ทนาย เผย พี-ปรเมศวร์  เตรียมวางเงิน 8 แสนชดเชย ให้เหยื่อกระสุน ยืนยันไม่หวังผลในทางคดี นัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก 4 มี.ค.57...

วันที่ 26 ส.ค.56 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 505 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง 63 ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในคดี ที่พนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พี-ปรเมศวร์ สิงห์โพธิ์ อายุ 33ปี นักแสดงตัวประกอบ ช่อง 3 เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา, มีอาวุธปืนของผู้อื่นที่ได้รับอนุญาตไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้าน

โดยโจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 17 ม.ค.56 เวลา 05.00 น. จำเลยได้มีอาวุธปืนของบุคคลอื่นซึ่งได้รับใบอนุญาต และเครื่องกระสุนปืน โดยพกพาอาวุธนั้นไปในเมือง หรือหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วได้ใช้อาวุธปืนนั้น ก่อเหตุยิง นายนพปฎล อธิบาย หรือ เอปาน อายุ 44 ปี หุ้นส่วนสถานบันเทิงชื่อดัง “MUSE” ที่บริเวณศีรษะ กระสุนเข้าที่หว่างคิ้วซ้าย ทะลุไปยังสมองซีกซ้าย จนเป็นเหตุให้นายนพปฎลเสียชีวิต เหตุเกิดที่ลานจอดรถอาคารเอท (8)ทองหล่อ ปากซอยทองหล่อ 8 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมาย ซึ่งในชั้นสอบคำให้การ จำเลยให้การรับสารภาพในข้อหาพกพาอาวุธ ฯ รวม 3 ข้อหา แต่ให้การปฏิเสธต่อสู้คดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายฯ โดยอ้างเหตุบันดาลโทสะ

ในวันนี้ นายปรเมศวร์ เดินทางมาที่ศาลพร้อมด้วย นายเอกรัฐ ฐปนานนท์ ทนายความ โดยอัยการโจทก์ได้แถลงระบุบัญชีพยานที่จะนำสืบในคดีนี้ รวมจำนวน 18 ปาก ขณะที่นางทองใบ ไพรสน มารดาของนายนพปฎล ได้ยื่นคำร้องขอเป็นโจทก์ร่วมด้วย ซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุญาต ซึ่งทนายความโจทก์ ร่วมแถลงขอนำสืบพยาน 4 ปาก รวมพยานฝ่ายโจทก์เป็น 22 ปาก ส่วนทนายจำเลยได้ระบุบัญชีพยานเพียงปากเดียวคือตัวจำเลยเอง โดยศาลกำหนดนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก ในวันที่ 4 มีนาคม 2557 เวลา 09.00 น. และให้นัดสืบพยานจำเลย1นัด ในวันที่ 25 มีนาคม 2557 เวลา 09.00 น.

ด้าน นายเอกรัฐ ทนายความ เปิดเผยว่า จำเลยได้นำสืบพยานคือตัวเองเพียงปากเดียว เพราะยังติดใจในประเด็นเรื่องเจตนาของการกระทำ ซึ่งจำเลยกระทำการไปเพราะเกิดจากการบันดาลโทสะ โดยเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา จำเลยได้นำเงินสดจำนวน 2 แสนบาท ไปวางไว้เป็นหลักประกันที่ศาล เพื่อที่จะใช้เป็นค่าเยียวยาผู้เสียหาย ซึ่งขณะนี้ จำเลยกำลังอยู่ระหว่างหาเงินสด ไปวางเพิ่มอีก เพื่อให้ได้วงเงิน 8 แสนบาท เพื่อเยียวยาให้กับผู้เสียหายต่อไป ส่วนทางญาติของผู้ตายจะยอมรับเงินเยียวยาหรือไม่นั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเรามีความตั้งใจที่จะเยียวยาผู้เสียหาย ไม่ได้เป็นการหวังผลทางคดี ส่วนการที่มารดาของผู้ตายเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วยนั้นก็ไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายแต่อย่างใด โดยขอเป็นโจทก์ร่วมในคดีอาญาเท่านั้น