอนเวิร์สสีฟ้าคู่นั้น ถูกวางอย่างจงใจไว้ท่ามกลางรองเท้าส้นสูงสารพันแบบ ในฉากที่พระราชินีเลือกฉลองพระบาทคู่ใหม่ มันจึงไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแต่เพียงรองเท้าคู่หนึ่งของพระราชินีเท่านั้น หากแต่มันคือตัวแทนทั้งหมดของเธอ โลกทั้งโลกที่เธอโหยหา แต่ไม่มีวันที่จะได้ครอบครอง
ถึงวันที่คุณจะเลือกรองเท้าคู่ใหม่หรือยังครับ
Create Date : 19 มีนาคม 2550
Last Update : 19 มีนาคม 2550 3:04:28 น.
2 comments
Counter : 3134 Pageviews.
Share
Tweet
เขียนดีมากเลยค่ะ
ดูมา 2 รอบแล้ว แต่ไม่ทันสังเกตรองเท้าผ้าใบ ดูหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกดีนะคะ (เว้นแต่ขอติตรงเพลงประกอบ)
โดย:
Lilac Girl
วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:23:12:38 น.
รองเท้าผ้าใบของพระราชินี ... อ่านแล้วจึงเข้าใจ
"โลกทั้งโลกที่เธอโหยหา แต่ไม่มีวันที่จะได้ครอบครอง"
รองเท้าหนังใส่เป็นประจำ สำหรับใส่ทำงาน เพราะเข้ากับเสื้อผ้า และหน้าที่การงาน
รองเท้าที่ชอบซื้อ เป็นรองเท้าแตะ รองเท้าสำหรับวิ่ง และรองเท้าสำหรับเที่ยวลุยๆ ซึ่งอันหลังได้ใช้ปีละไม่กี่ครั้ง
โดย:
bua ja
วันที่: 31 มีนาคม 2550 เวลา:13:35:03 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
luckymelodie
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ให้ทิปเจ้าของ Blog
[
?
]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
merveillesxx
grappa
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
bua ja
das Kino
Grenadine1oz
Thus Spoke Eitthakorna
Webmaster - BlogGang
[Add luckymelodie's blog to your web]
Links
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ดูมา 2 รอบแล้ว แต่ไม่ทันสังเกตรองเท้าผ้าใบ ดูหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกดีนะคะ (เว้นแต่ขอติตรงเพลงประกอบ)