Group Blog
 
 
ตุลาคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
25 ตุลาคม 2549
 
All Blogs
 

The Quincunx - Charles Palliser หนังสือวางไม่ลงประจำปี 2549

ในที่สุดก็จบแล้วค่ะ The Quincunx ตามที่เคยบอกไว้ในบล็อกตอนแรกเปิดทู้ ขอบอกว่าท้ายๆเล่มนี่เล่นเอาไม่กินไม่นอนเลยเชียว

ต้องขอท้าวความหลัง (เริ่มแก่ อิอิ) คุณโอแห่งเวบ //www.faylicity.com เคยแนะนำไว้สมัยจขบ. อ่าน instance of the fingerpost ของ Ian Pears ที่ชอบมากๆ แล้วก็รีวิวไว้ในทู้หนังสือแนะนำเมื่อปีก่อนๆว่าถ้าชอบแนวนี้ ห้ามพลาด the quincunx และอย่าให้ความหนาของมันทำให้ถอดใจไปเสียก่อน จากนั้นจขบ.ก็เพียรหามาตลอด แต่ก็ไม่เคยเจอในร้านหนังสือไหนๆ เริ่มถอดใจก่อนอ่านว่าชะรอยชะตาคงไม่ต้องกัน (ซับน้ำตาแล้วหนีไปอ่านโรแม้งซ์แทน ฮ่า)

แต่แล้ววันที่ฟ้าลิขิตก็มาถึง (เว่อซะ เดี๋ยวพี่ติ่มแกจะหาว่าตัวปลอม) จขบ.ไปเชียงใหม่ และทุกครั้งที่ไปก็ต้องไปเดินร้านหนังสือมือสองแถวท่าแพ ขอบอกว่าร้านมือสองที่เชียงใหม่นี่เด็ดที่สุดแล้วจริงๆค่ะ มี Tanizaki ครบชุดเลยคิดดู กทมยังหาไม่ได้นะเนี่ย) วันนั้นจขบ.ก็ลากสังขารไปอย่างทุลักทุเล ถือไม้เท้ากระย่องกระแย่ง เพราะวันก่อนไปเล่นน้ำตกแล้วกระโดดปุ๋งเท้ากระแทกหิน เล่นเอาบวมเป่ง แต่เราก็ยังไม่ยั่น เอิ้ก

พอไปถึงหน้าร้าน ไม้เท้าพรรคกระยาจกคู่ใจก็หลุดมือจนต้องก้มเก็บ พลันสายตาก็ปะทะเข้ากับหนังสือเล่มนี้ที่ตามหามานาน ที่สำคัญ มันอยู่ตรงแผงร้อยเดียว (กรี๊ดๆๆๆ) ต้องขอขอบคุณฟ้าที่ส่งมาไว้ในอ้อมใจอิชั้นเจงๆ

แต่กว่าจะได้ฤกษือ่านก็ปาเข้าไปอีกปี จขบ.หาจังหวะเวลาดีๆ ไม่มีใครกวนแล้วเปิดหน้าแรก พอข้ามร้อยหน้าเท่านั้นล่ะค่ะ ลืมโลกไปเลย หนังสือเล่มนี้ซ่อนเงื่อน ผูกปมลวงและเชื่อมโยงตัวละครและเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นลูกโซ่ชนิดที่ว่าต้องร้องโอ้โหอยู่ในใจไปทั้งเล่ม แต่ความหนาของมันก็เป็นอุปสรรคจริงๆน่ะค่ะ เพราะไอ้เจ้าพันสองร้อยหน้านี่ทำให้นอนอ่านไม่ไหวเอาเลย ฮ่า

เรื่องย่อนี่ก็ไม่สามารถเล่าได้นะคะ เพราะว่าจะทำให้อรรถรสตอนอ่านหายขาดไปอย่างชนิดที่ว่าโกรธตัวเองที่รู้ก่อนเลยทีเดียว แต่เอาเป็นว่าเรื่องย่อชนิดหยาบๆ มีตามนี้ค่ะ

เรื่องเกิดขึ้นในอังกฤษ คาดว่าน่าจะเป็นช่วงศตวรรษที่ 19 สมัยเดียวกับ Charles Dickens เขียน Bleak House
หนังสือเล่มนี้แบ่งเป็นห้าตอน แต่ละตอนก็จะเกี่ยวกับสกุลที่มีความเกี่ยวกันกับการแย่งมรดกในเรื่อง รายชื่อตระกูลต่างๆ มีตามนี้ค่ะ
1. The Huffams
2. The Mompessons
3. The Clothiers
4. The Palphramonds
5. The Maliphants

The Quincunx เป็นภาษาละตินแปลว่าแฝดห้า ตามปกหนังสือที่เห็นจะดูเหมือนตรารูปกลีบกุหลาบสี่กลีบ มีวงกลมอยู่ตรงกลาง และเป็นสัญลักษณ์ของตระกูลใหญ่ในอังกฤษที่ชื่อ Huffam ซึ่งเป็นที่โจษจันในวงสังคมเนื่องจากคดีพิพาทมรดกที่ดินและคฤหาสน์หลังมหึมาที่มีชื่อเดียวกับตระกูลซึ่งในตอนนี้ตกอยู่ในการครอบครองของตระกูล Mompessons ที่ได้รับสิทธิ์ในตัวคฤหาสน์ไปอย่างไม่ชอบมาพากล ซึ่งต่อมาจะพัวพันกับสามตระกูลที่เหลืออย่างแยกไม่ออก

เรื่องเล่าผ่าน John ตัวละครหลักของเรื่องตั้งแต่ในวัยเด็ก จอห์นรู้สึกคับข้องใจที่เมื่อไรก็ตามที่เขาถามถึงความเป็นมาของตัวเองและพ่อที่ไม่เคยพบหน้า แม่ของเขาก็จะบ่ายเบี่ยงและเอาแต่พูดว่ายังไม่ถึงเวลา แต่สักวันหนึ่งจะบอกให้รู้ เขาสังเกตเห็นด้วยว่าแม่จะเก็บเอกสารสำคัญชิ้นหนึ่งในกล่องเงินห้อยไว้ที่เอวเสมอ แต่ก็ไม่ยอมปริปากบอกว่าเป็นเอกสารอะไร

เหตุการณ์ต่างๆเริ่มขึ้นเมื่อคนจรจัดงัดเข้ามาในบ้านของเขาแล้วขโมยจดหมายสำคัญไปได้หนึ่งฉบับ หลังจากนั้นชีวิตของเขาและแม่ก็เริ่มถูกรุกราน มีการข่มขู่จากบุคคลนิรนาม ความพยายามลักพาตัว จนแม่ตัดสินใจขายบ้านและพาจอห์นหนีไปอยู่ในลอนดอน ชีวิตที่เคยสุขสบายและปลอดภัยของจอห์นเริ่มเปลี่ยนไปเป็นลำบากยากแค้น และเขาเริ่มหมดความอดทนกับการเก็บความลับของแม่ โดยเฉพาะเมื่อทุกคนที่ก้าวเข้ามาในชีวิตของเขาล้วนมีความมุ่งหมายแอบแฝง

(ขัดใจ ไม่รู้จะเล่ายังไงไม่ให้สปอยล์และคนอ่านเชื่อว่ามันหนุกจริงๆ เฮ้อ) เอาเป็นว่าจากนั้นชีวิตของจอห์นก็ขึ้นลงยิ่งกว่ารถไฟเหาะนะคะ แล้วก็ต้องทำงานหนักสารพัด ตั้งแต่จำใจเป็นลูกมือให้แก๊งค์ขายศพ แก๊งค์ต้มตุ๋น คนงมหาเศษเงินในท่อใต้เมืองลอนดอน และระหว่างนั้นก็ต้องคอยหลบหนีคนที่หวังจะเอาชีวิตเขาด้วย และคนเขียนก็ค่อยๆเปิดเผยทีละนิดๆ ว่าทำไมเขาถึงเป็นที่ต้องการตัวขนาดนั้น

(ให้อภัยจขบ.ที่จบทื่อๆอย่างนั้นนะคะ เล่าแล้วหมดสนุกจริงๆนะ ขอบอก)

เสน่ห์ของเรื่องนี้อยู่ที่การวางพล็อต เพราะอ่านจบแล้วถึงกับอึ้งกิมกี่ไปหลายวัน ในหัวเอาแต่คิดๆๆๆว่าตอนนั้นเชื่อมกับตอนนี้ยังไง คนนี้กับคนนั้นทำแบบนั้นทำไม พระเอกจะทำยังไงต่อไป ฯลฯ มันเหมือนหนังสือที่มีหนังสือซ่อนอยู่เป็นชั้นๆน่ะค่ะ แต่ละตอนก็มีเรื่องราวที่บอกเล่าโดยตัวละครต่างๆนานา จริงบ้าง เท็จบ้าง บิดเบือนบ้าง ตรงนี้ล่ะค่ะสนุก ตรงที่ได้มานั่งขบคิดทีหลังว่าตกลงความจริงมันเป็นยังไง ยิ่งตอนที่จอห์นต้องไขปริศนาตรา quincunx เพื่อเอาเอกสารสำคัญยิ่งลุ้น วางไม่ลงเลยจริงๆ อ้อ ใครที่เป็นแฟนดิกเก้นส์ ห้ามพลาดนะคะ

สรุปว่าเป็นหนังสือที่อ่านแล้วทำให้คิดไปด้วยทุกตอน ขบปริศนาและลุ้นกับพระเอกไปตลอดเวลาจริงๆค่ะ

แต่จะพูดถึงข้อที่ทำให้ถอดใจล่ะก็ แน่นอนค่ะ หวามหนาของมัน หนาจริงๆ นอนอ่านไม่สะดวกเลย แล้วก็ภาษาที่ใช้เป็นอังกฤษโบราณ แต่ก็ไม่ถึงกับยากนะคะ อ่านได้ แต่ที่หินจริงๆคือท่อนกฎหมายที่อธิบายที่มาที่ไปว่าใครมีสิทธิ์ครอบครอง ใครเป็นทายาทลำดับสอง หากหมดสิ้นคนนี้แล้วตระกูลไหนจะได้ไป มันยากจริงๆค่ะ แต่ก็อ่านพอเข้าใจได้นะคะ โดยเฉพาะเมื่อไปเรื่อยๆ จะเข้าใจจากบริบทของหนังสือเอง

ต้องขอบคุณคุณโอที่ช่วยแนะนำหนังสือดีๆนะคะ ตอนนี้เท่าที่รู้ก็มีคุณป้า (จากทู้หนังสือแนะนำ) ที่มีหนังสือเล่มนี้แล้ว เคยเกลี้ยกล่อมให้คุณแมวเชสเชียร์ยิ้มลองอ่าน ก็เห็นว่ายินดีเข้าสมาคมวางไม่ลงอีกคนค่ะ :)

ขออนุญาตแปะลิงค์ของคุณโอที่เล่าเรื่องย่อได้ดีกว่าจขบ.มากมายมหาศาลไว้ด้วยนะคะ

//www.faylicity.com/book/book1/quincunx.html

เอาปกกับคำแปะหน้ามาฝากก่อนจบบล็อกค่ะ :)






"So compulsively absorbing that reality disappears ...One is swept along by those enduring emotions that defy modern art and a random universe : hunger for revenge, longing for justice and the fantasy secretly entertained by most people that the bad will be punished and the good rewarded" The New York Times




 

Create Date : 25 ตุลาคม 2549
11 comments
Last Update : 25 ตุลาคม 2549 2:43:21 น.
Counter : 927 Pageviews.

 

จดชื่อไว้
แฝดห้าๆๆๆๆๆๆ

 

โดย: grappa 25 ตุลาคม 2549 7:02:17 น.  

 

อยากได้ปกแบบในรูปจัง ที่หามาได้เป็นปกอีกแบบ...ไม่สวยเลย (มันจะอ่านหรือจะดูแต่ปกเนี่ย? 555)

เล่มนี้ไม่กล้าอ่าน ไม่ว่างพออ่ะ ซื้อมาเก็บไว้ก่อน (อารมณ์เดียวกับ suitable boy และอื่น ๆ อีกมากมาย)

 

โดย: ยาคูลท์ 25 ตุลาคม 2549 7:51:12 น.  

 

น่าสนอีกแล้ว ^^

แต่ยังอ่านเรื่อง An instance of the fingerpost ไม่จบเลยค่ะ หอบเอาไปตุรกีด้วย ... ตอนนี้ไปหมกอยู่ไหนหว่า เดี๋ยวต้องไปหามาอ่านต่อก่อน แหะๆๆ

 

โดย: Clear Ice 25 ตุลาคม 2549 14:44:02 น.  

 

อยากอ่านหนังสือภาษาอังกฤษง่ะ

ถ้าอ่านได้คงได้อ่านหนังสือสนุกๆ อีกเยอะเลยง่ะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 25 ตุลาคม 2549 18:39:55 น.  

 

โอว พันกว่าหน้า บอกได้คำเดียวว่า บ๊ายบาย กร้าก
นับถือจริงๆเลย คนอ่านหนังสือหนาๆเนี่ย -*-

พัทตอบเมลด้วยนะจ๊า มิสยูๆ

 

โดย: มณฑารัตน์ 25 ตุลาคม 2549 22:45:01 น.  

 

น่าสนใจมากเลยค่ะ ขอจดไว้ใน list อยากอ่านนะคะ (แต่หนังสือหนามาก กว่าจะอ่านจบคงเหงื่อซก )

 

โดย: unwell 26 ตุลาคม 2549 5:49:18 น.  

 

ภาษาอังกฤษเหรอ

ไปต่อคิว ท้ายสุดเลยไป

 

โดย: กระปุกกลิ้ง 26 ตุลาคม 2549 14:17:44 น.  

 

ฮ่าๆๆ ขำคุณกระปุกกลิ้ง

 

โดย: rsamlha 26 ตุลาคม 2549 18:26:12 น.  

 

แง้ ไม่กล้าอ่านอ่ะ กลัวสะปรอย (ปรอยแบบนี้ หรือแบบนี้ ดีน้อ) เดี๋ยวไว้สั่งซื้อดีกว่า สั่งซื้อๆ (มีมือนิ้วสั้นเอื้อมมาสะกิดด้านหลัง "เฮ่ยๆ แล้วเจ็ดพันเมื่อวานน่ะ" เออเนอะ ต้องหางานทำก่อน หางานๆๆๆๆ)

เฮ้อ

 

โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) 26 ตุลาคม 2549 18:27:11 น.  

 

อยากอ่านหนังสือไทยใจจะขาดเหมือนกันค่คุณกระปุกฯ แต่มันหาไม่ได้เนี่ยซี ฮือๆ ยังดีนะขนนิยายติดมาพอหายอยาก

คุณแมวยิ้ม สนุกนา เงินทองของนอกกาย ซื้อๆไปเต๊อะ ฮ่า

สวัสดีทุกคนด้วยนะคะ :)

 

โดย: พัท (Il Maze ) 27 ตุลาคม 2549 13:54:34 น.  

 

น่าอ่านๆ

 

โดย: BoOKend (BoOKend ) 27 ตุลาคม 2549 17:39:32 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Il Maze
Location :
Athens Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




Friends' blogs
[Add Il Maze's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.