Bloggang.com : ชมพูพันทิบ : กรรมการแบบ วาณิช

กรรมการแบบ วาณิช

คอลัมน์ จอดป้ายประชาชื่น เศรษฐ์ สันติ มติชนรายวัน วันที่ 05 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10343

อ่านบทสัมภาษณ์พิเศษวาณิช จรุงกิจอนันต์ ในนิตยสารจีเอ็มประจำเดือนมิถุนายน 2549 ว่าด้วยเรื่องความเป็นมาเป็นไปของคดี "กินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา" แล้ว ทำให้เห็นข้อเท็จจริงหลายอย่าง (ที่ไม่เกี่ยวกับคดีความเดิม แต่จะเป็นคดีใหม่หรือไม่ ไม่แน่ใจ - ฮา)

เป็นข้อเท็จจริงที่น่าวิตกสำหรับผู้ถือหุ้นรายย่อยซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ

วาณิชให้สัมภาษณ์ว่า เป็นกรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบของบริษัท จีเอ็มเอ็มมีเดีย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นที่รู้กันทั่วไปว่า กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ มีหน้าที่หลักในการรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นรายย่อย จึงมีหน้าที่ตรวจสอบการกระทำ พฤติกรรมของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ผู้บริหารบริษัท มิให้กระทำผิดกฎหมาย กฎระเบียบของบริษัท

กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ จึงต้องมีความเป็นอิสระ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่และผู้บริหารบริษัท

ประกาศของคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนดคุณสมบัติของกรรมการอิสระไว้ดังนี้

1.ถือหุ้นไม่เกินร้อยละ 5 ของบริษัทใหญ่ บริษัทย่อย และบริษัทร่วมหรือนิติบุคคลที่มีความขัดแย้ง

2.ไม่เป็นลูกจ้าง พนักงาน ที่ปรึกษาที่ได้เงินเดือนประจำหรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัทในบริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วมหรือนิติบุคคลที่มีความขัดแย้ง

3.ไม่เป็นบุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางสายโลหิต หรือโดยการจดทะเบียนตามกฎหมายของผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ผู้มีอำนาจควบคุม

4.ไม่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วมในลักษณะที่อาจเป็นการขัดขวาง การใช้วิจารณญาณอย่างอิสระ และไม่มีลักษณะอื่นใด ที่ทำให้ไม่สามารถให้ความเห็นอย่างอิสระ เกี่ยวกับการดำเนินของบริษัท

นอกจากนั้น ประกาศของ ตลท.มีข้อกำหนดที่เข้มงวดเพิ่มขึ้นคือ

1.ไม่มีผลประโยชน์หรือส่วนได้ส่วนเสียไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมในด้านการเงิน และการบริหารงานของบริษัท บริษัทในเครือ บริษัทร่วมหรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ทั้งในปัจจุบันและในช่วง 1 ปีก่อนได้รับการแต่งตั้งฯ

2.ไม่เป็นกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนในการรักษาประโยชน์ของกรรมการ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้ถือหุ้นซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่

แต่จากคำให้สัมภาษณ์ของวาณิชกรณีที่คณะกรรมการบริษัท จีเอ็มเอ็มมีเดียประชุมพิจารณาการเข้าซื้อหุ้น "มติชน" และบริษัท โพสต์ พับบลิสชิ่ง ทำให้สงสัยว่า กรรมการแบบ "วาณิช" จะช่วยรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นรายย่อย และทำหน้าที่ของกรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบได้อย่างไร

"ไม่รู้เหมือนกัน จำไม่ได้...แต่ปกติเวลาประชุมบอร์ดผมไม่ได้พูดอะไรอยู่แล้ว เป็นเรื่องเกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ เรื่องธุรกิจการเงิน เรื่องการค้า ซึ่งผมไม่รู้เรื่องพวกนี้...."

วาณิชอ้างว่า ไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง ทั้งๆ ที่ต้องกู้เงินมาซื้อหุ้นถึง 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นความเสี่ยงของบริษัทและผู้ถือหุ้นอย่างมาก

วาณิชยังเล่าว่า เริ่มทำงานกับแกรมมี่ตั้งแต่ปลายปี 2547 ได้เงินเดือน 10,000 บาท หลังจากไปเมืองนอก ก็กลับมาทำงานที่แกรมมี่ได้ นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานเครือแกรมมี่ขึ้นเงินเดือนให้ 15,000 บาท โดยวาณิชยอมรับว่า ไม่ค่อยได้ทำหน้าที่อะไรชัดเจน มีหน้าที่หลักคือไปกินข้าวกินเหล้ากับไพบูลย์เกือบทุกเย็น

"ใช่! หน้าที่หลักเลย เลิกงาน (ไพบูลย์) ก็มองหาผม เฮ้ย! ไปกินข้าวกัน"

ในทุกสัปดาห์วันพฤหัสบดี จะร่วมกินกันเป็นก๊วนใหญ่ ไพบูลย์ต้องควักจ่ายทุกมื้อเป็นเงินจำนวนมาก

"ใช่ (วาณิชยอมรับว่า เป็นคนเซ็นบิล) แต่เงินไพบูลย์นะ ไม่ใช่เงินผม ผมจ่ายเองก็ต้องขายบ้านมาจ่าย มื้อหนึ่งเป็นแสน"

ลักษณะแบบนี้หรือที่จะให้วาณิชทำหน้าที่กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย หรือเป็นลักษณะพิเศษของคนสุพรรณฯที่ทำได้ (ฮา)

วาณิชยังยอมรับด้วยว่า หลังจากแกรมมี่เปิดบริษัทเอ็กแซ็กท์ขึ้นมาเมื่อปี 2539 "ผมก็รู้สึกมีงานทำที่เป็นประโยชน์ ได้เขียนพล็อต เขียนบทละครทีวี"

ข้อมูลเหล่านี้บอกได้หรือไม่ว่า การแต่งตั้งวาณิชเป็นกรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบของจีเอ็มเอ็มมีเดีย เป็นตัวแทนในการรักษาผลประโยชน์ของใครระหว่างผู้ถือหุ้นรายย่อยหรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่

ที่สำคัญกรรมการแบบ "วาณิช" มีมากน้อยแค่ไหนในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

Create Date : 29 ธันวาคม 2550

Last Update : 29 ธันวาคม 2550 19:54:47 น.

0 comments

Counter : 403 Pageviews.