(ข้อคิดบางอย่างสำหรับการ) เก็บข้าวเก็บของ
อันนี้ต้องขอบอกเลยว่า ไม่ใช่ tips แบบมืออาชีพ
เพราะว่าเราคงเตรียมของไม่เหมือนหลายๆคน หลายๆ list ที่จะมีเสบียงบ้าง เสื้อผ้าบ้าง ว่ากันไป


(list แบบมืออาชีพ หาได้เยอะค่ะ ลองดูหนังสือของ kingston hill เซิร์ทชื่อคุณdos หรือดูเวบต่างๆนะคะ ว่างๆเราจะไปขออนุญาต และเอามาแปะให้อ่านค่ะ)

และตอนนี้เราก็ยังไม่ได้ไปสวีเดน ดังนั้นของที่จะเตรียมไป จึงอาจจะยังไม่ใช่ของที่จำเป็นที่สุดไว้ไปอยู่สักพักจะกลับมาแก้บล็อคใหม่ ถ้าลืมก็ทวงกันได้ค่ะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

วิธีคิดในการเตรียมของ
อันนี้จากประสบการณ์ที่ไปอยู่ฝรั่งเศสมาหลายเดือน บวกไปเรียนออสเตรเลียมา1 เทอมค่ะ ลองผิดลองถูกแล้ว ได้สูตรสำเร็จสำหรับตัวเองมาว่า...

1.ก่อนอื่นให้คิดว่าเราอยากจะไปทำอะไรบ้าง ไล่ลำดับความสำคัญ แล้วก็จัดของโดยเอาของสำคัญที่สุด และหาซื้อได้ยาก หรือแพงในประเทศนั้นๆไป

สำหรับเรา ก็ไปเรียนค่ะ โทใบที่สองแล้ว อยากทำเกรดให้ดีกว่าใบแรกด้วย ต้องเอาอุปกรณ์ไปให้ครบ (เอ๋.. ใบแรก 3.75 ใบนี้มันจะเยอะกว่าได้ไง ใบนี้เรียนเป็นภาษาอังกฤษนะ คนอะไรไม่เจียมตัว)พยายามกันสักตั้งค่ะ กว่าจะมาได้คลิกเนตไปมือแทบหัก

-note book ตอนอยู่ออสเตรเลีย เราแทบไม่เคยโทรกลับบ้านเลยค่ะ ติดต่ออะไรก็ใช้อี-เมลล์ เพราะสอนแม่ไว้เป็นอย่างดี (อิอิ) และบางคนที่ติดเนตก็คงไม่ต้องอธิบายว่ามันสำคัญขนาดไหน เรากะว่า ไปคราวนี้จะถอยตัวใหม่ เพราะตัวเก่าก็แก่มากแล้ว เอาไปดูหนังฟังเพลงด้วย ห้องสมุดเมืองนอกนี่ดีตรงที่มีdvd ให้ยืมด้วยค่ะ ไม่รู้ที่เราไปจะมีเหมือนกันไหม ต้องไปลุ้นดู แต่ก็จะเอาแผ่นไปบ้างพอสมควร และคง safe เก็บไว้ในเครื่องบ้าง ตรงนี้..ใครที่เอาเครื่องเมมเยอะๆไปจะได้เปรียบ/ อย่าลืมลงโปรแกรมให้ครบ และเอาสติ๊กเกอร์ติดแป้นภาษาไทยไปด้วย เผื่อไว้ค่ะ// ถ้าจะซื้อใหม่ หาที่เป็น international garantee นะคะ

-talking dict อันนี้เราว่า ไม่มีก็ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องปันงบไปซื้อก็ได้ เราใช้dict ในคอมพ์กับในเนตมากกว่า อีกอย่าง ใครที่อยากฝึกภาษาอังกฤษ แนะนำว่าอย่าแปลเลยค่ะ ลุยอ่านไปนั่นแหละ (แต่เรามีอยู่แล้ว และใช้เทียบศัพท์เวลาจะเขียนมากว่าค่ะ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาได้พอควร +มีข้อมูลสถานฑูตและบทสนทนาหลายๆภาษา ฯลฯ ก็เลยเอาไปด้วย)

-MP3 เกี่ยวอะไรเนี่ย? ของเราตัวเล็กกว่ากล่องไม้ขีดค่ะ เป็น flash drive ด้วย ตอนเรียนที่ออสฯ ช่วยเราไว้มากเลย เพราะต้องเอารายงานไปปรินท์ที่ห้องสมุด เอาpower poin ไปพรีเซนต์ / นี่ก็คิดอยู่ว่า อาจจะซื้อ1-2Gig ไปอีกอัน / อีกอย่าง เราแต่งเพลง และเขียนหนังสือ เวลามีโอกาสสัมภาษณ์คนก็ใช้ได้ อัดเสียงเลคเชอร์ได้ด้วยค่ะ จะช่วยได้มากในสัปดาห์แรกๆ

-แฟ้มใส สมุด หนังสือ ดินสอ ปากกา ต้องชั่งน้ำหนัก ระหว่างราคาที่โน่น กับนน.ที่เราแบกไปได้ค่ะ ของเรา ตอนไปซื้อตั๋วการบินไทย ทั้งๆที่เราไม่ชอบ direct flight เมื่อยค่ะ ไม่มี ptv อีกตะหาก แต่เพื่อน้ำหนักค่ะ ที่บ้านเราขอน้ำหนักเพิ่มได้ เครื่องเขียนที่นู่นก็แพง และเราชอบมีเยอะๆค่ะ ก็เอาไป เท่าที่จำเป็น ตอนไปเรียนออสฯ เราเก็บเอกสารแต่ละวิชาแยกเป็นแฟ้มค่ะ ทำให้อ่านสะดวก ค้นง่าย เป็นระบบที่น้องสาวจัดให้ค่ะ ทำให้เกรดเราดีมากๆ ทั้งๆที่ยังฟังมันไม่ค่อยรู้เรื่องนี่แหละ (น้องเราเป็นคนที่ทำอะไรมีประสิทธิภาพค่ะ ตอนนี้ของที่จัด เราก็จัดตามที่น้องบอกหลายอย่างเลย ไว้จะไปสัมภาษณ์น้อง แล้วเอาเคล็ดลับมาเล่าอีกนะคะ)

-แว่นตา สายตาใครสั้น มองกระดานไม่ชัด ตัดแว่นไปสองอันสำรองเลยค่ะ

++ หนังสือเรียนเราไม่เอาไปนะคะ เพราะไม่มีชื่อหนังสือ กะจะไปซีรอกซ์หรือยืมห้องสมุดเอาค่ะ (ตอนเราไปออสฯ ยืมได้จนถึงวันสอบ บางวิชากลัวพลาด ก็take note ไว้ย่อๆทั้งหมดก่อน ช่วยเรื่องภาษาดีค่ะ แถมทำให้จำแม่น เข้าใจทั้งหมดด้วย ที่สวีเดนก็ยืมได้นานค่ะ ลองเช้คห้องสมุดของแต่ละคนดูนะ)

*** อันนี้นอกเรื่อง***... แต่ถ้าเงินเหลือพอ ก็อาจจะซื้อหนังสือเรียนกลับมา 1-2 เล่ม แล้วแต่เนื้อหาค่ะ

2. เราไปที่ไหน ควรจะทำอะไรอีกนอกจากเรียน?
ไปต่างประเทศ อย่างยุโรปหรือญี่ป่น หรืออาจจะเป็นเมืองจีน โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า ควรจะเดินทางท่องเที่ยวด้วย เพราะว่าเป็นนร. อะไรๆก็ลด ถ้าไปยุโรป จะบินมาอีกที ตั๋วก็แพง แพงขึ้น และแพงมหาโหด ดังนั้น ถ้าคิดว่าจะไปเที่ยวด้วยแล้ว ก็ติดไกด์บุ๊ค และอุปกรณ์อื่นๆไปบ้างก็ดี

-ไกด์บุคเล่มโปรด
ไกด์บุคดีๆ จะช่วยให้เราประหยัดเงินในการท่องเที่ยวไปได้มากๆค่ะ ไม่ควรขี้เหนียวนะคะ นอกจากนำเที่ยว ยังเป็นเพื่อนที่ดียามเหงา ยิ่งถ้าหิมะตก พายุเข้า ไปไหนไม่ได้ การเที่ยวไปกับจินตนาการก็ช่วยให้ชีวิตไม่ว้าเหว่เกินควรค่ะ

++เที่ยวนี้ เราต้อง list แล้วตัดออกค่ะ ใครจะมาช่วยเราตัดทิ้งก็ได้นะคะ ขอน้ำหนักไป50 กิโล หนังสือเล่มละ โล ไม่ไหวๆ

หนังสือท่องเที่ยวที่น่าเอาไป (แล้วแต่แพลนค่ะ ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง

-หนังสือชุดหน้าต่างสู่โลกกว้าง เอาเป็น ทวีปยุโรป กับ สแกนดิเนเวีย ไปก็เกินพอค่ะ (นี่ว่าจะเลือกไปเล่มเดียว ตัดใจไม่ลงอ่ะ มันหนักมากๆค่ะ เล่มนี้)

-ummm... smells like Paris (ดี แต่อันนี้ว่าจะตัดออก เพราะรู้แล้วว่าจะไปขอหนังสือนำเที่ยวปารีสที่ไหน--และวันที่เข้ามาแก้นี่ หาเล่มเล็กเจอแล้วค่ะ เป็นของการท่องเที่ยวปารีส ที่แบ่งโซนเดินไว้หลายๆโซน คล้ายๆที่เราเคยเล่าให้ฟังในกระทู้ปารีส)

-ไกด์บุคเป็นเมืองๆ... เราแนะนำ time out ค่ะ ติดใจตอนไปหยิบเล่มบางฟรีๆที่ปารีส เราชอบที่มันเบากว่า lonely planet ตั้งครึ่ง เคยเที่ยวกับพี่ที่เอา lonely มาสองเล่ม...กระเป๋าหนักมากค่ะ ถ้าวันไหนจับรถไฟแล้วแวะเที่ยวกลางทาง เหนื่อยมากเลย แล้วเวลาเราเที่ยวจริงๆ อ่านไม่ได้ทั้งหมดหรอก เราว่าอ่านมาก่อนจากบ้าน แล้วเอาไปเล่มเล็กหน่อยเวลาเดินทางดีกว่า

-คู่มือแบคแพคต่างๆ ตารางสายการบิน รถไฟ ที่ปรินท์มาจากเนต เผื่อเข้าเนตไม่ได้วันที่ต้องใช้ ไปพิมพ์ที่โน่นก็แพงและเราอาจะยุ่งจนไม่มีเวลาทำให้ครบ เราเอาใส่แฟ้มไปเลยค่ะ

-เป้ลาก กระเป๋าแข็งก็ไม่คล่องตัว เป้เปล่าๆก็หนักจนไหล่ล้า ถ้าไงแนะนำเป้ที่ลากได้ด้วย ของเราคงเป็นเป้แม่ลูก รูดซิปออกมาใช้เป็น day pack ได้ด้วย เราเอาเป้ขึ้นเครื่องค่ะ อีกสองใบโหลด

-กระติกน้ำ จานชามช้อนส้อมเบาๆ อาจจะเป็นพลาสติกก็ได้ อันนี้ตอนไปถึงใหม่ๆ เราอาจยังไม่ไปซื้อของ จะรีบซื้อหรือก็อาจจะจะเจอแต่ของแพง ใช้ของเบาๆที่เราพกไปก่อนได้ (ไว้ค่อยไปซื้ออีกทีตอน ikia sale ก็ยังไหวค่ะ)

3.ของใช้จำเป็น

-เสื้อผ้า+เครื่องบำรุงผิว อันนี้ผู้หญิงคงขนไปเยอะกว่าผู้ชายแน่ มีคำแนะนำว่าเอาไปแต่เสื้อผ้าหน้าร้อน หน้าหนาวไปซื้อที่นั่น แต่เรามีเสื้อหนาวจากหมู่บ้านสกีที่ฝรั่งเศสตัวหนึ่ง เอาไว้ใช้ตอนไปตปท. ก็จะใส่ตัวนี้ขึ้นเครื่องไป เพราะตัวยาว แถมบุขนสัตว์ข้างในอีก / ถ้าใครไม่ได้ซ์อก ไม่ต้องซื้อไปนะคะ มันจะมีช่วงเซลล์ที่โน่นค่ะ เชื่อเราเถอะ ว่าเราจะอยากได้ของที่นั่นมากกว่า

ของเรา ตอนนี้ใช้ระบบว่า จะแบ่งของส่วนตัวออกเปฯของที่ทิ้งได้ครึ่งหนึ่งค่ะ และพวกตัวเก่ง ใส่สบาย ใส่สวย ใส่เท่ อีกครึ่งหนึ่ง เพราะตอนเราไปฝรั่งเศสขนาดไม่เน้นช็อปเลย ยังได้ของมาจนต้องเอาเสื้อผ้าทิ้งไว้ที่นู่นตั้งเยอะ /อันนี้เราว่าต้องถามใจตัวเองค่ะ ถ้าห้ามใจตัวเองได้ ไม่อยากได้ของนอกติดมือกลับมาแน่ๆ ก็ดีใจด้วยกับประเทศไทยนะคะ / ถ้าชอบฃ็อบ ก็ทำใจไว้ค่ะว่า ขากลับอาจจะต้องส่งของกลับทางเรือ //แต่ละคนก็ไม่เหมือนกันค่ะ

++ ตัวอย่าง -น้องสาวเราทำงานพิเศษเงินดี และชอบซื้อของ มีของเต็มบ้าน ขนาดว่า เอาไปบริจาคหลายรอบ ก็ยังต้องขนใส่เรือกลับประเทศค่ะ แต่ถามว่าคุ้มไหม ก็มีทีวีใหม่มาให้แม่ดูด้วย ของบางอย่าง มาซื้อบ้านเราก็แพง ถ้าซื้อไหว ก็ยอมขนกลับเถอะค่ะ

กลับมาที่ระบบของเราต่อ พอทำแบบนี้แล้ว ก็ทำใจเลยว่า เราจะทิ้งของครึ่งหนึ่งแน่ๆ ทีนี้ขากลับเราจะขึ้นสายการบินราคาถูกหน่อย ก็ได้ หรือจะขนเสื้อผ้าสวยๆ เครื่องสำอางดีๆมาแทนที่น้ำหนักตรงนี้ก็เลือกเอาตามสบายค่ะ

++ ถามว่า ของที่จะทิ้งแล้ว เอาไปทำไมล่ะ บางอย่าง เช่นแฟชั่นที่ไส่ไม่นาน เสื้อนอนยานย้วยใส่แสนสบาย หรือเสื้อยืด ที่ถ้าเอาไปน้อยตัว ใส่บ่อยๆ ซักทั้งปี อาจจะหมดอายุขัย พวกนี้ไงคะ เอาไปแล้วทิ้งได้ตอนจะกลับ (เราเตรียมไว้ตอนลากเป้เที่ยวด่วยค่ะ ตำราเค้าว่าให้เอาของที่ทิ้งได้ไป ก็กะว่าปลายปีจะเอาพวกนี้แหละ ไปเที่ยว แล้วไปบริจาคที่ปลายทางซะเลย)

-เครื่องนอน เครื่องใช้
อย่างผ้าเช็ดตัว ผ้าปูที่นอน หมอน มุ้ง อันนี้น้องสาวแนะนำให้ซื้อแบบชุดละ 199 บาทไปสองชุดค่ะ จะได้มีเปลี่ยน ขากลับก็บริจาคไปเลย / ผ้าห่ม ถ้าอยากนอนสบาย จะเอาที่ดีๆ พวกคอตต้อนทอแน่นๆไปก็ดีค่ะ ใช้เครื่องนอนดีๆ ชีวีมีสุข (จากประสบกาณ์นะคะตอนไปเรียนที่กรุงเทพเราอยู่หอ บางทีก็รู้สึกว่าลำบากจัง แต่พอเก็บเงินซื้อผ้าปูนิ่มๆ แหม .. ถึงหอนร.จะไม่มีแอร์ และสิ่งแวดล้อมจะเหมือนเดิม แต่เรากินอิ่ม นอนหลีบ สบายขึ้นเยอะจริงๆ)


4.ของที่ไม่เปลืองน้ำหนัก+สำหรับผู้หญิงนะคะ สำลี และผ้าอนามัยค่ะไม่ตองไปหาซื้อใหม่ เอาไว้ยัดในช่องว่างของกระเป๋า ทำให้ของที่เหลือไม่เคลื่อนไปมาด้วย

อย่างหนึ่งที่เก็บได้แน่ๆ คือเก็บน้ำใจ
อ๊ะ อันนี้ไม่ใช่สำนวนพูดเล่นนะคะ
เราเห็นคนไทยจะไปสวีเดนกันเยอะขึ้นปีนี้ แต่ว่าต่างคนต่างเตรียมตัวหายไปหมดเลย ที่จริง อยากรณรงค์ให้ออกมาคุยักน ช่วยกันเวบมากว่า เชื่อไหมว่า บางทีเราเคยแนะนำคนไปนิดเดียว แต่สิ่งที่ได้กลับมามันมากมายมหาศาล บางทีเราได้รับข้อมูลอะไรกลับมามากมาย ชนิดที่ไม่ต้องขนไกด์บุ๊ค หรือหนังสืออะไรไปให้เปลืองน้ำหนัก


ก็เลยอยากจะชวนให้เก็บน้ำใจใส่กระเป๋ากันไปด้วย.. ใครรู้อะไรมาก่อนเพื่อน,มีอะไรพอจะแบ่งปันได้ ก็แวะมาช่วยๆกันหน่อย ไปถึง รับรองมีคนช่วยเหลือคุณเพียบแน่นอน เราพิสูจน์มาแล้วตลอดชีวิตเลย ธรรมคุ้มผู้ประพฤติธรรมและทำดี...ก็ต้องได้ดีแน่นอนค่ะ




++++++++++++++++++++++++++++++
ยังไม่ครบเลยเนาะ ไว้มาต่อกันใหม่ค่ะ



Create Date : 15 มิถุนายน 2550
Last Update : 16 มิถุนายน 2550 0:48:05 น.
Counter : 565 Pageviews.

7 comments
  
แวะผ่านเข้ามาทักทายค่ะ
โดย: ทะเลตะวัน วันที่: 15 มิถุนายน 2550 เวลา:7:50:12 น.
  
แวะมาเก็บเคล็ดลับดีๆ เผื่อวันไหนต้องรอนแรมไปต่างประเทศมั่ง จะได้งัดวิชามาใช้
โดย: เอ๊กกี่ วันที่: 15 มิถุนายน 2550 เวลา:9:50:42 น.
  
ขอบคุณสำหรับความรู้อีกแล้ว เก่งจังเลยค่ะ เรียนโทที่นู่นได้ตั้ง 3.75 แนะ ข้าน้อยขอคารวะ
โดย: karnlaka วันที่: 15 มิถุนายน 2550 เวลา:11:11:52 น.
  
ตอนนี้เป็นโทใบที่ 2 เหรอจ๊ะ ดีจังขยันเรียนแบบนี้คุณพ่อคุณแม่ภูมิใจมากเลยน่ะ


พี่แค่ใบเดียวก็หืดขึ้นคอแล้ว นี่พี่สาวพี่ยุให้ต่อเอก
อีก หมดไฟไม่มีเวลา มัวแต่เลี้ยงลูก ฮี่ๆเป็นข้อแก้ตัวไปเรื่อยๆ พี่สาวพี่ก็มีลูกแล้วยังต่อเอกได้เลย
โดย: พ ริ ก ขี้ ห นู @ UK วันที่: 15 มิถุนายน 2550 เวลา:18:07:18 น.
  
ยินดีต้อนรับคุณทะเลตะวันและคุณเอ๊กกี่ค่ะ
แวะมาบ่อยๆนะคะ ถ้าว่างก็บินมาสวีเดนเลย
อิอิ

มาก็ลงชื่อไว้แบบนี้ดีค่ะ น่ารักที่สุด คนเขียนมีแรงค่ะ

คุณ karnlaka คะ ป่าวนะคะ
เรียนที่นี่แหละค่ะ แถวๆสามย่านนี่เอง เคยเรียนเซอร์ที่ออสได้ 98% เหมือนกัน ไม่รู้ได้มายังไง สงสัยกลัวตกจัดเลยตั้งใจมาก แต่มันง่ายกว่าโทเยอะค่ะ

พี่พริกขี้หนูกับหมูแฮมคะ
ใช่ค่ะ เพราะแม่อยากให้ลูกสาวไปเรียนนอก หาทุนกันหืดขึ้นคอ
แล้วไหนจะเอกอีกล่ะเนี่ย แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว
อาศัยแรงฮึดว่าไปแล้วได้เที่ยวด้วย เลยกตัญญูไหวค่ะ
และเราก็จะย้ายสายด้วย เรียนนิเทศฯมาค่ะ มาเรียนการตลาอีกใบ พอต่อเอกอาจจะเป็น marketing communication ไ ปเลย

แต่อันที่จริงต้องทำเรื่อง "การสื่อสารการท่องเที่ยว" อิอิ
โดย: dararye วันที่: 15 มิถุนายน 2550 เวลา:23:40:16 น.
  
เก่งจริงๆค่ะ ชื่นชม
คุณแม่คงปลื้มลูกสาวคนนี้มาก อิ อิ
อ่านแล้วยังอดปลื้มแทนไม่ได้
โดย: ทากลูกหมู วันที่: 16 มิถุนายน 2550 เวลา:22:31:47 น.
  
ขอบคุณหลายค่ะพี่ทากลูกหมู
ตกลงคลิกไปดูรูปที่เมลเบิร์นหรือยังคะ?
กว่าจะโพสต์ได้ เหงื่อตกค่ะ

เดี๋ยวจะจัดการจับไฟลล์รูปภาพ ย้ายข้อมูลลงคอมพ์ใหม่
แล้วค่อยมาโพสต์กันอีกที

ช่วงนี้เหนื่อยค่ะ ต้องเตรียมตัวเยอะเลย ไม่ได้ไปทำบุญทำสมาธิอะไรเลย
โชคดี เรียนภาษาในวัด เลยได้ไหว้พระเรื่อยๆ

นี่กำลังหาราคาจักยานที่สวีเดนอยู่นะคะ

ถ้าได้แล้วจะเอาเรื่องจักรยานมาโพสต์ ชวนเพื่อนๆขี้จักรยานเที่ยวสวีเดนและเลยไปถึงเมืองต่างๆแถบนั้นกัน


ปล. แม่ไม่เคยเห็นว่าเก่งสักที ตอนเรียนตรีเจินก็โดดบ่อยค่ะ พลาดเกียรตินิยมไปซะงั้น เพราะว่าทำกิจกรรมกันแบบ ข้ามมหาลัย แล้วก็ทำเยอะจนคนหาว่าเรียนมาแปดปีเหรอ? เหอๆ

นึกแล้วอยากทำอีก
โดย: dararye วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:0:11:21 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

dararye
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]



เกิดเชียงใหม่ ไปเรียนกรุงเทพ พอทำงานก็ชีพจรลงเท้า เดินทางได้สักพัก ก็ชักรู้สึกว่าโลกนี้ที่จริงแล้วไม่มีขอบเขต
เริ่มทำบล็อคอย่างจริงจัง เพราะรู้ตัวว่าต้องร่อนเร่ไปอีกไกล เผื่อว่าใครคิดถึงจะได้ตามหากันเจอ ชื่อนี้เป็นนามปากกาเดียวกับใน bookcyber ค่ะ ยิ้มก็อันเดิมนะ >>>> @^__^@

มิถุนายน 2550

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
17
18
19
20
21
22
23
24
26
27
28
30