รับแสงแรกก่อนใครในสยาม ชมความงามภาพเขียนสีโบราณที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม (ตอนที่2)
ต้องขออภัยพี่ๆ เพื่อนๆ สมาชิกที่ต้องทนดูบล็อกย้วย ยืดยาน และความอืดอาจยืดยาดของเจ้าของบล็อกที่กว่าจะอัพบล็อคแต่ละบล็อค รอไปเหอะ คนอื่นเขาอัพกันถึงไหนต่อไหนกันแล้วบางท่านอัพกันวันเว้นวัน หรือทุกวันก็มี อย่างน้อยก็สัปดาห์ละบล็อก ข้าพเจ้าผู้น้อยต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ข้าน้อยสมควรตายวันละร้อยครั้ง แต่ครั้งนี้ขอไว้ก่อนนะครับ ผมเรียนให้ทราบอย่างนี้จริงๆว่า ไม่ได้ห่างเหินไปไหนอาจจะมีงานประจำเยอะบ้างบางเวลา แต่ก็ยังคงเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของพี่ๆ เพื่อนๆตลอดเวลา เข้าเว็บบล็อกแก้งทุกครั้งที่เปิดคอมฯ และก็พยายามปรับแก้บล็อคของตัวเองตลอดด้วยเครื่องมือแบบใหม่ที่ทางเว็บมีให้แต่ยิ่งแก้ยิ่งไปกันใหญ่ บางทีใช้เวลาแก้ไป 2-3 ชั่วโมงด้วยความอดทน ครั้นพอจะ publish ระบบก็แจ้งว่าบล็อคนี้มีขนาดความยาวเกินไปเป็นอย่างนี้ตลอด อยากมีบล็อกสวยๆเหมือนคนอื่นๆบ้างน่ะครับ พยายามทำอยู่หลายครั้งเสียเวลาเป็นอาทิตย์ๆ ที่จริงเป็นตั้งแต่บล็อกก่อนหน้านี้แล้ว เข้าไปใช้วิธีปรับแก้แบบเก่าก็ไม่มีความรู้เรื่องโค้ตเลยจริงๆ เจอภาษาคอมยาวๆเป็นบรรทัดๆ งง เป็นไก่ตาแตก พยายามลองผิดลองถูกด้วยตนเอง ใช้วิธีเก่าและวิธีใหม่สลับกันไปมาเข้าไปแก้ในแบบใหม่จำโค้ตและก็อปปี้มาลงในแบบเก่าแล้วจึงค่อย publish จึงค่อยพอถูไถไปได้ ในขณะเดียวกันก็เริ่มคิดตกแล้วว่าอย่าไปคาดหวังบล็อคว่าออกมาจะสวยงามเหมือนอย่างบล็อคของพี่ น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา , Rinsa yoyolive และอีกหลายๆบล็อกที่เราเองชื่นชมและอย่างทำได้อย่างนั้นบ้าง แต่ก็ต้องประมาณตนด้วยว่าเราเองไม่มีความรู้เรื่องโค๊ตเลยแล้วจะเอาหรูเลิศขนาดไหนเชียว แค่โฟโต้ช็อปยังทำไม่เป็นเลยบอกแบบไม่อาย ทำรูปก็ใช้แค่ ACdsee ธรรมดาง่ายปรับแสงนิดหน่อยแค่นั้น เพราะฉะนั้นจะเอาเลิศเลอเพอร์เฟคเหมือนเขานั่น เลิกคิดเหอะ เอาแค่ฝุ่นๆ เขาก็พอแล้ว ไม่ปวดหัวด้วย เมื่อปลงตกแล้วจึงออกมาอย่างที่เห็นนี่แหละครับ ร่ายมาเสียยืดยาว ว่าแล้วเราไปเที่ยวผาแต้มกันต่อครับ ในบล็อกรับแสงแรกก่อนใครในสยาม ชมความงามภาพเขียนสีโบราณที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ตอนที่ 2 ลงไปดูภาพเขียนสีโบราณ 3000 ปีที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี กันเลยครับ  ผมกลับมาที่ผาแต้มอีกครั้ง มาที่จุดบริการนักท่องเที่ยว พี่บรรลุยืนยิ้มเผล่อย่างเปิดเผยเปี่ยมด้วยไมตรี แนะนำตัวเองพร้อมบอกว่าจะมาทำอะไร พี่บรรลุพยักหน้ายินดีพร้อมจัดเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือ ที่จะลงไปเดินชมภาพเขียนสีโบราณที่ใต้หน้าผาแต้มที่ผมมายืนถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นเมื่อเช้านั่นแหละพี่บรรลุพาผมเดินไปบนลานหินกว้างใหญ่ ที่ธรรมชาติสร้างไว้มานานไม่รู้กี่ล้านปีมาแล้ว เป็นลานกว้างพื้นที่หลายไร่ อุทยานจึงใช้พื้นที่นี้เป็นลานจอดรถนักท่องเที่ยว จอดได้ทั้งรถบัส รถยนต์ส่วนตัว ได้หลายร้อยคันสิ่งผมรู้สึกหงุดหงิดใจมาตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วว่า ทำไมขยะมีให้เห็น ขัดหูขัดตาเสียเหลือเกิน ผมเองถ่ายรูปไปก็เก็บขยะไปด้วยได้ถุงใหญ่ทีเดียว มีทั้งพลาสติก ขวดน้ำ ซองบุหรี่ ฯลฯ ทำไมไม่รับผิดชอบกันเลยดูแล้วไร้วัฒนธรรมสิ้นดี พี่บรรลุบอกว่า เพิ่งผ่านการจัดงานต้อนรับแสงแรกแห่งปีไปเมื่อวันขึ้นปีใหม่ที่ผ่านมา ขยะจึงยังมีเล็ดลอดสายตาให้เห็น ทางอุทยานเก็บไปมากโขแล้ว ผมจึงได้ถึงบางอ้อ เราเดินลงบันไดมาได้ประมาณ 50 เมตรก็ถึงจุดชมภาพเขียนสีโบราณจุดแรกเป็นภาพลายเส้นสีแดงรูปปลา 5 ตัว ลงบนพื้นสีแดงเข้มบนหน้าผาสูงประมาณ 3-4 เมตร ขนาดความกว้างของภาพกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร ยาวตลอดหน้าผาในจุดแรกประมาณ 7 เมตรจากนั้นเราก็เดินต่อไปชมภาพในจุดที่สองซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดแรกมากนัก ใต้เงาไม้ร่มรื่นภายใต้หน้าผาสูงใหญ่ของผาแต้ม หากใครมาที่ผาแต้มเพียงมาชมพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครแค่นั้น ถือว่ายังไม่ถึงผาแต้มอย่างแท้จริง ไฮไลท์จริงๆของผาแต้มคือการได้มาชมภาพเขียนสีโบราณที่ใต้หน้าผาหินของผาแต้มมากกว่า
 เราเดินลงบันไดมาได้ประมาณ 50 เมตรก็ถึงจุดชมภาพเขียนสีโบราณจุดแรกเป็นภาพลายเส้นสีแดงรูปปลา 5 ตัว ลงบนพื้นสีแดงเข้มบนหน้าผาสูงประมาณ 3-4 เมตร ขนาดความกว้างของภาพกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร ยาวตลอดหน้าผาในจุดแรกประมาณ 7 เมตรจากนั้นเราก็เดินต่อไปชมภาพในจุดที่สองซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดแรกมากนัก ใต้เงาไม้ร่มรื่นภายใต้หน้าผาสูงใหญ่ของผาแต้ม หากใครมาที่ผาแต้มเพียงมาชมพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครแค่นั้น ถือว่ายังไม่ถึงผาแต้มอย่างแท้จริง ไฮไลท์จริงๆของผาแต้มคือการได้มาชมภาพเขียนสีโบราณที่ใต้หน้าผาหินของผาแต้มมากกว่า


 
  เราเดินมาได้สัก 200-300 เมตรก็มาถึงยังจุดชมภาพเขียนสีโบราณจุดที่สอง ซึ่งมีความอลังการ ใหญ่โตกว่าจุดแรก เป็นภาพของช้างกำลังว่ายน้ำ สาเหตุที่รู้ว่าเป็นรูปช้างกำลังว่ายน้ำเพราะใต้งวงช้างกับลำตัวมีรูปปลาอยู่ ซึ่งก็สันนิษฐานว่าในสมัยก่อนคงมีช้างป่าอาศัยอยู่และว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขงไปมาระหว่างสองฝั่งแม่น้ำ นอกจากนั้นยังมีรูปอุปกรณ์การประมงของคนสมัยก่อน เช่น ตุ้ม อุปกรณ์จับปลาชนิดหนึ่งของคนอีสานในปัจจุบัน แสดงว่าในสมัยก่อนก็มีอยู่แล้ว ที่มีมากกว่ารูปอื่นๆ คือรูปฝ่ามือที่ประทับไว้ทั่วไป มากกว่า 300 ฝ่ามือ มีรูปคอกสัตว์ซึ่งแสดงว่าคนในยุคโบราณก็ได้มีการทำปศุสัตว์แล้วเช่นกัน  กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้กันพื้นที่ไว้ให้อยู่ในความดูแลของกรมศิลปากร กว่า 500 ไร่ บริเวณจุดชมภาพเขียนสีโบราณทั้ง 4 กลุ่ม ซึ่งกรมศิลปากรได้บรรจุไว้เป็นสถานที่อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมแห่งหนึ่งในหลายๆแห่งในประเทศไทย ผมและพี่บรรลุใช้เวลาพอสมควรชมภาพเขียนสีโบราณทั้งสองจุด พร้อมจินตนาการตามภาพฝันให้คิดไปว่าคนในสมัยก่อนเขาทำอะไรและต้องการสื่อสารให้คนรุ่นปัจจุบันรู้อะไรบ้าง จากนั้นผมและพี่บรรลุก็เดินย้อนกลับขึ้นมาทางเดิม ไม่ได้เดินต่อไปยังจุดชมภาพเขียนสีกลุ่มที่ 3 ซึ่งถ้าเดินชมภาพเขียนสีทั้ง 4 จุด คงใช้เวลาเป็นชั่วโมง และต้องเดินอีกหลายร้อยเมตร เพราะตลอดเส้นทางการเดินชมภาพเขียนสีโบราณทั้ง 4 จุดนั้นมีระยะทางกว่า 800 เมตร ซึ่งผมไม่มีเวลามากนัก จึงเดินชมแค่สองจุดเท่านั้น ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะเดินเพียงเท่านี้เช่นกัน  ผมใช้เวลาชมภาพเขียนสีโบราณประมาณ 1 ชั่วโมงเศษก็เดินย้อนกลับขึ้นมาทางเดิมบนลานหินกว้างของอุทยานแห่งชาติผาแต้มเก็บภาพบรรยากาศควันหลงเมื่อตอนที่จังหวัดจัดงานรับแสงแรกก่อนใครๆที่ผาแต้มเมื่อตอนสิ้นปีที่ผ่านมา ช่วงเย็นของวันเดียวกันมีโอกาสเดินเที่ยวชมจุดที่น่าสนใจที่อื่นๆ ของอุทยานฯอีก เช่น เสาหินที่เกิดจากการกัดกร่อนของลมและธรรมชาติเกิดเป็นเสาหินยืนตระหง่านตรงหน้ามานานนับพันๆปี เป็นดังภาพแสดงตัวตนของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานีที่ใครๆก็รู้จัก ผมพักที่นี่ 2 คืน ถึงอากาศจะไม่หนาวนักแต่ก็พอเย็นสบายในตอนกลางคืน กลางวันร้อนบ้าง แต่บ้านพักของอุทยานฯก็ติดแอร์เย็นฉ่ำให้หลบร้อนได้ ด้วยความเอื้อเฟื้อของหัวหน้าสิงขรณ์ รักษ์มณี และเจ้าหน้าที่อุทยานฯทุกท่านด้วยดี ทำให้ผมได้ดื่มด่ำธรรมชาติและรู้เรื่องราวของภาพเขียนสีโบราณที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี เป็นทริปหนึ่งที่มีความสุขอย่างที่สุด
Create Date : 10 มิถุนายน 2556 |
Last Update : 16 มกราคม 2559 16:25:11 น. |
|
22 comments
|
Counter : 1606 Pageviews. |
 |
|
คราวก่อนแวะมาบล็อกนี้ เห็น up บล็อก "ผาแต้ม" ตอนที่ 1 แต่หน้าบล็อกย้วยจนดูไม่รู้เรื่อง กลับมาคราวนี้มีตอน 2 แล้ว และตอนที่ 1 ก็แก้ไขจนเป็นปกติแล้วนะครับ .....
เรื่องหน้าบล็อกสวยๆ แบบคุณหยีหรือคุณริน ผมคิดว่าต้องอาศัยความรู้เกี่ยวกับการเขียน code มากพอสมควร และต้องใช้เวลาทำค่อนข้างมากด้วย ผมเองก็ทำแบบนั้นไม่ได้เช่นกัน ทุกวันนี้ก็เขียนบล็อกแบบปกติเรียบๆ ง่ายๆ ธรรมดา ไม่ได้เปลี่ยนรูปแบบมานานแล้ว .....
ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า เนื้อหาและภาพถ่ายในบล็อกน่าจะสำคัญที่สุด ส่วนความสวยงามของบล็อกก็เป็นเพียงตัวช่วยเสริมให้บล็อกน่าอ่านมากขึ้น ถ้าทำได้ก็ดี ทำไม่ได้ก็ไม่เสียหายนะครับ .....
ผาแต้มผมเคยไปเที่ยวเมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว แต่ไม่ได้ชมอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในสยาม เพราะไม่ได้กางเต๊นท์ที่อุทยาน ช่วงนั้นอากาศมันร้อนจนอยากไปนอนตากแอร์ที่โรงแรมมากกว่าน่ะครับ .....