|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
ความหน้าไหว้หลังหลอกของสังคมไทย บทความน่าสนใจกรณีคุณโชติรสค่ะ
หลังๆมานี่คงไม่มีใครไม่รู้เรื่องของคุณโชติรสหรือน้องเอมี่กับชุดที่เธอสวมไปงานประกาศรางวัลสุพรรณหงส์นะคะ เพราะเข้าเฉลิมไทยทีมีให้อ่านและดูจนตาลาย
แต่สิ่งที่พัทคิดมาตลอดและไม่ได้พูดกับใครนอกจากพ่อพอกุลและไอ้อ้วน ในวันนี้มันมาอยู่ในบทความของคุณตุลสถิตย์ ทับทิมใน The nation แล้วค่ะ บทความนี้พ่อพิกุลส่งมาพร้อมคำว่า two thumps up article พอพัทอ่านแล้ว โอ้ยยย มันช่างจี๊ด ทนไม่ไหวแล้ว ขอนำมาเผยแพร่และแปลแปะไว้ ณ ที่นี้เลยค่ะ
ปล พัทแปลเอง ถ้าผิดหรือตกตรงไหน บอกด้วยนะคะ อ้อ การแปลครั้งนี้ยึดหลักอาจารย์สมบัติ จันทรวงศ์แปลเจ้าผู้ปกครองของมาเคียเวลลี่ เพราะอย่างนั้น หากท่านอ่านแล้วงง โปรดไปเรียนกับอาจารย์ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ !
//www.nationmultimedia.com/2007/02/14/pda/opinion_30026811.html
STOPPAGE TIME Sexy dress exposed ugly truths about society's hypocrisy ชุดเซ็กซี่เปิดโปงความจริงอันน่ารังเกียจเกี่ยวกับความหน้าไหว้หลังหลอกในสังคม First of all, I thought it was a ridiculous dress. ก่อนอื่น ผมคิดว่าชุดนี้มันพิลึกชอบกล
What emerging actress and student Chotiros Suriyawong wore to Friday's Subhanahongsa Awards, triggering a storm of social controversy, made my jaw drop for the wrong reason. I am clueless when it comes to female fashion - here's a straight guy talking - however, when the likes of me have the audacity to criticise a woman's evening wear like this, it's time to listen, girls. ชุดที่โชติรส สุริยะวงศ์ นักแสดงหญิงหน้าใหม่/นักศึกษาสวมไปงานประกาศรางวัลสุพรรณหงส์เมื่อวันศุกร์จนทำให้เกิดการโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อน/มากมายในสังคมทำให้ผมอ้าปากค้างด้วยเหตุผลที่ผิด ผมไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยเกี่ยวกับแฟชั่นของผู้หญิง นี่เป็นคำพูดของผู้ชายแท้ๆน แต่ว่าเวลาที่คนอย่างผมกล้าพอที่จะวิพากษ์วิจารณ์ชุดราตรีของผู้หญิงแบบนี้ ก็ถึงเวลาที่สาวๆต้องฟัง
Why I'm bothered, though, is not due to the fact that Chotiros in "that thing" reminded me of a lobster. The outcry she stirred up is more amazing than the dress itself, and when people suggested she be denied a university degree, and an entertainment bigwig exploited the uproar by acting like a cardinal, social hypocrisy or narrow-mindedness has paled her weird fashion sense completely. แต่สิ่งที่ผมรู้สึกไม่สบายใจไม่ได้เกี่ยวกับความจริงที่ว่าโชติรสใน เจ้าสิ่งนั้น ทำให้ผมคิดถึงกุ้งล็อบสเตอร์ แต่การประท้วงอย่างรุนแรงที่เธอก่อให้เกิดขึ้นมานั้นน่าทึ่งมากกว่าชุดเสียอีก และเมื่อมีคนเสนอว่าไม่ให้มอบปริญญาแก่เธอ และคนสำคัญในวงการบันเทิงฉวยโอกาสใช้ประโยชน์จากความสับสนวุ่นวายที่เกิดขึ้นด้วยการทำตัวเหมือนเป็นนักบวช ความหน้าไหว้หลังหลอกในสังคมหรือทัศนคติอันคับแคบทำให้รสนิยมทางแฟชั่นอันแปลกประหลาดของเธอเทียบไม่ติดเอาเลยทีเดียว
Don't get me wrong. If I had a teenaged daughter and she prepared to leave home like that, I would have stopped her for a serious discussion. But that's the whole point. It's an issue for the family. If Amy's folks didn't mind it, why should we? Granted, she was probably a few "inches" away from breaking the legal barrier but police didn't arrest her, did they? อย่าเข้าใจผมผิด ถ้าผมมีลูกสาววัยรุ่นและเธอเตรียมตัวจะออกจากบ้านในสภาพนั้น ผมจะต้องหยุดเธอเพื่อคุยกันอย่างจริงจัง แต่นั่นคือประเด็นของเรื่องทั้งหมด มันเป็นเรื่องของครอบครัว ถ้าครอบครัวของเอมี่ไม่ว่าอะไร ทำไมเราจะต้องว่าด้วย แน่ล่ะที่เธอเฉียดจะฝ่าฝืนกฎหมายไปแค่ไม่กี่ นิ้ว แต่ตำรวจก็ไม่ได้จับกุมเธอ ใช่ไหม
You can decry her taste, but demanding social punishment violates her basic human rights. The way we dress is the way we choose to express ourselves, and this is even more fundamental than the right to express our opinions. If we can't recognise that Chotiros was simply expressing herself in the most elementary way, we shouldn't give a damn on what our new constitution will look like because we don't really care. คุณสามารถประณามรสนิยมของเธอได้ แต่การเรียกร้องการลงโทษทางสังคมเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของเธอ วิธีที่เราแต่งตัวคือวิธีที่เราเลือกที่จะแสดงออกถึงตัวเรา และสิ่งนี้ถือว่าเป็นขั้นพื้นฐานเสียยิ่งกว่าสิทธิในการแสดงความคิดเห็นของเราเสียอีก ถ้าเราไม่สามารถยอมรับได้ว่าโชติรสเพียงแต่แต่งกายเพื่อแสดงออกถึงตัวเธอเองในวิถีทางที่พื้นฐานที่สุดแล้ว เราก็ไม่ควรไปสนใจว่ารัฐธรรมนูญใหม่ของเราจะเป็นอย่างไรเพราะเราไม่ได้ใส่ใจกับมันจริงๆหรอก
The attempt to drag Thammasat University into it beggars belief. She was representing "herself", not the institution, on that night. News reports said she might be reprimanded, which is very interesting. ความพยายามที่จะลากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้เข้ามาเกี่ยวด้วยนั้นเหลือเชื่อมากๆ ในคืนนั้นเธอเป็นตัวแทนของ ตัวเธอเอง ไม่ใช่สถาบัน รายงานข่าวระบุว่าเธออาจจะถูกตักเตือน ซึ่งน่าสนใจมาก
What would administrators of a university that has been a guardian of rights and liberty as well as one that has cherished and encouraged a tradition of ideological provocation tell Chotiros? ฝ่ายบริหารของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยซึ่งเป็นผู้พิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ เช่นเดียวกันกับการเชิดชูและส่งเสริมให้เกิดการท้าทายระบอบความคิดจะบอกกับโชติรสว่าอะไร
What will they tell a student who wore a revealing dress to a gala dinner party? พวกเขาจะบอกกับนักศึกษาที่สวมชุดเปิดเผยไปงานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์ว่าอะไร
Thammasat and its people are supposed to protect Chotiros, who is said to be a good student. They are supposed to stand by her rights and inform an overreacting society that she didn't harm anyone, and there are more "real" moral issues that require attention. And they are supposed to go after the likes of Somsak Techaratanaprasert, the big boss of Sahamongkol Film, who has ordered all footage of her deleted from one of his movies. ธรรมศาสตร์และคนของมหาวิทยาลัยควรจะปกป้องโชติรส ผู้ที่ถูกกล่าวถึงว่าเป็นนักศึกษาที่ดี พวกเขาควรจะยืนหยัดอยู่เคียงข้างสิทธิของเธอ และบอกกับสังคมที่มีปฏิกริยาเกินเหตุว่าเธอไม่ได้ทำร้ายใคร และมีประเด็นทางศีลธรรมอื่นๆที่ จริง กว่านี้ที่ต้องการความสนใจ และพวกเขาก็ควรจะจัดการคนแบบสมศักดิ์ นายใหญ่แห่งสหมงคลฟิล์มที่สั่งตัดฉากของเธอจากหนังเรื่องหนึ่งของเขาจนหมด
Whether it's a knee-jerk reaction or opportunism, what Somsak has done may be nastier than Chotiros' dress. "We are not a porn company," said the man, who isn't even her direct employer. Being a big man in an industry that relies heavily on artistic provocation, creativity and open-mindedness, he has either succumbed meekly to a dubious social outburst or, worse, stepped on a defenceless girl in order to be seen as having taken the moral high ground. ไม่ว่ามันจะเป็นปฏิกริยาอัติโนมัติหรือการฉวยโอกาส สิ่งที่สมศักดิ์ทำลงไปอาจจะน่ารังเกียจกว่าชุดของโชติรส เราไม่ใช่บริษัทหนังโป๊ ชายผู้นั้นกล่าว เขาไม่ได้เป็นนายจ้างโดยตรงของเธอเสียด้วยซ้ำ การเป็นคนมีตำแหน่งใหญ่โตในอุตสาหกรรมที่พึ่งพาการกระตุ้นท้าทายทางศิลป์ ความคิดสร้างสรรค์และทัศนคติที่เปิดกว้างอย่างยิ่งยวด ถ้าเขาไม่ได้ยอมศิโรราบต่อโทสะของสังคมอันน่ากังขา หรือแย่ไปกว่านั้นก็คือเหยียบย่ำหญิงสาวไร้ทางสู้เพื่อให้ถูกมองว่ามีศีลธรรมจรรยาเหนือกว่า
Chotiros may have unveiled too much of her skin, but we may be seeing a man's real colours. โชติรสอาจจะเปิดเผยเนื้อตัวของเธอมากเกินไป แต่เราอาจจะได้เห็นสันดานที่แท้จริงของชายคนหนึ่ง
Not many women have come out to defend Amy, and this may be sadder than Somsak's questionable response to the controversy. Again, we are hearing arguments focused on "decency". Again, "culture" and "Thai-ness" are coming into play. Debate can go on forever, but the uproar and media frenzy indicate that Chotiros has committed a bigger crime than wife beating or sexual harassment in the workplace. Apparently, what she has done is not regarded to be part of female liberation, but something self-serving or an attempt to seek publicity. Which might be true. But the problem with our society is that self-serving or attention-seeking men are perfectly fine, including those acting on primitive impulses. Singer Tata Young once had to apologise to the Thai public for having announced that she had fallen in love with tennis star Paradorn Srichaphan. Actress Kataleeya McIntosh had to do the same after her personal romantic secrets broke out into the open. Chotiros is joining the Female Victims of Social Hypocrisy Club. ไม่มีผู้หญิงออกมาปกป้องเธอมากนัก และสิ่งนี้อาจจะน่าเศร้าใจกว่าการตอบสนองที่น่าสงสัยของสมศักดิ์ที่มีต่อความขัดแย้งนี้ อีกครั้งที่เราได้ยินคำถกเถียงที่พุ่งเป้าไปที่ ความเหมาะสม อีกครั้งที่ วัฒนธรรม และ ความเป็นไทย เข้ามามีบทบาท การโต้เถียงในเรื่องนี้สามารถมีต่อไปได้อย่างไม่มีวันจบสิ้น แต่ความขัดแย้งและความคลั่งของสื่อมวลชนบ่งบอกว่า โชติรสได้ประกอบอาชญากรรมที่รุนแรงกว่าการทารุณภรรยาหรือการล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงาน เห็นกันชัดๆเลยว่าสิ่งที่เธอทำลงไปไม่ได้ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปลดปล่อยของสตรี แต่เป็นสิ่งที่ทำลงไปเพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือเป็นความพยายามในการเรียกร้องความสนใจ ซึ่งอาจจะเป็นความจริง แต่ปัญหาของสังคมเราก็คือ ผู้ชายที่ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือเรียกร้องความสนใจเป็นสิ่งที่ยอมรับได้อย่างไม่มีข้อกังขา รวมถึงพวกที่ทำตามสัญชาติญาณด้วย ครั้งหนึ่งนักร้อง ทาทา ยัง ต้องขอโทษคนไทยที่ประกาศออกมาว่าเธอตกหลุมรักกับภราดร ศรีชาพันธุ์ นักเทนนิสชื่อดัง แคทลียา แมคอินทอช นักแสดงหญิงก็ต้องทำอย่างเดียวกันหลังจากที่ความลับเรื่องความสัมพันธุ์ส่วนตัวของเธอถูกเปิดโปง โชติรสกำลังเข้าร่วมชมรมสตรีที่ตกเป็นเหยื่อความหน้าไหว้หลังหลอกของสังคม
We have near heard of universities firing male students for visiting prostitutes, or companies demoting male executives for fathering illegitimate children. เราไม่เคยได้ยินมหาวิทยาลัยไล่นักศึกษาชายออกเพราะไปเที่ยวโสเภณี หรือบริษัทที่ลดตำแหน่งของผู้บริหารชายเนื่องจากให้กำเนิดลูกนอกสมรส
If there has been any social condemnation of those men at all, it's surely not been half as strong as what Chotiros is facing, for wearing that lobster dress. She has exposed more than her cleavage and her thighs. ถ้าเคยมีการลงทัณฑ์ทางสังคมกับชายเหล่านี้ไม่ว่าจะในทางใดก็ตาม แน่นอนว่ามันไม่รุนแรงถึงครึ่งของสิ่งที่โชติรสเผชิญอยู่จากการสวมชุดกุ้งล็อบสเตอร์ เธอได้เปิดเผยมากกว่าร่องอกและต้นขาของเธอ
Through the controversy of what she wore, we are seeing an odd "culture", one where exercising her fundamental rights can cost a woman her job and where "decency" goes hand in hand with hypocrisy and opportunism. จากความขัดแย้งของสิ่งที่เธอสวม เรากำลังเห็น วัฒนธรรม อันน่าแปลก วัฒนธรรมที่การใช้สิทธิพื้นฐานของเธอสามารถทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งสูญเสียงานและวัฒนธรรมที่ ความเหมาะสม ไปด้วยกันกับความหน้าไหว้หลังหลอกและการฉวยโอกาส
Tulsathit Taptim ตุลสถิตย์ ทับทิม
ตัวหนาเป็นไฮไลท์ของพัทเองค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างคะ
สำหรับพัทนะ จี๊ดแรกเลยคือกระแทกใจเหลือเกิน จี๊ดสองคือ ทำไมถึงไม่มีผู้หญิงออกมาเขียนมั่งว้า คือคุณตุลสถิตยืเขียนดีเหลือเกิน แต่ถ้ามีผู้หญิงเขียนถึงเรื่องนี้แบบนี้มันคง endorse อะไรได้อีกเยอะ จี๊ดสามคืออาจารย์ชลิดาภรณ์จะเขียนว่ายังไงบ้างหว่า
แต่พออ่านแล้วพัทคิดว่าประเด็นใหญ่ๆสำหรับพัทมีสองเรื่องค่ะ
เรื่องที่หนึ่ง เรื่องของร่างกายและสิทธิในร่างกายของสตรี พัทว่าที่มาพูดๆกันว่าเฟมินิสต์ตัวจริงจะไม่นิยมการใช้ร่างกายเพื่อแสวงหาผลประโยชน์หรืออะไรก็ตามแต่ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าในกระบวนการความคิดเรื่องของเฟมินิสต์นั้นก็ไม่ได้ homogeneous หรือกลมกลืนกันเป็นเนื้อเดียว สำหรับพัท พัทเห็นด้วยกับความคิดที่ว่าความเป็นเฟมินิสต์นั้นก้าวล่วงหรือ transcend มากกว่าประเด็นการเปิดเผยร่างกายไปมาก อย่างแรกก็คือพัทคิดว่าร่างกายเราเป็นของเรา เราจะเปิด จะปิดตรงไหนก็เรื่องของเรา ตราบใดที่ไม่ได้ล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่น อันนี้พูดเรื่องสิทธิในร่างกายของเราอย่างเดียวนะคะ และไม่ควรจะเชื่อมโยงหรือลากประเด็นที่ว่าการเปิดเปลือยร่างกายเท่ากับการเป็นหญิงสำส่อน เลว ต่ำ ฯลฯ อะไรก็ตามที่มีผู้เกิดอารมณ์ปะทุกันในกระทู้ หรือยกเอาคำนิยามของหญิงดีที่สังคม (ซึ่งส่วนใหญ่ก็โคตรจะ male-dominated) มาเป็นที่ตั้งว่าหญิงดีเปรียบได้กับแม่/ธิดาอันประเสริฐหรืออะไรอย่างนั้น และไม่ควรกระทำการใดๆบ้างมาเป็นหลัก เพราะในที่นี้การแต่งตัวของคุณเอมี่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอเป็นหญิงเลว
พัทว่าถ้าคุณคิดว่าความสวยความงามเนื้อหนังมังสาของคุณมีค่าพอกันกับหรือว่ามากกว่าสมองของคุณ และคุณเลือกที่จะขายมันมากกว่าขายสมอง มันก็เรื่องของคุณ และคุณมีสิทธิที่จะทำได้ ไม่ควรจะมีใครมาบ้าจี้ตัดหนังของคุณออกเพียงเพราะคุณเลือกจะแสดงออกถึงสิ่งที่คุณคิดว่าเป็น asset ของคุณ
แต่ขอบอกหน่อยเถอะค่ะว่าถ้าทำแล้วก็รับเซ่ คือถ้าจะขายจุดนี้ก็รับไปเลย อย่ามาขอโทษขอโพยว่าถ้ารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นคุณจะไม่ทำลงไป ถ้าทำเพื่อชื่อเสียงความสนใจ ก็รับไปตรงๆ แต่ก็นั่นล่ะนะคะ อาจจะเข้าทางกับสังคมไทยที่มักจะบอกกันเสมอว่า 'ใจอ่อน/ให่อภัยคนกลับใจ' ซึ่งน้องเขาอาจจะเกิดเพราะความกรุณาปรานีของสังคมเลยก็ได้อ่ะนะคะ
พัทว่าตรงนี้พัทนิยมคุณนิว นางเอกโบเอามากกว่าที่ออกมาพูดว่าทำไปเพราะอยากดัง ซึ่งก็ทำให้ตั้งคำถามต่อไปอีกว่าทำไมถึงคิดกันว่าถ้าจะดังในสังคมไทย/วงการบันเทิงไทยต้องโป๊ และคำถามที่ว่าทำไมสังคมไทยที่ปากว่าอนรุกษ์ประเพณีขนบธรรมเนียมอันโบราณและการรักนวลสงวนตัวกับค่าของความบริสุทธิ์ของหญิงถึงได้มีภาพเกือบเปลือยแปะอยู่ตามหน้าหนังสือพิมพ์ประจำ (หัวเขียวมากยิ่งเปลือยมาก โดยเฉพาะทุกวันอาทิตย์) แถมมันก็ขายดีจริงๆน้อ
เรื่องที่สองคือประเด็นเรื่องสถาบันการศึกษา ในฐานะศิษย์เก่ามธ. ขอบอกว่าจี๊ดมากที่อธิการออกมาตำหนิคุณโชติรส คุณโชติรสไปในฐานะดารา ไม่ใช่นักศึกษา เธอไม่ได้แบกสถาบันไปกับเธอด้วย จริงอยู่ที่เธออาจพูดถึงสถาบัน เพราะนั่นอาจจะเป็นหนึ่งในจุดขายของเธอ แต่ในฐานะมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ควรจะออกไปเต้นตามสื่อและ assume moral high ground ตำหนิคุณโชติรสในสิ่งที่เธอทำในฐานะปัจเจกชนด้วยหรือ
เรื่องอื่นมีตั้งเยอะแยะทำไมไม่ทำ วุ้ย
จริงๆแล้วจี๊ดมากเพราะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับสถาบันการศึกษาระดับสูงสุดของไทยน่ะค่ะ เพราะจากเวปคุณเฟย์ที่ว่าจุฬาแบนหนังสือฟ้าเดียวกันฉบับรัฐประหาร โปรดตามไปอ่านนะคะ เพราะว่าจขบ.ห่อเหี่ยวใจมากจนพิมพ์ต่อไม่ไหว
//www.faylicity.com/book/news/
ไหนล่ะอิสระทางปัญญา!!
Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2550 |
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2550 2:12:50 น. |
|
27 comments
|
Counter : 1826 Pageviews. |
|
|
|
โดย: the Vicky วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:4:12:46 น. |
|
|
|
โดย: grappa วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:8:54:43 น. |
|
|
|
โดย: grappa วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:02:31 น. |
|
|
|
โดย: Clear Ice วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:22:26 น. |
|
|
|
โดย: tiara วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:45:58 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:04:46 น. |
|
|
|
โดย: ออม (Pattylala ) วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:52:33 น. |
|
|
|
โดย: พี่จูน (MoneyPenny ) วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:40:08 น. |
|
|
|
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:23:40:46 น. |
|
|
|
โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:23:50:10 น. |
|
|
|
โดย: rebel วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:23:57:01 น. |
|
|
|
โดย: nzmum วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:5:24:56 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:8:29:18 น. |
|
|
|
โดย: Masaomi (Masaomi ) วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:20:11:47 น. |
|
|
|
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:1:07:30 น. |
|
|
|
โดย: Il Maze วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:4:35:52 น. |
|
|
|
โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:03:03 น. |
|
|
|
โดย: KungGuenter วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:3:23:28 น. |
|
|
|
โดย: ฝนตกแดดออก วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:59:05 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เห็นด้วยกับบทความนี้มากๆ ค่ะ สังคมไทยกลายเป็นอะไรไปหมดแล้วก็ไม่รู้ วิคว่าที่ธรรมศาสตร์จำเป้นต้องเรียกน้องเอมี่ไปคุยก็เพราะกลัวถูกตำหนินั่นแหละค่ะว่าไม่ทำอะไรเลย