<<
เมษายน 2557
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
4 เมษายน 2557

หลงรักเลห์ ตอนที่ 7 มุ่งหมายที่ปลายทาง

ตื่นขึ้นมาก่อนฟ้าสางเพราะมีเสียงของอะไรบางอย่างที่เบาๆ เล็กๆ ตกใส่ผนังเต็นท์ดัง ปุ ปุ ปุ เบาๆ อย่างต่อเนื่อง แอบนึกในใจว่าคงเป็นเสียงหิมะตก แต่ไม่นึกอยากเปิดเต็นท์ออกดู ด้วยฟ้ายังไม่สว่างและกลัวในความหนาวเหน็บ ผมตัดสินใจนอนต่ออย่างหลับๆ ตื่นๆ

"วู้ หิมะตก ขาวไปหมดเลย ดีจัง" ฟ้าสว่าง เสียงหญิงสาวอุทานดีใจเมื่อเปิดเต็นท์ออกมาเห็นหิมะ ผมค่อยๆ ย่องมารูดซิปเต็นท์แง้มออกดู ความหนาวเย็นจากภายนอกลอยปะทะเข้ามา ละอองสีขาวปลิวตกจากฟ้าลงมาอย่างต่อเนื่อง สวยแปลกตาดีเหมือนกัน--ผมเพิ่งเคยเห็นหิมะตก

ผมค่อยๆ เอากล้องยื่นออกมาจากประตูเต็นท์แล้วถ่ายรูปบรรยากาศรอบตัว เก็บรักษาร่างกายไว้กับความอบอุ่นอันน้อยนิดในเต็นท์ มีเสียงหญิงสาวพูดอย่างขันๆ ว่า
"อุ๊ย! มีมือยื่นออกมาถ่ายรูปด้วย"
"ก็มันหนาวอะครับ" ผมตอบไปจากในเต็นท์พร้อมหัวเราะแหะๆ

แง้มดูหิมะสักพักก็ปิดเต็นท์ลงเพราะความหนาว ไม่นานเสียงทักทาย"Good morning" และ"milk or tea" ก็ดังมา ผมกับกานต์ขอชานมร้อนมาดับความหนาว

วันนี้เราไม่ต้องเก็บเต็นท์เก็บที่นอนเพราะว่าผู้นำทัวร์ตัดสินใจว่าคืนนี้เราจะกลับมานอนที่นี่ นั่นคือเราจะออกเดินไปยังปลายทางเป้าหมายคือน้ำตกที่กลายเป็นน้ำแข็งก่อนทางเข้าหมู่บ้านNaerak พอถึงเป้าหมายแล้วจะเดินกลับมาพักที่แค๊มป์นี่ รวมระยะทางไปกลับประมาณ 8 กิโลเมตร

ผมกับกานต์เตรียมกล้อง ข้าวของติดตัว ทานอาหารเช้า กว่าจะพร้อมเราก็รั้งท้ายอีกแล้ว พอออกเดินSD Cardกล้องผมก็มีปัญหา พอจะเปลี่ยนอีกอันก็พบว่าลืมไว้ที่เต็นท์ ต้องวิ่งกลับมาเต้นท์เอาSD card อันใหม่ พอพร้อมเราก็ออกเดินต่อ

เช้าวันที่หิมะตก

บรรยากาศกลายเป็นสีMonochrome

ถ้ำที่ลูกหาบพักแรม เขม่าจากไฟที่จุดหุงหาและให้ความอบอุ่นจับผนังและปากถ้ำเป็นคราบดำ

ขุนเขาในอ้อมกอดของสายหมอก

ชาวคณะคนอื่นนำหน้าไปไกลแล้ว

"จูเล" เสียงทักทายภาษาท้องถิ่น จูเล-เป็นภาษาลาดักห์ เป็นทั้งคำทักทาย คำขอโทษ คำร้องเตือนเรียกความสนใจ

"จูเล" กลุ่มลูกหาบร้องทักทายกึ่งขอทางแซงเราขึ้นไป
"จูเล จูเล" พวกเราตอบ พร้อมหยุดถ่ายภาพขบวนลูกหาบ ยิ่งถ่ายรูปคนข้างหน้าก็ยิ่งทิ้งห่างออกไป ถ่ายภาพไปสักพักกล้องผมชักมีปัญหา เหมือนว่าความเย็นทำให้แบตเตอรี่กล้องหมดเร็ว ผมจึงเอากล้องใส่ไว้ในเสื้อเพื่อให้ไออุ่นจากร่างกายทำให้กล้องร้อนแบตทำงานได้ดีขึ้น แต่พอเอากล้องที่มีไออุ่นออกจากเสื้อมาถ่ายรูปตอนหิมะตก หิมะก็ละลายลงบนตัวกล้อง ตอนนี้กล้องคงมีปัญหาเพราะความชื้น ผมหยุดเช็คกล้อง กานต์ยังซูมถ่ายภาพขบวนลูกหาบที่อ้อมลำน้ำขึ้นบนตลิ่ง พอรู้ตัวลูกหาบทิ้งเราไปไกล เราจึงออกเดินต่อ

เดินไปเรื่อยๆ ก็ถึงตำแหน่งที่ต้องอ้อมขึ้นตลิ่งหิน น้ำแข็งดูบาง เลยไปไม่ไกลน้ำแข็งที่คลุมผิวหน้าลำน้ำก็หักหายไปมีแต่กระแสน้ำที่พัดพา

ว่าแต่ทางที่จะใช้เดินขึ้นตลิ่งหินดูสับสน รอยเท้าของคนที่นำมาดูจางไม่ชัดเจนคงด้วยหิมะตกซ้ำมาทับ ส่วนน้ำแข็งข้างหน้าก็ดูบางๆ พิกล กานต์ตัดสินใจเดินตามรอยเท้าจางๆ รอยหนึ่งไป ผมรอดูอยู่ห่างๆ

'โพล๊ะ!' น้ำแข็งที่กานต์เดินย่ำไปแตก ผมใจหายวูบ กานต์ทรุดลงนั่ง ขาข้างขวากานต์จมลงน้ำ กานต์ชักขาตัวเองขึ้นมาจากน้ำ พร้อมชักกล้องมาถ่ายรูปขาที่เปียกน้ำไว้เป็นที่ระลึก ว่าแล้วกานต์ก็ทำท่าจะลุกขึ้น

"กานต์ มึงอย่ายืน" ผมตะโกน
"มึงคลานมา 4 ขา มึงยืนเดี๋ยวน้ำแข็งหักอีก" ผมบอกกานต์ แต่กานต์ไม่ได้ยินลุกพรวดยืนขึ้น ก้าวเท้าเดินอย่างหัวเสีย

'โพล๊ะ!' น้ำแข็งบางๆ หักอีกครั้ง ครั้งนี้ขาทั้ง 2 ข้างแช่ไปในน้ำ ที่ขอบน้ำแข็งกานต์อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน
"เฮ่ย กานต์ มึงอย่าพึ่งยืน ขยับมาตรงน้ำแข็งหนาก่อน" ไม่รู้กานต์ได้ยินผมไหม

สุดท้ายกานต์ลุกยืนขึ้นได้แล้วรีบเดินมาตรงน้ำแข็งหนา ริมสายน้ำเชี่ยวที่ผมยืนอยู่

ภาพซูมจากกล้องกานต์ ลูกหาบเดินอ้อมขึ้นตลิ่งหิน เราไม่ทันเห็นว่าต้องขึ้นตรงจุดไหน

ขาขวาของกานต์ตกลงน้ำ กานต์ตั้งสติถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก

"เชี่ย! กูใจหายวูบ เป็นไงบ้างว่ะ" ผมถามกานต์
"วูบดิ น้ำเย็นฉิบหาย ดีไม่ตกไปทั้งตัว" กานต์กล่าว
"กูยังมีสติถ่ายรูปตอนขาเปียกน้ำได้" กานต์บอก ผมได้ยินแล้วขำ เราพากันเดินไปตรงที่น้ำแข็งหนา
"เป็นไรป่าวว่ะ" ผมถาม
"สบายดี" กานต์สำรวจร่างกาย ผมมองหาหนทางขึ้นตลิ่งหิน ผมว่าผมเห็นทางแล้วผมหันมาทางกานต์  กานต์ตั้งท่าจะเดินกลับไปบนน้ำแข็งบางๆ

"เฮ่ย ทำไมว่ะ" ผมถามกานต์เพราะผมงงว่ากานต์กำลังจะทำอะไร
"กระติกกูตกน้ำ" กานต์บอกพร้อมชี้นิ้ว ผมมองตาม กระติกน้ำร้อนลอยตุ๊บป่องอยู่ในวังวนของน้ำ กานต์ทำท่าจะเดินไปบนน้ำแข็งบางๆ นั้น

"อย่าไปทางนั้น" ผมรีบห้าม
"ไปทางนี้" ผมชี้ทางที่อ้อมขึ้นตลิ่งหินไป จากตลิ่งหินจุดนั้นจะเอื้อมมือออกไปเก็บกระติกได้ เราค่อยๆ เดินกันไปบนตลิ่งหิน

พอถึงตรงวังวนของกระแสน้ำที่กระติกลอยวนผลุบโผล่ กานต์เอื้อมมือออกไปหมายจะหยิบแต่วังวนของน้ำก็ดูดกระติกหายเข้าไปใต้แผ่นน้ำแข็งต่อหน้าต่อตา

"เชี่ย!---น่ากลัวฉิบหาย---" ผมอุทานมองหน้ากานต์ กานต์เองก็มีสีหน้าตื่นๆ อย่างเห็นชัด
"มึงคิดดูดิ ถ้ากูฝืนเดินมาเก็บกระติกบนน้ำแข็ง แล้วน้ำแข็งก็แตก แล้วกระแสน้ำก็ดูดกูเข้าไปใต้แผ่นน้ำแข็งเหมือนกระติก... กูคิดไม่ออกเลยว่าจะรอดตายได้ไง" กานต์บอก ผมขนลุกซู่จากภาพในจินตนาการที่เพื่อนผมบรรยาย ผมไม่รู้ว่าถ้าใครถูกดูดเข้าไปใต้แผ่นน้ำแข็งจะได้ไปโผล่ที่ไหน

"เฮ่อ ดีแล้วที่เสียแค่กระติก"
"ไป เดินต่อเถอะไบร์ท กูสบายมาก" กานต์สร้างความมั่นใจ พวกเราออกเดินไต่ตามตลิ่งหิน

เดินเลียบลำน้ำไปครู่หนึ่ง ผืนน้ำก็กลับมามีน้าแข็งปกคลุม เราเดินตัดลงบนผิวแม่น้ำ ในที่สุดกานต์ก็บอกว่าไม่ไหวแล้วต้องเอาน้ำออกจากรองเท้า เพราะน้ำทำให้เท้าเย็นมากๆ กานต์ถอดบู๊ตมาเทน้ำทิ้งแล้วถอดถุงเท้ามาบีบน้ำออก ผมหยิบ Heat Patch ให้กานต์ พร้อมบอกว่า"มึงซุกไปในรองเท้าตอนใส่ด้วย"

Heat Patch เป็นอุปกรณ์ที่ให้ความร้อน เมื่อฉีกซองออกมาจะเห็นซองกระดาษสีขาวที่ภายในบรรจุเคมีบางอย่างที่ให้ความร้อนได้เมื่อถูกอากาศ กานต์รับไปติดไว้ที่ถุงเท้าก่อนใส่บู๊ต

จัดแจงเสร็จนั่งพักสักครู่พบว่ายิ่งนั่งพักยิ่งหนาว จึงชวนกันออกเดินต่อ เดินไปสักพักอากาศที่ต่ำกว่าจุดเยือกแข็งก็ทำให้กางเกงที่เปียกน้ำกลายเป็นน้ำแข็งทำให้กานต์เดินไม่สะดวกนักแต่กานต์ก็ฝืนเดินต่อไป




ไม่ไหวแล้ว ใครๆ ก็ทิ้งเราไปไกลโข อุบัติเหตุเมื่อสักครู่ทำให้ท้อใจพิลึก

ซองกระดาษสีขาวที่ติดอยู่ใต้ถุงเท้าคือHeat Patch อุปกรณ์ให้ความอบอุ่น

น้ำตกแข็งระหว่างทาง



นกตัวขนาดนกกางเขนหากินท่ามกลางความหนาวเหน็บ

"จูเล" ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งสวนกลับมา

"สวัสดีครับ" เสียงทักทายภาษาไทยจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้


เดินฝ่าฟันกันไป มองหาหนทางกันไป บางช่วงก็ต้องปีนหินชันเพราะไม่มีน้ำแข็งให้เดิน บางช่วงก็ลื่นฟึดฟัด เดินสวนขบวนลูกหาบกลุ่มอื่น สวนกับขบวนนักท่องเที่ยวจากกรุ๊ปอื่นที่กำลังกลับ บรรยากาศขมุกขมัวด้วยหิมะที่ตกมาไม่หยุด ในที่สุดเราก็พบกับพลพรรค 'ซ้ง กับ เหมียว' เยๆ

"คนอื่นหละ" กานต์ถาม
"ไม่รู้สิ เหมียวก็เดินตามไม่ทัน" เหมียวบอก ในใจผมนึกขอบคุณเหมียวกับซ้งที่เดินช้าๆ รอพวกเรา
"เหมียวว่าเหมียวจะกลับแล้ว พวกพี่จะกลับด้วยกันไหม"

เป็นงี้ได้ไง กำลังคิดว่าจะมีเพื่อนลุยไปด้วยกันแต่กาลกลับเป็นอย่างนี้ เหมียวให้เหตุผลว่าเดินไปยังไม่ทันถึงยังเหนื่อยและลำบากขนาดนี้ นี่ไปถึงแล้วแทนที่จะได้พัก ยังต้องเดินกลับมาเหนื่อยและลำบากแบบนี้อีก

เหมียวบอกว่าคนไทยที่สวนมาสงสัยว่าทำไมพวกเราไม่นอนที่แคมป์ใกล้น้ำตก เพราะเราจะได้พักไม่เหนื่อยต้องเดินไปกลับ ซึ่งเราก็คงบอกได้เพียงว่าเป็นการตัดสินใจของผู้นำทัวร์

ผมกับกานต์ปรึกษากัน กานต์บอกว่าอุตส่าห์เดินมาตั้งไกล อยากจะไปให้ถึง แต่ก็ทรมานจากเท้าที่เปียกน้ำและกางเกงที่เป็นน้ำแข็ง ในที่สุดความท้อใจจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก็ชนะ เราตัดสินใจกลับพร้อมเหมียวกับซ้ง


เราเดินกลับท่ามกลางหิมะที่ตกหนาตา บรรยากาศทุกอย่างขุ่นมัว แอบนึกเสียดายนิดว่าคงมีแต่พวกเรา 4 คนที่ไม่ถึงปลายทาง

ถึงแค้มป์ พอเปิ้ลกลับมาเราขอดูภาพน้ำตกและทัศนียภาพที่ปลายทาง ดังที่ท่านจะได้เห็นในด้านล่าง

เจอกับเหมียวและซ้ง ในที่สุดเราก็ตัดสินใจชวนกันกลับ ทริปนี้คงมีแต่พวกเรา 4 คนที่ไม่ถึงปลายทาง

ขมุกขมัวด้วยละอองหิมะ


ความท้อใจบนหิมะ


น้ำตกที่กลายเป็นน้ำแข็งตรงปลายทาง


แอดมินเปิ้ล จาก Leh Crazy กระโดตตัวลอยที่จุดหมายปลายทาง ขอบคุณสำหรับภาพนะครับ

"เหล้าดีๆ กับน้ำอุ่นๆ สักแก้วมั็ยครับ" แม้การเดินเท้าของเราในวันนี้จะไม่สมหวังดังใจหมายแต่กลางค่ำกลางคืนพวกเราก็มีความสุข สนุกฮา หายเหนื่อยด้วยการบริหารปากกับเรื่องเล่าและเสียงหัวเราะกันอย่างครื้นเครง


วันนี้ขอจบเรื่องราวเพียงเท่านี้ สวัสดี

จบตอนที่ 7

ขอขอบคุณ

ExitSong.com
Leh Crazy ชุมชนคนรักเลห์

ขอความรักและสันติ สถิตในดวงใจทุกท่าน

ไปตอนที่ -1-/-2-/-3-/-4-/-5-/-6-/-7-








Create Date : 04 เมษายน 2557
Last Update : 5 เมษายน 2557 1:26:55 น. 9 comments
Counter : 1237 Pageviews.  

 
ถ้าตกน้ำตามกระติกไปนี่ใจหาบว้าบบบ น้ำวนจะพาไปโผล่มิติอื่นหรือปล่าว
มีภาพดวงอาทิตย์โผล่สลัวๆหรือปล่าวคะ เห็นเป็นแสงกลมๆ
เกิดมายังไม่เคยเห็นหิมะเลยค่ะ ไม่รู้ว่าความรู้สึกตอนนั้นมันจะเป็นอย่างที่คิดไหมหรือว่าจะบ่นว่าหนาวจังเฟร้ย อะไรแบบนี้
พื้นที่มันกว้างใหญ่มาก ได้ไปอยู่เกือบยอดหลังคาโลกระดับนี้แล้วมันเจ๋งมากๆค่ะ


โดย: wachi (กาบริเอล ) วันที่: 4 เมษายน 2557 เวลา:19:58:59 น.  

 
คุณwachi 555 ยินดีที่มาเยี่ยมเยือนครับ เรื่องมิติอื่นนี่น่าศึกษาแต่น่ากลัวไปหน่อย ภาพตอนดวงอาทิตย์สลัวๆ ไม่ได้ถ่ายไว้เลยครับ ถ่ายแต่โผล่ตอนแวบๆที่สันเขา ส่วนเรื่องความรู้สึกตอนเจอหิมะครั้งแรกนั้นจะเหมือนที่คิดหรือไม่คุณwachiต้องลองเองครับ ขอบคุณครับผม


โดย: bite25 วันที่: 5 เมษายน 2557 เวลา:0:06:40 น.  

 
ชอบความเว้งว้างของสถานที่มากๆค่ะ อยากหาโอกาสไปบ้าง
เคย trek ที่เนปาลแล้วรองเท้าพังตั้งแต่วันแรก เลยคิดว่าคงต้องเตรียมอุปกรณ์ให้ดีกว่านี้ มีโอกาสไปจะแวะมาถามไถ่นะคะ

ปล.เรื่องวังแคทเธอรีน นี่ปวดหัวเรื่องชื่อสถานที่และที่มานี่แหละค่ะ
ส่วน พิธีพรมเงินของยาย นี่ไม่รู้ว่าไปรับมาจากที่ไหนกัน 555


โดย: wachi (กาบริเอล ) วันที่: 9 เมษายน 2557 เวลา:11:41:13 น.  

 
ขอบคุณ คุณ wachi ที่มาเยื่ยมกันนะครับ ดีจังได้ไปเนปาลด้วย


โดย: bite25 วันที่: 11 เมษายน 2557 เวลา:15:58:26 น.  

 
ถ้าไปแล้วไม่ถ่ายรูปไว้บ้าง ก็ไม่รู้จะไปทำไมตามประสาคนชอบเก็บภาพโน่นนี่นั่น แต่นั่นแหละ พอเราหยุดก็จะช้า แล้วก็จะรั้งท้าย

ตอนนี้ตื่นเต้นปนน่ากลัว เสี่ยงๆหน่อยๆนะคะ
เหมือนในการ์ตูนอ่ะ แผ่นน้ำแข็งแตกตัวตามๆกัน
ดีจังที่ไม่เกิดอะไรมากกว่านี้


โดย: coji IP: 171.5.24.16 วันที่: 12 เมษายน 2557 เวลา:0:28:42 น.  

 
เก่งจังทั้งทรหด และ เพลง
ขอบคุณที่พาในที่ที่จะไม่ได้ไปแน่ ๆ ค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 17 เมษายน 2557 เวลา:14:19:59 น.  

 
สวัสดีคุณภา ครับใช่ครับตื่นเต้นดี ตอนที่ผมบอกกานต์ว่าให้คลานลงนี่ผมจำได้จากการ์ตูนเรื่องอิกคิวซังอะครับ

สวัสดีพี่ตุ๊ก ทุกคนในทริปทรหดกันมากครับ ยินดีที่ได้นำภาพมาเสนอครับผม


โดย: bite25 วันที่: 18 เมษายน 2557 เวลา:12:36:13 น.  

 
พี่ไบรท์ตื่นเต้นจริงๆ ตอนน้ำแข็งแตก ถือว่าพี่กานต์โชคดีแล้วที่ไม่เป็นอะไร แค่หนาว
เมื่อหน้าหนาวที่ผ่านมาที่นี่ มีคนทำมือถือตกลงไปแม่น้ำที่เป็นน้ำแข็ง เลยลงไปเก็บ พอเหยียบปุ๊บ น้ำแข็งแตก เลยตกลงไป แฟนเลยกระโดดลงไปช่วย ด้วยอากาศที่หนาวจัด น้ำจึงกลายเป็นน้ำแข็งอีกรอบ ขึ้นมาไม่ได้ เลยเสียชีวิตทั้งคู่ น่าสงสาร เพราะความประมาทแท้ๆ
ความหนาวทำใหร่างกายมนุษย์อ่อนแอ เลยทำให้ทำอะไรลำบาก แค่ได้ไปก็คุ้มแล้ว แม้ว่าจะไม่ถึงจุดหมาย อย่างน้อยได้ไปสัมผัสบรรยากาศเน้อะ


โดย: Coucou Bamboo วันที่: 22 เมษายน 2557 เวลา:2:27:43 น.  

 
สวัสดีครับน้องไผ่ เรื่องที่ไผ่เล่าน่ากลัวจังครับ ตอนเราหนาวจัดๆ รู้สึกว่าเชื่องช้า คิดอะไรก็ช้าลงนะครับ การได้ไปซันสการ์ครั้งนี้นับว่าประทับใจมากๆ ครับ

ขอบคุณทุกท่านครับ


โดย: bite25 วันที่: 23 เมษายน 2557 เวลา:14:34:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

bite25
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




New Comments
[Add bite25's blog to your web]

MY VIP Friend