|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
โนเบล Peace Prize ปีนี้ประทับใจที่สุดเพราะ Muhammud Yunus ผู้ก่อตั้ง Grameen Bank ได้ไปค่ะ
คราวนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องหนังสือนะคะ แต่จขบ.ดีใจจัดซะจนต้องขอเขียนลงในบล็อก อาจจะไม่มีใครสนใจมากเท่าไหร่ แต่ถ้าใครได้อ่าน แม้จะแค่คนเดียว ก็ดีใจแล้วค่ะ เพราะเรื่องนี้ดีจริงๆนะ
ผลรางวัลโนเบลเพื่อสันติภาพของปีนี้ออกมาแล้วค่ะ คนได้คือศาสตราจารย์มูฮัมหมัด ยูนุส ชาวบังกลาเทศ วัย 66 ปี เจ้าของความคิดริเริ่ม microcredit หรือเงินกู้จำนวนน้อยๆ และเป็นผู้บุกเบิก Grameen Bank หรือธนาคารกรามีน กรามีนแปลว่าหมู่บ้านหรือชนบทค่ะ ธนาคารนี้เป็นแหล่งให้เงินกู้ที่ว่าด้วย เดี๋ยวเรามาคุยกันก่อนนะว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน อ้างอิงข้อมูลจากวิกิพีเดียและข่าวจากสนพ.ต่างๆนะคะ
โมฮัมมัด ยูนุส เกิดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1940 ในหมู่บ้านบาธัวในจิตตะกอง เขาเป็นคนเรียนดีตั้งแต่เล็กๆ และได้ทุนฟูลไบรท์ไปศึกษาปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแวนเดอบิลท์ในสหรัฐฯ ในปี 1969
ปี 1972 ยูนุสย้ายกลับมาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยจิตตะกองและในช่วงของยุคอดอยากปี 1974 ในบังกลาเทศนี่เองที่เขาริเริ่มโครงการขจัดความยากจน โดยมีพื้นฐานความคิดที่ว่าเงินกู้ยืมจำนวนน้อยมากในสายตาธนาคารทั่วไปมีผลในการเปลี่ยนแปลงชีวิตคนยากจนอย่างใหญ่หลวง เงินก้อนแรกที่เขาให้กู้ยืมมีมูลค่าเพียง 27 ดอลล่าร์เท่านั้นเองค่ะ เขาให้ผู้หญิงในหมู่บ้านโจบร้าที่ทำเครื่องเรือนจากไม้ไผ่เอาไปซื้อไม้มาทำสินค้า งานนี้เป็นโครงการที่เขาศึกษา
ยูนุสทาบทามธนาคารอื่นๆในบังกลาเทศให้เริ่มโครงการ microcredit แต่ก็ไม่มีใครสนใจร่วมด้วย เพราะถือว่ามีความเสี่ยงว่าหนี้สูญสูง เขาเลยร่วมกับทางมหาวิทยาลัยตั้งโครงการพัฒนาเศรษฐกินในชนบทขึ้นมาโดยใช้หลักการให้เงินกู้ที่ว่านี่ล่ะค่ะ โดยลองกับหมู่บ้านใกล้ๆก่อน ปรากฏว่าโครงการนี้ก็ประสบความสำเร็จมากแล้วก็ขยายสาขาออกไปมากมาย
ทะนี้ก็หัวใจของธนาคารกรามีนนะคะ การกู้ยืมเงินนี่จะใช้หลักเชื่อใจกัน หรือระบบ solidarity group ซึ่งก็คือเป็นการให้กู้กับคนกลุ่มย่อยที่ต่างคนต่างเป็นผู้ค้ำประกันกันเอง แล้วก็ถ้าคนใดคนหนึ่งในกลุ่มไม่สามารถชำระเงินกู้ก่อนที่จะขอกู้ก่อนใหม่ได้ ทางธนาคารก็จะยังไม่ให้กู้ค่ะ แล้วก็ยังมี incentives อื่นๆอีกด้วย เช่นการให้เงินกู้เพื่อระบบกสิกรรม ประปา บ้านเรือน และการซื้อหาอุปกรณ์สำหรับทำมาหากินอาชีพต่างๆ ฯลฯ ความสำคัญของหลักการของธนาคารก็คือเป็นการให้ทางออกแก่คนยากจนในบังกลาเทศที่ตามปกติต้องกู้ยืมเงินนอกระบบและเสียดอกเบี้ยงสูงลิบ เนื่องจากไม่สามารถกู้ยืมจากธนาคารปกติได้ และเป็นแหล่งเงินกู้ที่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงกู้เงินได้ ปรากฏว่าคนกู้เงินของที่นี่เป็นผู้หญิงกว่า 96 % เชียวนะคะ และที่สำคัญมากก็คืออัตราการใช้หนี้สูงถึงร้อยละ 98 ล้มล้างความเชื่อธนาคารทั้งหลายที่ว่าคนจนชอบชักดาบไปเลย
ปัจจุบัน แบบแผนและหลักการของธนาคารกรามีนเป็นที่ยอมรับนับถือและนำไปใช้ในกว่า 43 ประเทศทั่วโลก บังกลาเทศเองก็ขยับขึ้นมาเหนือเส้นวัดระดับความยากจนหรือ poverty line เพราะผู้หญิงที่กู้เงินไปมักจะใช้เงินไปกับครอบครัว การศึกษา อาหาร และสิ่งจำเป็นทั้งหลายด้วยค่ะ ปัจจุบัน ธนาคารกรามีนขยายงานออกจนครอบคลุมการทำแผงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โทรศัพท์หมู่บ้าน และเสื้อผ้ายี่ห้อ Grameen Check ค่ะ
รางวัลโนเบลสดุดีเกียรติคุณเขาว่าอย่างนี้ค่ะ
The Norwegian Nobel Committee has decided to award the Nobel Peace Prize for 2006, divided into two equal parts, to Muhammad Yunus and Grameen Bank for their efforts to create economic and social development from below. Lasting peace cannot be achieved unless large population groups find ways in which to break out of poverty. Micro-credit is one such means. Development from below also serves to advance democracy and human rights.
สุดท้าย รูปของยูนุสค่ะ
ต้องขอคารวะด้วยใจจริงค่ะ
Create Date : 31 ตุลาคม 2549 |
Last Update : 31 ตุลาคม 2549 23:27:58 น. |
|
9 comments
|
Counter : 990 Pageviews. |
|
|
|
โดย: nzmum วันที่: 1 พฤศจิกายน 2549 เวลา:2:54:50 น. |
|
|
|
โดย: เงาตะวัน วันที่: 1 พฤศจิกายน 2549 เวลา:4:44:37 น. |
|
|
|
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 1 พฤศจิกายน 2549 เวลา:6:56:57 น. |
|
|
|
โดย: Clear Ice วันที่: 1 พฤศจิกายน 2549 เวลา:7:36:53 น. |
|
|
|
โดย: สายลมอิสระ (สายลมอิสระ ) วันที่: 1 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:41:11 น. |
|
|
|
โดย: สเตอร์ลิงค์ วันที่: 1 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:31:17 น. |
|
|
|
โดย: grappa วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:8:25:00 น. |
|
|
|
โดย: คนขับช้า วันที่: 9 พฤศจิกายน 2549 เวลา:2:16:22 น. |
|
|
|
|
|
|
|
คุณพัทวิเคราะห์ทีซิคะว่าหลักการอย่างนี้ทำไมเวลาเอามาใช่ในประัเทศอะไรขันๆ เนี่ยแล้วมันถึงไม่เวิร์คเคอะ
ปล. ชอบคำประกาศเกียรติืคุณ สั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความ ไม่หวานเลี่ยนหาสาระไม่เจอเหมือนคำประกาศรางวัลในประเทศอะไร...
เ่อ่อ พอเหอะ ไปดีกั่ว