ทีมจับจระเข้เมืองสุพรรณบุรียังคงมือเปลา จับจระเข้ไม่ได้ แม้มีชาวบ้านรายงานว่าพบจระเข้ขนาด 3 ม.ในบริเวณใกล้เคียง ด้านผู้ว่าฯ สั่งการให้ทุกหน่วยงานตรวจหาที่มาของจระเข้จำนวนมาก ในแม่น้ำท่าคอย และตรวจสอบฟาร์มต่างๆ ถึงความแข็งแรงของฟาร์มด้วย...

จากกรณีเกิดเหตุระทึกขวัญจระเข้ตัวเขื่องพุ่งเข้างับขาของนายประสิทธิ ดาวเรือง อายุ 56 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี จนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขณะที่นายประสิทธิ ขึ้นมาจากแม่น้ำท่าคอย บริเวณบ้านท่าแร่ แล้วเดินผ่าพงหญ้าที่จระเข้ตัวดังกล่าวกำลังกกไข่อยู่ นายประสิทธิ จึงได้ใช้มีดดายหญ้าฟันหัวจระเข้จึงหลดพ้นนาทีวิกฤติมาได้ ขณะที่จระเข้ตัวดังกล่าว เผ่นหนีลงแม่น้ำท่าคอยไป พร้อมกับทิ้งไข่ที่รอฟักมีอยู่จำนวน 20 ฟองไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่จากประมงจังหวัดได้มาเก็บเอาไข่จระเข้ไปเก็บรักษาไว้ ก่อนจะตามจับจระเข้ขนาดความยาวเกือบ 2 เมตรมาได้ 1 ตัว ในบ่อน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ แต่ได้รับการยืนยันจากนายประสิทธิ ว่าเป็นคนละตัว ทำให้ทีมชุดไล่ล่าจากสนง.ประมงและชาวบ้าน ต้องจัดกำลังออกไล่ล่ากันต่อ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้วิถีชาวบ้านกับแม่น้ำท่าคอยต้องหยุดลง เพราะไม่มีใครกล้าลงแม่น้ำ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทีมชุดไล่ล่าผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยอนุรักษ์ทรัพยากร ประมงด่านช้าง พร้อมกำลังตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้กระจายกำลังกันออกตามล่าจระเข้ที่ได้รับการยืนยันจากชาวบ้านว่า เคยมีการพบเห็นว่า มีอยู่นับ 10 ตัวทั้งในแม่น้ำท่าคอย และตามพงหญ้าริมแม่น้ำตลอดทั้งคืน แต่ยังไม่สามารถติดตามจับได้ ขณะที่ชาวบ้านในละแวกนั้นหลายคน เช่น นายสุทิน สีนวน อายุ 48 ปี ที่มีบ้านอยอยู่ริมแม่น้ำท่าคอยเผยว่า ชาวบ้านย่านนี้พบเห็นจระเข้กันมาอย่างต่อเนื่อง และพยายามจะจับ แต่ก็ไม่สามารถจับเป็นได้ จนมีการจับตายไปแล้วหลายตัว

ขณะที่นายสิริพร ขันธพงษ์ อายุ 18 ปี ที่มีบ้านพักอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม. วิ่งหน้าตาตื่นไปพบกับทีมชุดไล่ล่าพร้อมกับแจ้งว่า ขณะที่ตนเดินออกจากบ้านจะไปทำธุระริมแม่น้ำ ได้ไปเจอเข้ากับจระเข้ขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 3 เมตร อยู่ในพงหญ้าทันทีที่เห็นตนจระเข้ตัวดังกล่าวได้หนีลงน้ำไปอย่างรวดเร็ว คาดว่าจระเข้ตกใจที่มาเจอคนเข้า ขณะที่ตนเองก็ตกใจเช่นกัน หลังตั้งสติได้ตนพยายามติดตามไปดูในแม่น้ำแต่ไม่เห็นจระเข้แล้ว หลังรับแจ้งทีมไล่ล่าได้ออกไปตรวจสอบและร่องรอยของจระเข้อยูในจุดที่ได้รับแจ้ง จึงจัดทีมเฝ้าระวังและติดตามดูอย่างใกล้ชิด

ส่วน นายอนันต์ ไชยศักดิ์ นายอำเภอดอนเจดีย์ ที่เข้าไปควบคุมและวางแผนตามล่าจระเข้ กล่าวว่า ตนได้รับคำสั่งจากนายสุภัทร์ ศรีสุนทรพินิต ผวจ.สุพรรณบุรี ให้นำทีมมาติดตามไล่ล่าจระเข้ที่คาดว่ายังมีอยู่อีกนับ 10 ตัว โดยให้จับมาให้ได้เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับประชาชน สำหรับบริเวณแม่น้ำท่าคอยแห่งนี้ มีตำนานที่เล่าขานกันมาอย่างต่อเนื่องว่า ในอดีตเป็นวังจระเข้ ถึงกับมีการตั้งศาลเจ้าพ่อต้นแค พร้อมกับปั้นรูปจระเข้เอาไว้ในศาลด้วย ขณะที่ในช่วงเกิดน้ำท่วมก็มีเหตุจระเข้หลุดออกมาจากฟาร์มเลี้ยงแห่งหนึ่งเกือบ 20 ตัว และไม่สามารถจับได้ ต่อมาชาวบ้านก็ได้เจอกับจระเข้มาตลอด มีทั้งสามารถจับตายและจับเป็นได้ แต่ก็จับได้เพียงไม่กี่ตัว ดังนั้นคราวนี้จะถือโอกาสที่จะต้องพยายามจับมาให้หมด หรืออย่างน้อยก็ต้องจับให้ได้มากที่สุด

ขณะที่ นายสุภัทร์ ศรีสุนทรพินิต ผวจ.สุพรรณบุรี เผยว่า ขณะนี้ตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกตรวจสอบหาที่มาจากของจระเข้จำนวนมาก ที่มาเพ่นพ่านอยู่ในแม่น้ำท่าคอย โดยเฉพาะตามฟาร์มต่างๆ แม้จะเลิกไปแล้ว แต่ต้องหาข้อเท็จจริงมาให้ได้ว่า มีจระเข้หลุด ทั้งเมื่อครั้งเกิดน้ำท่วมและในสถาณการณ์อื่นๆ รวมกี่ตัวกันแน่ จะได้ดำเนินการไล่จับมาให้ครบ นอกจากนี้ยังสั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบฟาร์มเลี้ยงจระเข้ทุกแห่ง ในจ.สุพรรณบุรี ถึงความแข็งแรงในการการเลี้ยงจระเข้ หากพบว่าฟาร์มใดล่อแหลมต่อการเกิดปัญหาจระเข้หลุดออกมาได้ง่าย ให้รีบแก้ไขทันที รวมทั้งให้มีการขึ้นทะเบียนจำนวนจระเข้เอาไว้ให้หมดด้วย.