Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
2 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
ขนมหวานบ้านโพธิ์



ผมแต่งงานกับคุณนายติ่งที่อเมริกา กลับมาเมืองไทยเมื่อปี 2521 ไม่รู้โคตรเหง้าศักราชของกันและกันหรอกครับ ไม่รู้รากฐานบ้านช่องว่าของใครเป็นอย่างไร คุณนายมีแม่และพี่ชายอยู่ที่อเมริกา ตอนไปขอคุณนายผมก็ไปขอกับแม่ของคุณนาย ก็รู้ว่าพ่อคุณนายนั้นไม่อยู่แล้ว ทั้งหมดที่มีก็มีกันสามคน คือแม่คุณนายพี่ชายคุณนาย แล้วก็ตัวคุณนายแต่คุณนายบอกว่าญาติแกเยอะ แกเป็นยุ้ย คือญาติเยอะ

กลับมาเมืองไทยไม่นานคุณนายก็พาผมไปจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่อำเภอบ้านโพธิ์ ตำบลบางกรูด ไปที่บ้านหลังใหญ่ริมแม่น้ำบางปะกง ไปแนะนำตัวให้ญาติพี่น้องรู้จัก ผมใช้เวลาหลายปีกว่าจะพอรู้ว่าใครเป็นใครในบรรดาญาติๆ ของคุณนายทุกวันนี้ก็ยังรู้จักไม่ครบถ้วนหรอกครับ พอจะรู้หลักๆ อยู่สาแหรกเดียว อีกเจ็ดสาแหรกนั้นไม่รู้แน่ ทุกวันที่ 6 เมษายน ผมและคุณนายก็จะไปที่บ้านโบราณหลังใหญ่ริมแม่น้ำบางปะกงนั่น เป็นวันรวมญาติ ทำบุญเลี้ยงพระแล้วกินอาหารร่วมกัน เนื่องในโอกาสครบรอบวันตายของพ่อคุณนาย

นอกจากวันรวมญาติที่ว่านี่แล้ว ก็ยังมีวันรวมญาติอีกวันหนึ่งคือ วันที่มีงานวัดของวัดผาณิตาราม ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับบ้านใหญ่โบราณที่ว่า ย่าของคุณนายชื่อผึ้งเป็นคนสร้างวัดนี้ วัดนี้ก็เลยเป็นวัดประจำตระกูล ครอบครัวเครือญาติของคุณนายก็มีกิจกรรมจำเป็นอย่างหนึ่งร่วมกัน คือทำนุบำรุงดูแลเอาใจใส่วัดผาณิตารามนี่ สิ่งแรกที่ประทับใจผมเมื่อไปงานวัดที่วัดผาฯนี้ตั้งแต่ครั้งแรกคือกับข้าวอร่อยมาก ยิ่งขนมหวานยิ่งโคตรอร่อย อร่อยสวยงามแบบที่โดดเด่นเหนืออาหารของหวานทั่วไปทั้งหลายที่เคยเห็นเคยกินมา

ผมไปวัดผาณิตารามอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไม่ได้ไปงานวัดแต่ไปงานพระราชทานเพลิง(เป็นกรณีพิเศษ)ของนางจิตรเกษม เหล่าสินชัย ซึ่งเป็นพี่สาวต่างมารดาของคุณนายติ่ง ผมเรียกท่านว่า "พี่ภา" เรียกตามคุณนาย
พี่ภาหรือพี่อาภาเป็นแม่ของอาจารย์วิมลศิริ ชำนาญเวช พี่ภาเป็นสุดยอดฝีมือในการทำอาหารทั้งหวานทั้งคาว กระยาสารทแปดริ้วอันเลื่องลือชื่อกระฉ่อนนั้น ทำกันอยู่ในครอบครัวเครือญาติของคุณนายติ่ง และพี่ภาเป็นหนึ่งในนั้น แต่ในนั้นที่ว่าก็มีอยู่สามคนเท่านั้นแหละครับ นอกจากพี่ภาก็มีพี่ภรณ์(อาภรณ์ วงศ์พยัคฆ์) แล้วก็พี่ทัย(อุทัยวรรณ สรรพิบูลย์) พี่ภาอาวุโสสูงกว่าอีกสองท่าน เป็นอาเป็นน้าของอีกสองท่านนั้น ตอนผมเจอพี่ภาครั้งแรกนั้นพี่อายุหกสิบหกแล้ว แต่ยังกระฉับกระเฉง ผมยังเคยไปยืนดูพี่เขากวนกระยาสารท

กระยาสารทที่ผมเคยเอาไปให้เพื่อนกิน แล้วเพื่อนบอกว่าโอ้โฮ กระยาสารทนี่มันอร่อยได้ขนาดนี้เชียวหรือวะ
ตอนผมได้กินครั้งแรก ผมก็รำพึงแบบเดียวกับเพื่อนนี่แหละครับ ผมได้สูตรกระยาสารทมาแล้ว มีโอกาสจะบอกสูตรให้ หนังสือที่ระลึกงานศพของพี่ภานั้นมีสูตรอาหารหวานคาวของพี่ภาอยู่หลายอย่าง เอาเป็นว่าบอกสูตรกระยาสารทให้เลยดีกว่า ทีแรกคิดจะบอกสูตรขนมชั้นก่อน ขนมชั้นพี่ภาอร่อยที่สุดในประเทศ สูตรอาหารในหนังสือนั้นรวบรวมโดย "พี่แต๋ว" มนกันต์(มารศรี) วัฒนสินธุ์ เป็นลูกสาวคนที่สองของพี่ภา เป็นน้องสาว "พี่มล" (วิมลศิริ ชำนาญเวช)
เริ่มนะครับ กระยาสารทแปดริ้วซึ่งอร่อยที่สุดเท่าที่เคยมีกระยาสารทเคยทำกระยาสารทกันมา
"ส่วนผสม น้ำตาลอ้อย 6 1/2 กิโลกรัม (บีบมะนาว 2 ลูกใส่ เพื่อดับกลิ่นเปลือกอ้อย) มะพร้าวขูด 4 กิโลกรัม (คั้นครั้งแรกไม่ใส่น้ำ เก็บหัวกะทิแยกไว้ ที่เหลือใส่น้ำทีละน้อย คั้นให้หมดมัน) ถั่วลิสงคั่ว 4-5 ลิตร (เอาเปลือกออก เลือกเมล็ดใหญ่ซอยละเอียดเก็บไว้โรยหน้า) งาคั่ว 3 กิโลกรัม ถั่วเขียวคั่ว 1 ถ้วย (โม่ละเอียด) ข้าวตอก 5 ลิตร (อบด้วยดอกมะลิและควันเทียนให้หอมไว้ล่วงหน้า ก่อนใช้คั่วให้กรอบ แล้วตำพอแหลก) ข้าวเม่าราง 6 กิโลกรัม แบะแซ (ก้อนเท่าไข่เป็ด)
วิธีทำ
1.เอาน้ำตาลอ้อยผสมน้ำกะทิ ใส่กระทะเหล็กใบใหญ่ ตั้งไฟ ใส่ข้าวตอกกวนน้ำตาลไปเรื่อยๆ จนกระทั่งงวด จึงใส่หัวกะทิ
2.เอาข้าวเม่า ถั่วลิสง งา ถั่วเขียว เคล้าผสมให้เข้ากัน ตวงให้ได้ 33 ลิตร ถ้าได้น้อยกว่านี้เอาข้าวเม่าเติม
3.เมื่อน้ำตาลได้ที่ ราไฟให้อ่อนลง ใส่แบะแซ แบะแซละลายแล้วจึงเอาเครื่องที่คลุกไว้ใส่ลงไป คนให้เข้ากันดีจึงยกลงจากเตา รีบใส่กระบะขณะกำลังร้อน เกลี่ยหน้าให้เรียบ โรยหน้าด้วยถั่วลิสงคั่วซอยละเอียด ตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม เย็นแล้วบรรจุลงถุงพลาสติก ซีลปากถุงกันลมเข้า
วิธีดูน้ำตาลว่าใช้ได้หรือยัง ให้เอาน้ำตาลหยดลงในน้ำ น้ำตาลจะรวมตัวเป็นก้อนนุ่มๆ เวลาคลุกเคล้าเครื่องบนเตาใช้ไฟอ่อน แต่อย่าให้ไฟดับ มิฉะนั้นขนมจะไม่ติดกันเป็นแผ่น

คุณแม่จะทำกระยาสารทไปทำบุญในวันสารทไทย แจกญาติพี่น้องและลูกหลาน ส่วนหนึ่งจะขายให้คนที่มาขอซื้อ" ผมได้กินกระยาสารทซึ่งพี่ภาทำเองนี้อยู่หลายปี เคยขอซื้อมาแจกใครต่อใครเป็นที่ติดใจกันถ้วนหน้า ต่อมาพี่ภาก็เลิกทำเพราะแก่เฒ่าเต็มที ตอนพี่ภาเสียนี่อายุ 92 นะครับ เมื่อพี่ภาไมได้ทำ ผมก็กินของพี่ภรณ์แทน สูตรเดียวกันเหมือนกัน พี่ภรณ์ไม่อยู่ ไปก่อนพี่ภาเสียอีก ลูกๆ พี่ภรณ์ก็ยังทำอยู่ทุกปี ผมก็จะซื้อปีละเยอะๆ กินเองน่ะปีละไม่กี่แผ่นหรอกครับ ซื้อมาแจกพรรคพวกเพื่อนฝูงเป็นหลัก

สิ่งที่แตกต่างจากกระยาสารททั่วไป นอกจากความอร่อยหอมกรอบนุ่มแบบที่คนไม่มีฟันก็เคี้ยวได้ ก็คือการซอยถั่วลิสงคั่วซอยละเอียดโรยหน้า ให้คนกินแล้วถามว่าที่โรยหน้านั่นอะไร เกือบทุกคนตอบว่ามะพร้าว ผมเคยดูเขาซอยถั่วลิสงคั่วนี่ งง ไม่เคยรู้มาก่อนว่าถั่วลิสงคั่งนี่มันสามารถจะซอยให้เป็นเส้นๆ แบบมะพร้าวที่คั่วทำเมี่ยงคำได้ คนทั่วไปไม่เคยเห็นถั่วลิสงคั่วแล้วซอยแบบนี้ ข้าวเม่ารางนั้นรู้จักใช่ไหมครับ ก็คือข้าวเม่านั่นแหละ วิธีกินข้าวเม่ารางอย่างหนึ่งคือกินกับน้ำกะทิหวานๆ อบเทียนหอมๆ

เรื่องของหวานบ้านโพธิ์นี่ยังมีต่อนะครับ จะต่อตอนไหนค่อยดูจังหวะอีกที มีทั้งขนมชั้น ทองหยิบทองหยดฝอยทองเม็ดขนุน เม็ดขนุนนี่เป็นของหวานที่ผมชอบกิน และเม็ดขนุนพี่ภานี่สุดยอด ใส่ปากแล้วใช้ลิ้นดุนกับเพดานปากจะไม่สะดุดอะไรที่เป็นเม็ดๆ เลย ละเอียดเนียนหอม เรื่องของหวานนี่ผมทำเป็นและทำกินอยู่อย่างเดียวเท่านั้นครับ คือถั่วเขียวต้มน้ำตาล




Create Date : 02 มกราคม 2551
Last Update : 2 มกราคม 2551 16:40:34 น. 1 comments
Counter : 1367 Pageviews.

 
ถั่วเขียวต้มน้ำตาล อร่อยค่ะ


โดย: Aisha วันที่: 12 พฤศจิกายน 2553 เวลา:11:32:47 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ชมพูพันทิบ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ชมพูพันทิบ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.