แสงแรกก่อนใครในสยาม ชมความงามของภาพเขียนสีโบราณที่อุทยานฯผาแต้ม
ไม่ว่าผมจะเดินไปทางไปที่แห่งใด ผมมักจะจินตนาการว่าที่ตรงนั้นในอดีตเคยเป็นอะไรมาก่อน และจดจำที่คนโบราณบอกว่า ทุกที่มีเจ้าที่เจ้าทาง เวลาจะหนักจะเบาต้องยกมือท่วมหัวด้วยเกรงว่าถ้าไปโดนหัวเจ้าที่เจ้าทาง จะพาเดือดร้อนเจ็บไข้ได้ป่วยโดยไม่รู้สาเหตุขึ้นมา เป็นความเชื่อที่คนโบราณถือนักถือหนา ในทางวิทยาศาสตร์ หลายเรื่องราวได้รับการถ่ายทอดผ่านหลักฐานหลายอย่างในอดีต วัตถุโบราณ หม้อ ชาม ไห ที่ถูกขุดคุ้ยเจอโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตามบอกเวลาอดีตได้ดีเสมอมา เป็นหน้าที่ของนักโบราณคดีที่จะเป็นผู้บอกเวลาและเรื่องราวในอดีตให้เราได้จินตนาการถึงวันเก่าก่อนว่าคนโบราณเขาอยู่กันอย่างไร บางเรื่องบางสิ่งบางอย่างเหมือนตั้งใจจะบอกให้คนรุ่นหลังได้รู้ถึงเรื่องราวในอดีตอย่างเช่นภาพเขียนสีโบราณที่ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ที่ผมได้ไปสัมผัสมาเมื่อต้นปี 2556 09.30 น. ผมเอ้อระเหย ออกจากกรุงเทพฯ อย่างไม่รีบร้อนนัก เพราะคิดว่าหนทางไม่ไกลในความรู้สึก แต่ที่ไหนได้จนจะมืดอยู่แล้วยังไปไม่ถึงไหนสองทุ่มโน่นแน่ะ เพิ่งจะถึงตัวจังหวัดอุบลราชธานี รีบโทรฯ หาพี่ สิงขรณ์ รักษ์มณี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแต้ม แจ้งว่าพวกเราถึงตัวจังหวัดอุบลราชธานีแล้ว จะไปอุทยานแห่งชาติผาแต้มจะต้องไปอีกไกลขนาดไหน และใช้เวลาสักเท่าไร ที่จริงในรถผมก็มี จีพีเอส เป็นตัวช่วยนำทางอยู่แล้ว ถึงแม้จะมีปัญหากับมันบ้าง จากการเดินทางในทริปก่อน ด้วยความที่เชื่อมั่นใน จีพีเอสมากเกิน ทำให้ทุกคนอกสั่นขวัญแขวนกันไปหมด ที่ไปเจอกับทางตันรถไม่สามารถข้ามเขาไปได้ ต้องกลับรถบนดอยสูงที่ทางลูกรังแคบนิดเดียวพลาดก็ตกเหว หลังจากนั้นตั้งสติตลอดว่าอย่าเชื่อมันทั้งหมด ให้สังเกตสภาพถนนหนทางในความเป็นจริงด้วย เราจะต้องไปต่ออีกกว่า 50 กิโลเมตร ถนนหนทางเป็นอย่างไร ไม่อาจเดาได้ แต่ที่รู้สึกได้คือเราคิดผิดว่า จังหวัดอุบลราชธานีนั้นไม่ไกลจากกรุงเทพฯ จริงๆแล้ว คงพอๆกับไปเชียงใหม่นั่นแหละ เกือบสี่ทุ่ม เพิ่งจะถึงที่พักอุทยานแห่งชาติผาแต้ม พี่สิงขรณ์สั่งลูกน้องเตรียมเปิดบ้านไว้ต้อนรับอย่างดี อากาศตอนสี่ทุ่มในช่วงปลายหน้าหนาวที่นี่เย็นสบายทีเดียว จัดข้าวของเข้าที่ทางเรียบร้อย ออกมานั่งระเบียงหน้าบ้านพักที่สร้างด้วยหินอ่อน รูปทรงเข้ากับธรรมชาติอย่างกลมกลืน แหงนดูดาวที่เจิดจรัสแจ่มฟ้า ปล่อยจินตนาการเพ้อฝันไปตามดวงดาวที่ส่องแสงมาไกลแสนไกล ในหนังสือเรื่องราวของจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลเกินจินตนาการในเอกภพ บอกไว้ว่าแสงจากดวงดาวที่เราเห็นบนท้องฟ้านั้นบางภาพอาจเป็นภาพในอดีตกาลที่กว่าแสงนั้นจะเดินทางมาถึงเราให้ได้เห็นในวันนี้บางทีอาจใช้เวลาหลายร้อยปีแสง คิดดูแล้วกันว่า ใน 1 วินาทีแสงเดินทางได้ตั้ง 1 แสน 8 หมื่น 6 พันไมล์ แล้วเป็นร้อยปีแสงมันจะห่างไกลจากเราสักเพียงไหน นั่งปล่อยใจไปกับดาวเกลื่อนกลาดบนท้องฟ้าจนเริ่มง่วงแล้ว เข้านอนดีกว่า พรุ่งนี้จะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อรอรับแสงแรกแห่งวันก่อนใครที่นี่ตามนักท่องเที่ยวทุกคนเลือกเป็นกิจกรรมสำคัญที่มาเยือนที่นี่ 06.00 น.สะดุ้งตื่นแว่วได้ยินเสียงรถยนต์วิ่งผ่านบ้านพักไปเป็นระยะๆ แสดงว่าพระอาทิตย์จะขึ้นแล้วสินะรีบแง้มผ้าม่านบานหน้าต่างห้องพักเพื่อมองดูบรรยากาศรอบๆว่าสว่างหรือยัง ฟ้าสว่างแล้วแต่ยังไม่เห็นพระอาทิตย์บนท้องฟ้าหน้าบ้านพัก รีบลุกขึ้นกุลีกุจอล้างหน้าล้างตาแบบรวกๆ รีบคว้ากล้องคู่ชีพแจ้นขึ้นรถขับไปยังผาแต้มที่มองเห็นได้จากบ้านพักไม่ไกลนัก ทางสายตาไม่น่าจะเกิน 1 ก.ม. หวังจะเก็บภาพให้สวยเพื่อยืนยันว่ามาผาแต้ม ต้องไปเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาแต้มให้ได้ ส่วนจะได้ขนาดไหนก็สุดแล้วแต่ธรรมชาติจะเป็นใจ ใช้เวลาชั่วอึดใจผมก็พาตัวเองมาถึงผาแต้ม มีนักท่องเที่ยวอยู่ไม่มากนักที่รอชมพระอาทิตย์ที่กำลังจะเคลื่อนพ้นม่านเมฆเบื้องหน้า เพียงหวังจะเก็บภาพเป็นที่ระลึกฝากคนที่บ้าน กล้องเล็กกล้องน้อย โทรศัพท์มือถือพร้อมกับเสียงหวีดวิ้วตื่นเต้นกับบรรยาศและทิวทัศน์หน้าผาทอดยาวขนานกับแม่น้ำโขงสายน้ำที่มีต้นกำเนิดจากทิเบตไหลผ่านมาหลายแผ่นดินมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับล้านปีตั้งแต่ยุคหิน แผ่นดินเคลื่อนและยกตัวขึ้นลงตามธรรมชาติเกิดเป็นหน้าผาและสายน้ำมายาวนาน แม่น้ำโขงจึงมีเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์มากมาย แสงทองทอแสงรำไรมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่อวดโฉมให้เห็น ไม่นานนักอาทิตย์ที่ทุกคนรอคอยก็ค่อยๆเคลื่อนพ้นม่านเมฆทะมึนที่เป็นฉากกั้นอยู่เบื้องหน้า แต่ครั้นพอผ่านพ้นม่านเมฆนั้นมาก็ส่องแสงเจิดจ้าเกินที่จะมองได้ด้วยตาเปล่าเสียแล้ว ผมพยายามฝืนจรดกล้องขึ้นเก็บภาพได้บ้างอย่างจำยอม ไม่อยากให้ย้อนแสงตรงๆมากนัก จึงหันไปเก็บภาพเบื้องล่างที่เป็นหุบเขาด้านล่างริมแม่น้ำโขงและหน้าผาฝั่งประเทศลาวแทนทำได้เท่านั้นจริงๆ นี่แหละธรรมชาติไม่อาจคาดเดาและกำหนดได้อย่างใจ ไม่เป็นไรคืนนี้เรายังนอนที่นี่อีกคืน พรุ่งนี้เช้าค่อยมาลุ้นอีกที ถึงจะไม่ได้ภาพพระอาทิตย์ขึ้นแต่ก็อ้อยอิ่งอยู่ที่ผาแต้มนานพอควรจนแดดแรงจ้าและเริ่มร้อนแล้ว ท้องเริ่มร้องหิวแล้วจึงกลับบ้านพักก็ปาเข้าไปเกือบเก้าโมงเช้า จัดการกับอาหารเช้าลงท้องให้อิ่มหนำ นึกต่อว่าจะต้องทำอะไรเป็นโปรแกรมต่อไป เสร็จจากอาหารเช้าแล้วจึงเข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ทำการอุทยานเพื่อขอให้จัดเจ้าหน้าที่พาชมและอธิบายภาพเขียนสีโบราณ ที่จริงแล้วตั้งใจจะสัมภาษณ์หัวหน้าสิงขรณ์ รักษ์มณี แต่หัวหน้าติดประชุมที่จังหวัด จึงต้องหาผู้รู้ท่านอื่นเจ้าหน้าที่สาวบอกว่าคนที่จะอธิบายภาพเขียนสีโบราณได้ดีที่สุดคือเจ้าหน้าที่ของกรมศิลปากร พร้อมทั้งให้เบอร์โทรฯมาเรียบร้อย ทันทีที่ผมได้เบอร์ก็รีบติดต่อ แต่ปรากฎว่าไม่สามารถติดต่อได้ พยายามอยู่หลายครั้งก็ไม่สำเร็จ ทำไงดี หันไปถามเจ้าหน้าที่สาวของอุทยานว่า "มีใครอีกไหมที่พอจะอธิบายได้ สาวเจ้าหันมาสบตาแล้วบอกว่า ถ้างั้นก็ต้องเป็นพี่บรรลุแล้วละ ก็ยังดีกว่าไปเดินคนเดียวแล้วจะได้เรื่องอะไรไปทำงาน ผมรีบบอกสาวหน้าใสทันทีว่า ได้ครับเอาแค่พอรู้เรื่องบ้างเท่านั้นก็พอคงไม่ต้องลงรายละเอียดมากนัก" "ค่ะ" ถ้าอย่างนั้นพี่ไปที่จุดบริการนักท่องเที่ยวที่ผาแต้มถามหาพี่บรรลุได้เลย แกอยู่ที่นั่นตลอด เพื่อคอยพานักท่องเที่ยวที่ต้องการคนนำทางอธิบายพอเข้าใจได้ แกทำหน้าที่นี้มาหลายปีแล้ว เดี๋ยวหนูจะโทรบอกแกว่าพี่กำลังจะไปหานะคะ" ขอบคุณมากครับ ผมส่งยิ้มละไมแสดงการขอบคุณให้กับหล่อนอีกครั้งพร้อมรีบออกจากที่ทำการอุทยานฯเพื่อมุ่งหน้าไปหาพี่บรรลุทันที ผมกลับมาที่ผาแต้มอีกครั้ง มาที่จุดบริการนักท่องเที่ยว พี่บรรลุยืนยิ้มเผล่อย่างเปิดเผยเปี่ยมด้วยไมตรี ผมแนะนำตัวเองพร้อมบอกว่าจะมาทำอะไร พี่บรรลุพยักหน้ายินดีพร้อมจัดเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือ ที่จะลงไปเดินชมภาพเขียนสีโบราณที่ใต้หน้าผาแต้มที่ผมมายืนถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นเมื่อเช้านั่นแหละ
Create Date : 24 เมษายน 2556 |
|
13 comments |
Last Update : 16 มกราคม 2557 16:59:49 น. |
Counter : 1790 Pageviews. |
|
|
|