ฮอตจริงๆ สำหรับ "เจ้าชายกบ" พิภพ อ่อนโม้ หัวหอกร่างเล็กของทัพ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ที่ซัดแฮตทริกให้กับตัวเอง พร้อมกับช่วยทีมชลบุรี เอาชนะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 4-3 ในเกมศึกไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา

พิภพ คือ นักเตะจอมเก๋าคนหนึ่งที่เข้าโลดแล่นในถิ่นฉลามชลเมื่อสิบปีก่อน และไม่เคยคิดจะย้ายไปไหน จนเจ้าตัวประกาศลั่นว่าจะขอแขวนสตั๊ดกับสโมสรแห่งนี้ หลังจากอยู่ที่ชลบุรี มาตั้งแต่มัธยม จากโรงเรียนอัชสัมชัญศรีราชา ซึ่งเป็นแหล่งที่บ่มเพาะนักเตะรายนี้ให้เป็นดาวจรัสแสงขึ้นมา

"ผมอยู่กับทีมชลบุรี เอฟซี มาตั้งแต่ปี 2005 แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งย้ายไปเล่นให้กับทีมบีอีซี เทโรศาสน 4 ปี และหลังจากนั้นกลับมาเล่นให้ทีมชลบุรีจนถึงปัจจุบันนี้ ยอมรับว่าในช่วงแรกที่เล่นให้ชลบุรีในช่วงที่สโมสรกำลังในโปรวิเชียรลีกนั้น มันแตกต่างกับปัจจุบันมากนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบการจัดการของทีม วิธีการเล่น และประสิทธิภาพของนักเตะในยุคนั้น ซึ่งผมคิดว่ายุคนี้ฟุตบอลบ้านเราเริ่มเป็นอาชีพมากขึ้นแล้ว นักเตะทุกคนต้องรู้จักหน้าที่ของตัวเองในการรับผิดชอบ ส่วนเรื่องค่าเหนื่อยในอดีต ผมดูแล้วคงจะต่างกันมากเลยทีเดียว"

ใครจะไปเชื่อว่า แฮตทริก ที่สนามไอโมบาย สเตเดียม เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คือ แฮตทริกเปิดซิงครั้งแรก ของกองหน้าวัย 33 ปี จากจำนวนประตูกว่า 66 ลูก ที่ถล่มให้ ชลบุรี เอฟซี ในลีกสูงสุด ซึ่งเขายอมรับรู้สึกว่าประทับใจทุกลูกที่ตนเองทำได้

"เชื่อไหมว่าเป็นครั้งแรกของผมที่ผมยิงประตูถึง 3 ลูกในสีเสี้อชลบุรีในฟุตบอลลีก และก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เพราะเกมที่ผมยิงได้นั้นเป็นเกมระดับบิ๊กแมตช์ด้วย ที่สำคัญการที่ผมยิงประตูได้เยอะขนาดนี้ ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ รวมทีมและโค้ช รวมถึงแฟนบอลชาวฉลามชลที่ให้กำลังใจผมมาโดยตลอด"

อย่างไรก็ตาม พิภพ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุด ของการทำให้ทีมชลบุรี เอฟซี คว้าชัยชนะให้ได้ทุกเกม พร้อมกับ พาทีมได้แชมป์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะเดียวกัน ตนก็จะพยายามยิงประตูให้ถึง 100 ลูก ให้ได้อีกด้วย

ก่อนหน้านี้ พิภพ เคยได้แชมป์กับ ทีม "ฉลามชล" มาแล้ว 7 รายการได้แก่ แชมป์โปรลีกปี 2005 , ไทยลีก 2007 , แชมป์ถ้วย ก 4 สมัย และ แชมป์เอฟเอคัพ ขณะที่สถานการณ์ล่าสุดในไทยพรีเมียร์ลีก ตอนนี้ ชลบุรี แซง บุรีรัมย์ ขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูง ได้สำเร็จ โดยมี แต้มตามหลัง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 7 คะแนน แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด

"ผมมองว่ายังเหลืออีกหลายเกมนะ เพราะการแข่งขันก็มีสูงขึ้น อยู่ที่ว่าตัวผู้เล่นของเราจะพร้อมมากน้อยแค่ไหนในการลงเล่นแต่ละแมตช์ ซึ่งผมมองว่าต้องดูกันเป็นเกมต่อเกมไป แต่หวังที่คว้าแชมป์ให้ได้เหมือนกันอย่างถ้วยไทยลีกและเอเอฟซีคัพ ที่ผมตั้งเป้าไว้ อย่างถ้วยสโมสรเอเชียผมเองก็อยากพาทีมเป็นแชมป์รายการนี้มาก เพราะจะได้สร้างชื่อเสียงให้กับสโมสรและประเทศชาติของเรา"

แม้จะโชว์ฟอร์มดีกับสโมสรอย่างต่อเนื่อง แต่ยามที่ถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติ "กัปตันโม้" ของเรา กลับไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งอย่างที่เล่นให้ทัพ "ฉลามชล" ได้เลย ซึ่ง เจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเรื่องของความมั่นใจ และ องค์ประกอบภายในทีมชาติที่แตกต่างจากสโมสร

"ผมคิดว่าอยู่ความมั่นใจในการกล้าเล่นบอลนะ แต่ขณะที่ผมเล่นให้กับทีมชาติในอดีตที่ผ่านมาอาจจะดูแล้วไม่เข้าท่า ก็คิดว่าคงเป็นเรื่ององค์ประกอบของทีมชาติด้วยวิธีการเล่นที่แตกต่างกับสโมสรที่เราเล่นอยู่ทุกวัน แต่โดยส่วนตัวผมเองก็ยังหวังที่อยากเข้าไปรับใช้ทีมชาติไทยอีกสักครั้ง เพราะมันเป็นความหวังของนักฟุตบอลทุกคนที่เล่นฟุตบอลแล้วอยากติดธงที่หน้าอก และผมเองก็อยากยืนร้องเพลงชาติไทยก่อนลงแข่งขัน"

กับวัยที่มากขึ้น พิภพ ยืนยันว่า ไม่มีปัญหา เพราะทุกวันนี้ตนเองยังสนุกกับการเล่นฟุตบอล แม้จะมีปัญหาในเรื่องสภาพร่างกายบ้าง แต่ทั้งนี้ ก็ต้องอยู่ที่ความรับผิดชอบดูแลร่างกายให้สูงขึ้นมากกว่าเดิม ด้วยการกินอาหารเสริมบำรุงร่างกาย พร้อมกับพักผ่อนให้เพียงพอ และฝึกซ้อมตามโปรแกรมที่ทางโค้ชได้วางไว้ อย่างเคร่งครัด แต่หากจะต้องแขวนสตั๊ด เขาก็จะเลือกปิดฉากอาชีพค้าแข้งกับสโมสรแห่งนี้แน่นอน

"ผมคงเล่นให้จบกับที่สโมสรแห่งนี้ เพราะตัวเองก็เกิดที่นี่ สโมสรแห่งนี้ เขาสร้างผมให้มีทุกวันนี้เป็นพิภพ อ่อนโม้ ที่คนรู้จักกัน และรู้สึกดีมากจนบอกไม่ถูก และผมดีใจมากเลยที่ทางสโมสรให้เกียรติเอานามสกุลของครอบครัวผม (อ่อนโม้ มีทติ้งรูม) มาตั้งเป็นชื่อห้องประชุมของสโมสรชลบุรี และก็รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติแทนวงศ์ตระกูลของผมด้วย"

ส่วนท่าดีใจลูบแขนตัวเองของ เจ้าชายกบ ที่หลายคนอดยิ้มและสงสัยไม่ได้ว่ามันหมายถึงอะไรกันแน่ เขาเปิดเผยที่ไปที่มาว่า  ท่าดีใจดังกล่าว จริงๆ แล้ว ตนอยากมีส่วนร่วมกับแฟนบอล โดยส่งสัญญาณว่า ยิงประตูได้แล้ว ขนแขนลุกซู่ ท่ามกลางกองเชียร์ที่ล้นสนามแข่งขันนั่นเอง

"สุดท้ายนี้ ผมอยากขอบคุณแฟนบอลที่คอยให้กำลังใจตัวผมและตามเชียร์สโมสรชลบุรี เอฟซี มาโดยตลอด"

และนี่คือคำขอบคุณ สั้นๆ แต่เชื่อว่าคงกินใจแฟนฉลาม จากกัปตันคนโตตัวเล็กอย่าง "พิภพ อ่อนโม้"...