พฤษภาคม 2556

 
 
 
1
2
3
5
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
New Orleans :: 5/7 :: ที่เที่ยว
เราวางแผนไปดูละครเวที กับ World War II museum
แล้วก็จะดูจอห์น เมเยอร์ ในงาน jazz festival

เที่ยวแบบสองสามวันเป็นการเที่ยวแบบมุ่งถึก
กล่าวคือ มีเวลาจำกัด
อยากเที่ยวอยากกินอะไร ลิสต์ไว้ จัดแผนเดินทางทิศทางไว้
ส่วนเราแผนหลวมหน่อยนึง เพราะต้องเผื่อเวลาหลงด้วย
บางทีหลงทาง
บางทีก็หลงพริ้มกับสถานที่และศิลปะกระทันหัน
แต่ก็ทำตามลิสต์ได้ เท่านี้ก็พอใจ

1ละครเวที. ในเย็นวันแรกที่เราไปถึง

ละครเวทีที่เราไปดูเป็นโรงละครแสนไกล
เราหาเจอในเวปนิวออลีนส์ออนไลน์ ค่าเข้าชมสิบเหรียญ
ชื่อโปรแกรม 6x6 คือเป็นเรื่องที่มีนักแต่งหกคนแต่งหกเรื่อง
แสดงเรื่องละสิบนาที
Theme คราวนี้ชื่อ Baby
โดยรวมแล้วเหมือนละครอักษร แต่ละเรื่อง/ตอน ใช้คนไม่เกินห้าคน
บางเรื่องใช้สองคน แต่เป็นบทสนทนาที่สนุก
นักแสดงเก่งมาก พลอตเรื่องก็ดี เราให้เก้าจุดห้าเต็มสิบ

ตัวอย่างตอน เช่น nap time เป็นเรื่องเด็กน้อยนั่งคุยกันตอนนอนกลางวัน
จะวางแผนออกเดินทาง จะทำนั่นทำนี่ ตอนจบเด็กน้อยจกเอาไอโฟนมาหาแผนที่
แล้วกดผิดเป็นปุ่มเพลงกล่อมนอน เด็กก็หลับในที่สุด

อีกตอนก็เป็นลูกสาวจะออกไปงาน. แล้วเธอตื่นเต้นมาก
พ่อเลยปลอบ ปลอบไปมาเลยเล่าถึงแม่ อันนี้ก็ดึงอารมณ์ดี//
นอกนั้นก็มีเด็กน้อยคุยกันตอนนั่งเล่น แต่เด็กพวกนี้ยังพูดกับพ่อแม่ไม่ได้
แต่คุยกันเอง เม้าท์เด็กเตียงอื่น เม้าท์เรื่องแฟน เล่าความจำสมัยอยู่ในท้องแม่
ก็ฮาดี // ฯลฯ

อันที่เราชอบที่สุดชื่อตอน biological method
เป็นสามีภรรยาที่รอพบหมอ ภรรยาเปิดสมุดเลือกยีนส์ให้ลูก
สามีก็บอกว่าจะให้ลูกมีสีผมสีตาเหมือนเลือกสีโดนัทน่ะเหรอ
เขาอยากให้ลูกคลอดอย่างธรรมชาติด้วยวิธีธรรมชาติ
ก็เถียงกันทั้งเรื่อง มีประเด็นน่าคิดดี แต่ตอนจบสามีเถียงแพ้ภรรยา
เพราะภรรยาบอกว่าถ้าลูกเขาไม่อยากเจ็บหรือไม่ได้อยากเป็นแบบที่ธรรมชาติให้ล่ะ
สามีก็เลยเออออ และทั้งสองคนก็เปิดสมุดเลือกยีนส์ลูกด้วยกัน

2 World War II museum
ที่สุดของความอยากไป
นอกจากพิพิธภัณฑ์แล้ว มันยังมีออปชั่นหลายอย่าง
เราชอบมาก แม้ใครจะว่าผู้ชนะสงครามเป็นผู้บันทึกประวัติศาสตร์
แต่เรากลับมองเห็นรายละเอียดของทุกเชื้อชาติมากขึ้น
ตอนที่ดูหนัง 4D เรื่อง Beyond All Boundaries
กับตอนก่อนเริ่มดูหนังเขาจะมีอินโทรก่อน (เรียกอย่างนี้รึเปล่าหนอ)
ว่าทั่วโลก ชาติไหนเสียชีวิตเท่าไหร่ แต่รวมแล้ว 65 ล้านคนทั่วโลก

ดูพิพิธภัณฑ์ prison of war. แล้วซาบซึ้ง
เข้าดู final mission แล้วชอบตอนจบที่สุด
(ก็เป็น prison of war นั่นแหละไม่ก็เสียชีวิต)
ที่รอดมาได้ก็มี คือไปเป็น POW ก่อนแล้วพอดีชนะสงครามในที่สุด
ก็โชคดีไป

ส่วนอีกอันที่ชอบคือ เขาถามความคิดเห็น
เช่น เรื่องการร่วมรบของคน
Japanese American กับ American Japanese

งงไหมคะ
คือคนญี่ปุ่นในอเมริกาบางส่วนอาจจะไม่สามารถตัดสินใจได้
ว่าจะร่วมรบกับอเมริกาได้ไหม
แต่คนอเมริกันในญี่ปุ่นตัดสินใจได้ ส่วนมากร่วมรบกับญี่ปุ่นค่ะ
มันคงขึ้นกับปัจจัยของแต่ละคนในเวลานั้น
และความผูกพันกับประเทศนั้น

อีกเรื่องคือ โพล์ถามความเห็นเรื่องนอร์มังดี
คือถ้าไม่ขึ้นฝั่งที่นอร์มังดีแล้วเอาชนะให้ได้
มีอีกวิธีหนึ่ง คือใช้เครื่องบินถล่มทางเดินรถไฟของเยอรมันที่จะมายังนอร์มังดี
วิธีนี้คนบริสุทธิ์จะตายด้วย แต่ได้ผลชัวร์นะ
ชัวร์กว่ายกพลขึ้นฝั่งล่ะ เพราะถ้าแพ้ เยอรมันก็ก็ขนกองกำลังมาทางรถไฟได้อยู่ดี
ถ้าท่านเป็นผู้นำจะตัดสินใจเลือกแบบไหน

แฟรงคิน ดี รูสเวลท์ ประธานาธิบดีสหรัฐตอนนั้นโหวตให้ยกพลขึ้นฝั่ง
ซึ่งพอยกพลขึ้นฝั่งจริงๆ ประชาชนแถวนั้นก็สนับสนุน
น่าดีใจใช่ไหมคะ ที่ได้พวกโดยไม่ต้องไปฆ่าเขา

3 jazz festival เล่าไปแล้ว

เราเที่ยวขำๆ เดินเล่นเดินหลงหลายที่
บางที่ก็ผ่านไปถ่ายรูปเฉยๆ อาจจะไม่ได้เล่า
ไม่ได้ช้อปด้วย เพราะไม่รู้จะซื้ออะไรพิเศษ
เดี๋ยวมาเล่าเรื่องเที่ยวต่ออีกตอนค่ะ



Create Date : 18 พฤษภาคม 2556
Last Update : 18 พฤษภาคม 2556 22:07:46 น.
Counter : 1556 Pageviews.

0 comments

สุขใจพริ้ว
Location :
บุรีรัมย์  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



เป็นบันทึกเรื่องราวทั่วไป ตามที่ใจนึกอยาก
ของคนทำงานไกลบ้าน