สำรวจเขาผ่าซีก ป่าสมบูรณ์แห่งพุเตย อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี

คอลัมน์ รู้ก่อนเที่ยว

อดิศร จิตตเสวี

ช้าง จ.สุพรรณบุรี เขตรอยต่อ จ.กาญจนบุรี และจ.อุทัยธานี ที่ยังมีความสมบูรณ์ ครั้งนี้นำโดย นายวิศรุต อินแหยม ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจ.สุพรรณ บุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติพุเตย นำสื่อมวลชนและนักสำรวจ ไต่เขาความสูง 996 เมตร อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 25 องศาตลอดปี ส่วนฤดูหนาวอยู่ที่ 15-16 องศา เส้นทางมุ่งสู่ยอดเขา เป็นป่าเบญจพรรณ มีธารน้ำไหลผ่านโขดหินให้ได้พักเป็นระยะๆ บางช่วงมีต้นไทรสูงราว 50 เมตรหลายต้นเกาะกลุ่มกันอยู่ เป็นที่อยู่ของฝูงนกเงือก ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมงเศษ

จึงถึงจุดหมายยอดเขาผ่าซีก บริเวณนี้จะมีแต่ต้นไม้ขนาดเล็ก ลมค่อนข้างแรง ด้านหน้าเป็นหน้าผา มองเห็นเขาน้อยใหญ่สลับกันไป กระทั่งเช้า ถึงเวลาที่ต้องโรยตัวจากหน้าผาสูง 90 เมตร ลงสู่ข้างล่าง เพื่อสำรวจอีกเส้นทางหนึ่ง กันดารกว่าขาขึ้นเนื่องจากเป็นไหล่เขาลาดชัน บางช่วงต้องปีนไต่ตามไหล่เขา ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง กระทั่งถึงจุดนัดหมายที่ทางเจ้าหน้าที่อุทยานมารับ แม้การสำรวจในครั้งนี้จะต้องแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย แต่ทุกคนยอม เพื่อให้ป่าผืนนี้คงอยู่ เพราะมีข่าวว่ากำลังมีนายทุนจับจ้องมองตาเป็นมัน นายประทีป ใหญ่น้อย อายุ 50 ปี หนึ่งในทีมสำรวจ เปิดเผยถึงความ รู้สึกที่ได้ขึ้นไปสำรวจ ว่า ยิ่งเดินลึกเข้าไปเท่าใด ก็พบว่าป่านี้ไม่ธรรมดา ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์มาก การพบนกเงือกยืนยันถึงความสมบูรณ์ของผืนป่าได้อย่างดี คิดว่าควรอนุรักษ์ไว้ หรืออนุญาตให้กับกลุ่มนักเดินทางที่มีใจรักเข้าไปสัมผัส เพราะเส้นทางถือว่าทุลักทุเลทีเดียว

น.ส.ปาริดา ใยบัว อีกหนึ่งสาวทีมสำรวจ กล่าวว่า ป่านี้มีความอุดมสมบูรณ์เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ มีต้นไม้ใหญ่เยอะมาก เส้นทางถือว่าทุรกันดารต้องใช้เวลาเดินเท้าหลายชั่วโมง เจอทุกสภาพ ใครจะมาต้องทรหดสุดๆ เมื่อถึงบนยอดเขาแล้ว ขาลงต้องใช้เชือกโรยตัวลงมาจากหน้าผาสูงหลายเมตร เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติพุเตยคนหนึ่งให้ข้อมูลว่า เขาผ่าซีกนี้เคยให้สัมปทานตัดไม้ แต่เมื่อประกาศพื้นที่อุทยานแห่งชาติเมื่อปี 2541 ก็ไม่มีใครบุกรุก ทำให้ต้นไม้โตอุดมสมบูรณ์มากขึ้น สภาพโดยทั่วไปถือว่ามีความสวยงามมาก ในอนาคตถ้าเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวน่าจะมีนักท่องเที่ยวมากันมาก เขาผ่าซีกทุกวันนี้ยังไม่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว การสำรวจครั้งนี้มีเป้าหมายหลักคือการประกาศให้รู้ว่าเรายังมีผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์นี้อยู่ เป็นการป้องกันก่อนที่จะถูกบุกรุกจากนายทุน ลงทุนให้ชาวบ้านปลูกยาง เมื่อป่าเริ่มเสื่อมก็จะเข้ามาทำรีสอร์ต เหมือนชะตากรรมของป่าหลายแห่งที่ผ่านมา มาร่วมอนุรักษ์ป่าเขาผ่าซีกให้เป็นมรดกแก่ลูกหลานด้วยกัน

Credit :  //www.khaosod.co.th/

Create Date : 18 ธันวาคม 2553		0 comments
Last Update : 18 ธันวาคม 2553 9:02:21 น.
Counter : 1600 Pageviews.
Share Tweet