ปิดฉากไปแล้ว สำหรับศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 ที่ประเทศไทย ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 1-18 พ.ย.ที่ผ่านมา แม้จะเริ่มต้นอย่างตะกุกตะกัก แต่สุดท้าย ภาพรวมที่ออกมาก็ทำให้ ศึกเวิลด์คัพครั้งนี้ ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี...

และเพื่อเป็นการส่งท้าย "ทีมข่าวกีฬาไทยรัฐออนไลน์" จึงขอรวบรวมเหตุการณ์ที่สุด และน่าสนใจ ซึ่งเกิดขึ้นในทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้ ไม่ว่าจะในหรือนอกสนาม มาให้แฟนๆ ได้จดจำกันอีกครั้ง ก่อนจะพบกันใหม่อีก 4 ปีข้างหน้า

ยอดเยี่ยมที่สุด : ทีมบราซิล / เนโต (บราซิล)

ต้องยกให้กับทีมแชมเปีย  "แซมบ้า" บราซิล ที่สามารถป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ และเป็นแชมป์สมัยที่ 5 ของตัวเอง มากที่สุดในประวัติศาสตร์ จากการแข่งขัน 7 ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งก่อนทัวร์นาเมนต์ พวกเขาก็ถูกยกให้เป็นทีมเต็งที่จะได้แชมป์ และก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง เมื่อทำผลงานชนะรวดในรอบแรก ยิงไป 20 ประตู เสียเพียง 3 ประตู เข้ารอบ 16 ทีมในฐานะแชมป์กลุ่มซี ก่อนถล่ม ปานามา 16-0, ชนะ อาร์เจนตินา 3-2 (ต่อเวลา), ชนะ โคลอมเบีย 3-1 และชนะ สเปน 3-2 (ต่อเวลา) ในรอบชิงชนะเลิศไปอย่างสนุกตื่นเต้น แถมยังได้เนโต นักเตะของทีม ผู้ยิงประตูชัย ก็ยังคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์นี้ไปครองอีกด้วย

พลิกล็อกที่สุด : หมู่เกาะโซโลมอน ชนะ กัวเตมาลา 4-3

แมตช์นี้ นอกจากจะพลิกล็อกที่สุดแล้ว ยังถือว่ามีความหมายที่สุด ไม่เฉพาะกับทีมหมู่เกาะโซโลมอน ที่คว้าชัยชนะได้เป็นครั้งแรกในศึกฟุตซอลโลกของพวกเขาแล้ว ยังเป็นเกมที่ช่วยให้ทีมไทยได้สิทธิ์ผ่านเข้ารอบสอง ศึกเวิลด์ คัพ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อีกด้วย ซึ่งเกมนี้หมู่เกาะโซโลมอน ทำเซอร์ไพรส์ พลิกคว่ำ กัวเตมาลา 4-3 ในเกมรอบแรก กลุ่มเอฟ นัดสุดท้าย จากประตูชัยของ แอนโธนี ทาโล ผู้รักษาประตูดาวรุ่งของทีม ช่วงท้ายเกม

ม้ามืดที่สุด : โคลอมเบีย

คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากทีมชาติโคลอมเบีย ซึ่งแม้ฟอร์มในรอบแรก จะไม่ได้โดดเด่นอะไร เพราะอยู่ในสายไม่หนัก และเข้ารอบมาด้วย อันดับ 2 ของกลุ่มเอฟ แต่พวกเขาก็แสดงให้เห็นว่า ความสำเร็จไม่ได้มาเพราะฟลุกหรือโชคช่วย เมื่อสามารถล้มทีมอันดับโลกสูงกว่า อย่าง อิหร่าน 2-1 ในรอบ 16 ทีม, ชนะ ยูเครน 3-1 รอบ 8 ทีม มาได้ ก่อนจะพ่ายให้กับ บราซิล อย่างสูสี 1-3 ในรอบตัดเชือก ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่สุดยอดแล้ว สำหรับทีมที่เพิ่งผ่านเข้ามาเล่นฟุตซอลเวิลด์คัพ เป็นครั้งแรกอย่างพวกเขา

ส้มหล่นที่สุด : ทีมชาติไทย

ต้องขอบคุณ หมู่เกาะโซโลมอน ที่พลิกล็อกเอาชนะ กัวเตมาลา ในนัดสุดท้าย รอบแบ่งกลุ่ม 4-3 เพราะหลังจากที่ไทยแพ้ให้กับปรากวัย ทำให้ทีม "ช้างศึก" จบอันดับ 3 ของสายเอ มี 3 คะแนน จากการชนะนัดเดียวเหนือคอสตาริกา 3-1 จากนั้นแพ้ 2 นัดรวดให้กับ ยูเครน 3-5 และปารากวัย 2-3 ต้องลุ้นเข้ารอบสอง ในฐานะทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 ทีม เรียกได้ว่าจนถึงวันสุดท้ายของรอบแรก ก่อนที่ไทยจะได้เข้ารอบ 16 ทีมครั้งแรกในประวัติศาสตร์แบบเฉียดฉิวที่สุด ชนิดต้องนั่งนับลูกได้เสียกันเลย

ยิงมากที่สุด : เอเดอร์ ลิมา (รัสเซีย) / ทีมบราซิล

สำหรับนักเตะที่ยิงประตูมากที่สุดและคว้าตำแหน่งดาวซัลโวไปครองประจำปีนี้ ได้แก่ เอเดอร์ ลิมา ดาวยิงของทีมชาติรัสเซีย โดยเขาซัดไปทั้งสิ้น 9 ประตู จากการ 5 เกมที่ผ่านมา ส่วนทีมที่เกมรุกสุดโหด เจาะตาข่ายคู่ต่อสู้ได้มากที่สุด คือ ทีมชาติบราซิล โดยทำไปทั้งสิ้น 45 ประตู จาก 7 เกม ตั้งแต่รอบแรก จนถึงนัดชิงชนะเลิศ

ประตูประทับใจสุด : ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง (กับคอสตาริกา), กฤษดา วงศ์แก้ว (กับสเปน)

เชื่อว่ามีหลายประตูเทพๆ ที่เกิดขึ้นในรายการนี้ แต่ถ้าถามว่าประตูไหนประทับใจที่สุดสำหรับคนไทย ก็คงต้องเป็นประตูที่ทีมชาติไทยทำได้ ซึ่งมี 2 ลูกที่ถึงขนาดฟีฟ่ายกให้เป็นประตูยอดเยี่ยมประจำวัน ได้แก่ ลูกยิงสุดเหนือชั้น ของ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ที่ได้บอลยาวก่อนรับบอลพลิกตวัดยิงผ่านแสกหน้าโกล์ เข้าไปอย่างเหนือชั้น ในเกมชนะ คอสตาริกา 3-1 และอีกลูกเป็นผลงานของ กฤษดา วงศ์แก้ว ที่ความสวยอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ก็เป็นประตูแห่ง "ความพยายาม" ได้ใจแฟนบอล ช่วยให้ไทยตีไข่แตก สเปน ก่อนพ่ายไป 1-7 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

ชนะมากที่สุด : 16-0

มี 2 เกมในทัวร์นาเมนต์นี้ ที่มีการถล่มประตูกันมากที่สุด เริ่มจากรอบแบ่งกลุ่ม เป็นเกมนัดแรก สายเอฟ ซึ่งรัสเซีย ถล่มเอาชนะ หมู่เกาะโซโลมอน ไปอย่างขาดลอย 16-0 จากการยิงชอง เอเดอร์ ลิมา 7 ประตู, เซอร์เก เซอร์กีฟ กับ อเล็กซานเดอร์ ฟูกิน คนละ 2 ประตู​, ซิริลโอ, ปูลา, ดิมิตรี ปรูดนิคอฟ, โรบินโญ และ พาเวล ซูชิลิน อีกคนละ 1 ประตู และอีกนัดเป็นเกมที่ บราซิล ชนะ ปานามา 16-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยเป็นผลงานของ เจ กับ อารี คนละ 3 ประตู, เฟอร์นานดินโญ, โรดริโก กับ ราฟาเอล คนละ 2 ประตู และ ซิมี, เนโต, วินิซิอัส และ ฟัลเกา คนละ 1 ประตู

เหนียวที่สุด-รั่วสุด : รัสเซีย / หมู่เกาะโซโลมอน

ได้แก่ ทีมชาติรัสเซีย ที่เสียประตูไปเพียง 3 ลูกเท่านั้นในทัวร์นาเมนต์นี้ โดยในรอบแรก จนถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย พวกเขายิงไป 30 ลูก และไม่เสียประตูให้กับทีมใดเลย ก่อนแนวรับของ ขุนพล "หมีขาว" จะแตก โดน ทีม "กระทิงดุ" สเปน ยิงเฉือนเอาชนะไป 3-2 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย กระเด็นตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ส่วนทีมที่เสียประตูมากที่สุด ได้แก่ หมู่เกาะโซโลมอน ที่โดนถลุงไป 30 ประตู ในรอบแรก ของกลุ่มเอฟ โดยทำผลงาน แพ้ รัสเซีย 0-16, แพ้ โคลอมเบีย 3-11 และ ชนะ กัวเตมาเล 4-3

หล่อที่สุด : กาเบรียล ลิมา (อิตาลี), เซร์คิโอ โรมาโน (อิตาลี)

ปฏิเสธไม่ได้ว่า 2 นักฟุตซอลจากทีมชาติอิตาลี กลายเป็นกลายเป็นขวัญใจแม่ยกในศึกเวิลด์ คัพ 2012 ที่ประเทศไทยไปเสียแล้ว จากหน้าตาอันหล่อเหลา คมเข้มบาดใจ ไม่แปลกที่จะได้ใจแฟนบอล โดยเฉพาะสาวๆ ไปเต็มๆ โดยทัวร์นาเมนต์นี้ ลิมา (เบอร์ 13) ได้ลงเล่นให้ทีม "อัซซูรี" ไป 7 นัด ยิงได้ 3 ประตู ขณะที่ โรมาโน (เบอร์ 4) ลงเล่น 6 นัด ทำไป 2 ประตู พร้อมกับช่วยให้ อิตาลี คว้าอันดับ 3 ไปครองเป็นสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ

เกิดที่สุด : ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง (ไทย)

เห็นจะเป็น "เจ้าอาร์ม" ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง กองหน้าโต๊ะเล็กทีมชาติไทย วัย 23 ปี ของทีม ชลบุรี บลูเวฟ (ชลบุรี ธอส.อาร์แบ็ค) ที่ตอนนี้ ถูกยกให้เป็นนักฟุตซอลเบอร์ 1 ของไทยไปแล้ว แม้ว่าจะไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ใดๆ ได้ แต่การช่วยซัดไป 3 ประตู และพาทีม "ช้างศึก" ทะลุเข้าถึงรอบสองครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และขึ้นทำเนียบเป็นนักเตะไทยที่ยิงมากสุดในศึกเวิลด์ คัพ ก็ทำให้ชื่อของเขาได้รับการพูดถึงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา นับตั้งแต่พาทีมไทยได้รองแชมป์ชิงแชมป์เอเชีย 2012 เมื่อกลางปีนี้

ซุปตาร์ที่สุด : ฟัลเกา (บราซิล)

ยังคงเป็น "เทพเจ้าฟุตซอล" ฟัลเกา ซุปเปอร์สตาร์ จากทีมบราซิล วัย 35 ปี ที่แม้ทัวร์นาเมนต์นี้ จะโดนอาการบาดเจ็บรบกวนตั้งแต่นัดแรก รอบแบ่งกลุ่ม กับ ญี่ปุ่น จนต้องพักแข้งไปหลายนัด แต่เขาก็ยังได้รับความสนใจอย่างมากจากแฟนบอล รวมถึงผู้เล่นของบรรดาทีมที่เข้าแข่งขันจากทั่วโลก ก็ต่างยกให้เขาเป็น "ไอดอล" แห่กันมาขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันใหญ่ ซึ่งเมื่อเขากลับมาลงเล่นได้อีกครั้ง เจ้าพ่อโต๊ะเล็กแซมบ้า ก็แผลงฤทธิ์ ทั้งที่ไม่สมบูรณ์ ซัดประตูให้ บราซิล 3 ลูก รวมถึงนัดสำคัญ ชิงดำกับ สเปน ที่เขายื้อลมหายใจให้ทีม ด้วยการลงมายิงประตูตีเสมอ 2-2 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ ก่อนที่สุดท้าย บราซิล จะชนะไป 3-2 คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 และเป็นสมัยที่ 4 ของตัวเองด้วย

กองเชียร์น่ารักที่สุด : ญี่ปุ่น

หากใครได้ไปชมเกมการแข่งขันรอบแรกที่สนาม จ.นครราชสีมา ของกลุ่ม ซี บราซิล, โปรตุเกส, ญี่ปุ่น และลิเบีย ต้องบอกเลยว่า กองเชียร์แดนอาทิตย์อุทัย จัดเต็มยกพลมาเชียร์กันแน่นสนาม ทุกเพศทุกวัย แถมยังสร้างสีสันทั้งเสื้อผ้า,หน้าผม, อุปกรณ์การเชียร์ต่างๆ พร้อมช่วยกันส่งเสียง "นิปปอนๆ" กึกก้อง และที่สำคัญ​ ยังเอาใจเจ้าถิ่นด้วยการมีแผ่นป้ายเขียนข้อความภาษาไทย ไม่ว่าจะ "สวัสดีครับ" หรือ  "พวกเราคือเพื่อน เราจะก้าวเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยกัน" อีกด้วย ซึ่งก็เป็นจริง เมื่อไทย กับ ญี่ปุ่น เป็นตัวแทนของเอเชีย ควงแขนกันเข้ารอบ ในฐานะ 1 ใน 4 ทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด ก่อนจะกอดคอกันตกรอบไปพร้อมกันในรอบนี้

ฉาวที่สุด :  แบ็งคอก ฟุตซอล อารีนา

คงหนีไม่พ้นเรื่องของการก่อสร้างสนามแบ็งคอก ฟุตซอล อารีนา หนองจอก ที่ไม่สามารถทำได้เสร็จตามที่กำหนด แม้จะพยายามอย่างเต็มที่ แต่เพราะการเริ่มต้นเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ช้าเกินไป ประกอบกับปัจจัยอีกหลายๆ อย่าง สุดท้าย ฟีฟ่า มีมติไม่ใช้สนามแห่งนี้แข่งฟุตซอลโลก 2012 หลังจากเคยผัดผ่อนให้แล้วหลายครั้ง และทำให้ตอนนี้ จากประเด็นกีฬา จึงถูกโยงไปเป็นประเด็นการเมือง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยมีหลายฝ่ายพากันเข้ามาตรวจสอบหาความจริง และที่สำคัญใครกันที่จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบกับเรื่องฉาว และทำให้ประเทศไทยเสียหน้าในครั้งนี้

เหนื่อยที่สุด : ผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ และ กทม.

งานนี้ กทม.นำโดย ผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ บริพัตร รับไปเต็มๆ เพราะแม้จะพยายามอย่างสุดความสามารถ โดยไม่หวั่นเกรงเสียงคัดค้าน และคำวิจารณ์ใดๆ เดินหน้าก่อสร้างสนาม แบ็งคอก ฟุตซอล อารีนา เต็มสูบ 24 ชม. ตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา แต่สุดท้าย ฟีฟ่าก็ตัดสินใจไม่ใช้สังเวียนดังกล่าวแข่งขันทุกรอบตลอดทัวร์นาเมนต์ เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่ผู้ว่าฯ ก็ยังยืนยันว่า กทม. ไม่เสียแรงเปล่าแน่ เพราะเตรียมโปรแกรมใช้สนามหนองจอก ซึ่งเป็นสมบัติของ กทม. ยาวๆ ไว้แล้วในอนาคต

พิศวงที่สุด : ตั๋วหมด-สนามว่าง

ข่าวก็ออกป่าวๆ ว่า บัตรเข้าชมการแข่งขันฟุตซอลโลก 2012 หลายแมตช์ ถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยง โดยเฉพาะในเกมของทีมชาติไทย ชนิดที่หาซื้อกันไม่ได้เลย แต่ทำไมเรากลับเห็นภาพสนามในจอโทรทัศน์ ยังคงมีที่นั่งว่างโหว่อยู่หลายจุด แถมนอกสนามก็ยังมีการเร่ขาย "ตั๋วผี" เข้าชมกันเกลื่อน ซึ่งจากเพียงแค่ราคาหลักร้อยตามปกติ ก็ทะยานพุ่งสูงเป็นหลักพันเลยทีเดียว เลยทำให้หลายคนสงสัย ที่นั่งผี ดังกล่าวเสียเลยเกิน