<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
21 กันยายน 2552

อาณาจักรโบราณทวาราวดีที่นครปฐม... ขี่หมูดูพระ..

ช่วงก่อนหน้านั้นได้นำชมโบราณสถานของอาณาจักรทวาราวดีสองแห่งคือ พระประโทณเจดีย์ และเจดีย์จุลประโทน เจดีย์เก่าแก่ที่มีมาเป็นพันปี


แต่ใครจะรู้บ้างไหมว่า อาณาจักรทวาราวดีนี้มีความยิ่งใหญ่ขนาดไหน ขอบอกคร่าวๆ ว่าเมืองโบราณนครปฐม มีขนาดของเมืองใหญ่ที่สุดในอาณาจักรยุคโบราณที่ร่วมสมัยกันในภูมิภาคนี้ และมีโบราณสถานก่ออิฐอยู่มากกว่ากรุงเก่ากรุงศรีอยุธยาเสียอีก


เจ้าพระยาทิพากรวงศ์(ขำ บุนนาค) ผู้อำนวยการสร้างองค์พระปฐมเจดีย์เมื่อสมัยต้นรัชกาลที่ 4 ได้กล่าวถึงโบราณสถานก่ออิฐที่มีมากกว่ากรุงศรีอยุธยา ในงานเขียนเรื่องพระปฐมเจดีย์ว่า

"แล้วโปรดให้สร้างพระราชวังที่ประทับไว้คู่กันกับวัดชื่อว่า วังปฐมนคร เพราะเหตุด้วยที่เมืองนั้นแต่โบราณเป็นเมืองหลวงของชาวสยามมาแต่เดิมชื่อว่า เมืองนครไชยสิน สังเกตได้ที่พระเจดีย์ใหญ่ยังปรากฎอยู่ในป่าเปนหลายตำบลแล้วที่วัดสังเกตได้ ติดเนื่องกันไปไม่ขาดระยะยิ่งกว่ากรุงเก่า " (ตัดตอนจากที่ อ.วินัย ผู้นำพล อ้างไว้ในหนังสือ "วัฒนธรรมผสมในศิลปกรรมสยาม" หน้า 195)

แต่ในภายหลังโบราณสถานและอิฐที่ว่ามีมากมายนั้นหมดสูญหายไปด้วยเหตุว่า

-ในสมัยรัชกาลที่ 4 ถูกรื้อนำมาสร้างเป็นส่วนยกระดับของฐานสูงรอบองค์พระปฐมเจดีย์
-ในสมัยรัชกาลที่ 5 ถูกขนนำมาใช้เป็นอับเฉาหรือพื้นหนักรองรับการสร้างทางรถไฟสายใต้ที่เริ่มจากบางกอกน้อย ระยะทางมากกว่า 50 กิโลเมตร
-ในสมัยรัชกาลที่ 6 นำมาสร้างถนนเทศาภิบาลเข้าเมืองนครปฐม
-ในสมัยรัชกาลที่ 7 นำมาทำถนนสายมาลัยแมนจากนครปฐมไปกำแพงแสน และยังนำเอาไปถมพื้นที่ก่อสร้างห้องเย็นสะพานปลากรุงเทพฯ

อ.วินัย ผู้นำพล กล่าวว่าอิฐที่ถูกรื้อขนย้ายออกไปหลายครั้งนั้นรวมกันมีปริมาตรประมาณสองล้านคิวบิกเมตร หรือขนาดเทียบได้ประมาณ 1.5 เท่าของสนามฟุตบอลที่มีความสูงเท่ากับตึก 33 ชั้น.... โอ้ว... มันจะเป็นอิฐที่มากอะไรขนาดนั้น

ผมเล่าเรื่องเมืองโบราณที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอิฐนี้ให้"เหวย" เพื่อนรุ่นน้องที่ไปตะลอนอินเดียด้วยกันฟัง เหวยสนใจอยากเที่ยวชมโบราณสถานก่ออิฐสอดินที่ยังหลงเหลืออยู่ เรากำหนดวันดีที่เราว่างตรงกัน ว่าแล้วเหวยบอกว่า "ให้พี่เป็นคนชี้ทางผมจะพาพี่ไป...'ขี่หมูดูพระ'... " เหวยตั้งชื่อการเดินทางให้เสร็จสรรพ



ภาพหมูด้านบนจาก วิกิพีเดีย

หมูที่เราจะขี่ดูพระ ไม่ใช่หมูอู๊ดๆ แบบที่เลี้ยงกันในฟาร์มที่นครปฐม..แต่เป็น


หมู... ที่เป็นมอร์เตอร์ไซค์... แต่บางคนเรียกเป็นเสือหมู บางคนเรียกซองแฝด

บางท่านอาจไม่รู้ทำไมเรียกมอเตอร์ไซค์แบบนี้ว่าหมู...

รถรุ่นคุณพ่อยังละอ่อนนี้ เหวยเล่าให้ผมฟังว่า เป็นรถมอร์เตอร์ไซค์แรงดี แต่ก่อนคนที่เลี้ยงหมูจะหาซื้อรถแบบนี้มาใช้ ใช้ทำอะไร...ก็ใช้พ่วงบรรทุกหมูไปขายนะสิ ดังนั้นจากการใช้งานหลายคนจึงเรียกรถมอเตอร์ไซค์แบบนี้ว่า รถขนหมู-รถหมู-หรือเสือหมู... ส่วนที่บางคนเรียกว่าซองแฝดเพราะรถแบบนี้มีท่อไอเสียสองท่อคู่ขนาบล้อหลังทำให้นึกถึงปากกระบอกปืนลูกซองแฝดครับ

ฤกษ์งามยามดี... เป้าหมายแรกที่จะมุ่งไป วัดพระเมรุ

"เหวย... รู้จักวัดพระเมรุไหม....นายจำได้ไหม ถ้านายจะมาทับแก้วทางถนนยิงเป้า นายจะมาตามถนนสายนอก(เส้นเพชรเกษม) นายจะผ่านซากเจดีย์อิฐ... นั่นแหละ วัดพระเมรุ พุทธสถานเก่านับพันปี ไปกันเถอะ" ผมบอก... ทับแก้วคือ ม. ศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์
"พี่ผมเคยเห็น มันมีรั้วรอบนิพี่ เราเข้าไปดูได้เหรอ" เหวยถาม
"ได้สิ" ผมบอก

ท่ามกลางแสงแดดตอนแปดโมง เหวยติดเครื่องยนต์ เสียงหมูแผดคำรามลั่นพาพวกเราออกสู่ถนนเพชรเกษม มุ่งตรงไปยังซากโบราณสถาน


วัดพระเมรุอยู่ริมถนนเพชรเกษม ทางตะวันออกเฉียงใต้ขององค์พระปฐมเจดีย์

ไม่นานก็ถึงที่หมาย
"พี่มันมีรั้วนี่ ไม่เห็นมีทางเข้าเลย" เหวยตั้งข้อสังเกต ก่อนจะพารถขึ้นไปจอดบนฟุตบาทริมโบราณสถาน
"มีสินั่นไง" ผมบอกหลังจากลงรถ ผมพาเหวยเดินไปที่รั้ว... ประตูรั้วเลื่อนได้สะดวกไม่ลงกลอนผมเลื่อนออก.. หลังประตูน้ำท่วมเจิ่งนอง... ถ้าเข้าทางนี้ เอิ๊ก ก็เปียกนะสิ...
"ผมว่าไปที่ดอนตรงโน้น แล้วเราปีนรั้วเข้าดีกว่า" เหวยชี้ไปตรงที่เราจอดรถไว้ ว่าแล้วก็เดินกลับไป แล้วเราทั้งคู่ก็ปีนเข้าไป
"พี่มันเข้าได้จริงๆ เหรอ" เหวยออกจะลังเล
"นายก็เห็นนี่ ว่าเราเข้ามาได้แล้ว ยังลังเลอะไรอีก" ผมบอกว่าแล้วก็ เดินชมรอบๆ ซากเจดีย์


เหวยกับซากเจดีย์


ส่วนล่างฐานเจดีย์มีลักษณะย่อมุม


ต้นไทรใหญ่บนซากเจดีย์


อิฐทวา... ก้อนใหญ่มากเมื่อเทียบกับอิฐสมัยนี้ ในภาพเป็นมือของผม


ส่วนของปูนฉาบยังมีเหลือให้เห็นบ้างตามส่วนของฐาน...

ผมชวนเหวยเดินขึ้นไปดูด้านบนซาก...
"พี่ขึ้นไปได้เหรอ" เหวยถาม ผมบอกว่าได้สิ ว่าแล้วก็นำทางขึ้นไป



เมื่อเดินขึ้นไปเห็นขยะถูกทิ้งไว้ เป็นถุงขนมบ้าง ถุงจากร้านสะดวกซื้อบ้าง... เหวยบอกว่า "อืม จริงด้วย ขึ้นมาได้จริงๆ แถมบางคนขึ้นมาเอาของมากินดันไม่เอากลับไปด้วย" เหวยบ่น...

เดินดูพอได้เหงื่อ... ผมบอกว่า ไปที่อื่นต่อเถอะ... เหวยบอกดี

"พี่... ผมอยู่นครปฐมมา สามปี ผมไม่เคยรู้เลยว่ามีดีอย่างนี้อยู่ในนครปฐม... ผมไม่เคยมาดูเลย" เหวยพูดน้ำเสียงตื่นเต้น
"เหวย พี่จะบอกความจริงให้นายรู้... พี่เพิ่งเคยเข้ามาในนี้ครั้งแรก..." ผมบอกตอนที่เรากำลังจะปีนรั้วออก
"หา... ครั้งแรกเหรอ นึกว่าพี่เคยเข้ามาดูแล้ว" ตอนนี้เหวยคงรู้แล้วว่าที่ผมบอกว่าเข้าดูได้อะไรนี่ ผมเดาเอาเองทั้งนั้น...
"พี่ไม่ใช่ว่าเราปีนรั้วออกตำรวจมาจับเรานะ" เหวยมองไปที่ป้อมตำรวจใกล้ๆ
"เฮ่ย ไม่หรอก แต่อาจมีอาบัง แขกยามตามมาโวยวายไล่หลังเรา" ผมพูด
"เหมือนที่เราปีนรั้วตรงสารนาถ" เหวยบอก... ทวนความหลังเรื่องเที่ยวอินเดีย นึกแล้วขำดี


พระพุทธรูปศิลาขาว 1 ในสี่องค์ที่เคยประดิษฐานที่ผนังเจดีย์ประธานในวัดพระเมรุ

"นายรู้ไหมพระพุทธรูปศิลาขาวที่หน้าองค์พระปฐมเจดีย์เคยอยู่ที่นี่... เคยมีพระศิลาขาวอยู่สี่ด้านของผนังเจดีย์ประธานด้านละองค์ "
"องค์ไหนพี่ศิลาขาว"
"พระที่นั่งห้อยเท้า และทำมือจีบนิ้ว" ผมบอก
"อ๋อ..."
"เดิมอยู่ที่นี่มี 4 องค์ ภายหลังที่ทวาล่มสลาย ตอนที่อยุธยาเรืองอำนาจได้มีการเคลื่อนย้ายไปที่อยุธยา ถึง 3 องค์" ผมว่าตามความรู้จากตำรา...
"พี่...ผมไม่อยากเชื่อเลย ว่ายิ่งใหญ่จริงๆ ผมต้องชวนคนอื่นมาดูบ้างแล้ว" เหวยว่า
"เราจะไปที่ไหนต่อนะ" เหวยถาม
"ก็ไปพระประโทณ แวะจุลประโทนหน่อย... แล้วก็วัดธรรมศาลา แล้วก็กลับ"
"ดีพี่... ไปกันเถอะ" เหวยชวนว่าแล้วก็สตาร์ทเครื่องหมู ผมซ้อนท้ายและเราก็ควบหมูทะยานกันต่อไป

วันนี้เท่านี้ก่อนนะครับ เหนื่อยแล้ว...
ลองอ่านข้อมูลของวัดพระเมรุ(วัดทุ่งพระเมรุ) บางส่วนได้ที่ th.wikipedia.org/wiki/วัดพระเมรุ_(จังหวัดนครปฐม)

ห่างหายไปเป็นเดือนสำหรับการอัพบล็อกและการเยี่ยมเยียนต้องขอโทษด้วยนะครับ

ส่วนใครที่ผมรับปากอะไรไว้ ขอจงอภัยอย่าได้โกรธกัน จะทยอยๆ จัดให้ครับผม


Create Date : 21 กันยายน 2552
Last Update : 25 กันยายน 2552 12:10:49 น. 16 comments
Counter : 2199 Pageviews.  

 
เห็นรูปแล้ว อยากไปเที่ยวนครปฐมจังค่ะ
ไปกี่ทีก็ไปแต่พระปฐมเจดีย์ที่เดียว



เสือหมูน่ารักจัง
ตอนแรกนึกว่าขี่หมูได้จริงๆ อยากลองค่า แหะ แหะ


โดย: กล้วยหอมรสนม วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:15:45:46 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: หนูดำจำมัย วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:17:10:02 น.  

 
มาดูเสือหมู และมือ จขบ แฮะๆ


โดย: endless man วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:21:26:03 น.  

 
เมื่อวานเข้ามาทักทาย วันนี้เข้ามาอีกครั้ง ดีใจจังที่พี่ไบท์กลับมาแล้ว ได้ความรู้อีกตามเคย ถ้ามีโอกาสจะกลับไปดูบ้าง คนที่ชอบทิ้งขยะไม่เป็นที่น่าจะโดนทำโทษเสียให้เข็ด

ชอบรูปแม่หมูกับลูกหมู ดูแล้วซึ้ง คิดถึงพี่ไบท์ ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: ไผ่ (Coucou Bamboo ) วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:10:39:08 น.  

 
เดินป่าตามหาหนอนไม้ไผ่ ศึกษาระบบนิเวศน์ ทะเลหมอกสุดสวย เมือฟ้าหลังฝน ๒๓ - ๒๕ ตุลาคม ๕๒
เดินป่าศึกษาระบบนิเวศน์ที่กำลังหมดฝน ทำให้ป่าเขียวขจีมีความสมบูรณ์ ทั้งดอกไม้ป่า กล้วยไม้ สมุนไพร ตามหาหนอนไม้ไผ่ และชมทะเลหมอก ดอยบ่อ
ผู้ประสานงาน: somsakbannok@yahoo.com
Tel 081-7655352 ;053-737373
www.hilltribeguide.com


โดย: พรานไพร ณ.ดอยบ่อ (guide doi ) วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:10:47:27 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ดีใจจังคุณไบท์กลับมาแล้ว

ตอนแรกคิดว่ายังไม่มา
กะจะเอาเพลงนี้มาฝากไว้นะคะ

ถึงอย่างไรก็จะฝากไว้ค่ะ

ยามเธอไปถึงดวงดาว
ยามเธอไปถึงดวงเดือน
ก้มมองดูฉันบ้าง ภาวนาอย่าให้ค้างกิ่งฟ้ากิ่งฝัน
ไกวกลับมาเพียงชิงช้าเปล่า ฉันคงเศร้าโศกศันย์

กลับมาแล้ว แล้วก็กลับมา มาเจอกันเหมือนเก่า

ดีใจค่ะ ดีใจ


โดย: raya-a วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:13:35:54 น.  

 
สวัสดีค่ำวันอังคาร สวัสดีสำหรับการห่างหายไปนานพอควรนะครับ

-คุณกล้วยหอมรสนม... คือวัดทุ่งพระเมรุเป็นโบราณสถานเล็กๆ นะครับ เป็นกองอิฐปรักหักพัง อยู่ริมถนนเพชรเกษม ถ้าผ่านลองแวะเข้าดูได้นะครับ

-คุณหนูดำ ดีใจที่ทักทายกันครับผม ผมก็ไม่ลืมครับ แต่ขี้เกียจนิดนึง

-คุณมิน เอิ๊ก เสือหมู รถใช้งานรุ่นเก่า แต่สมัยนี้กลายเป็นของเล่นของบางคน ส่วนมือผม... ดีจังที่กล้องเก็บรายละเอียดไม่ค่อยดี... ขี้แมงวันเยอะมากครับ

-น้องไผ่ ถ้ากลับมา ถ้ามีโอกาสลองแวะดูนะครับ พี่ว่าแม้จะเป็นซากหักพังแต่น่าสนใจดี

-คุณรยา กลับมาแล้ว มาเจอกันเหมือนเก่า และก็ขอบคุณสำหรับบทเพลงครับ ผมยังไม่ได้ไปถึงดวงดาวอะไรครับ แต่พอดีวุ่นวาย+เกิดขี้เกียจ

ยังไม่ได้ไปเยี่ยมเยียนใครมากนัก ขอโทษทุกท่านด้วยนะครับผม


โดย: bite25 วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:18:51:20 น.  

 
น่าทึ่งนะครับ กองอิฐที่ถูกย้ายไปทำถนน และอื่นๆ เมื่อนครปฐมคงยิ่งใหญ่มาก แต่ทำไม่ชีวิตของผู้คนสมัยนั้น ไม่ค่อยกระจ่างเลยครับ

ผมดูหนังเกาหลีเรื่องเกี่ยวกับราชวงศ์ของเขา ย้อนไปใกล้ๆ 2,000 ปี มีระบบการปกครอง กฏระเบียบที่ค้นได้
แต่ทางภูมิภาคนี้ของเรา ยังเป็นข้อสันนิษฐานซะส่วนมาก
หากมีข้อมูลที่เพียงพอ เราน่ามีการสร้างหนังเกี่ยวกับการปกครองสมัยทวารวดีก็เป็นได้ และส่งออกวัฒนธรรมแข่งกับเกาหลี


โดย: Insignia_Museum วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:21:06:03 น.  

 
พี่อิมครับ

น่าเสียดายมากๆ ที่ว่าประวัิติศาสตร์บ้านเราที่ยาวนานกลับสืบย้อนหลังไปได้ไม่นานตลอดเท่าที่มันมีอยู่จริง

สาเหตุคงหลายอย่าง ว่ากันว่าอย่างแรกสุด บันทึกหรือปูมประวัติศาสตร์ไทยเคยถูกผุ้ปกครองในสมัยอยุธยาทำลาย เพื่อต้องการสร้างความถูกต้องขึ้นใหม่... ซึ่งบันทึกของสยาม ต่างจากของขอมที่จารึกลงบนศิลา ของบ้านเราว่ากันว่านิยมจารึกลงบน ใบลานหรือแผ่นหนัง หรือโลหะมีค่า เมื่อถึงคราวที่ทำลายจึงถูกทำลายได้โดยง่าย

เท่าที่เป็นอยู่ยังมีความคิดเกี่ยวกับเรื่องชาติพันธุ์ไทยแท้ ซึ่งเป็นเพียงอุดมคติหาได้มีจริง เพราะคนไทยคือชาติพันธุ์ที่ผสมผสาน เกิดขึ้นในผืนแผ่นดินทองที่มีการไหลมารวมตัวของหลากหลายชาติพันธุ์และวัฒนธรรม

อย่างทวาบางคนมีอคติว่าเป็นมอญ แม้แต่ผมเองก็เคยเชื่อ แต่พอได้ทบทวนพิจารณาการสร้างและบูรณะเมืองนครปฐมของรัชกาลที่ 4 ได้อ่านพระราชวินิจฉัยของรัชกาลที่ 5 ตลอดจนย้อนไปถึงในบทกวีท่องเที่ยวเมืองประธมของกวีสุนทรภู่ และยิ่งย้อนไปถึงการที่ราชสำนักของอยุธยาเป็นผู้บูรณะวัดวาในเมืองเก่านครปฐม ตลอดจนการผูกชื่อเมืองตามรูปแบบการอ้างอาณาจักรเดิมมาในชื่อเมืองใหม่(กรุงเทพทวาราวดีศรีอยุธยา) ผมคิดว่าเราควรยอมรับว่าประวัติศาสตร์ของชาติสยามนั้นยาวนานนับพันปี

คงต้องรอให้ผู้ใหญ่บ้านเราเห็นด้วยกับความเป็นไปเหล่านี้ ซึ่งจะทำให้ประวัติศาสตร์ชาติไทยสะท้อนแง่มุมของความเป็นจริงของชนชาติและผืนแผ่นดิน

ขอบคุณในความเห็นของพี่อิม Insignia Museum ครับ


โดย: bite25 วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:23:31:34 น.  

 
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=mylovepopang&month=23-09-2009&group=5&gblog=48

ฝากไว้ก่อนนะพี่ไบรท์ เดี๋ยวกลับมาเม้นต์


โดย: popang วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:9:04:56 น.  

 
น่าไปดูสักครั้ง ในฐานะลูกหลานไทย
อะไรที่เป็นประวัติศาสตร์ ควรแก่การศึกษาไว้
ว่าอดีตกาล บรรพชน เค้ากิน เค้าอยู่ เค้าเป็นอย่างไรกัน


โดย: JinnyTent วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:10:51:45 น.  

 
555 ถ้าเค้าห้ามเข้าจริงๆ สงสัยจะโดนจับกันทั้งคู่นะเนี่ย

"แต่ในภายหลังโบราณสถานและอิฐที่ว่ามีมากมายนั้นหมดสูญหายไป"
^
^
หมายความว่ารื้อสิ่งปลูกสร้างเพื่อเอาอิฐมารองทางรถไฟและทำถนนเหรอคะ

เนื้อหาละเอียดดีจังค่ะ ไว้ถ้ามีโอกาสได้ไปนครปฐมคงต้องแวะมาเก็บข้อมูลแถวนี้ก่อน จะได้เที่ยวแบบรู้เรื่องหน่อย


โดย: พจมารร้าย วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:11:04:34 น.  

 
สวัสดียามเย็นวันพฤหัส

น้องนก... สงสัยจะกลับมาเม้นต์ไม่ทันเสียแล้ว เพราะจะอัพตอนใหม่แล้วนะ

คุณJinny Tent... เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

พี่พจ... เอิ๊ก น่านนะสิครับ วันนั้นผมก็บ้าไม่กังวลอะไรเลย ปีนเข้าไป ปีนขึ้น ปีนลง สนุกดี อยากให้เขาปรับปรุงให้ดีกว่านี้ และก็มีเจ้าหน้าที่คอยบอกกล่าวเรื่องราว(เท่าที่รู้)ให้คนได้ฟังกัน ส่วนเรื่องอิฐนั่นใช่ครับ เมื่อไม่นานนี้ยังมีการขนอิฐที่อยู่พื้นที่ของเอกชนออกขายเป็นอิฐเก่าอยู่เลยนะครับ น่าเสียดายมากๆ

มีความสุขทุกท่านครับผม



โดย: bite25 วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:17:23:43 น.  

 
ก็ดี


โดย: ART IP: 223.205.7.40 วันที่: 26 มกราคม 2554 เวลา:16:31:18 น.  

 
ก็ดี


โดย: ART IP: 223.205.7.40 วันที่: 26 มกราคม 2554 เวลา:16:31:51 น.  

 
เคยเห็นองค์พระนานหรือยัง


โดย: พลอย IP: 192.168.100.79, 110.164.171.67 วันที่: 20 กรกฎาคม 2554 เวลา:18:15:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

bite25
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




New Comments
[Add bite25's blog to your web]

MY VIP Friend