Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
19 มกราคม 2552
 
All Blogs
 

คำตอบของ 'กาก้า'

นับเป็นข่าวช็อกโลกฟุตบอลของแท้ เมื่อ "ปีศาจแดงดำ" ไม่สามารถต้านทานภูเขาเงินที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กระหน่ำโยนมาทับถึง 120 ล้านปอนด์ และตัดสินใจยอมขายริคาร์โด้ กาก้า เทพบุตรลูกหนังด้วยความจำใจ (แต่จริงๆ แล้วยิ่งกว่าดีใจ?)

นาทีนี้คนทั้งโลกก็เลยเฝ้ารอจับตามองการตัดสินใจของกาก้า กันแบบห้ามกระพริบตา

โดยเฉพาะคนวงในที่รู้กันดีว่าการตัดสินใจของเทพบุตรลูกหนังคนนี้จะนำไปสู่ทิศทางของเกมฟุตบอลในอนาคตได้เลยทีเดียว

เรื่องราวของกาก้า กับแมนฯ ซิตี้ ความจริงแล้วมีมาต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์หลังจากที่โดนเทคโอเวอร์จากอาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป กลุ่มนักลงทุนที่มีเบื้องหลังเป็นอัครมหาเศรษฐีตัวจริงเสียงจริงของโลกอย่าง ชีค มานซูร์ บิน ซาเย็น อัล นาห์ยาน ราชวงศ์อาบูดาบี ที่มีทรัพย์สินมหาศาลจนไม่ต้องนับเพราะใช้ยังไงก็ไม่หมด

ในวันที่เข้ามาเทคโอเวอร์ ท่านชีคก็แผลงฤทธิ์ด้วยการใช้เวลาแค่วันเดียวในการติดต่อขอซื้อซูเปอร์สตาร์มากมาย ซึ่งสุดท้ายก็ได้โรบินโญ่ ที่หลวมตัวเข้ามาหนึ่งคน ซึ่งก็ถือว่าสร้างความฮือฮาได้ไม่น้อยทีเดียวเพราะนี่ก็ถือเป็นดาวเด่นระดับท็อปของโลกคนนึง

แต่เคสของโรบินโญ่ ส่วนหนึ่งที่ย้ายมาก็เพราะว่ามีปัญหาไม่พอใจกับทางสโมสรที่ไม่ค่อยให้ความสำคัญ แถมยังกดค่าเหนื่อยอยู่นานทั้งที่ผลงานในหลายปีหลังก็ชัดเจนว่าเป็นตัวหลักของทีมมาตลอด

เรื่องนี้มันตรงข้ามกับเคสของกาก้า เทพบุตรสุดหล่อที่เป็นที่หมายปองของทางด้านแมนฯ ซิตี้ อย่างจัง โดยที่มีความพยายามอย่างยิ่งในการที่จะติดต่อขอดึงตัวมาร่วมทีมให้ได้

งานนี้ไม่เกี่ยงด้วยว่าต้องจ่ายเงินมากขนาดไหน! (ก็เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว)

ที่บอกว่าตรงข้ามก็เพราะกาก้า ไม่ได้มีปัญหากับทางทีมเอซี มิลานเลย ตรงข้ามกลับเป็นที่รักยิ่งของคนทั้งสโมสร เรียกว่าถ้าไม่นับตำนานมีชีวิต (และไม่ยอมตาย) อย่างเปาโล มัลดินี่แล้ว กาก้า ก็คือนักเตะที่ชาวมิลานิสต้า รักมากที่สุด

และมันก็ไม่ใช่รักเพราะความสามารถเพียงอย่างเดียว แต่เป็นความรักในตัวตนที่เรียบง่ายแต่สง่างามและความจริงใจที่มีต่อสโมสรของกาก้า ที่ไม่เคยคิดจะทิ้งสโมสรแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะโดนใครตามตื้อยื้อแย่งตัวขนาดไหน

ในโอกาสใกล้เคียงที่สุดที่เรอัล มาดริด พยายามจะฉุดให้ไปสวมชุดขาว กาก้า ก็ปฏิเสธอย่างไม่ใยดี แม้ผลงานของมิลาน ในหลายปีหลังจะไม่ถึงกับท็อปพีคก็ไม่ใช่สาระสำคัญ

รักแท้และรักเดียวของกาก้า อยู่ที่มิลาน

ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ยากเป็นทวีคูณสำหรับแมนฯ ซิตี้ ที่ต้องเจอถึง 2 ด่านช้างแมมมอธ ไม่ว่าจะเป็นด่านแรกที่ต้องเอาชนะมิลาน ที่ตั้งป้อมรอรับอย่างแน่นหนา ซึ่งจะว่าไม่อยากจะขายกาก้าก็ไม่ใช่ แต่ "ไม่กล้า" ขายมากกว่าเพราะรู้ว่าการขายนักเตะระดับนี้ไปจะส่งผลกระทบต่อทีมอย่างมากมายมหาศาล

เงินที่ได้มามันอาจไม่คุ้มเลยถ้าเทียบกับความสมดุลของทีม สภาพจิตใจ ความภาคภูมิใจ และสำคัญที่สุดคือ "ศรัทธา" ของแฟนบอลที่จะเสียไปเยอะ

ข้อเสนอที่จะเอาชนะพวกเขาได้จึงต้องเป็นข้อเสนอในระดับที่สามารถทำให้บอร์ดบริหาร โดยเฉพาะซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่ ประธานสโมสรผู้เป็นนายกรัฐมนตรีของอิตาลี รู้สึกว่ามันคุ้มค่าน่ายอมเสี่ยงโดนด่าที่จะขายกาก้าออกไป

และด่านนี้ แมนฯ ซิตี้ ก็สามารถเอาชนะได้สำเร็จด้วยข้อเสนอที่ไม่มีใครอยากเชื่อกับตัวเลข 120 ล้านยูโร (107 ล้านปอนด์ หรือเงินไทยกว่า 6,000 ล้านบาท)

มันเป็นตัวเลขที่มากพอที่จะทำให้มิลาน ยอมกลืนน้ำลายดังเอื้อกและส่งเบอร์โทรศัพท์เอเยนต์ของกาก้า ให้แทบจะไม่ทัน

ด่านต่อมาที่คนทั้งโลกลุ้นอยู่ในเวลานี้ก็คือ "ปราการหัวใจ" ของกาก้าเองที่ยังไม่รู้ว่าตกลงจะยอมย้ายทีมหรือไม่

ข่าวว่าแมนฯ ซิตี้ พร้อมที่จะเทค่าเหนื่อยให้แบบไม่อั้น โดยหักภาษีสุดโหดของอังกฤษแล้ว กาก้า ก็จะยังมีรายได้สูงถึง 500,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ มากกว่าซูเปอร์สตาร์ทุกคนที่เล่นในพรีเมียร์ลีก (และของทั้งโลก) ถึง 3-5 เท่า

งานนี้วงในก็ลือกันว่า เจอตัวเลขระดับนี้เข้าไป กาก้าก็เถอะ มีอาการลังเลเหมือนกัน เพราะมันเป็นตัวเลขที่เขาไม่สามารถจะคิดฝันถึงได้อีกเลยในสโมสรอื่น

มีแค่แมนฯ ซิตี้ ทีมเดียวเท่านั้นที่มีปัญญาจ่ายระดับนี้!

จุดนี้เองที่มันทำให้หลายคนกังวลใจ เพราะข้อเสนอที่บ้าคลั่งไร้เหตุและผลแบบนี้ มันจะทำให้เกมฟุตบอลเสียศูนย์และอาจนำไปสู่ "หายนะ" ของเกมลูกหนังได้

ระบบ ระเบียบ รากฐาน แนวคิด วิธีปฏิบัติอะไรที่เคยมีมานานนมจะถูกล้มล้างด้วยการตัดสินใจของเขา

คำตอบของกาก้าว่าจะ Yes หรือ No จึงเป็นเรื่องที่ชวนระทึกเป็นอย่างยิ่ง

ถ้าคำตอบปรากฏออกมาว่า Yes สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือการย้ายทีมที่ทำลายสถิติเดิมของซีเนอดีน ซีดาน ลงอย่างราบคาบ โลกฟุตบอลถูกหยามอย่างรุนแรงจากนายทุนค้าน้ำมัน และแมนฯ ซิตี้ ก็จะใช้จุดนี้ในการเริ่มต้นกว้านซูเปอร์สตาร์เข้ามาเสริมทีมจนเป็น Perfect XI ของจริง จากนั้นก็หาซูเปอร์กุนซือที่จะคุมสตาร์เหล่านี้ได้ ต่อด้วยเป้าหมายในการครองแชมป์ทุกรายการในโลก เป็นสโมสรอันดับหนึ่งของโลก

ส่วนกาก้า ก็จะถูกด่าว่าเป็นคนหนึ่งที่นำหายนะมาสู่เกมฟุตบอล (โดยมีแฟนๆออกมาปกป้องบางส่วน)

แต่ถ้าคำตอบออกมาว่า No กาก้า ก็จะได้รับการยกย่องว่านี่แหละคือเทพบุตรลูกหนังตัวจริงที่ช่วยปกป้องเกมฟุตบอลไม่ให้ถูกนายทุนเข้ามาย่ำยี และแมนฯ ซิตี้ ก็จะได้รู้ว่าเงินอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการซื้อศักดิ์ศรีของนักฟุตบอลระดับสุดยอดของโลกคนนี้

ใช่ - เงินอย่างเดียวอาจจะซื้อความสำเร็จได้ แต่มันซื้อ "ศักดิ์ศรี" และ "ความภูมิใจ" ไม่ได้

แต่เมื่อมีเงินมากมายมหาศาลขนาดนี้มากองอยู่ตรงหน้า

อยากรู้จริงๆ ว่าในใจของกาก้า คิดอะไรอยู่กัน...




ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล




 

Create Date : 19 มกราคม 2552
0 comments
Last Update : 19 มกราคม 2552 14:13:26 น.
Counter : 1209 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ล่องแม่ปิง
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




อังกฤษเป็นชาติที่เริ่มเล่นฟุตบอล แต่บราซิลเป็นชาติที่สอนการเล่นฟุตบอล

มีคำพูดธรรมดาๆประจำฟุตบอลโลกอยู่ประโยดหนึ่งว่า"ฟุตบอลโลกที่ไม่มีบราซิล ก็ไม่ใช่ฟุตบอลโลก"


จะจริงเท็จประการใด แฟนบอลทั่วโลกยังไม่เคยทราบ เพราะที่ผ่านมา 20 ครั้ง และครั้งที่ 21 ในปี 2018 บราซิลยังคงได้เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายอิกครั้ง ในฐานะเจ้าภาพ


ผมยังนึกไม่ออกว่าหากบราซิลไม่สามารถผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก ฟุตบอลโลกในปีนั้นจะขาดอะไรไปบ้าง....มนต์ขลังลีลาแซมบ้า. สีเขียว-เหลืองที่แต่งแต้มฟุตบอลโลกทุกครั้งเสมอมา หรือกองเชียร์ที่แต่งองค์ทรงเครื่องกันมา น้องๆขบวนพาเหรดงานคานิวัล ผมว่าคงไม่เกิดขึ้นในรุ่นของผมนะครับ
Friends' blogs
[Add ล่องแม่ปิง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.