|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
2 ตุลาคม 2552
|
|
|
|
อาณาจักรโบราณทวาราวดีที่นครปฐม... พระประโทณเจดีย์อีกครั้ง(ขี่หมูดูพระ)
ออกจากวัดทุ่งพระเมรุ เหวยก็พาผมก็ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เสือหมู ที่มีสภาพของระบบเครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์นักไปยังพระประโทณเจดีย์ เครื่องเริ่มมีอาการกระตุกๆ แต่เราก็ถึงที่หมาย...
ถึงวัดพระประโทณ ผมให้เหวยตรงไปที่อนุสาวรีย์โบราณวัตถุที่อดีตเจ้าอาวาสวัดพระประโทณนำโบราณวัตถุที่พบในบริเวณวัดมาประกอบรวมสร้างไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา โดยนำงานปูนปั้นและงานดินเผาโบราณมาติดประกอบกับปูนฉาบเป็นเจดีย์เล็กๆ ก่อนที่งานศิลปโบราณเหล่านี้จะถูกขโมยสูญหายหมด
ภาพบนเหวยกำลังพิจารณาปูนปั้นและโบราณวัตถุที่พบในบริเวณวัด
เศียรปูนปั้นบนอนุสาวรีย์
ในภาพบนจะเห็นขนดเส้นผมหรือที่เรียกว่าเม็ดพระสกติดประดับอยู่บนเจดีย์ด้วย เม็ดพระศกนี้ปกติจะติดบนเศียรพระพุทธรูป ผมคาดว่าเม็ดพระสกเหล่านี้คงเป็นของพระพุทธรูปขนาดใหญ่พอควร เพราะขนดเส้นผม(เม็ดพระศก)นั้นใหญ่พอๆ กับกำปั้นผมทีเดียว
ภาพบนพระประโทณเจดีย์มุม 45 องศา แสดงการเว้นช่องว่างเป็นจังหวะเล็กใหญ่
จากนั้นเราก็ตรงไปที่เจดีย์
"เหวย... นายรู้จักกฏสัดส่วนทองคำใช่ป่ะ นายลองดูที่พระประโทณดิ" ผมถามเหวย "1 ต่อ 1.618 กฎของความงามที่ปรากฏขึ้นในธรรมชาติ ที่ชาวกรีกค้นพบ" เหวยตอบ "เหวยนายเห็นจังหวะของการก่ออิฐที่มีแบ่งส่วนเป็นห้องๆ เกิดช่องไฟเล็กใหญ่ต่างกันป่าว" "อ๋อ... พี่เป็นไปตามสัดส่วนทองคำเหรอ" "อืม... จารย์วินัยแกว่าไว้อย่างนั้นนะ นายลองไปวัดดูแล้วกัน" "เจ๋งอ่ะ...สวยดีอะพี่"
กฎสัดส่วนทองคำหรือ Golden Section เป็นอัตราส่วนของที่ว่างหรือจังหวะที่ให้ความรู้สึกสวยงามลงตัวที่ค้นพบโดยชาวกรีกโบราณ แม้ในความงามตามธรรมชาติ ก็พบสัดส่วนเหล่านี้ปรากฏในรูปแบบความงามที่ลงตัว เป็นต้นว่าอัตราส่วนของเส้นผ่านศูนย์กลางของเปลือกหอยวงใน ต่อวงถัดออกไปก็จะเป็นไปตามสัดส่วนนี้ ซึ่งสัดส่วนของความความงามตามอัตรานี้ได้มีการนำมาประยุกต์ใช้ในการสร้างและตกแต่งสถาปัตยกรรมของกรีกโบราณ (ลองอ่านนี้ดู //www.geocities.com/~jlhagan/lessons/design2.htm)
การก่ออิฐที่พระประโทณเจดีย์ และจุลประโทนเจดีย์ มีการใช้ช่องและชั้นขนาดเล็กใหญ่สลับกันตามแนวทางกฎสัดส่วนทองคำของกรีก
นอกจากอิฐสอดินที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ ที่พระประโทณเจดีย์หรือที่จุลประโทนเจดีย์ แต่เดิมจะมีลวดลายปูนปั้นประดับอยู่ด้วย ปัจจุบันลวดลายปูนปั้นที่ยังเหลืออยู่บางส่วนถูกเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครปฐม(ตรงองค์พระปฐมเจดีย์) และมีอยู่อีกเล็กน้อยที่อดีตเจ้าอาวาสวัดพระประโทณนำมารวบรวมสร้างไว้ทีอนุสาวรีย์ที่ได้กล่าวไปแล้ว(สามภาพด้านล่างแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครปฐม)
ปูนปั้นรูปกินนรเล่นพิณเปี๊ยะ
ปูนปั้นที่มีรายละเอียดและความงดงามสะท้อนถึงฝีมือช่างชั้นสูง
การแต่งกายของคนยุคทวาราวดี ศึกษาได้จากงานปูนปั้น เนื่องด้วยไม่มีการค้นพบภาพเขียนของยุคทวาหลงเหลืออยู่
ในศิลปกรรมของทวาราวดี นอกจากสัดส่วนทองคำของกรีกที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการเว้นจังหวะให้สวยงามบนพระเจดีย์ ยังมีงานศิลปะที่แสดงออกถึงการได้รับอิทธิพลจากกรีกโบราณ เช่นลายปูนปั้นรูปหัวเสาไอโอนิค และคอริเทียน ทีปั้นประดับอยู่ตามสถาปัตยกรรม หัวเสาแบบกรีกนี้นี้ยังปรากฎในวงล้อธรรมจักรของทวาราวดี แสดงให้เห็นถึงการเดินทางเคลื่อนไหวและรวมตัวของวัฒนธรรมที่มีมาแต่โบราณ(กรีก>>อินเดีย>>ไทย)
ปูนปั้นมีรูปแบบอย่างหัวเสาไอโอนิก(Ionic)ของกรีก ที่ใช้ประดับตกแต่งสถาปัตยกรรมทวาราวดี ถ่ายภาพจากอนุสาวรีย์วัดพระประโทณเจดีย์
ซี่ล้อของธรรมจักรทวาราวดี สลักเป็นรูปหัวเสาแบบกรีก
"พี่เจดีย์ใหญ่ๆ อย่างนี้เขาสร้างได้นี่เก่งนะ... มันต้องใช้ทั้งวิศวะกร ทีมช่างและแรงงานขนาดไหน...และก็มีสถาปนิคที่เขียนแบบ ผมนึกถึงแบบร่างต้นแบบ" มีนะมีการค้นพบแบบร่างของเจดีย์ บนแผ่นดินเผาอยู่ด้วย อืม... เจ๋ง อะพี่
ภาพร่างแบบของเจดีย์บนแผ่นดินเผา ทำให้เห็นภาพรวมของเจดีย์ที่นิยมสร้างในยุคนั้น
จากนั้นเราก็ขึ้นไปบนเจดีย์ เดินชมบนพระเจดีย์โดยรอบ และขึ้นไปบนยอดสีขาวที่สร้างขึ้นใหม่ในสมัยอยุธยา
พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่บนยอดพระประโทณเจดีย์ เหวยให้ความเห็นว่า ในการสร้างยอดเจดีย์ ผู้สร้างคงต้องการให้ผู้มาสักการะต้องใช้ศรัทธา ความกล้าหาญและความอ้อนน้อมในการปีนขึ้นมา... เพราะการจะปีนถึงบนยอดนี้ได้ทั้งเหนื่อยจนแทบจะคลานปีน อีกทั้งต้องรวบรวมความกล้าด้วยสูงหวาดเสียวจนน่ากลัว
กรุอารยธรรมที่บริเวณลานวัด ฝังเรื่องราวของยุคสมัยไว้ ให้คนรุ่นต่อไปได้ศึกษา
ออกจากวัดพระประโทณก็ขี่หมูมุ่งไปที่จุลประโทน
ดอกไม้แปลกตานี่คือดอกอุตพิดกำลังบานอยู่รายรอบซากหักพังของจุลประโทณ ส่วนมือนั่นมือของผมเอง...
เดินชมเจดีย์จุลประโทนโดยรอบและเราก็ขี่หมูมุ่งไปวัดธรรมศาลา
วันนี้ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ ขอสันติสถิตในดวงใจทุกท่าน... สวัสดี
Create Date : 02 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 3 ตุลาคม 2552 17:25:05 น. |
|
9 comments
|
Counter : 3096 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: นก (popang ) วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:15:06:21 น. |
|
|
|
โดย: เจ้าของบล็อก (bite25 ) วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:10:08:23 น. |
|
|
|
โดย: coji วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:13:41:01 น. |
|
|
|
โดย: raya-a วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:16:37:34 น. |
|
|
|
โดย: หะลวง IP: 125.24.177.37 วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:17:12:06 น. |
|
|
|
โดย: bite25 วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:15:34:11 น. |
|
|
|
| |
|
|
bite25 |
|
|
|
|
1.พิณเปี๊ยะมีมาแต่สมัยทวารวดี....อืม....น่าสนใจ
2.กฎสัดส่วนทองคำ เดี๋ยวขอเข้าไปอ่านเพิ่มเติมก่อนนะ
3.การร่างภาพในสมัยก่อน.....อืม....เป็นอย่างงี้เอง
4.การขึ้นไปไหว้พระที่สูงๆนั้นบังคับให้ต้องเดินอย่างสุภาพเรียบร้อย บางแห่งบันไดแคบมากต้องถอยหลังลงเป็นการสักการะแบบหนึ่ง....เป็นข้อสันนิษฐานที่ดี
5..ได้เห็นหน้าเหวย........อืมๆ
6.ได้เห็นดอกอุตพิดและมือพี่ไบรท์.....55555
7.กรุอารยธรรมเป็นยังไงเหรอคะ..แบบเอาสิ่งของสมัยปัจจุบันใส่แคปซูลไว้ให้เด็กอีก100ปีดูใช่ป่าว