จิบชาชมดอกไม้ไปพลาง คุยกันเบาๆ ที่สวน..เจ้าแก้ว กังไส
รวมมิตรเรื่องสงสัยของเจ้าแก้วในช่วงนี้
เนื่องจากบล็อคเดี้ยงไป 1 อาทิตย์คิดถึงบล็อคจังตอนมันออนก็ไม่ขยันอัพ ดองไว้ถึง 4 เดือนจนปันปันบอกว่าอัพหน่อยเหอะพี่....ถึงได้รู้สึกตัว พอมาช่วงนี้หัดทำกราฟฟิคแต่งบล็อคเองไม่ต้องรอให้หนอนไหมมาทำให้แล้ว....นับว่าคนโลวเทคอย่างเจ้าแก้วพัฒนาขึ้นแย้วก็เลยขยันอัพบ่อยขึ้นน่ะเรื่องสงสัยเรื่องแรก1.พักนี้เจ้าแก้วชอบไปแอบดูกระทู้กระทะเลาะกันล่ะ บันเทิงดี...อ๊ะ...ไม่ใช่ เค้าหมายความว่า...เค้ากลัวตกเทรนด์ง่ะทีนี้กระทู้มีคนเถียงกันเยอะๆ ในพันทิปหรือที่ไหนๆ ก็มักจะมีคนใช้ชื่อแบบนี้ "คนผ่านมา" , "คนผ่านทาง" , "คนผ่านไป"คือเจ้าแก้วสงสัยว่าทำไมกระทู้ทำนองนี้ถึงได้มีแต่ชื่อแบบนี้หรือชะรอย...เขาจะเป็นคนเดียวกันหมดทุกกระทู้ แต่เอ...ท่าทางจะไม่ใช่ เพียงแต่ตอนนั้นสงสัยตันคิดชื่อไม่ออกเลยเป็นแค่คนผ่านมา แต่ว่าคอมเม้นท์ของผู้เดินผ่านเหล่านั้น มักจะเป็นคอมเม้นท์รุนแรง หรือ พูดในเชิงรู้ลึกมากๆ จนเหมือนเป็นพยานในที่เกิดเหตุ ถ้าแบบนั้นก็แสดงว่าไม่ได้แค่เดินผ่านน่ะสิ เค้าเจตนาเดินมาแหกปากโดยเอาถุงกระดาษคลุมหน้าไว้ แล้วปลอมตัวมาด่าก็เกิดสงสัยต่อไปอีกว่า....ตั้งชื่อสมมุติสักชื่อขึ้นมาไม่ดีกว่ารึ มันจะช่วยให้ความคิดเห็นของเขาดูมีน้ำหนักขึ้น ใช้ชื่อผ่านไปผ่านมาเหมือนวิญญาณแบบนี้ มันดูจงใจเข้ามาก่อกวน แม้ว่าบางความคิดเห็นจะให้ประโยชน์มากๆ ก็ตามแต่...ทำไมต้องเป็นคนผ่านมาล่ะ? ทำไมแบบว่า...เดินมามุง เข้ามาแจม เข้ามาแส่ ตูรู้ดี อยากออกความเห็น คันปากหรืออะไรทำนองนี้บ้างไม่ได้หรืออา...หรือว่านี่จะเป็นกฏเหล็กอีกข้อในการตอบกระทู้ทะเลาะกัน แล้วเจ้าแก้วก็มานั่งวิเคราะห์(ฟังดูแล้วเจ้าแก้วนี่ช่างว่างจัดจนมีเวลามานั่งคิดอะไรไร้สาระแบบนี้เนอะ)ลองเปรียบเทียบกับตัวเองดูแล้วก็พบว่า บางทีเราก็ไม่กล้าออกความเห็นลงไปโดยใช้ชื่อเรา เพราะว่าเป็นคนรู้จักกันถ้าเห็นไม่ตรงกับเขาอาจโดนตามฆ่าได้ หรืออาจจะโดนเข้าใจผิดว่าเป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับเขาได้อย่าที่เพิ่งโดนมาทีนี้พอคันปากแค่ไหน....หรือแค่อยากแสดงความคิดเห็นซึ่งมันอาจจะไม่ตรงกับใครเลยก็ตาม แต่...ไม่อยากเดือดร้อนไม่อยากให้เขาตีความผิด หรือเข้าใจไปเองด้วยอารมณ์โกรธ ในเวลาอย่างนี้ถุงครอบหน้าจำเป็นค่ะ....แต่ว่า....ที่สุดแล้วก็ไม่ได้เอาถุงครอบหน้ามาใช้ เพราะว่าหลังจากลองใช้ไป 1 หน แล้วมีคนจับได้ เพื่อนๆ กันนี่แหละว่า....ตัวเอง คคห.ที่ XXX เค้าชื่อ จก.มีพี่ชายชื่อ ร. ใช่บ่อ?กรี๊ดดดดดดดดด...ด ทำไมรู้ว่าเป็นเค้าล่ะตัวเพื่อนตอบว่า....ตอบอะไรปัญญาอ่อนแบบนี้มีแกคนเดียวเอาถุงครอบหน้าไว้แต่ดันทำถุงขาดล่ะสิ....ก็แกเขียนไว้ว่าเจ้าแก้ว....คนก็รู้แล้วว่าแก แก้วกังไสหาง่ายจะตาย....กำเพื่อนแนะนำว่าควรใช้ชื่อแบบเบสิค เช่น คนผ่านไป ผ่านมาผ่านมาอีกรอบ ผ่านมารอบที่ 316 อะไรอย่างนี้คนจะได้ไม่รู้....จริงเหรอ? ใช้ชื่อโหลแบบนั้นแล้วเค้าจะไม่รู้จริงเหรอ คิดแล้วก็ไม่น่าเป็นไปได้ง่ะ....ช่วงนี้เลยมุงอย่างเดียวงดตอบข้อสงสัยข้อที่ 2ชื่อ "แก้ว" นี่มันคงจะโหลมาก ในขณะที่เรียกตัวเองว่าเจ้าแก้วจะได้จำเพาะจากแก้วอื่นๆ มันดีคืนดีก็มีคนมาทักว่าคุณคือแก้วโน้น แก้วนี้ใช่ไหม? เอ่อ...ไม่ใช่ค่ะ.....หรือเอานามปากกาที่ไม่ใช่ของเรามาเรียกแบบมั่นใจ ก็งง...เอ่อ...ไม่ใช่อีกเช่นกันค่ะ หรือว่างานเรามันจะไม่มีเอกลักษณ์ขนาดดูแล้วใช้ชื่อคนอื่นสวมทับแทนได้เลยนะ ชักไม่มั่นใจนอกจากนั้นแล้วที่โดนทักบ่อยที่สุดคือ...หมอแก้วใช่ไหม?คือหมอคนนั้นต้องเรียกว่า "ไอ้แก้ว" ค่ะ ไม่ใช่เจ้าแก้วแบบว่ามีเพื่อนชื่อแก้วอีก 2 คน คนหนึ่งเรียกว่า"พี่แก้ว"ทำงานการ์ตูน อีกคนหนึ่งชื่อ "ไอ้แก้ว" เป็นสัตวแพทย์ซึ่งไอ้คุณแก้วเนี่ย....โดนทักว่าเป็นเจ้าแก้วบ่อยมากๆเลยกะว่า...ต่อไปจะใช้ไอ้คุณแก้วเป็นแสตนอินท์ ไปงานหนังสือแทนดีไหม?ข้อสงสัยข้อที่ 3วันนี้โดนน้องถามว่า....พี่เจ้าแก้ว...จริงๆ แล้วพี่ชอบผู้ชายป่ะ?เอ๊ะ...ถามแปลกๆ นะคะคุณน้อง คุณน้องบอกว่า...ก็เห็นพี่เจ้าแก้วชอบเรื่อง Y เอ่อ...นั่นมันเกี่ยวอะไรหา?คุณน้องก็ยังวิเคราะห์ต่อไปว่าก็พี่เจ้าแก้วชอบผู้ชายหน้าหวานอ้าว?...ก็สเปคนี่คะ ไม่ชอบแบบถึกทือหนวดเฟิ้มกล้ามเป็นมัด อี๋...คุณน้องก็ยังไม่เลิกรา วิเคราะห์ต่อไปอีกโดยกล่าวหาว่านิยายเราแอบ Y ทุกเรื่อง พี่ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ เลยคือว่า........ทุบหัวเด็กเลยดีไหมคะ ข้อสงสัยข้อที่ 4อาทิตย์ที่แล้วโดนหนุ่มเกาหลีหาว่าจีบเขา แค่ถามว่าภาษาเกาหลีมันต่างจากภาษาไทยมากไหม นี่มันจีบตรงไหนเหรอถ้าหล่อแล้วพูดอย่างนี้จะไม่ว่าลยนะ....แต่นี่...จริงๆ แล้วแค่สงสัยว่านิยายลูกกวาดเกาหลีที่อ่านๆ อยู่ภาษามันห้วนๆ เหมือนว่าไม่ค่อยมีประโยคเชื่อมระหว่างประโยค ก็เลยคิดว่าหรือจะเหมือนนิยายจีนที่ไม่มีประโยคเชื่อมคนแปลต้องเติมเอง(ตรงนี้เจ้าแก้วถึงว่าคุณ น.นพรัตน์ เค้าเก่ง) ก็เลยไปถามหนุ่มเกาหลีแต่มันถามกลับมาว่าจะจีบผมเหรอ...โอ้...อยากจะบ้าหนุ่มเกาหลีบอกว่าภาษาเกาหลีการใช้ไวยากรณ์ เหมือนภาษาญี่ปุ่น ถ้าอย่างนั้นมันก็ต้องมีประโยคเชื่อมแล้วทำไมมันออกมาอย่างนั้นหว่าหนุ่มเกาหลีตอบทันที....คนแปลไม่เก่งไงล่ะฟังแล้วอึ้งไป....แล้วไอ้หนุ่มเกาหลีก็พยายามหว่านล้อมว่าภาษาเกาหลีสนุกกว่าภาษาญี่ปุ่นนา...ตกลงคือหนุ่มเกาหลีนี่มันกำลังหลีเราอยู่ใช่ไหมข้อสงสัยข้อที่ 5ช่วงนี้ทุเรียนออกแล้วล่ะ...เพิ่งจะเดือนมีนาเองนะทำไมทุเรียนออกมาแล้วล่ะแต่ได้ยินมาว่าทุเรียนถ้าไม่กินเดือนมิถุนา แต่ไปกินเดือนอื่นจะไม่อร่อย เพราะไม่ใช่ฤดูของมัน จริงหรือเปล่า?ข้อสงสัยข้อที่ 6เจ้าแก้วเป็นคนที่เครียดแล้วต้องกินของหวาน เพราะว่าต่อมรู้รสจะไม่รับรู้รสอื่นอีกเลยนอกจากรสหวาน ทั้งที่ๆเวลาปกติเป็นคนไม่กินหวาน กินช็อคโกแล็ตก็ต้องขมๆแต่พอช่วงเครียดกลับกินช็อคโกแล็ตแล้วไม่รู้รส ฝอยทองหวานๆที่กินไม่ได้ตอนอารมณ์ดี เพราะมันหวานไป แต่เวลาเครียดๆนั่งกินได้เป็นถุง (จากนั้นก็ตามด้วยความอ้วน)อาการแบบนี้เป็นโรคประจำตัว ที่เรียกว่าโรคสวีตอีโมฯหรือเครียดไม่รู้ตัวนั่นเอง มีใครเป็นโรคสวีตอีโมฯ อย่างเจ้าแก้วบ้างไหมคะ มานั่งอ่านข้อสงสัยตัวเองแล้ว...ชักรู้สึกว่าทำไมมันเหมือนTag หว่า? ....ก็แค่ข้อสงสัยน่ะ
เป็นคนเครียดแล้วต้องกินของหวานๆเหมือนกันค่ะ