เด็กหญิงอายุ 10 ขวบยอดกตัญญู อด ๆ อยาก ๆ ดูแลพ่อที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ และน้องชายวัย 7 ขวบ ด้วยน้ำพักน้ำแรง โดยเฉพาะวันหยุดเรียนเสาร์-อาทิตย์ อาศัยไปรับจ้างได้ค่าข้าวประทังชีวิตรวมกับค่าเบี้ยเลี้ยงคนพิการเดือนละ 500 บาท…

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2556 ผู้สื่อได้รับแจ้งจากอาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยสว่างกำแพงเพชร ธรรมสถาน ประจำจุดอำเภอปางศิลาทอง ว่าพบเด็กหญิงมีสภาพน่าสงสาร อายุเพียง 10 ขวบ ต้องดูแลพ่อที่ป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ และยังต้องรับภาระเลี้ยงน้องวัย 7 ขวบอีกคน ความเป็นอยู่ยากลำบาก เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจน

ที่บ้านเลขที่ 363/1 หมู่ 8 ต.โพธิ์ทอง อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร จากการเดินทางเข้าไปดูที่บ้านหลังดังกล่าว พบว่าเป็นบ้านไม้ยกสูง สภาพเก่าเสื่อมโทรม มีลมลอดช่องผ่านกระดานข้างฝาเข้ามาได้ หลังคามุงด้วยสังกะสี ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกมากนัก มีเพียงพัดลมเก่า 1 ตัว หม้อหุงข้าว 1 ใบ ภายในพบ นายวัยพจน์ ชาติรักษ์ อายุ 48 ปี ป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์ แขนและขาซีกซ้ายไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ นอนอยู่ในที่นอนเก่า ๆ ด้านข้างมีเด็กชายธนะพล ชาติรักษ์ อายุ 7 ขวบ กำลังบีบนวดให้กับผู้เป็นพ่อ ด้วยความเป็นห่วงอย่างใกล้ชิด ด้านข้างยังพบเด็กหญิงดวงจันทร์ ชาติรัก หรือน้องนุ๊ก อายุ 10 ขวบ พี่สาวคนโต กำลังเก็บกวาดทำงานบ้าน จัดสำรับข้าว ให้กับผู้เป็นพ่อได้กิน ทำอย่างนี้เป็นกิจวัตรประจำวันทุกวัน ก่อนออกไปรับจ้างทำงานบ้าน เพื่อนำเงินมาเป็นกองทุนชีวิตใช้จ่ายภายในครอบครัว

จากการสอบถามน้องนุ๊ก ทราบว่า กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านโพธิ์ทอง อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ต้องคอยดูแลพ่อ ซึ่งป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์ร่างกายซีกซ้ายเคลื่อนไหวไม่ได้ 3 ปีแล้ว สาเหตุมาจากพ่อมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ได้รับจ้างฉีดยาข้าว เมื่อถึงเย็นพ่อกลับมาที่บ้าน มีอาการปวดหัว จึงได้กินข้าวและกินยาแก้ปวด เข้านอน จนถึงเวลากลางคืน รู้สึกปวดหัวหนักมากขึ้น จึงรุกขึ้นมาเพื่อจะเอายาไปกินอีก แต่เกิดอาการหน้ามืดล้มลงหัวโขกที่เสาบ้าน ทำให้สลบไปนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร หลังจากแพทย์ได้ตรวจรักษาพ่อแล้ว พบว่าเส้นเลือดในสมองอุดตัน จากนั้นพ่อก็เป็นอัมพฤกษ์ตลอดมา ไม่สามารถรับจ้างทำงานได้ ส่วนค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ได้รับเงินเบี้ยยังชีพคนพิการ จากองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ทอง ช่วยเหลือเดือนละ 500 บาท ก็นำมาใช้จ่ายซื้อข้าวกับข้าว ต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด หุงข้าววันละ 1 กระป๋อง กับข้าว 1 อย่าง บางครั้งที่มีเพื่อนบ้านนำกับข้าวมาให้บ้าง วันนั้นก็จะประหยัดไปอีกวัน ถ้าเกินกินไม่หมด ก็จะเก็บไว้กินมื้อเที่ยงต่อไป ส่วนกับข้าวที่กินเป็นประจำไข่ทอด ทอดให้ฟู คลุกเคล้ากับน้ำพริกหรือน้ำปลา พออิ่มท้อง แต่ถ้าถึงช่วงที่ข้าวสารที่ใกล้จะหมด เงินเหลือน้อย บางมื้อน้องนุ๊กก็ยอมอด เพื่อให้พ่อและน้องได้กินอิ่ม แต่ละวันจะต้องตื่นตั้งแต่เช้าตั้งแต่ตี 5 ออกมาหุงหาอาหารไว้ให้พ่อ ก่อนจะออกไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน เมื่อถึงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ จะไปรับจ้างทำงานบ้านที่บ้านพักอาจารย์ โดยได้ค่าตอบแทน 120 บาท เงินที่ได้เก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และแบ่งเป็นค่าขนมไปเรียนหนังสือ วันละ 5 บาท นำเงินไปฝากธนาคารโรงเรียนอีก 5 บาท ขณะนี้มีอยู่ในบัญชี 200 กว่าบาทแล้ว ออมไว้ยามพ่อป่วย ต้องการเงินรักษา เมื่อเอยถึงแม่ น้องนุ๊กกับพูดด้วยนำเสียงสั่นคลอ แม่ได้แยกทางกับพ่อไปนานกว่า 10 ปีแล้ว มีอาการป่วยทางสมองเหมือนกัน จนปัจจุบันไม่ทราบข่าวแม่อีกเลย มีความหวังเพียงอย่างว่า อยากให้พ่อหายป่วย สามารถช่วยเหลือตนเองได้ หลังจากดูแลพ่อแล้ว ได้ใช้เวลาต่อจากนั้น ทำการบ้าน อ่านหนังสือ ให้ทันเพื่อน ๆ เรียนเก่ง ๆ จนจบในระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ได้เรียนในระดับชั้นต่อไปจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้แค่นี้ก็พอใจแล้ว เมื่อจบจะหางานทำ เพื่อหาเงินเลี้ยงพ่อและน้อง ให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้

หากผู้ใจบุญสามารถให้ความช่วยเหลือ ครอบครัวเด็กหญิงดวงจันทร์ ชาติรักษ์ ได้ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาปางศิลาทอง รหัสสาขา 0517-ปางศิลาทอง บัญชีเลขที่ 020023846691 ชื่อสาขา ปางศิลาทอง ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี เด็กหญิงดวงจันทร์ ชาติรักษ์ หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ นายพงศกร แป้นใจ ผู้ใหญ่บ้าน 08-7846-7967.