หลงรักเลห์ ตอนที่ 5 จึงออกเดินย่ำไปซันสการ์
"Good morning, Good morning" เช้าวันรุ่งขึ้นเราถูกปลุกด้วยเสียงทักทาย รูดซิปเปิดเต๊นท์ออกมาพบลูกหาบยืนอยู่หน้าเต๊นท์พร้อมกระติกน้ำร้อนใบใหญ่และแก้วสแตนเลสในมือ
"Good morning, tea?" ลูกหาบถาม "กานต์ มึงเอาชาป่าว" ผมถามกานต์ "เอาดิ" กานต์ตอบ "Two, please" ผมบอก ลูกหาบรินชานมร้อนจากกระติกน้ำร้อนใส่แก้วส่งให้ผม
เรารูดซิปเต๊นท์ปิดลงแล้วนั่งจิบชา "หนาวชิบหาย" กานต์บอก "หนาวดิ" ผมย้ำ
ชานมอุ่นๆ ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นในยามเช้าที่เหน็บหนาวเช่นนี้ ดื่มเสร็จก็นั่งๆ นอนๆ คุยไร้สาระกับคุณกานต์ไปเรื่อย
"เอ้าๆ เก็บถุงนอน เก็บที่นอนได้แล้ว และไปกินข้าวเดี๋ยวจะออกเดินแล้ว" ผู้นำทัวร์ชาวไทยส่งเสียงดังมาแต่ไกล เสียงลูกทัวร์เก็บข้าวของดังอยู่รอบๆ เต๊นท์เรา
ในเต๊นท์ที่ปิดซิปอยู่ผมค่อยๆ เก็บของ กานต์กับผมเป็นพวกอ้อยอิ่ง สักพักรอบๆ เต๊นท์ก็มีเสียงพูดคุยสื่อสารด้วยภาษาที่เราฟังไม่เข้าใจ เสียงลูกหาบกำลังรื้อเต๊นท์รอบๆ เรา
"เฮ่ย นี่มันเก็บของทุกอย่าง ทั้งเต๊นท์ ทั้งถุงนอนขนไปกับพวกเราหมดเลยเหรอว่ะ" กานต์ตั้งคำถาม "เฮ่ย ไม่มั้ง มันจะเก็บทำไมว่ะ ไปแค้มป์หน้า มันจะเอาออกมากางใหม่เหรอว่ะ เสียเวลาเดะ" ผมตอบ พร้อมรูดซิปเต๊นท์ออก รอบๆ เต๊นท์เราเต๊นท์ถูกยุบและพับเก็บเกือบหมดแล้ว ผมกับกานต์จึงเร่งเก็บของ แต่งตัว ซึ่งก็คือสวมเสื้อหนาวตัวนอกทับ ใส่ถุงเท้าขนจามรีคู่หนา และรองเท้าบู๊ต จากนั้นขนเอากระเป๋าเป้ใบใหญ่ ถุงนอน และฟูกไปรวมกันไว้ให้ลูกหาบ ชาวคณะคนอื่นๆ เตรียมพร้อมอยู่หน้าเต๊นท์อาหาร ส่วนใหญ่ทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ผมกับกานต์เดินไปที่เต๊นท์อาหาร ในเต๊นท์มีอาหารเช้าคือ คอร์นเฟ็ก นม และก็มีอะไรสักอย่างคล้ายแป้งเปียกเละๆ สีเหลืองอ่อนๆ ดูไม่น่ากินเลย---
"กานต์ กูไม่อยากกินว่ะ" ผมบอกกานต์ "ไบร์ท มึงต้องกินนะเว่ย กินให้มีแรง ไม่งั้นจะเอาแรงที่ไหนเดิน" กานต์บอก "กูไม่หิว" ผมดื้อ "มึงกินเหอะ มึงไม่หิวตอนนี้เดี๋ยวมึงก็ต้องหิว กินซะจะได้มีแรง" กานต์ย้ำ
เอาว่ะ ไม่กินก็ไม่มีแรง ผมตักทุกอย่างมารวมกันในจาน พยายามกล้ำกลืนฝืนกิน กิน กิน กิน แหวะ! ไม่อร่อยเลย
จากนั้นก็เอาเป้ใบเล็กขึ้นสะพายหลัง ปรับไม้เท้าเดินป่าให้ได้ระดับ มองไปรอบๆ ลูกหาบกำลังช่วยกันนำ เต๊นท์ ฟูก ถุงนอน และกระเป๋าใบใหญ่ของชาวคณะมัดใส่เลื่อนน้ำแข็ง ชาวคณะส่วนใหญ่ออกเดินไปแล้ว เรากำลังออกเดินนึกขึ้นได้ยังไม่ได้เอาน้ำร้อนใส่กระติกน้ำส่วนตัว จัดแจงเอากระติกออกมาขอเติมน้ำร้อนจากเต๊นท์ครัว ลูกหาบเอาแคร็กเกอร์ให้เราคนละห่อเล็กบอกไว้กินตอนหิว ทุกอย่างเรียบร้อยจึงออกเดิน ผมและกานต์เดินในกลุ่มรั้งท้าย แอบหวั่นใจกลัวจะเดินไม่ไหวเนื่องจากแพ้ความสูง แต่ดูคนที่เดินไปล่วงหน้าท่าทางน่าสนุกดี เอาล่ะ เราเริ่ม ออกเดิน ย่ำไปในซันสการ์
ตอนม้วนเก็บฟูกก็เจอเกล็ดน้ำแข็งซุกอยู่ด้านใต้---มาได้ไง(ขอบคุณภาพประกอบจากกานต์)
เดินย่ำไปบนChadarผ้าคลุมสีขาวเหนือแม่น้ำ
เหมียวกับซ้ง ด้านข้างคือลูกหาบกำลังปรับสายรัดของบนเลื่อนให้กระชับขึ้น "ลูกหาบ" เป็นคำไทยใช้เรียกคนขนของให้นักท่องเที่ยวหรือนักเดินทาง ในเมืองไทยใช้การหาบในการขนของ แต่ที่ซันสการ์นี้ลูกหาบจะใช้เลื่อนลากไปบนผิวน้ำแข็ง บางช่วงที่ต้องปืนเขาจะเอาสะพายขึ้นบ่าแบบเป้ แข็งแรง เดินกันไวมากๆ
คุณกานต์ยืนเด่นเป็นสง่า น้ำแข็งที่ขาวขุ่นๆ ผิวหยาบๆ จะเดินไม่ลื่น น้ำแข็งที่ใสๆ ข้างผิวหน้าเป็นประกายจะลื่นมาก
ความเย็นจัดทำให้ไอน้ำจากลมหายใจควบแน่นเป็นละอองน้ำแข็งเล็กๆ บนผ้าปิดหน้า(ขอบคุณภาพประกอบจากกานต์)
แม่น้ำบางช่วงยังไหลริน
แม่น้ำบางช่วงถูกน้ำแข็งคลุมทั่ว
ขี้สัตว์กินเนื้อสังเกตจากขนที่ปนอยู่(ขออภัยท่านที่กำลังทานอาหาร) บนผิวหิมะก็มีรอยเท้าคล้ายหมาเล็กๆ ถามคนนำทางอินเดีย เขาบอกว่าน่าจะเป็นของจิ้งจอกแดง
พักกินบะหมี่กึ่งสัมเร็จรูปตรงนี้
ข้างทางมีไม้แห้งๆ ให้เห็นบ้าง
ทัศนียภาพแถวจุดพักกินบะหมี่
บางช่วงที่น้ำแข็งไม่แข็งพอหรือไม่เป็นน้ำแข็งก็ต้องปีนเขากันไป เหนื่อยกันทีเดียว
ปีนข้ามมาได้แล้ว เอ้า ออกเดินต่อ ย่ำไปบน Chadar Zanskar River
และในที่สุดนั่นไงจุดกางเต้นท์คืนที่ 2
ยอดเขาต้องแสงยามบ่ายคล้อย
หญ้าแห้งริมทาง
ค่ายพักแรมคืนนี้
บรรยากาศในเต๊นท์อาหาร(ขอบคุณภาพจากกานต์)
ในที่สุดก็รอดชีวิตผ่านการเดินบนแม่น้ำน้ำแข็งวันแรกมาได้ น้ำแข็งบางช่วงมีสีขาวขุ่นแข็งเปราะมีช่องว่างภายในเหยียบไปแล้วแตกกุ๊บๆ กั๊บๆ บางช่วงขาวเหมือนหิมะมาเกาะกันหนาแข็ง น้ำแข็งสองอย่างนี้จะเดินง่ายไม่ลื่น เดินง่ายสบายดี
แต่มีน้ำแข็งที่ใสๆ แข็งๆ ใสอย่างกับกระจก ผิวหน้าเป็นประกายสะท้อนแสง พวกนี้เหยียบแล้วลื่นมาก ในวันแรกก็ลื่นไปหลายทีแต่ยังไม่ล้มใช้ไม้เท้าประคองตัวได้บ้าง ด้วยคงเพราะระยะทางที่เดินในวันแรกนั้นไม่ไกลนัก
ถึงที่พักก็เลือกเต๊นท์ คว้าถุงนอน เก็บของเข้าเต๊นท์ คนครัวกำลังทำกับข้าว
ค่ำคืนหลังกินข้าวเย็น ซึ่งคือ ข้าวสวย แกงผัก กุนเชียง(กุนเชียงช่วยให้รู้สึกอร่อยขึ้นมาก) เราก็กลับมาเต๊นท์ ระหว่างทางแหงนมอกขึ้นฟ้า โอ้! ดาวพร่างพราวเต็มฟ้า ดาวระยิบระยับมากมาย กลุ่มควันเรืองๆ ของทางช้างเผือกพาดข้ามฟ้า สวยงามและหาไม่ได้ในเมืองใหญ่ เราหยุดแหงนหน้าดูดาว กล่าวขานตำนานดวงดาวพักหนึ่งก็รีบเข้าเต๊นท์เพราะความหนาวเหน็บ กานต์บอกว่าเดี๋ยวจะออกมาถ่ายรูปดาว ว่าแล้วก็แยกย้ายกัน นัดแนะกันว่าถ้าพร้อมมาจิบเหล้ากัน
"ไปป่าวไบร์ท กูจะไปถ่ายรูปดาวข้างนอก" กานต์ชวน เมื่อกลับถึงเต๊นท์ "ไม่เอาอะกานต์ กูหนาว กูไม่อยากไป" ผมปฏิเสธ "กูก็หนาว แต่กูอยากออกไป ถ่ายรูปดาว" กานต์บอกความต้องการ "กูก็หนาว แต่กูไม่อยากออกไป" ผมบอกความรู้สึก "งั้นเดี๋ยวกูออกไปถ่ายรูปดาวแป๊บนึง" กานต์ว่า "ถ่ายสวยๆ นะเดี๋ยวกูขอดูรูปละกัน" ผมตอบ
แล้วกานต์ก็ออกจากเต๊นท์หายไปพักใหญ่จึงกลับเข้ามา พร้อมเปิดภาพดาวในกล้องให้ผมดู กานต์ดูมีความสุขกับภาพดวงดาวมากมายที่ถ่ายไว้ได้
ครู่ใหญ่ท่ามกลางความหนาวเหน็บเมื่อพร้อมเพียงเสียงแว่วของกลุ่มเพื่อนก็แว่วมา เราตั้งวงจิบเหล้ากับน้ำอุ่น พุดคุยสนุกสนานสบายใจในความอบอุ่นที่เกิดขึ้นภายในเต๊นท์ แต่ถึงเวลาทุกคนก็ต้องแยกย้ายกันกลับเต๊นท์ตัวเองคงเหลือแต่ผมและกานต์
คืนที่ฟ้าใสดาวสวย (ขอบคุณภาพจากคุณกานต์)
ก่อนนอนกานต์ชวนเอาอุปกรณ์ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายที่เรียกว่า pocket warmer มาลองใช้ พบว่าอุ่นดี แต่พอจะนอนก็เอาออกจากกระเป๋าเสื้อเพราะกลัวไฟไหม้ กลางคืนนอนหลับสบายเพราะความเหนื่อยล้าและถุงนอนก็อุ่นดี รูปซิปปิดสนิดได้ถึงคอ เป็นคืนที่หลับยาวได้ถึงรุ่งสางเลยครับ
นี่แหละครับ การออกเดินย่ำไปในซันสการ์วันแรก หวังคงมีสาระและบันเทิงบ้าง ของจงมีความสุขสวัสดี
บางคนคงหลับไปแล้วแต่บางคนยังไม่หลับ(ขอบคุณภาพประกอบจากกานต์)
ขอบคุณ ExitSong.com Leh Crazy ชุมชนคนรักเลห์ ขอความสุขและสันติสถิตในดวงใจ จบตอน 5 หมายเหตุท้ายตอน---"ส้วม" เต๊นท์นอนและสัมภาระทุกอย่างจะถูกลูกหาบขนไปพร้อมกับชาวคณะ พวกลูกหาบชาวพื้นเมืองเหล่านี้เดินได้เร็วมากบนผิวน้ำแข็งและแข็งแรงอย่างเหลือเชื่อ เมื่อถึงจุดหมายเขาจะรีบกางเต๊นท์ครัว เต๊นท์อาหาร รวมถึงเต๊นท์นอนให้ชาวคณะ และอีกเต๊นท์หนึ่งที่น่าสนใจ "เต๊นท์ส้วม"
เต๊นท์ส้วมเป็นเต๊นท์ทรงสูง ปักเสาสองเสาที่หน้าหลัง ขึงเชือกจากมุมหลังคาดึงลงสี่มุม เมื่อตั้งเสร็จเป็นดังรูป ด้านบนสูงพอจะให้ยืนได้ ด้านล่างขุดหลุม วางหินก้อนใหญ่พอเหยียบไว้ปากหลุม 2-3 ก้อนสำหรับนั่งยอง เมื่อใช้ไปเรื่อยๆ หลุมก็จะตื้นลง เพราะพอเสร็จธุระ คนก็จะเตะทรายกลบ ในภาพเป็นเต๊นท์ส่วมที่ผ่านการใช้งานมาพอควรแล้วทรายจึงกลบจนเกือบเต็ม (ขอบคุณเปิ้ลสำหรับภาพประกอบครับ)
ไปตอนที่ -1-/-2-/-3-/-4-/-5-
ช่วงนี้กรุ๊ปบล็อกที่รูปหายผมของดใช้บริการก่อนนะครับ เดี๋ยวแก้ไขเสร็จจะให้เข้าดูได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน
Create Date : 20 มีนาคม 2557 |
Last Update : 21 มีนาคม 2557 0:18:19 น. |
|
11 comments
|
Counter : 1491 Pageviews. |
|
|
|
เปิ้ล Leh Crazy