:: รีวิว Hada Labo Retinol Lifting & Firming (3D Formula) ฮาดะลาโบะสีแดง รุ่นใหม่ ::

สวัสดีค่ะ วันนี้วามีรีวิวสกินแคร์อีกแล้ว เป็นตัวที่ลองใช้ในช่วง 2 สัปดาห์กว่าๆที่ผ่านมานี้นะคะ
ก็มาเขียนให้ได้อ่านกันเนอะ ยี่ห้อนี้ก็คือ Hada Labo นั่นเองค่ะ วาเคยรีวิวไปหลายตัวแล้ว
แต่วันนี้พิเศษนะ เป็นรุ่นล่าสุดที่เอาเข้ามาขายที่เมืองไทย คือสูตรสีแดง (อมชมพู) 

ฮาดะลาโบะ สีแดง รุ่นใหม่ สูตร เรตินอล 3D

Hada Labo Retinol Lifting & Firming (3D Formula) ซึ่งปกติ ก็อาจจะเคยเห็นว่า
เอ๊ะ รุ่นสีแดงก็มีขายอยู่แล้วไม่ใช่หรอ? อันนี้คนละตัวกันนะคะ เป็นรุ่นนี้มาแทน ซึ่งมันพิเศษคือ
เป็นรุ่นที่เพิ่ม 3D Hyaluronic Acid ที่ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ นุ่ม ชุ่มชื่น ค่ะ 



• 3D Hyaluronic Acid คือ Hyaluronic Acid ชนิดพิเศษ เมื่อซึมเข้าสู่ผิวจะจับตัวกัน 
เพื่อสร้างตาข่ายกักเก็บความชุ่มชื่น ให้อยู่กับผิวได้มากและยาวนาน ยิ่งขึ้น ให้ผิวเรียบเนียน
เปล่งประกายความอ่อนเยาว์ ยาวนานกว่า 
• Retinol Vitamin A ช่วยฟื้นบำรุงผิว และลดเลือนเส้นริ้วรอยบางๆและ ริ้วรอยที่เห็นได้ชัดให้ดูตื้นขึ้น
• Collagen ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และ ยกกระชับผิว ลดโอกาสการเกิดริ้วรอยในอนาคต
• สูตรอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว เพราะไม่มีส่วนผสม ของ แอลกอฮอล์ น้ำมันแร่ น้ำหอม และสี



ซึ่งวันนี้ วาจะมารีวิวทั้ง 4 ตัวเลยค่ะ เริ่มจาก Hada Labo Retinol Lifting & Firming Mask 3D 
ตัวนี้เป็นแผ่นมากส์ชีท ที่เอาไว้สำหรับบำรุงผิวแบบเร่งด่วน หรือใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
วาเป็นคนชอบมากส์หน้ามาก เพราะรู้สึกว่า เวลาหน้าล้าๆ ขี้เกียจทาครีม นอนดึก อะไรแบบนี้
ตื่นเช้ามาหน้าโทรม มากส์จะช่วยชีวิตเราได้แบบเร่งด่วนเลย



สำหรับตัวนี้ แผ่นละ 109 บาท ฉีกซองออกมา แผ่นมากส์ชุ่มฉ่ำมาก แผ่นค่อนข้างใหญ่ เพราะหน้าวาใหญ่
สามารถปิดได้หมดเลย ถือว่าใหญ่ใช้ได้เลยนะเนี่ย 55555 แผ่นไม่หนา ไม่บาง กระชับผิวหน้าได้ดี
แปะลงบนผิวแล้วพอดึงออกมา ไม่รู้สึกว่าเหนียว ค่อนข้างชุ่มชื่นมากทีเดียวค่ะ
อันนี้อย่างที่บอก คือเอาไว้ใช้ตอนสวยด่วนเนอะ ถ้ามากส์เสร็จแล้ว ก็แนะนำให้ทาครีมปกติด้วยนะคะ
เพื่อผลลัพท์ที่ดียิ่งขึ้นค่ะ * mask จะมีจำหน่ายที่ร้าน Watsons เท่านั้นนะคะ



Hada Labo Retinol Lifting & Firming Lotion 3D ตัวนี้เป็นโลชั่นที่ใช้เป็นอันดับแรกค่ะ
ตัวนี้ขนาด 170ml ราคา 620 บาท ซึ่งมีขนาด 30ml ราคา 139 บาท ให้ทดลองใช้ก่อนด้วยนะ
หาซื้อได้ที่ 7-11 เลย





ตัวนี้เป็นโลชั่นที่เนื้อดูข้นๆกว่าโลชั่นของฮาดะลาโบะ สีอื่นๆที่วาเคยลองใช้มานะ ใช้แล้วรู้สึกเลยว่า
มันบำรุงเข้มข้นกว่าจริงๆ เพราะดูเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสาวๆที่ผิวต้องการๆดูแลเป็นพิเศษ
รู้สึกว่า ตบๆลงไปที่ผิวนี่ หน้าฉ่ำ และชุ่มชื่นมากทีเดียวค่ะ ต้องใช้มือตบๆช่วยให้ซึมลงผิว



ตอนแรกๆคนที่ไม่ชิน อาจจะรู้สึกว่า มันหนืดๆไปนิดนึง แต่วาว่ามันดีนะ มันคือความชุ่มชื่นที่รู้สึกได้
พอมันซึมแล้วหน้านุ่มแบบเห็นได้ชัดเลย ทาเผื่อไปที่คอ แขนด้วยนะบางที รู้สึกว่าคุ้มมากๆขวดนี้
ถ้าใครอยากลองเริ่มใช้ แนะนำเป็นตัวนี้เลยค่ะ (อย่างที่บอกว่า มีขวดเล็กๆให้ทดลองใช้ก่อนด้วย)


นอกจากทาลงบนผิวตามปกติแล้ว ตัวโลชั่นสามารถเอามาบำรุงผิวได้อีกหลายรูปแบบ
ผสมไข่ขาวพอกหน้า เทใส่สำลีแปะๆทั่วหน้า เป้นการมากส์หน้าก็ได้ด้วยเหมือนกันค่ะ
ซึ่งสำลีแผ่นกลมๆ เอามาตัดครึ่ง แล้วทำเป็นมากส์แปะใต้ตาได้ด้วย DIY สุดๆ แต่พอดีว่า
วามีตัวแผ่นมากส์ ที่ซื้อมาไว้พอดี เพราะวาใช้สำลีแบบฟูๆ อาจจะมากส์ใต้ตาไม่ถนัด
เลยนิยมซื้อสำเร็จรูปมาใช้มากกว่า ของ Muji ในรูปก็ราคาไม่แพงค่ะ 65 บาท กระชับดีด้วย
มากส์แถวๆมุมปากที่ชอบแห้งๆและมีริ้วรอยได้ด้วย สวยครบ จบในขวดเดียวจริงๆ



Hada Labo Retinol Lifting & Firming Essence 3D ตัวนี้เป็นเอสเซนส์ค่ะ เนื้อบางเบาดีงามมาก
ปกติ วาจะใช้เป็น พวกเจล พวกครีมไปเลย ซึ่งเนื้อก็จะหนืดๆนิดๆตามสไตล์ แต่พอมีเป็นเอสเซนส์มา
หลังจากทาโลชั่นแล้ว ในขั้นตอนที่ 2 ก็จะตามด้วยเอสเซนส์เลย ตัวนี้บางเบา ซึมง่ายมากๆ


เป็นหัวปั้มๆค่ะ ขนาด 30g ราคา 690 บาท


เนื้อผลิตภัณฑ์

เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นสีเหลืองอ่อนนวลๆ ค่อนข้างเหลว ซึมง่าย ซึมไว ไม่มีกลิ่น ใช้ควบคู่กับโลชั่น
เพื่อบำรุงแบบเข้มข้นอีกขั้นนึงนั่นเอง ซึ่งถ้าเป็นตอนเช้า วาจะใช้ 2 ตัวนี้ ตามด้วยครีม หรือเจลตัวอื่น
(เช่น Perfect Gel หรือ ฮาดะลาโบะกระปุกสีฟ้า ที่ผสมกันแดดด้วย) 


วิธีทา ถ้ามีเวลาหน่อย ก็นวดๆ แล้วก็ยกกระชับผิว โดยการใช้นิ้วมือยกผิว ตั้งแต่ช่วงกราม
ลากขึ้นมาที่โหนกแก้ม ส่วนแถวๆใต้ตา ก็ลูบออกไปด้านข้าง เพื่อกระตุ้นผิว ลดริ้วรอยต่างๆด้วย
ซึ่งก็เป็นอันจบขั้นตอน
การบำรุงผิว แต่ถ้าเป็นตอนกลางคืน หรือ วันที่ต้องการการบำรุงเต็มรูปแบบ 
วาก็จะใช้เป็นตัวถัดไปค่ะ



Hada Labo Retinol Lifting & Firming Cream 3D 50g 689 บาท ตัวนี้เป็นครีมเข้มข้น
แบบว่าเข้มข้นมากๆเลยค่ะ เนื้อนี่ทาแล้วรู้สึกเลยว่า ตื่นมาหน้าเด้งแน่นอน เหมือนเอาน้ำทั้งขวดมาทาหน้าเลย
ทาแล้วหน้าฉ่ำ นุ่มเด้งมาก หลังจากใช้ ซึ่งต้องรอให้แห้งซึมประมาณนึงเลยเหมือนกันนะ (วาผิวมัน)
ถ้าคนผิวแห้งอาจจะไม่ได้รู้สึกฉ่ำขนาดวา แต่ถ้าจะหาครีมเติมน้ำให้ผิว ตัวนี้ตอบโจทย์จริงๆ


เนื้อครีมสีขาวข้น



เนื้อครีมเป็นสีขาวข้น เมื่อทาลงบนผิว ก็จะค่อยๆซึมลงไปเรื่อยๆค่ะ แต่เราจะรู้สึกเลยว่าผิวฉ่ำๆ
นุ่มๆเด้งๆขึ้นมาทันที หน้าเงาๆสุขภาพดีขึ้นมาเลย ซึ่งวาจะนิยมทาก่อนนอนมากกว่าทาตอนเช้า
แต่สำหรับคนที่ผิวแห้ง อาจจะทาตอนเช้าได้เลยนะ



และเช่นเดิมคือด้วยความที่เค้าเป็นสูตร Lifting & Firming เวลาทา ก็ยกกระชับผิวไปด้วยง่ายๆ
ลูบๆยกผิวขึ้นไปที่ขมับ ใต้ตาและหน้าผากก็ลูบออกด้านข้าง ใช้เวลาไม่นาน ให้ครีมลงผิวได้ดี
และวารู้สึกว่าทำเรื่อยๆจนชิน มันก็ได้ผลดีด้วยล่ะ 
ใช้ครบ 3 ขั้นตอนแล้วรับรองว่าผิวนุ่มเด้ง
กระชับแน่นอนเลย



คำแนะนำในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ Hada Labo Retinol Lifting & Firming 
สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง จะใช้เจ้า Retinol 3D ตัวไหนตอนไหนนะคะ 
ถ้าเพื่อนกังวลเรื่องริ้วรอย วาแนะนำให้ลองเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตามนี้ค่ะ

ตอนเช้า ใช้ lotion ตามด้วย essence
ตอนกลางคืน ใช้ lotion ตามด้วย cream
และเพิ่มการดูแลพิเศษโดยการ mask หน้าสัปดาห์ละครั้ง ด้วย mask นั่นเองค่ะ

สำหรับผลิตภัณฑ์ Hada Labo Retinol Lifting & Firming 
มีจำหน่ายทุกร้านสุขภาพและความงาม รวมถึงห้างสรรพสินค้าด้วยค่ะ
รายละเอียดเพิ่มเติม //www.facebook.com/WeLoveHadaLabo

- - - - - - - - - - - - - - -  - - - - - - - - - - -
Sponsor Product by Hada Labo Thailand
- - - - - - - - - - - - - - -  - - - - - - - - - - -
มีอะไรสอบถาม พูดคุย เพิ่มเติม ได้ที่ Fanpage นะคะ 
เผื่อวาไม่ได้ย้อนมาเช็ค comment ครบทุกหน้าค่า




Create Date : 11 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2558 20:06:44 น. 0 comments
Counter : 54079 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นังนู๋วา
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 150 คน [?]








Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
11 พฤศจิกายน 2558
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add นังนู๋วา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.