Bloggang.com : นังนู๋วา : :: รีวิว Laneige : Essential Care Trial Set ::

:: รีวิว Laneige : Essential Care Trial Set ::

หลังจากไป workshop แนะนำคอลเลคชั่นใหม่ กับทางลาเนจมาแล้วก็ได้ของที่ระลึก
ติดไม้ติดมือกลับมาเป็นชุด Laneige : Essential Care Trial Set ค่ะ
โดยจะมีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 6 ชิ้น ใส่มาในกระเป๋าพลาสติกใส

ซึ่งเจ้า 6 ตัวนี้ วาได้ลองใช้หมดแล้วค่ะ เริ่มใช้ตั้งแต่ 24/1/2012 - 9/2/2012
รวมๆประมาณ 17 วัน ก็ได้ถ่ายรูป แล้วก็เอามารีวิวค่ะ มาเริ่มดูที่เนื้อผลิตภัณฑ์แต่ละตัวก่อนค่ะ
โดยเรียงลำดับจากที่วาใช้แล้วกันค่ะ เริ่มที่ล้างหน้าก่อนเลย

Laneige : Multi Cleanser นะคะ เป็น คลีนซิ่งล้างหน้า สำหรับทุกสภาพผิว
มาในหลอดนะคะ บีบออกมาจะเป็น ครีม ซึ่งปกติวาจะเช็ดเครื่องสำอางค์ออกก่อน
แล้วถึงใช้คลีนซิ่งตาม เลยไม่รู้ว่ามันมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดได้ขนาดไหน

เค้าบอกให้ใช้ตอนหน้าเปียก โดยที่มี make up อยู่ ใช้แล้วนวดๆให้ทั้วหน้า
จะคลีนทุกๆอย่างออกจากหน้าให้เราเลย อย่างที่บอกคือวาเช็ดออกก่อน กันอุดตัน
แล้วค่อยมาใช้ตัวนี้ ใช้แล้วล้างออก หน้านุ่มขึ้นพอสมควรค่ะ แต่วาไม่ได้ใช้ตลอด
ใช้แค่ประมาณอาทิตย์แรกๆ แล้วก็มาใช้ผลิตภัณฑ์ ตามสเตป ปกติของตัวเอง
เจ้าคลีนซิ่งนี้มีกลิ่นหอมอ่อนๆ น่าใช้เชียวค่ะ

ตัวต่อมาเป็น Power Essential Skin Refiner ซึ่งวาคิดว่ามันเป็น Toner/Lotion
แล้วแต่จะเรียกนะคะ สำหรับผิวแห้ง จนถึงผิวธรรมดา
โดยวิธีใช้ของวาก็คือ เทใส่มือโดยตรงและโปะลงที่หน้าเลย
เอาชุ่มๆ แปะลงไปแล้วหน้าเปียกๆเลยค่ะ แล้วปล่อยให้แห้งเอง หน้าจะนุ่มๆและเงาขึ้นนิดๆ
เหมือนผิวได้รับความชุ่มชื้น

ต่อไป เข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงผิวนะคะ ซึ่งจะมี 3 อย่างหลักๆ ที่วาจะเลือกใช้
ให้เหมาะกับตัวเอง และชีวิตประจำวัน ซึ่งมี 3 ตัวดังนี้

จะเป็น Emulsion Essence และ Cream ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ใช้ทั้ง 3 ตัวในทีเดียว
จะเลือกใช้เช่น ตอนเช้าจะใช้เนื้อเบาหน่อย เช่น Emulsion หรือ Essence
ส่วนก่อนนอน จะใช้เป็นครีม เพราะเนื้อจะหนักสุด ทาแล้วนอน ก็จะโอเคกว่า

มาดูตัวแรกที่วาชอบมาก Water Bank Essence สำหรับทุกสภาพผิว
วาจะใช้ทุกวัน เช้า-เย็น เลย เพราะเนื้อเบา ทาแล้วไม่หนักหน้า เนื้อค่อนข้างเหลว
และชุ่มชื้นมากๆ เป็นหัวกดปั๊ม ใช้สะดวกมากค่ะ ทาแล้วหน้านุ่มทันที
มีกลิ่นน้ำหอมพอสมควร ตามแบบฉบับเกาหลี ใครไม่ชอบกลิ่นน้ำหอม
อาจจะต้องหลีกเลี่ยง เป็น Essence ที่น้ำให้ผิวจริงจังมาก จนรู้สึกได้เลยค่ะ
โดย Essence จะเข้าไปบำรุงลึกถึงผิวชั้นใน (ทำงานเหมือน Serum)
และจะต้องทาตามด้วย ครีม หรือ มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ ที่เหมาะกับสภาพผิว

ตัวต่อไป เป็น Balancing Emulsion ตัวนี้เป็นเนื้อครีม ที่กึ่งเหลว ไม่เหลวมาก
แต่ด้วยความที่อยู่ในขวดขนาดทดลองนี้ พยายามกระแทกออก ครีมออกมาน้อยมากไม่สะใจ
เลยใช้คัตตอนบัด ขนาดเล็กจิ๋ว ช่วยแงะเนื้อครีมออกมา เลยใช้ตัวนี้น้อยหน่อย
ไม่บ่อยเท่าตัวอื่นๆ ทาแล้วก็หน้าเงาๆ ชุ่มชื้นเช่นกันค่ะ

มาถึงตัวสุดท้าย Water Bank Moisture Cream เป็นเนื้อครีมค่ะ
ตัวนี้วาจะทาเฉพาะตอนก่อนนอน เพราะทาตอนเช้าแล้วหน้ามันจะเงาๆหนืดๆ
แล้วขี้เกียจรอให้มันแห้ง กว่าจะแต่งหน้าต่อ รออีกนาน แต่ทากลางคืนแล้วนอน
หน้าก็จะชุ่มชื้นมากๆเลยค่ะ ถ้าง่วงมากๆ ทา Lotion แล้วทา Cream นอนไ้ด้เลย

มาดูเนื้อครีมทั้ง 3 เทียบกันนะคะ จะเห็นว่า เนื้อก็ไม่ได้หนาหนัก ต่างกันเท่าไหร่
ทาไปซักพัก ก็จะซึมลงผิวไปเอง แต่จริงๆ ทาที่หน้าแห้งช้ากว่า ทาที่แขนมากค่ะ
เป็นเพราะหน้าวาผิวค่อนข้างชุ่มชื้นกว่า ที่แขนผิวแห้งหิวน้ำมากกว่า เลยซึมไว

เราจะต้องเลือกใช้ที่เหมาะกับสภาพผิว และความต้องการของเราค่ะ
แต่ทุกตัวจะช่วยในเรื่อง ของการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว และทุกตัวมีน้ำหอมค่ะ

มาถึงตัวสุดท้ายในเซตนี้นะคะ เป็นตัวยอดนิยม และมีชื่อเสียงของ Laneige เลย
นั่นก็คือ Water Sleeping Pack ใช้ได้ทุกสภาพผิวเลยค่ะ เป็นมากส์หน้าที่ทาทิ้งไว้ก่อนนอน
ได้เลยโดยไม่ต้องล้างออก เป็นเนื้อเจลเหลวๆ ทาแล้วจะเย็นๆเหมือนเอาน้ำมาโปะที่ผิว
ตื่นมาหน้าจะนุ่มมากถึงขีดสุด หลักจากทดลองแล้วก็นุ่มมากจริงๆค่ะ

แต่วาดันมีปัญหานิดหน่อย ระหว่างการทดลองใช้ นั่นก็คือ ทาเจลทิ้งไว้แปปนึง
ยังไม่ทันหลับเลย วาก็ "คันยิบๆ" ค่ะ ซึ่งไม่มีผื่น ไม่เป็นปื้นแดงๆ แต่คัน
วันแรกก็คิดว่า มันคงจะปรับผิวอยู่ แต่มันคันต่อเนื่องที่ใช้ทุกวัน ทาไป 4 วันติด
ก็คันทั้ง 4 วันติด ก็เลยจำเป็นต้องหยุดใช้ ตัวนี้ ตัวอื่นใช้ปกติ ก็ไม่คันแต่อย่างใด

แต่ด้วยความที่ผลลัพท์โอเคมากหน้านุ่ม ชุ่มชื่น ส้มผัสเจลนุ่มมาก เลยอยากหยิบใช้ตลอด
วาเลยใช้วิธี ล้างหน้าเสร็จ ทา Water Sleeping Pack โปะไว้แปปนึง ถ้าคันปุ๊บ
ก็ไปล้างออกทันที แล้วกลับมาทาบำรุงตัวอื่นๆตามปกติ แล้วนอนค่ะ 55555555

ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวนี้ Laneige Water Sleeping Pack_Ex (1,150 บาท) กำลังมีออกมา
เป็นกระปุกลาย Limited Edition ออกแบบโดย นักออกแบบชื่อดัง ชาวเกาหลี ยุนเยจิ
มีจำนวนจำกัดนะคะ ราคาถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ในครีมประเภทดียวกัน

สรุปแล้ว วาค่อนข้างพอใจกับผลลัพท์ที่ได้พอสมควรเลย เพราะมันเหมือนเติมน้ำให้ผิว
ได้จริงๆ หน้าชุ่มชื้นมากๆ ผิวเลยดูไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ดูแน่นๆขึ้นพอสมควร
และตอกย้ำว่าหน้าเราชุ่มชื่นขึ้นจริง วาได้มีโอกาสไปตรวจสภาพผิวกับเคาท์เตอร์นึง
ในห้าง Zen พอดีแวะไปดูของ ก็เลยขอเค้าตรวจ(หน้าด้านๆ) เค้าก็ตรวจให้อย่างยินดี

ผลลัพธ์ออกมาก็คือ ความชุ่มชื้นผิว ชนะเลิศ ดาว 5 ดวงเต็มเลยค่ะ Smiley

แต่อย่าได้มองตัวอื่นนะ โดยเฉพาะ ไวท์เทนนิ่ง เลวร้ายมาก วาได้ 1 ดาวแย่ตลอด
เพราะสีผิวมีจุดด่างดำ ไม่สม่ำเสมอ ส่วนคลีนซิ่งนี่ ปกติถ้าตรวจตอนเลิกงานแบบนี้
มันก็จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่อยู่แล้ว แต่ถ้านวดหน้าแล้วมาตรวจจะได้ 5 ดาวเต็ม

BA ถามว่า ใช้ครีมบำรุงอะไรอยู่ หน้าชุ่มชื้นดีมากๆ ก็บอกไปว่า ช่วงนี้ใช้ลาเนจค่า
เค้าเลยขายของไม่ไ่ด้เลย แต่พยายามขายไวท์เทนนิ่งให้วาแทน 555555

Smiley

สุดท้ายแล้ว อยากจะบอกว่า ถ้าไม่รู้จะเริ่มจากครีมบำรุงอะไรก่อน วาว่าเอาครีมที่ช่วย
ให้ความชุ่มชื้นผิวก่อนดีที่สุด เพราะส่วนตัวแล้ววาคิดว่ามันโอเคขึ้นจริงๆ
มีครีมประเภทนี้หลายยี่ห้อ เลือก ตามชอบได้เลยนะค๊า
รีวิวนี้เป็นเพียงการแบ่งปันประสบการณ์ ที่วาได้ทดลองใช้กับหน้าวาเอง
อาจจะไม่ไ่ด้ผลลัพท์ที่เหมือนกัน สำหรับคนอื่นๆนะคะ ขอบคุณค่ะ

รีวิวนี้ ได้ผลิตภัณฑ์มาทดลองฟรี จากการไปเวิคชอปกับ Laneige ค่ะ

Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2555

Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2555 16:38:07 น.

4 comments

Counter : 56753 Pageviews.