จิบชาชมดอกไม้ไปพลาง คุยกันเบาๆ ที่สวน..เจ้าแก้ว กังไส
เจ้าแก้วกับร้านทำผม
เจ้าแก้วเป็นคนที่ไปร้านทำผม 2 เดือนหน เพราะว่าไว้ผมยาวตรงๆ ไม่ต้องเซ็ทแต่งทรงเลยไม่ต้องดูแลมาก..สบายดี แต่ 2 เดือนทีต้องไปเล็มทีเพราะผมด้านหน้าแยงลูกตาและย้อมกลบหงอก...(ไม่ได้แก่นะเค้าแพ้ผมง่ะ)ซึ่งพอย้อมทับไปทุก 2 เดือนด้วยสีน้ำตาลมาสัก 2 ปี บัดนี้หัวก็เริ่มสีอ่อนลงเรื่อยๆ มีเพื่อนเห็นเข้าอยากได้สีเดียวกับเจ้าแก้วมั่งแต่ถึงย้อมไปก็ไม่ได้สีนี้...เพราะสีผมปัจจุบันเกิดจากการหมักหมม..เอ้ย ย้อมทับมาเป็นปีสีก็เลยอ่อนการไปร้านทำผมไม่ใช่แปลกประหลาดอะไรนักแต่ว่า...ปกติแล้ว เจ้าแก้วจะโทรนัดช่างที่ร้านเอาไว้ก่อน แล้วไปทำตอน 3 ทุ่ม ก็จะไม่พบเจอผู้คนนอกจากช่าง ก็จะนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ จนทำเสร็จก็ปิดร้านพอดี เป็นอย่างนี้ประจำจนงวดที่ผ่านมาไปช่วงเย็นๆ โพล้เพล้ จึงมีลูกค้ามาใช้บริการเต็มร้าน แล้วพอคนเยอะๆ จึงต้องคุยกันทั้งที่ไม่รู้จักกันเพราะว่าง(มั้ง) ลูกค้า 1 : เนี่ยไปจมูกมาล่ะดูสิว่าแล้วเจ้าหล่อนก็ชักชวนให้ดูดั้งปลอมของหล่อนพร้อมเล่าถึงขั้นตอนการทำ ตั้งแต่ราคายันหมอไปจนถึงสามีฝรั่งที่ออกทุนให้ทำ โดยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน !? เจ้าแก้วเลยได้แต่เออออ ค่ะๆๆ ไปด้วยลูกค้า 2 : 2 วันก่อนไปเล่นไพ่ที่หอพักเพื่อน โดนตำรวจบุกจับด้วย เพิ่งประกันตัวออกมาเซ็งเจงๆ ผัวก็ด่าแล้วก็สาธยายการไปแช่อิ่มในตารางรอสามีมาประกันตัว จบด้วยการโดนสามีด่าสาดเสียเทเสียลูกค้า 3 : เพิ่งย้ายมาอยู่แถวนี้ล่ะค่า ที่บ้านมี...บลาๆๆ(เล่าถึงสมาชิกทั้งตระกูล)เป็นอันว่าทั้ง 3 คนรู้จักกันแล้วและผลัดกันเล่าเรื่องตัวเองโดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อน แล้วจึงเริ่มแลกเปลี่ยนเรื่องส่วนตัวของกันและกันลูกค้า 1 : นี่ๆ คุณพี่คะหนูไปทำนมเพิ่มดีไหมคะ? มันเล็กไปว่ามะ?เจ้าแก้ว : เอ่อ...จะดีเหรอคะ? ลูกค้า 2 : ปกติเล่นไพ่มั่งป่ะ ผัวทำงานไรเหรอตัว?ลูกค้า 3 : ว่างช่วงค่ำๆ หลบผัวมาได้ ที่บ้านทำกิจการซักรีดทั้ง 3 คน : ตัวเองล่ะ....?(อย่าหันมาถามเค้าสิกรี๊ดดดด..ด)งงมากๆ เลยอ่ะ คือปกติทำร้านบนห้างก็จะต่างคนต่างทำไม่ได้คุยกัน แต่นี่เป็นร้านแถวบ้านบรรยากาศช่างแตกต่างมากมาย แถมถ้าจะมาทำผมเจ้าแก้วจะโทรมาบอกช่างก่อนล่วงหน้าเค้าจะได้เตรียมอุปกรณ์ไว้ก่อน หนนี้ทำเอาอะเมซิ่งหลายๆ แปลกใจมากไม่รู้จักทำไมเอาเรื่องส่วนตัวมาคุยเป็นคุ้งเป็นแควได้ขนาดนั้น บางคนก็คนอวดซึ่งคนที่ฟังการอวดก็เป็นแค่คนแปลกหน้าผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่เข้าใจว่าอวดคนแปลกหน้ามันภูมิใจตรงไหนหว่า เรื่องบางเรื่องที่ยกมาคุยมันก็ส่วนตัวมาก...ไม่สมควรเอาคุยในที่สาธารณะยิ่งบ้านอยู่ละแวกนี้ด้วย ถ้าเป็นเรื่องเสียหายจะแพร่ได้ง่ายมาก มึนและงงไม่เคยพบเคยเจอแบบนี้มาก่อน แล้วพอคนหนึ่งลุกไปคนที่เหลือจะเริ่มนินทาทันที...น่ากลัวมั่กๆซึ่งเจ้าแก้วย้อมผมจึงใช้เวลานานที่สุด ฟังจนอิ่มเลยว่างั้นเถอะ เมื่อลูกค้าไปหมดทุกคนจึงหันมาถามช่างที่ร้าน พี่คะ...มันแปลกๆ นะ ทำไมๆๆๆ และทำไม ก็รัวถามคุณช่างไป...พี่ช่างบอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามากๆ เขาเจอทุกวัน ช่างทำผมกับหมอจิตเวชก็เครือๆ กันเธอสรุปว่าอย่างนั้น บางทีลูกค้าที่มาก็อยากระบาย อยากอวดอยากคุย อย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยไม่จำเป็นต้องรู้จักกัน บางเรื่องเพราะเป็นคนแปลกหน้าถึงได้ระบายให้ฟัง เพราะคิดว่าคงไม่เข้าตัวไงคะ แถมยังสรุปให้ฟังว่าช่างที่ดีควรรับฟังแต่ไม่เล่าต่อและไม่เก็บใส่ไว้ในสมองไม่งั้นเครียดตาย ถ้าลูกค้าได้คนรับฟังที่ดีลูกค้าจะมาบ่อยๆ รู้สึกว่านอกจากทำสวยแล้วยังหายเครียดอีกด้วย(โห..ปรัชญาช่าง) ดังนั้นถ้าช่างทำผมไม่มีจรรยาบรรณ หรือนิสัยไม่ดี ก็จะกลายแหล่งซ่อมซุมนินทา เล่นแชร์แทงหวย จนไปถึงเป็นนายหน้าขายบริการ ฟังถึงตรงนี้ก็ต้องกรี๊ดดดดดด...ด อีกครั้งช่างลึกล้ำอะไรเช่นนี้ร้านทำผมเนี่ย...เจ้าแก้วรู้สึกว่าตัวเองหลุดไปมิติที่ 4 มาเล่นเอาเหวอไปไม่น้อย ได้ความรู้ใหม่เพียบคนเป็นช่างทำผมมักจะเป็นเพื่อนคุยที่ดีพอๆ กับหมอจิตฯว่าแล้วเจ้าแก้วเหงื่อตกจนต้องถามช่างว่าถ้าบรรยายของร้านธรรมผมแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดา แต่เจ้าแก้วไม่เคยรู้มาก่อนนี่...มีชีวิตรอดมาได้ไง 20 กว่าปี โดยไม่รู้มาก่อน พี่ช่างยิ้มน้อยๆ แล้วสรุปว่า.."ไม่แปลกหรอกค่ะ แต่น้องเป็นเมืองคนอื่นๆ เป็นคนต่างจังหวัดที่เข้ามาอยู่ในเมือง ลักษณะมนุษย์สัมพันธ์เลยไม่เหมือนกัน"ฟังแล้วจี๊ดๆ ยังไงก็ไม่รู้ค่ะ...พี่ช่างคนนี้อาจจะจบการศึกษาแค่โรงเรียนเสริมสวยแต่เจ้าแก้วเชื่อว่าพี่เขาจบปริญญาชีวิตมาแล้วอย่างแน่นอนค่ะนอกจากนี้...เจ้าแก้วยังเป็นคนในจำนวนน้อยถึงน้อยที่สุด ที่โทรไปนัดช่างก่อนตัวจะไป(มารู้ทีหลังว่าแกนั่นแหละประหลาดคนอื่นเขาไม่นัดย่ะ เขาแค่โทรมาถามว่าที่ร้านคนเยอะหรือเปล่า?) ด้วยความเคยชินเก่าๆ เจ้าแก้วชอบทำผมเงียบๆ ไม่อยากได้ความรู้สังคมศึกษาเพิ่มเติม จึงตัดสินใจว่าต่อไปนี้จะไปทำผมเฉพาะช่วงมืดๆ ตอนไม่มีลูกค้ารายอื่นเหมือนเดิมค่ะ...
หนูรู้จักเขาไม่ถึง 5 นาที แต่หนูรู้แล้วล่ะค่ะว่าสามีเขากลับบ้านกี่โมงและมีเมียน้อยซุกอยู่กี่คน..
เอิ้กๆๆ ส่วนเรื่องโทรไปจองเนี่ย หนูก็ว่าแปลกตั้งแต่อ่านที่เจ้าแก้วบอกแล้ว...ก็ปกติก็ไม่จองกันหรอกนะท่าน
จะว่าไป ร้านทำผมเนี่ยแหละคะระบายความเครียดได้ดีสุดๆ ขนาดตอนหนูมีเรื่องกับเพื่อนมา ยังเอามาลงที่นี่ราวกับลงระเบิด พอกลับบ้านไปนอกจากหัวจะโล่งเพราะผมสั้นลง โอ้ย...โล่งใจไปเป็นกองเลยคร่า
ว่างๆเจ้าแก้วก็ทำบ้างนะ เก็บอะไรๆไว้กับตัวมันเครียดดด เฮ้อ..