<<
มีนาคม 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
6 มีนาคม 2557

หลงรักเลห์ ตอนที่ 3 แล้วเราก็ถึงเลห์

หายไปเป็นสัปดาห์ต้องขออภัย มาครับมาต่อเรื่องราวการท่องเที่ยว ณ แม่น้ำซันสการ์ และเมืองเลห์ ทิเบตน้อยแห่งอินเดียกันต่อครับ

แล้วก็ถึงวันเดินทางชาวคณะรวมตัวกันที่สุวรรณภูมิตอนสี่ทุ่ม ผมไปพบกับกานต์ เหมียว+ซ้ง(คู่เลิฟตะลอนทัวร์) ออฟ และจอย รวมกับลูกทัวร์คนอื่นๆ หลังจากพร้อมเพียงกันก็เช็คอิน เครื่องออกสักตีหนึ่งของวันเสาร์ที่ 18 ม.ค. ถึงเดลีประมาณตี 04.30 ลงจากเครื่องพบว่า---'เดลีหนาวจัง แล้วเลห์มันจะหนาวขนาดไหนเนี่ย'

จากนั้นพวกเราก็ขึ้นรถรับจ้างไปยังสนามบินภายในประเทศเพื่อขึ้นเครื่องต่อไปเลห์ รู้สึกขลุกขลักและก็รีบเร่งจนรน ไม่สนุกเลย

ที่เดลี ณ สนามบินภายในประเทศ เราพบกับเปิ้ลที่เดินทางล่วงหน้ามาอินเดียก่อนพวกเรา ถึงตอนนี้แก๊งค์ของพวกผมก็ครบเครื่อง ซึ่งพวกเราจะร่วมการเดินทางอันทำให้ผมมิรู้ลืม

รายละเอียดอันสนุกสนานรวมถึงความขลุกขลักมีมากมาย แต่คงต้องละไว้ มิเช่นนั้นบล็อกคงเยิ่นเย้อยาวเหยียด เอาเป็นว่าในที่สุดเราก็ขึ้นเครื่องจากเดลีมุ่งสู่เลห์ ใช้เวลาบินประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ


ภาพบนแม่น้ำสินธุในเขตลาดักห์


ในที่สุดก็ถึงเลห์ หนาวจัง

จะขลุกขลัก หรือจะอย่างไร ในที่สุดก็ถึงเลห์ พอลงจากเครื่องบิน  'อุ! แม่เจ้า-หนาวยะเยือก'

มือเย็นเฉียบจนต้องเอาถุงมือออกมาสวม บนผิวถนนมีน้ำแข็งเกาะอยู่ทั่วไป มีหิมะเก่าๆ สกปรกถูกกวาดมากองรวมไว้ จากสนามบินเลห์มีรถมารับและส่งเราที่โรงแรมPalace View ลงรถมาความเย็นยะเยือกทำเอาผมสะท้าน ที่หน้าโรงแรมมีเด็กเอาชานมอุ่นๆ มาเสริฟ ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาก สักพักจอยกับออฟ ก็แยกย้ายเพราะ 2 คนนี้เขาจะไม่ไปเดินที่แม่น้ำซันสการ์กับพวกเราแต่จะเที่ยวในเลห์และรอบๆ และพักอยู่ในเลห์ที่โรงแรมอื่น

รงแรมPalace View อยู่ใกล้กับพระราชวังเลห์ รับกุญแจขนข้าวของเข้าห้อง ห้องที่ได้ไม่มีฮีตเตอร์ แม้มีห้องน้ำในตัวพอเข้าเช็คดูพบว่าน้ำประปาก็ไม่ไหลสักพักมีเด็กยกน้ำมาให้หนึ่งถัง สอบถามได้ความว่าระบบประปาเป็นน้ำแข็งในหน้าหนาว

สภาพอากาศที่เบาบางเนื่องจากความสูงจากระดับน้ำทะเลที่มากกว่า 3 กิโลเมตรเริ่มส่งผล ทั้งผมและกานต์พบว่าทำอะไรง่ายๆ ก็เหนื่อย แม้แต่การก้มลงผูกเชือกรองเท้าก็ทำให้เราเหนื่อย แอบคิดในใจว่าจะเดินที่แม่น้ำซันสการ์ไหวไหมนะ

เก็บข้าวของเสร็จก็รวมตัวกับชาวคณะเพื่อไปหาอะไรกินและซื้ออุปกรณ์กันหนาวเพิ่มในตลาดเลห์


พระราชวังเลห์

สุเหร่าในเมือง


ถนนในเมืองผิวถนนบางส่วนมีน้ำแข็งเกาะอยู่


ผู้คนและวัวข้างถนน


ผัดหมี่เจที่ผมกิน


กินเสร็จก็เดินต่อไปตลาดผ่านร้านรวงต่างๆ


ถึงแล้วจ้า ตลาดเลห์


หาซื้ออุปกรณ์กันหนาวเพิ่มพวกถุงมือถุงเท้าที่ถักจากขนจามรีหรือขนแพะกันหนาวได้ดีครับ


ในตลาดก็มีล้อมนตราให้คนมาหมุน นึกถึงราวระฆังตามวัดบ้านเราที่คนเดินผ่านแล้วเคาะให้เสียงระฆังดังไปถึงสรวงสวรรค์




เหนือสถูปที่ตลาดมีแผ่นหิน


คนขายเนื้อ


 หมาใหญ่ริมถนนใกล้ๆ กับโรงแรม ขนฟูตัวใหญ่มาก

กลับถึงโรงแรมก็บ่ายแล้ว ผมขอตัวล้างมือล้างเท้าที่ห้องด้วยน้ำที่เขายกมาให้ พบว่า'น้ำเย็นมากๆๆ---เย็นจนเจ็บมือเจ็บเท้า ชนิดที่เรียกว่าเจ็บเข้าไปถึงกระดูก' แต่ผมไม่บ่นเลยซ้ากคำ สักพักนายกานต์เพื่อนผมก็มาล้างมือล้างเท้าบ้างเท่านั้นแหละ กานต์ถึงกับร้องเจี๊ยกเลยครับ พร้อมบอกว่า "ไม่ไหวว่ะ ทำไมมันเย็นอย่างนี้วะ"

จากนั้นก็ไปลองรองเท้าบู๊ตกันน้ำ เนื่องด้วยว่าต้องไปเดินบนผิวแม่น้ำซันสการ์ที่เป็นน้ำแข็ง แต่อาจมีน้ำบางส่วนไม่เป็นน้ำแข็งหรือผิวน้ำแข็งแตกเปราะต้องลงลุยน้ำเย็นเฉียบ รองเท้าที่เราเอามาจากไทยจะกันน้ำไม่ได้ต้องใช้บู๊ตยางกันน้ำ(เหมือนๆ กับบู๊ตบ้านเราแต่ของเขาเบากว่า)

กลับมาที่ห้องผมเข้าห้องน้ำ ปัญหาตามมาอีกเพราะพบว่าส้วมราดไม่ลง!

พอกานต์ลองรองเท้าเสร็จก็กลับมาห้องพร้อมบอกข่าวว่า

"เปิ้ลให้มาบอกว่าเดี๋ยวพวกเราจะไปบ้านลามะเจมส์กัน" ลามะเจมส์คือเพื่อนของเปิ้ล ส่วน"พวกเรา" หมายถึง เปิ้ล กานต์ เหมียวและซ้ง รวมถึงผม
"ลามะเจมส์อยากชวนให้เราไปกินข้าวเย็นที่บ้าน จะได้เห็นวิถีชีวิตท้องถิ่น" กานต์บอก

แจ้งข่าวเสร็จกานต์ก็เข้าห้องน้ำ และบ่นอุบ กับปัญหาส้วมราดไม่ลง แต่เอาเถอะไปรีบเตรียมตัวไปบ้านเจมส์กันดีกว่า สักพักใหญ่รถก็มารับ เรา 5 คนรวมตัวขึ้นรถออกจากโรงแรม 

ก่อนถึงบ้านลามะเจมส์เราแวะที่วัดสปิตุ๊ก(Spituk monastery) ซึ่ง ณ จุดนี้ ออฟกับจอยมารวมตัวกับพวกเราอีกครั้ง


ลามะเจมส์ ภาพจากเปิ้ล ขอบคุณครับ


ทัศนียภาพมองจากลานจอดรถหน้าวัดสปิตุ๊ก(Spituk monastery)


ภาพวาดบนเพดานที่ซุ้มประตูวัดสปิตุ๊ก

อยากเข้าชมวัดแต่ประตูวัดปิดเสียแล้วจึงต้องกลับออกมาแล้วมุ่งไปบ้านลามะเจมส์ ระหว่างเราได้พบกับทัศนียภาพอันสวยงามของเขตชานเมือง และรับการต้อนรับจากครอบครัวของลามะเจมส์เป็นอย่างดี


ที่บ้านเจมส์ (ขอบคุณภาพจากกานต์)

นมอุ่นๆ จากเต้าคร้าบ...




วิวภูเขา รอบๆ บ้าน


เจ้าบ้านดูแลต้อนรับอย่างอบอุ่น เพียบพร้อมด้วยอาหารการกินอันสมบูรณ์

เราเที่ยวชมรอบบริเวณบ้าน แม้อากาศหนาวเหน็บแต่วิวหิมาลัยอันสวยงามก็ทำให้เรารู้สึกสุขใจ พอเข้าไปในบ้าน ขึ้นไปบนห้องที่ใช้เป็นห้องรับแขกเราได้พบกับความอบอุ่นที่เราแสวงหา ถังเหล็กขนาดสัก 20 ลิตรถูกดัดแปลงมาเป็นเตาผิงให้ความร้อน ทำให้ห้องนี้อุ่นสบาย เราถอดถุงมือและเสื้อกันหนาวตัวนอกออก พี่สาวเจมส์ก็เอานมอุ่นๆ ชาร้อน และของขบเคี้ยวมาบริการพวกเรา บอกได้คำเดียวว่าการได้ดื่มนมอุ่นๆ จากเต้านั้นสุขใจจริงๆ พี่สาวลามะคนที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดีก็พูดคุยสอบถามเรื่องราวการเดินทางของพวกเรา

สักพักอาหารก็ถูกลำเลียงมา มี โมโม่ไส้ไก่และโมโม่ไส้ชีส มีทั้งแบบต้มและทอด มีซุปมะเขือเทศ อร่อยจัง




โมโม่คล้ายเกี๊ยวซ่าบ้านเรา ตอนผมไปเที่ยวแถวเบงกอลตะวันตก แถวพาราณสี ก็มีอาหารหน้าตาแบบนี้เรียกว่าโมโม่เหมือนกัน

เราได้เห็นธรรมเนียมอย่างหนึ่งก็คือ คนบ้านที่เราพักจะพากันมาดูแลเรากันทั้งบ้าน โดยจะคอยมอง คอยดูให้พวกเราทุกคนได้กินจนอิ่มหมีพลีมัน พวกเขาจึงขอตัวแยกไปกินกันเองต่างหาก การมองการดูอย่างนี้ทำให้นึกถึงคำว่า "ดูแล" จริงๆ ครับ ทั้งดู ทั้งแล จนแขกขวยเขินทำอะไรไม่ถูกไปหมด

อิ่มท้องพวกเราคุยกันเองถึงสภาพโรงแรมที่พวกเราพักกันเทียบกับโรงแรมที่ออฟกับจอยพัก พบว่าโรงแรมของออฟกับจอยนั้นมีทั้งประปา น้ำอุ่น ฮีทเตอร์ ทุกอย่างครบครัน จึงแปลกใจว่าทัวร์ที่จึงจัดโรงแรมให้ได้เพียงคุณภาพเช่นนี้ ห้องผมไม่มีฮีทเตอร์ น้ำไม่ไหลจะเอาน้ำต้องเรียกหรือไม่ก็ต้องออกไปตักเองรวมถึงส้วมราดไม่ลง ส่วนห้องของเหมี่ยวกับซ้งมีฮีทเตอร์แต่เป็นแบบใช้น้ำมันก๊าดซึ่งกลิ่นไอระเหยและเขม่าควันเหม็นไปทั่วไม่มีห้องน้ำในตัว ก็บ่นกันไปว่าถ้าผู้จัดทัวร์จะเพิ่มเงินอีกสักคนละพันสองพันแล้วพักโรงแรมที่ดีกว่านี้ก็จะไม่มีปัญหา

แต่คุยไปคุยมา จะว่าไปบ้านเจมส์นี้ก็แสนอบอุ่นเขาน่าจะเต็มใจให้พวกเราพัก เปิ้ลจึงออกความคิดว่าพวกเราน่าจะย้ายมานอนที่บ้านเจมส์กัน แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยกลับไปรวมตัวกับพรรคพวก และคืนสุดท้ายหลังจากออกจากแม่น้ำซันสการ์เราก็จะมาโฮมสเตย์ที่บ้านนี้อีก ว่าแล้วเปิ้ลก็ออดอ้อนเจ้าบ้านให้พวกเราได้พักกันที่บ้านตกลงว่าคืนนี้เรามีที่นอนอันแสนอบอุ่น

ขึ้นรถกลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรมPalace View กลับมาถึงบ้านพัก จัดข้าวของ จะก้มจะเงย จะใส่จะถอดรองเท้าก็พาเอาหอบตัวโยน ท้ายสุดตอนจะนอนดึงผ้ามาคลุมกายไม่อยากเชื่อว่าแค่ห่มผ้าก็เล่นเอาต้องนอนหอบ ผ้าห่มของชาวเลห์หนาหนักแค่ออกแรงยกและดึงผ้ามาคลุมตัวยังเล่นเอาเหนื่อยคงด้วยเรายังไม่เคยชินกับความสูงอากาศเบาบาง

เอาล่ะ หลับกันให้เต็มอิ่มเพื่อวันรุ่งขึ้นพวกเราจะไปเดินท่องกันที่แม่น้ำน้ำแข็งซันสการ์ "Zanskar Chadar River"

นี่แหละครับสาระบางประการในวันแรกที่เลห์ ขอจบลงเพียงเท่านี้


บ้านพักเรือนนอนแสนอบอุ่นของเราในคืนนี้


ขอบคุณ

ExitSong.com
Leh Crazy ชุมชนคนรักเลห์

ขอความสุขและสันติสถิตในดวงใจ

จบตอน 3



หมายเหตุท้ายตอน

-ข้อมูลอันสับสนจากหัวหน้าทัวร์เกี่ยวกับน้ำหนักสัมภาระที่จะขึ้นเครื่อง คือทางหัวหน้าทัวร์แจ้งว่าสัมภาระที่จะโหลดขึ้นเครื่องบิน ขนได้คนละไม่เกิน 15 กิโลกรัม ซึ่งปกติน่าจะขนได้คนละ 20 กิโลกรัม แล้วพวกเราจะเอาไงดี ---ก่อนเข้าเช็คอินซ้งและเหมียวบอกว่าของทั้งคู่รวมกันเกิน 30 กิโลแน่ แต่ถ้าเกินก็จ่ายเพิ่มไปก็แค่นั้น  สุดท้ายพอเช็คอินพบว่าสายการบินอินดิโกของอินเดียที่บินมุ่งสู่เดลีก็ยอมให้แต่ละคนขนได้คนละ 20 กิโลกรัมไม่มีปัญหา แต่พอถึงเดลีเราต้องต่อเครื่องบินในประเทศไปเลห์ คราวนี้แหละที่สายการบินท้องถิ่น เขาให้เราขนสัมภาระขึ้นเครื่องได้แค่คนละ 15 กิโลกรัม เป็นเหตุให้ต้องแบ่งสัมภาระแชร์น้ำหนักจัดกระเป๋ากันใหม่ วุ่นวายได้อีก

-เข้าใจว่าโรงแรมView Palace คงไม่ขี้เหร่นักในช่วงหน้าร้อน เพราะระบบน้ำประปาคงใช้ได้ แต่ถ้าเข้าพักในหน้าหนาวและอุณหภูมิติดลบใครที่ได้ห้องที่ไม่มีฮีทเตอร์คงทรมานน่าดู


ไปตอนที่ -1-/-2-/-3-/-4-/-5-



Create Date : 06 มีนาคม 2557
Last Update : 20 มีนาคม 2557 23:01:06 น. 12 comments
Counter : 1991 Pageviews.  

 
ี่เลห์ นี่ใช่ ธิเบตน้อย หรือปล่าวคะ
ดูๆแล้วท่าจะหนาวน่าดู

ชอบภาพที่บ้านเจมส์ มันสวยมากๆกับบรรยากาศฉากท้องฟ้าด้านหลัง


โดย: wachi (กาบริเอล ) วันที่: 6 มีนาคม 2557 เวลา:10:46:19 น.  

 
คุณ wachi ใช่ครับผมเลห์คือธิเบตน้อยครับ บ้านเจมส์และบรรยากาศชานเมืองเลห์สวยงามมากครับ


โดย: bite25 วันที่: 6 มีนาคม 2557 เวลา:12:00:01 น.  

 
ไม่มีฮีทเตอร์ แถมห้องน้ำราดไม่ลง !!!
เอิ่ม บ่นค่ะบ่น เจอแบบนี้ อาจจะมีมากกว่าบ่น 555
แต่บ่นไม่นานหรอกเพราะยังไงก็ไปถึงที่แล้ว

โมโม่น่ากินอ่ะ


โดย: coji วันที่: 6 มีนาคม 2557 เวลา:16:32:07 น.  

 
สวัสดีคุณภา โมโม่ไส่ไก่อร่อยครับ ไส่เนยแข็งไม่ค่อยถูกปากแต่ก็อร่อยดีครับ

ถ้าทริปแบบนี้ไปกันเองเจอปัญหากันเองบ่นกันเองอาจจะทะเลาะกันเอง นี่โชคดีไปกับทัวร์ที่มีหัวหน้าทัวร์ให้เราบ่นถึงครับ บ่นกันสนุกปากเลย


โดย: bite25 วันที่: 6 มีนาคม 2557 เวลา:17:00:05 น.  

 
จริงค่ะ คนจัดทริปสำคัญอ่ะ

ตอนสองที่อุ้มผางคลอดแล้วค่ะ
นานกว่านี้ จะบิ้วท์ไม่ออกแล้ว 555


โดย: coji วันที่: 9 มีนาคม 2557 เวลา:9:31:40 น.  

 
ถ้าไม่ได้ไปนอนบ้านหลวงพี่เจมส์ผมคงต้องทนดมกลิ่นส้วมที่ราดไม่ลงทั้งคืนแน่ๆ ถ้าเป็นของตัวเองคงทนได้(หอม) แต่ของของ bite25 นี่สุดยอดจริงๆครับ


โดย: K IP: 124.122.141.225 วันที่: 10 มีนาคม 2557 เวลา:13:15:35 น.  

 
555 Mr Karn


โดย: bite25 วันที่: 10 มีนาคม 2557 เวลา:16:05:08 น.  

 
อ่านแล้วเหมือนไปเที่ยวเองเลย ตอนราดไม่ลงนี่เหมือนกลิ่นมันโชยมาด้วยเลย สุดยอด


โดย: Cin IP: 118.175.227.84 วันที่: 11 มีนาคม 2557 เวลา:12:04:15 น.  

 
บล๊อคติดมัลแวร์ โดนระงับเฉยเลยค่ะ แก้ยังไงนะ


โดย: coji IP: 101.109.245.3 วันที่: 12 มีนาคม 2557 เวลา:14:15:08 น.  

 
คุณภา ผมก็แอบงง นึกว่าระงับเอง ลองติดต่อที่ //2g.pantip.com/members/helpdesk/bloggang.php?/members/helpdesk/bloggang.php


โดย: ิbite25 IP: 110.77.225.97 วันที่: 12 มีนาคม 2557 เวลา:18:25:41 น.  

 
สว้สดีทุกท่าน สวัสดีน้าซิน กำลังเขียนตอนใหม่นะครับรอติดตามกันด้วยขอบคุณครับ


โดย: bite25 วันที่: 12 มีนาคม 2557 เวลา:22:43:22 น.  

 
พี่ไบรท์ เข้ามาอ่านช้าเลย แต่อ่านยาวรวด สนุกอ้ะ เห็นภาพและอยากไปบ้างจัง หมาที่เลห์น่ารักจริง อยากเอามาเลี้ยงสักตัว


โดย: ไผ่ IP: 192.99.14.34 วันที่: 16 เมษายน 2557 เวลา:3:59:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

bite25
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




New Comments
[Add bite25's blog to your web]

MY VIP Friend