อดีตนายกทักษิณ วิดีโอลิงก์ อยากให้คนไทยหยุดความแตกแยก ร่วมเป็นหนึ่งเดียว กลางงานมอบชุดนักเรียน คนโคราช รักนายกทักษิณ...

นครราชสีมา เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้(31 ก.ค. 2556) ที่ หอประชุมเปรม ติณสูลานนท์ หลังศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ห้องผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา บนศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายประชา ประสพดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีมอบชุดนักเรียน และเป็นประธานจัดงาน "วันรวมพลังคนโคราช รักนายก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีประเทศไทยคนที่ 23 นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ ประชาธิปไตยกินได้" โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีต รมช.คมนาคม ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย , นายสุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย โฆษกกรรมาธิการติดตามงบประมาณ , นายประชาธิปไตย คำสิงห์นอก เลขานุการ รมช.มหาดไทย ร่วมพิธี และกล่าวรายงาน โดยมีนายวินัย–นางราตรี บัวประดิษฐ์ ผวจ.นครราชสีมา และนายกเหล่ากาดชาดจังหวัดฯ รับมอบและมอบชุดนักเรียนให้กับนักเรียนโรงเรียนต่างๆ ทั้ง 32 อำเภอ

ทั้งนี้ ด้านบนเวทีได้มีการนำป้ายขนาดใหญ่สีแดงมีรูปภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สวมชุดสูทสีเข้ม ผูกไทสีฟ้า ยืนกอดอก สีหน้ายิ้ม เขียนว่า คนโคราชรักนายกฯ ทักษิณ “วันรวมพลังคนโคราช นายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 26 กรกฎาคม 2556 และเขียนว่า 64 ปี นายกรัฐมนตรีประเทศไทยคนที่ 23 นักสู้ผู้หญิงใหญ่ ประชาธิปไตยกินได้  ส่วนกิจกรรมจะมีการอภิปรายผลงานนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร และมอบชุดนักเรียน จำนวน 19,665  ชุด

ต่อมานายประชา ประสพดี , นายประเสริฐ จันทรรวงทอง , นาย ประชาธิปไตย คำสิงห์นอก และนายสุชาติ ภิญโญ ได้ร่วมกันนั่งที่โต๊ะโดยมีจอคอมพิวเตอร์ และกล้องสำหรับวิดีโอลิงก์ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้วิดีโอลิงก์มายังบริเวณจัดงานที่ในหอประชุมเปรมติณสูลานนท์ จ.นครราชสีมา โดยตรง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะครู อาจารย์ นักเรียน สถาบันการศึกษาที่นั่งอยู่ในหอประชุมรวมกว่า 300 คน รับฟังกันอย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งหลายคนใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายเก็บไว้ด้วย

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วิดีโอลิงก์ กล่าวว่า ขอบคุณนายประชา ขอบคุณ ส.ส.โคราช ส.ส.ภาคอีสาน และพี่น้องประชาชนข้าราชการทุกคน วันนี้อยากมาทักทายพี่น้องที่มาโดยเฉพาะที่มารับชุดเครื่องแบบนักเรียน คงได้ยินกันชัด ผมขอบอกพี่น้องว่า ผมอยู่เมืองนอกมีแต่ความห่วงใยพี่น้องประชาชน ห่วงใยประเทศไทย และวันนี้ความขัดแย้งทั้งหลายที่เกิดขึ้นในเมืองไทยก็อยากเห็นมันยุติโดยเร็ว และก็อยากให้ทุกคนก้าวข้ามพ้นจากผมซะ อย่าไปมองทุกอย่างเป็นที่ผมหมด แพ้หรือชนะก็เป็นเพราะผม แพ้เลือกตั้งก็หาว่าผมเป็นเหตุให้เขาแพ้ คือ ทุกอย่างมันเป็นเรื่องที่จริงๆ แล้วเป็นเรื่องของประชาชน

ถ้าคนทุกคนยอมรับประชาชนแล้วเอาประชาชน นักการเมืองรักประชาชนทุ่มเทให้ประชาชนบ้านเมืองก็ไปได้ดี วันนี้ปัญหาคือว่า ความทุ่มเทให้ประชาชนกับความรักประชาชนมันมีน้อยถึงเกิดปัญหาวันนี้ ต้องยอมรับว่าสังคมไทยความเห็นแก่ตัวมันแรงไปนิดหนึ่ง คิดถึงเรื่องตัวเองมากเกินไป ซึ่งเรื่องนี้มันมีอยู่ในทุกองค์กร ถ้าหากว่าทุกคนเอาองค์กรชาติเป็นหลักและอยู่ในกติกาการเมืองโดยเอาประชาชน เป็นหลักบ้านเมืองจะไปได้ด้วยดี วันนี้สิ่งไหนที่ผมทำให้พี่น้องประชาชนได้ก็ทำ แต่ทำจากที่ห่างไกล สิ่งไหนทำไม่ได้ก็เก็บเอาเป็นความรู้ประสบการณ์ เพื่อถ่ายทอดให้กับรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลได้ทำ แล้วสิ่งไหนที่ขณะนี้รัฐบาลทำแล้วยังทำได้ยาก ทำได้ไม่ดีก็จะแนะนำจากประสบการณ์

แต่ประสบการณ์วันนี้การแนะนำวันนี้ทำได้ยากกว่าเดิม เพราะมันเป็นจากว่ารัฐธรรมนูญของประเทศมันเปลี่ยนไป พื้นฐานของประชาธิปไตยของเราเป็นพื้นฐานแห่งความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน จึงเกิดความขัดแย้งมากขึ้น ถ้าพื้นฐานทั้งหมดเกิดจากความไว้วางใจซึ่งกันและกันและทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ในการทำให้ประชาชนทุกอย่างมันก็จะเป็นไปด้วยดี ฉะนั้นก็เลยอยากจะบอกกับพี่น้องประชาชนทุกคนว่า ผมรักและเป็นห่วงทุกคน เพื่อนข้าราชการ เพื่อนนักการเมืองผมรักและเป็นห่วง อยากเห็นทุกคนได้ทำงานให้บ้านเมืองให้ประชาชนเต็มที่ และอยากให้ทุกคนได้คิดว่า เราอยู่ในประเทศไทย เรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเราจะต้องเคารพรักและนับถือและก็อย่าทำอะไรให้กระทบเทือนอะไรทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เราก็ทำงานของเราในอาชีพของเราให้ดีที่สุด

นักการเมืองก็ทำหน้าที่ของการเมืองเพื่อประชาชน เพื่อนข้าราชการก็ทำหน้าที่รับใช้ประชาชนและความมั่นคงของประเทศชาติ ก็อยากจะฝากทุกคนว่า ในวาระที่พวกเรามาพบกันเพื่อรับมอบเครื่องแบบนักเรียนนั้น เป็นการแสดงเจตจำนงของความที่เราทุกคน ณ ที่นี่รักและห่วงใยเยาวชนของชาติ อยากเห็นเยาวชนของชาติเติบโตมาด้วยสภาพความเป็นอยู่ทั้งกายและใจ ทั้งปัญญาที่ดี ให้มาช่วยกันแก้ปัญหาบ้านเมืองต่อไป

แต่แน่นอนเมื่อสักครู่นี้ผมฟังจอห์น เคอร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา พูดที่อิสราเอล ไปประชุมพูดเรื่องความขัดแย้งระหว่างปาเลสไตส์กับอาสราเอล โดยเขาพูดอยู่คำหนึ่ง ผมฟังแล้ว ผมปลื้มใจจริงๆ และผมอยากให้คนไทย โดยเฉพาะนักการเมืองปัจจุบัน ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในปัจจุบันหรืออำมาตย์หรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าใครหรืออำมาตย์หรือใครก็แล้วแต่ ให้คิดถึงคำพูดตรงนี้ เขาพูดว่าอะไรรู้ไหมครับ เขาบอกว่า “ความขัดแย้งในวันนี้ต้องไม่ถูกส่งผ่านไปให้ลูกหลาน เป็นหน้าที่ของเราในปัจจุบันที่จะต้องร่วมกันแก้ปัญหาด้วยกัน ให้ความขัดแย้งมันจบไป ไม่ให้ทิ้งเป็นมรดกให้ลูกหลานต่อไป “อันนี้เป็นสิ่งที่ฟังแล้วชื่นใจมาก เป็นคำพูดของคนที่มีความเป็นนักพูดจริงๆ อยากจะให้ทุกคนที่อยู่ใน ณ ที่นี้ได้สื่อกันว่าเราจะต้องช่วยกันแก้ปัญหาความขัดแย้ง ในโคราชบ้านเราเองก็มีความขัดแย้ง มีความขัดแย้งอยู่ทุกที่ และถามว่าขัดแย้งเพื่อใคร แต่ขัดแย้งแบบไร้สาระ เพราะว่าบางคนก็ไปฟังความโกหกของคน เพราะคิดไม่เป็น ยกตัวอย่างเรื่องอัลกออิดะห์เหมือนกัน ก็ดูแล้วตลก  เป็นเรื่องที่อยากจะให้ทุกคนโดยเฉพาะเด็กนักเรียนต้องหัดคิดให้เป็น เมื่อเราคิดเป็นบ้านเมืองก็จะไปด้วยดี พวกเราก็จะเติบโตได้ดี อยากจะฝากทุกคนว่า ผมรักและห่วงใยทุกคนครับ และทุกอย่างหากทำอะไรได้ก็จะทำให้ทุกอย่าง ขอให้พี่น้องทุกคนมีความสุข ขอบคุณรัฐมนตรี ขอบคุณ ส.ส. ขอบคุณผู้ว่าฯ และผู้ร่วมงาน 

ส่วนที่ทุกคนอยากให้กลับประเทศไทยโดยเร็วนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เอาแค่กฎหมายนิรโทษกรรมให้คนที่ติดคุกอย่างไม่เป็นธรรมยังจะฆ่ากันตายแล้ว ก็ขอให้หวังว่าทุกคนปล่อยวางให้ได้ก็จะดีขึ้น แค่นิดเดียวก็จะฆ่ากันแล้วไม่ไหว ส.ส.ทุกคนของพรรคฯ เที่ยวนี้ทุกคนทำเพื่อพรรคเพี่อไทยมาเยอะมาก พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า การมอบชุดนักเรียนจำนวน 19,665 ชุดของภาคเอกชนสอดคล้องกับวันคล้ายวันเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 23 วันที่ 26 ก.ค. 2556 ที่ ผ่านมา ถือโอกาสมามอบให้เด็กชายและหญิง ท่านอดีตนายกฯ ทักษิณ บอกว่า อยากเห็นความรักความสามัคคี และอยากให้ประเทศไม่เกิดความสับสนเรื่องของการให้ข้อมูลที่เป็นข้อมูลที่จะเป็นพิษทำร้ายสังคมหรือผู้คนในสังคมเดียวกัน ในเรื่องของการต้องการสร้างความสามัคคีในเรื่องของจะให้ทุกคนได้ช่วยกันดูแล สอดส่องเรื่องอะไรที่จะไปแตะไปต้องเรื่องสถาบันที่จะก่อให้เกิดความเสียหาย ทุกคนมีความจงรักภักดีในสิ่งเหล่านี้

ส่วนเรื่องปัญหาในต่างประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็กล่าวแล้วว่า ในต่างประเทศมีมุมมอว่ามันเกิดอะไรขึ้น อยากกรณีคลิปอัลกออิดะห์เป็นคลิปที่ค่อนข้างตลกๆ แต่ท่านก็ไม่ถือสาหาความอะไร ส่วนจะกลับบ้านเมื่อไหร่เร็วช้า ท่านบอกว่า รับได้ แต่ขอให้ความสงบ ความเป็นธรรม กระบวนการประชาธิปไตยในประเทศมันเรียบร้อย ทุกคนได้ประโยชน์ คนที่ทุกข์ร้อน เดือดร้อนต้องสูญเสียหรือต้องรับผลกระทบขอให้เขาได้รับความเป็นธรรมก่อน ส่วนฝ่ายค้านจะโจมตีการวิดีโอลิงก์ของท่านทักษิณนั้น ตนคิดว่าเป็นพฤติกรรมของฝ่ายค้าน หน้าที่ของเขาคือต้องโจมตี เขาไม่เคยชม เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่มีปัญหา ส่วนการจะเปิดพรรคชาติพัฒนารวมกับพรรคเพื่อไทย ตนคิดว่าจะเปิดหรือไม่เปิด ถ้าคนมีใจ ไม่ต้องเปิด เขาก็รวม การจะโฟนอินหรือไม่โฟนอินมันอยู่ที่ใจ ท่านอยากจะเห็นบ้านเมืองนี้ อยากจะเห็นนครราชสีมามีรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ มอเตอร์เวย์ ระบบโครงข่ายการคมนาคม เมืองนี้เป็นเมืองเศรษฐกิจ มันอยู่ที่ใจ ไม่ต้องไปรอโฟนอิน ผู้ใหญ่พูดเขาคุยกันก็จบ แก๊กเดียวก็เรียบร้อยแล้ว

ส่วนกองทัพประชาชนที่จะออกมาเคลื่อนไหวนั้น นายประชา กล่าวว่า การที่มีกองทัพประชาชน ต้องเรียนว่าประชาชนเขาไม่ได้จัดตั้งเป็นกองทัพ ประชาชนเขาอยู่กันเป็นหมู่บ้าน การจัดตั้งเป็นแค่คนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ที่มารวมกันที่ตนเรียกว่านาฬิกาไขลาน คือคนที่มีอายุที่รอกินบำเหน็จบำนาญแล้วเลี้ยงลูกหลานแล้วจัดกองทัพ อย่างนั้นไปใต้กับตน จะไปนราธิวาส ทำไมไม่จัดตั้งกองทัพประชาชนมาช่วยกัน อย่างนี้ต้องชมเชย น่าจะเอาเงินที่เหลือที่เอาไปใช้จ่ายค่าข้าว ค่ากล่อง เครื่องเสียง ค่าม็อบ น้ำดื่ม วิทยากรทั้งหลาย เป็นร้อยเป็นพันล้านเอามาแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนไม่ดีกว่าหรือ มาซื้อถุงยังชีพ คนยากไร้ คนพิการ คนชรา ไม่ดีกว่าหรือ แล้วสร้างสามัคคีตรงนี้ คุณเอาเงินที่ไหนมามากมายที่จะมาจัดตั้งกองทัพประชาชน ไม่ต้องห่วงเราใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด มหาดไทยพร้อมตั้งแต่นาทีแรกที่วันอาทิตย์ขึ้นจนถึงเสร็จภารกิจ เราปฏิบัติตามกติกาสากลหมด ตลอด 24 ชม. เตรียมเสื้อผ้ามาเรียบร้อย โทรศัพท์มือถือ สายชาร์จแบตเตรียมพร้อมหมดเรียบร้อย เราต้องอยู่กับประชาชน อยู่กับความเรียบร้อย ตนอยากวิงวอนขอร้องกองทัพประชาชนว่า ถ้ารักกันจริง รักพี่น้องประชาชน รักประชาชนอย่าเอาเขามาตกระกำลำบากเลย ห้องสุขา กินนอนก็ลำบาก กลับไปรอเลือกตั้งคราวหน้าแล้วมาสู้กัน แข่งกัน นายประชา กล่าว.