Group Blog
 
 
กันยายน 2561
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
14 กันยายน 2561
 
All Blogs
 
เปิดใจ ริชาร์ลิซอน : จากคนเกือบหมดอนาคตสู่นักเตะทีมชาติ





นับได้ว่านี่เป็นช่วงขาขึ้นของ ริชาร์ลิซอน อย่างแท้จริง เพราะเขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมกับ เอฟเวอร์ตัน สโมสรแกร่งแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในช่วงต้นฤดูกาล 2018-19 ด้วยการทำประตูในลีกไป 3 ลูก จากการลงเล่น 3 นัด, ได้ลงเล่นให้ทีมชาติบราซิลชุดใหญ่เป็นครั้งแรก และทำได้ถึง 2 ประตู ในเกมอุ่นเครื่องที่ทัพ "เซเลเซา" ไล่ถล่ม เอล ซัลวาดอร์ 5-0
    อย่างไรก็ตาม แข้งวัย 21 ปี ต้องพยายามอย่างหนัก และเจอมาหลายต่อหลายเรื่องกว่าที่จะมาถึงจุดนี้ โดยล่าสุด อาส สื่อชื่อดังของประเทศสเปนได้ไปสัมภาษณ์เขา ซึ่งมันก็น่าสนใจจนเราขอนำมาให้ได้อ่านกัน

    Q : คุณกลายเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ เอฟเวอร์ตัน ด้วยค่าตัว 45 ล้านยูโร (ประมาณ 1,800 ล้านบาท), อยู่ในอันดับต้นๆ ของชาร์ตดาวซัลโวสูงสุดของ พรีเมียร์ลีก แล้วตอนนี้ก็ติดทีมชติบราซิลด้วย ทั้งที่คุณเพิ่งมีอายุ 21 ปีเท่านั้น นี่เป็นการออกสตาร์ตฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมเลยนะ!
    ริชาร์ลิซอน : มันยังรู้สึกเหมือนเป็นความฝันนิดๆ อยู่เลย ผมฝันแบบนี้มาตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก และตอนนี้ก็กำลังทำความฝันให้เป็นจริงได้ ผมอยากเล่นใน พรีเมียร์ลีก มาโดยตลอด ส่วนตอนนี้ผมก็ต้องทำตัวให้คุ้นเคยกับการมองไปที่ชาร์ตดาวซัลโวแล้วเห็นชื่อของตัวเองอยู่ในลำดับต้นๆ (หัวเราะ)

    Q : ในช่วงเวลาแค่ 2 ปี คุณก้าวจากการเล่นในลีกระดับสองของ บราซิล ไปสู่การเล่นให้หนึ่งในสโมสรที่มีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ที่สุดของ อังกฤษ ได้...
    ริชาร์ลิซอน : ที่คุณพูดถึงนี่แค่ในด้านของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพนะ ช่วงเป็นดาวรุ่งนี่ทุกอย่างอาจจะคืบหน้าไปเร็วกว่าตอนเป็นนักเตะอาชีพด้วยซ้ำ ผมเล่นให้ทีมเยาวชน 11 นัด ก่อนที่จะได้ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ผมทำได้ 2 ลูกใน 2 เกมแรกในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ และที่เหลือพวกคุณก็รู้ดีอยู่แล้วว่ามันเป็นยังไง ผมเองก็อธิบายเรื่องอย่างนี้ไม่ถูก ผมคิดว่าการที่คุณจะก้าวข้ามอุปสรรคแบบนั้นไปให้ได้เนี่ย คุณก็ต้องทั้งขยัน, อดทน, มีความศรัทธา และมีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งสุดๆ

 Q : จริงรึเปล่าที่คุณเคยคิดที่จะเลิกเล่นฟุตบอลในตอนที่มีหลายสโมสรไม่รับคุณเข้าทีม ?
    ริชาร์ลิซอน : เป็นเรื่องจริง ต่อให้ใช้ทั้งสองมือนับมันก็ใช้นับจำนวนทีมที่ปฏิเสธผมได้ไม่พอหรอก ผมเคยเกือบที่จะหันหลังให้ฟุตอล แต่ผมเงยหน้าสู้ต่อไป และตรงไปที่ เบโล โฮริซอนเต้ เพื่อทำการทดสอบฝีเท้ากับ อเมริกา เอ็มจี โดยที่มีเงินมากพอสำหรับการเป็นค่าเดินทางเท่านั้น ผมกำหนดให้มันเป็นการทดสอบฝีเท้าครั้งสุดท้ายของผม ถ้าผมไม่ผ่านการทดสอบ ผมก็จะไม่มีเงินมากพอสำหรับการกลับไปที่ เอสปิริตู ซานโต้ ซึ่งเป็นบ้านของผมที่อยู่ห่างจากที่นั่น 600 กิโลเมตร ผมทุ่มเทสุดตัวในเช้าวันนั้น และผมก็ผ่านมันมาได้ ถ้าผมยอมแพ้ตั้งแต่ตอนที่โดนปฏิเสธครั้งแรกแล้วล่ะก็ ผมก็คงมาไม่ถึงตรงนี้หรอก

    Q : คุณมีความทรงอะไรที่เด่นๆ และได้บทเรียนอะไรจากความยากลำบากในวัยเด็กบ้าง ?
    ริชาร์ลิซอน : สถานการณ์ของครอบครัวผมมันแย่มาก ผมต้องอยู่ที่บ้านของคุณลุงเพราะมันอยู่ใกล้สนามที่ผมใช้ซ้อมมากกว่าบ้านของครอบครัวของผมเอง และผมก็ไม่มีเงินมากพอที่จะขึ้นรถบัส ผมต้องขายขนมและไอศตรีมตามท้องถนน รวมถึงทำงานตามไร่นาเพื่อช่วยคุณพ่อคุณแม่ของผม ผมต้องทำอย่างนั้นเพราะทุกคนในครอบครัวอุตส่าห์ทำทุกอย่างเท่าที่พวกเขาจะทำได้เพื่อช่วยให้ความฝันการได้เป็นนักฟุตบอลของผมมันเป็นจริง ผมได้เรียนรู้ว่าคุณต้องมีความอดทน, มีความหนักแน่น และมีความเชื่อมั่นเพื่อที่จะทำตามเป้าหมายให้สำเร็จ

 Q : ตอนเป็นเด็กคุณมีฮีโร่บ้างไหม ?
    ริชาร์ลิซอน : ฮีโร่ของผมคือคุณพ่อกับคุณลุงของผม พวกท่านเคยเล่นฟุตบอลในระดับท้องถิ่น และเก่งมากๆ ด้วย คุณพ่อของผมท่านเป็นนักเตะสไตล์ที่เน้นการผ่านบอล ท่านมีจินตนาการในการเล่นที่ดีมากๆ ส่วนคุณลุงของผมท่านเป็นสไตล์จอมจบสกอร์ ผมได้เรียนรู้หลายอย่างจากพวกท่าน พวกท่านเป็นฮีโร่ของผมทั้งในสนามและในการใช้ชีวิต

    Q : แล้วนักฟุตบอลอาชีพคนไหนที่เป็นฮีโร่ของคุณ ?
    ริชาร์ลิซอน : โรนัลโด้ (หมายถึงตำนานกองหน้าทีมชาติบราซิล) เขาคือหนึ่งในคนที่มีชื่อเล่นเหมาะกับตัวเอง วันก่อนผมได้เจอเขา และมันก็เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นมากๆ จะบอกให้ว่าเวลาเดินทางไปเล่นเกมเยือนน่ะ ผมมักจะทำอย่างหนึ่งอยู่เสมอเวลาอยู่บนรถบัส นั่นก็คือผมจะหยิบแท็บเล็ตขึ้นมา จากนั้นก็เปิดคลิปวิดีโอการทำประตูของเขาแล้วเริ่มเตรียมตัวให้พร้อม

 Q : การปรับตัวกับชีวิตในอังกฤษเป็นยังไง ?
    ริชาร์ลิซอน : มันราบรื่นมาก แต่ก็มีบางเรื่องที่เป็นปัญหา อย่างเรื่องอากาศหนาว, การอยู่ห่างจากครอบครัวและเพื่อนๆ แต่ผมให้ความสำคัญกับงานของตัวเองอย่างเต็มที่เพื่อที่จะเอาชนะปัญหาต่างๆ ให้ได้ ผมเข้าเรียนคอร์สสอนภาษาอังกฤษ และผมก็เข้าใจภาษาอังกฤษในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ยากมากๆ ก็คือการพูดภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าหลังจากนี้ผมจะแก้ไขปัญหานี้ได้อยู่ดี

    Q : ฤดูกาลที่แล้วคุณโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมในช่วงต้นซีซั่น แต่ฟอร์มก็ตกลงในช่วงท้ายๆ ฤดูกาล มันเกิดอะไรขึ้น ?
    ริชาร์ลิซอน : ฤดูกาลที่แล้วนี่ผมได้เรียนรู้หลายอย่างเลย เรื่องร่างกายน่ะถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ก่อนหน้าจะเดินทางไป อังกฤษ ในช่วงซัมเมอร์ของปี 2017 นี่ผมไม่ได้หยุดพักเลยนานถึง 1 ปีครึ่ง และผมก็ไม่ได้ซ้อมช่วงปรี-ซีซั่นกับ วัตฟอร์ด ด้วย เพราะผมต้องไปอยู่กับทีมชาติบราซิล รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ผมลงเล่นโดยที่ไม่ได้หยุดพักนานถึง 2 ปีครึ่ง และพอถึงช่วงหนึ่งแล้วมันก็ส่งผลกระทบกับร่างกายของคุณ แต่ฤดูกาลนี้ผมได้พักมาเต็มที่ ผมได้ซ้อมช่วงปรี-ซีซั่นอย่างเต็มที่ ซึ่งนั่นทำให้ผมคิดว่าผมจะเล่นได้ดีตลอดทั้งฤดูกาลนี้

  Q : ฆาบี กราเซีย (ผู้จัดการทีม วัตฟอร์ด) เสียใจมากๆ ที่คุณย้ายออกจากทีม ความสัมพันธ์ของคุณกับเขาเป็นยังไงบ้าง ?
    ริชาร์ลิซอน : เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากๆ เขาเป็นโค้ชที่ยอดเยี่ยม เขาเข้ามารับงานในช่วงเวลาที่ยากลำบาก แถมยังเกิดขึ้นในช่วงกลางฤดูกาลด้วย แต่เขาก็ช่วยให้ทีมมีอันดับที่ดีใน พรีเมียร์ลีก

    Q : คิดยังไงกับการที่ตอนนี้ วัตฟอร์ด เป็นจ่าฝูงร่วมอยู่ (ในแง่ของคะแนน) ?
    ริชาร์ลิซอน : ผมดีใจมากๆ ซึ่งหลักๆ แล้วเป็นเพราะในทีมมีหลายคนที่เป็นเพื่อนของผม พวกเขาเป็นสโมสรที่ทำให้ผมได้ย้ายไปเล่นที่ อังกฤษ และมอบโอกาสให้ผม ผมจะรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณพวกเขาไปตลอดกาล สโมสรกับแฟนๆ แสดงความรักให้ผมอย่างมากอยู่เสมอ ผมจะไม่มีวันลืมเรื่องนั้นเลย

Q : คุณย้ายจาก อเมริกา ไป ฟลูมิเนนเซ่ จากนั้นก็จาก ฟลูมิเนนเซ่ ไปยัง วัตฟอร์ด ตามด้วยจาก วัตฟอร์ด ไป เอฟเวอร์ตัน แล้วหลังจากนี้คุณจะย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน ไปอยู่กับทีมไหนดี  ? จะเป็น เรอัล มาดริด หรือ บาร์เซโลน่า ดี ?
    ริชาร์ลิซอน : นี่คุณกำลังทำให้ผมงานเข้านี่นา (หัวเราะ) พวกเขาต่างก็เป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ทั้งคู่ การไปเล่นให้พวกเขาต่างก็เป็นความฝันของนักเตะทุกคน แต่ผมเพิ่งย้ายมาอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน และผมก็มีความสุขมากๆ ท้ายที่สุดแล้วการที่ว่าหลังจากนี้จะเป็นยังไงมันก็ขึ้นอยู่กับผลงานที่ผมทำได้กับที่นี่เป็นหลัก ดังนั้นผมก็หวังว่าผมจะทำผลงานที่ยอดเยี่ยมกับ เอฟเวอร์ตัน ได้, ได้แชมป์บางรายการ รวมถึงทำให้สโมสรและแฟนๆ กลับมามีความมั่นใจกันอีกครั้ง ตอนนี้นั่นคือแรงจูงใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม

    Q : รู้สึกยังไงบ้างที่ได้มาเล่นให้ทีมชาติบราซิล ?
    ริชาร์ลิซอน : ตอนที่ เอดู กาสปาร์ (ผู้ประสานงานด้านเทคนิคของ บราซิล) โทรศัพท์มาหาผมน่ะ ผมนั่งเล่นวิดีโอเกมส์อยู่ที่บ้าน มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมากๆ และผมก็หวังว่าผมจะถูกเรียกติดทีมอีกหลายครั้ง

  Q : เราจะคาดหวังอะไรจาก ริชาร์ลิซอน ได้บ้างในฤดูกาล 2018-19 ?
    ริชาร์ลิซอน : ผมหวังว่าตัวเองจะมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม, ช่วย เอฟเวอร์ตัน ได้ต่อไป และทำให้ตัวเองได้ติดทีมชาติบราซิล นั่นคือเป้าหมายของผม แน่นอนว่าทุกอย่างอาจจะเปลี่ยนไปเมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่ง มาตรฐานมันสามารถสูงขึ้นได้ และเป้าหมายก็อาจจะใหญ่ขึ้นได้ ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเรื่องนั้นก็คือการทำงานอย่างหนัก และมีความมั่นมุ่งเพื่อมันต่อไป ก็หวังว่ามันจะเป็นไปตามนั้นนะ


ข้อมูลจาก https://www.siamsport.co.th/




Create Date : 14 กันยายน 2561
Last Update : 14 กันยายน 2561 14:39:15 น. 0 comments
Counter : 765 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ล่องแม่ปิง
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




อังกฤษเป็นชาติที่เริ่มเล่นฟุตบอล แต่บราซิลเป็นชาติที่สอนการเล่นฟุตบอล

มีคำพูดธรรมดาๆประจำฟุตบอลโลกอยู่ประโยดหนึ่งว่า"ฟุตบอลโลกที่ไม่มีบราซิล ก็ไม่ใช่ฟุตบอลโลก"


จะจริงเท็จประการใด แฟนบอลทั่วโลกยังไม่เคยทราบ เพราะที่ผ่านมา 20 ครั้ง และครั้งที่ 21 ในปี 2018 บราซิลยังคงได้เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายอิกครั้ง ในฐานะเจ้าภาพ


ผมยังนึกไม่ออกว่าหากบราซิลไม่สามารถผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก ฟุตบอลโลกในปีนั้นจะขาดอะไรไปบ้าง....มนต์ขลังลีลาแซมบ้า. สีเขียว-เหลืองที่แต่งแต้มฟุตบอลโลกทุกครั้งเสมอมา หรือกองเชียร์ที่แต่งองค์ทรงเครื่องกันมา น้องๆขบวนพาเหรดงานคานิวัล ผมว่าคงไม่เกิดขึ้นในรุ่นของผมนะครับ
Friends' blogs
[Add ล่องแม่ปิง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.