ตะเกียงวิเศษ
กาลครั้งหนึ่งมีชายหนุ่มคนหนึ่งขุดพบตะเกียงเก่าแก่อันหนึ่ง ในขณะที่เขากำลังทำสวนอยู่ พอเขาเอามือถูตะเกียง ก็ปรากฏว่ามีควันออกมาจากตะเกียง แล้วกลายเป็นยักษ์ตัวใหญ่ ยักษ์ตนนั้นพูดกับชายหนุ่มว่า “ขอบใจที่ได้ช่วยให้ฉันเป็นอิสระ ฉันจะตอบแทนท่านโดยรับใช้ท่าน ท่านจะใช้อะไรฉันก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่า เมื่อไรที่ท่านหยุดใช้ฉัน ฉันก็จะกินท่าน” ชายหนุ่มก็ตกลงเพราะเขาเห็นว่าการมีคนรับใช้เป็นเรื่องที่ดี และเขาก็มั่นใจว่าเขาจะใช้ยักษ์ตนนี้ให้ยุ่งอยู่ตลอดเวลาได้ ดังนั้นเขาจึงตอบตกลง ยักษ์นั้นจึงถามว่า “นายต้องการให้ฉันรับใช้เรื่องใดบ้าง แต่อย่าลืมนะ… ถ้านายหยุดใช้ฉันเมื่อใด…ฉันก็จะกินนาย” ชายหนุ่มคนนั้นตอบว่า “ฉันต้องการวังหลังหนึ่งเพื่อฉันจะได้เข้าไปอยู่” ทันใดนั้นยักษ์ก็เนรมิตวังหลังหนึ่งได้ ชายหนุ่มตกใจ… เพราะเขานึกว่า ยักษ์คงใช้เวลาสักปีกว่าจะสร้างวังเสร็จ ทีนี้เขาต้องคิดอย่างรวดเร็วว่าจะขอให้ยักษ์ทำอะไรต่อไปดี เขาบอกยักษ์ให้ “สร้างถนนกว้างๆ ไปถึงหน้าวัง” ทันใดนั้นถนนก็ปรากฏอยู่ต่อสายตาเขา “ฉันต้องการสวนล้อมรอบวัง” เขาสั่งต่อไป ทันทีความต้องการของเขาก็ปรากฏต่อหน้าเขา “ฉันต้องการ…..” เขาก็ขอไปเรื่อยๆ แต่เขาเริ่มต้น วิตกว่าอีกไม่ช้าเขาก็จะขอจนหมดแล้ว และอีกอย่างเขาคงเข้าไปอยู่ในวังอย่างผาสุกไม่ได้… เพราะเขาต้องคอยมานั่งสั่งยักษ์ให้ทำงานตลอดเวลา ในที่สุดเขาก็คิดหาทางออกได้ เขาขอให้ยักษ์สร้างเสาต้นหนึ่งให้สูงสุด ซึ่งยักษ์ก็เนรมิตให้ทันทีทันใด เขาพูดกับยักษ์ว่า “ข้าขอให้เจ้ายักษ์ปีนเสาต้นนี้ช้าๆ ไปถึงยอดแล้ว… ให้ปีนลงมาช้าๆ เช่นกัน พอถึงพื้นก็ให้ปีนขึ้นไปบนยอดใหม่ อีกครั้งแล้วให้ปีนขึ้นปีนลงเช่นนี้ตลอดเวลาไม่ให้หยุดเลย” ยักษ์ตนนั้นก็เลยต้องปีนขึ้นปีนลงตลอดเวลาตามคำสั่งของนาย ชายหนุ่มจึงเริ่มหายใจได้ทั่วท้อง ขณะนี้เขาปลอดภัยแล้ว ชายหนุ่มมีเวลาที่จะเข้าไปอยู่ในวังอย่างมีความสุข ตั้งแต่นั้นมา ยักษ์ตนนี้เปรียบเสมือน “ความคิด” และ “จิตใจ” ของเรา ถ้าเรารู้จักใช้ความคิดของเรา และควบคุมความคิดของเราให้ดี เราจะได้รับผลดีจากความคิดของเรา “ถ้าเราต้องการจะทำอะไร…ให้ดีให้ถูกต้อง” “เราต้องควบคุมจิตใจของเราให้สงบ”…เหมือนกับชายหนุ่มในนิทาน ที่สามารถควบคุมยักษ์ตนนั้นได้ และสามารถทำให้ความต้องการของเขาลุล่วงสำเร็จได้ ถ้าเราควบคุมความคิดของเราไม่ได้ มันจะสร้างปัญหาให้กับเรา เราจะเริ่มต้นนั่งคิดว่าจะไปซื้ออะไร จะไปกินอะไรดี หรือจะไปเที่ยวไหนดี ฯลฯ ความต้องการจะครอบคลุมจิตใจของเรา ครอบคลุมอารมณ์ของเรา เราจะหวั่นไหวต่อความโลภ ความโกรธ และความอิจฉา เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นถ้าเราไม่รู้จักควบคุมความคิดของเรา เช่นเดียวกับยักษ์ตนนั้นที่ข่มขู่ชายหนุ่มตลอดเวลา เราต้องควบคุมความคิดของเราตลอดเวลา ชายหนุ่มคนนี้ใช้ให้ยักษ์ปีนขึ้นลงที่เสาสูงต้นนั้น… เราก็สามารถใช้ลมหายใจเข้าออกของเรา…ซึ่งอยู่กับเราตลอดเวลานั้นเป็นเสาสูงแทน นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “ผู้มีปัญญาย่อมรู้จัก…ที่จะใช้ความคิดของตนเอง” เราจะเห็นได้ว่า แม้แต่ความคิดก็เปรียบได้กับเหรียญสองด้านที่มีทั้งแง่ดีก่อให้เกิดประโยชน์ และแง่ลบที่สามารถบั่นทอนทำลายเราได้ ดังนั้น เราจึงควรรู้จักฝึกพัฒนาความคิดของเราให้ดี
Create Date : 14 กรกฎาคม 2563 |
Last Update : 14 กรกฎาคม 2563 13:43:05 น. |
|
2 comments
|
Counter : 465 Pageviews. |
|
|
A giver is always be love. _/|\_