รวมมิตรเรื่องท่องเที่ยว และ สายการบิน
Group Blog
 
All Blogs
 
เมื่อผมดันไปสอบติดเข้าเรียนปริญญาโท MBA (Marketing) ซะงั้น!!

สวัสดีครับ

หลายๆ ท่านคงจะทราบดีว่า ผมได้ไปสมัครสอบปริญญาโท บริหารธุรกิจ (สาขาการตลาด) ภาคปกติ ของ ม.เกษตรศาสตร์มา (จากในกระทู้หนึ่งที่ผมบอกว่าไปยื่นใบสมัครแทบเกือบจะไม่ทัน ได้ก่อนคนสุดท้ายพอดี)

ผู้สมัครสอบทั้งหมด 498 คน รับเพียง 18 คน ซึ่งสอบไปแล้วเมื่อวันที่ 14 มกราคม
(หลังจากที่ผมตอบรับเข้าทำงานที่โรงพยาบาลสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ 5 วัน และได้บินไปเซ็นต์สัญญาในบ่ายวันนั้น)

ข้อสอบเข้า MBA (ภาคปกติ) ของ ม.เกษตร มีจำนวน 150 ข้อเป็น multiple choice แบบระบายคำตอบด้วยดินสอ 2B ทั้งหมด แบ่งเป็นเนื้อหาภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ทั่วไป สถิติ และความรู้ทั่วไปด้านบริหารธุรกิจ การจัดการ เศรษฐศาสตร์ต่างๆ (ถ้าทำข้อสอบเก่าไปบ้างจะเห็นว่าไม่ยากเท่าไหร่ครับ)

ผลการสอบข้อเขียนรอบแรกออกมาแล้วหล่ะครับ

ผมสอบผ่านข้อเขียนรอบแรก เป็น 1 ใน 38 คนได้ไงก็ไม่รู้ .... ทั้งๆ ที่ตอนที่ผมตัดสินใจเลือกทำงานที่เชียงใหม่ ... ผมตัดสินใจเพราะว่า ผมไม่คิดว่า ผมจะสอบได้ ตัวเองก็ไม่ได้เรียนบริหารมาก่อน ทำข้อสอบเก่าๆ มาก็น้อยมากๆ ได้แค่เน้นอ่านภาษาอังกฤษ กับคณิตศาสตร์แบบ GMAT ซึ่งผมเองก็แทบไม่ได้ใส่ใจกับมันเลย หลังจากที่รับปากกับคุณหมอเจ้าของโรงพยาบาลสัตว์ที่เชียงใหม่... ว่าผมจะทำงานกับเขา ....

พอประกาศผลมาแบบนี้ ผมเองก็ได้แต่อึ้ง แล้วก็น้ำตาไหล อยากจะร้องไห้ ....
(เพราะผมไม่คิดว่าผมจะได้เป็น 1 ใน 38 คนที่ได้เข้าสัมภาษณ์อ่ะครับ)

เข้าสัมภาษณ์วันที่ 13 กุมภาพันธ์ คัดออก 20 คน จาก 38 คน เพื่อให้เหลือได้เรียนจริงๆ 18 คนครับ
เพราะถึงสอบผ่านสัมภาษณ์ (โอกาสน้อยเพราะยังไม่มีประสบการณ์ทำงานเลย) ตัวเองก็ทำสัญญาไว้กับโรงพยาบาลสัตว์ไว้แล้ว จะไปบอกเลิกได้อย่างไร จริงไหมครับ

แต่ส่วนตัวผมเองก็รู้สึกเสียดายโอกาสอันดี ที่จะได้เรียนสาขาบริหารธุรกิจ ที่ตนเองอยากเรียนมานานครับ

ปรากฎว่า จากการสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ระยะเวลาสัมภาษณ์กับอาจารย์ท่านเดียวเพียง 10 นาที
-- อาจารย์ให้แนะนำตนเอง จบอะไรมา กำลังทำอะไรอยู่
-- คำว่าการตลาดในความหมายของคุณคืออะไร?
-- กลยุทธ์ทางการตลาดที่ปัจจุบันมีใช้กันมีอะไรบ้าง?
-- อุตส่าห์เรียนจนจบสัตวแพทย์ คุณไม่เสียดายวิชาชีพของคุณเลยหรือ?

สิ่งที่อาจารย์ที่คุมสอบสัมภาษณ์พยายามอยากจะบอกกับผมก็คือว่า... อาชีพสัตวแพทย์เป็นอาชีพที่มีเกียรติ เป็นที่นับถือของผู้คนทั่วๆ ไป หลักสูตรนี้จึงค่อนข้างเน้นเพื่อเป็นการต่อยอดให้กับวิชาชีพที่ตนมี เพื่อให้เป็นเจ้าของกิจการต่างๆ ได้ (ประมาณว่า ไม่สนับสนุนให้เรียนเพื่อเป็นการเปลี่ยนสายงาน .....)

คำถามที่อาจารย์เปิดให้ถาม ผมถามต่อว่า กรณีผมสนใจงานด้าน Aviation Management จะสามารถต่อได้ในลู่ทางใดบ้าง ซึ่งแน่นอนว่า หลักสูตร MBA สาขา Marketing จะต้องเรียนรวมหมดทุกๆ อย่าง แม้ว่าอาจจะเป็นผลิตภัณฑ์อย่างอื่น ก็ต้องเรียนไปควบคู่กันด้วย
(ผมจึงคิดในใจว่า ถ้าผมสนใจ Aviation Management จริงๆ น่าจะลองสอบที่ จุฬาฯ มากกว่า)

ซึ่งจากคำตอบของอาจารย์ผมก็ประเมินตนแล้วหล่ะครับว่า ยังไงก็คงสอบสัมภาษณ์ไม่ผ่านชัวร์ๆ ..... ก็เริ่มทำใจสบายๆ ขำ ขำ กันไปได้อีกพักหนึ่ง

-----------------------------------------------------------

เช้าวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2550

วันนี้เป็นวันประกาศผลสอบปริญญาโทของ ม.เกษตรศาสตร์ครับ ผมปั่นจักรยานไปดูที่ อาคารบัณฑิตวิทยาลัยแต่เช้า ....

ก็พบว่า ชื่อของผม อยู่ในรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษา คณะบริหารธุรกิจ (สาขาการตลาด) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประกาศรหัสนิสิตรหัส 50730xxx อย่างหราเลยหล่ะครับ .....

ประกาศรายชื่อตัวจริงทั้งหมด 21 คน (ผมเป็นหนึ่งในนั้น)
และตัวสำรองอีก 13 คน (เรียงตามลำดับคะแนน กรณีที่มีการสละสิทธิ์ ลำดับบนๆ จะถูกเรียกขึ้นไปก่อน)
แม้ผมจำเป็นต้องสละสิทธิ์ ก็ไม่ได้เป็นการไปกันที่ของใครครับ

ผมทำอะไรไม่ถูก .... ผมเริ่มเครียด ผมเศร้า ว่าทำไมผมสอบติด ..... ทั้งๆ ที่คิดว่าตัวเองไม่น่าจะติด (อย่าเพิ่งหมั่นไส้ผมนะครับ มันเป็นเหตุผลที่ยากจะอธิบาย )

ตอนนี้ เพื่อนๆ ที่คณะ หลายๆ ก็คนเครียดกัน เพราะยังไม่ได้งาน หลายๆ ที่ก็ยังไม่แจ้งผลให้ทราบ ทุกคนยังรู้สึกเหมือนกับตัวเองเคว้งคว้าง .....

แต่ผมเครียด ตรงที่ว่า ทำไมผมต้องเซ็นต์สัญญาเลือกงานที่เชียงใหม่ไปแล้ว เหมือนนกน้อยที่อยู่ในกำมือ จะหนีก็ไม่ได้ จะถูกบีบให้ตายก็ได้ .....

เป็นความเครียดที่ระบายให้กับเพื่อนๆ ที่ไม่สนิทไม่ได้เลยหล่ะครับ ก็เลยต้องเก็บไว้ในใจคนเดียว จนมาระบายกับเพื่อนสนิทตอนช่วงเย็น
ซึ่งแน่นอนครับว่า .... หลังจากที่ได้เซ็นต์สัญญาไปแล้ว ทุกอย่างจบสิ้น ไม่ต้องคิดอะไรเลย .... สัญญาฉบับนั้น ที่ทางโรงพยาบาลสัตว์ถืออยู่ มีผลทางกฎหมายนะครับ

-- ผมเริ่มกลัว ผมกลัวว่า ผมจะทำงานที่นั่นออกมาไม่ได้ดีตามที่พวกเขา และผู้คนรอบข้างคาดหวัง...
-- ผมอยากเรียน... เพราะกลัวว่า ถ้าผมไปทำงาน ผมอาจจะติดใจจนไม่ได้กลับไปเรียนอีก ....


กังวล สับสน

พี่ๆ เพื่อนๆ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ..... ถ้าผมยังไม่เซ็นต์สัญญา ก็จะเชียร์ให้เรียน แต่เซ็นต์สัญญาไปแล้ว ก็ต้องทำงาน ..... ตามที่ได้ทำสัญญาไว้ .... ผู้ใหญ่พูดอะไรแล้วไม่คืนคำ ยิ่งเป็นลายลักษณ์อักษรขนาดนั้น บิดพริ้วแบบเด็กๆ ไม่ได้แน่นอนครับ

มาคอนเฟิร์มครับ ว่าผมจะปฏิบัติหน้าที่เป็น นายสัตวแพทย์ ประจำโรงพยาบาลสัตว์เอกชนแห่งหนึ่ง ที่เชียงใหม่ อย่างดีที่สุดตามสัญญาที่ได้ทำไว้

ส่วนอนาคตอีก 3 ปีข้างหน้า หลังหมดสัญญา ไว้เป็นเรื่องของอนาคตแล้วกันนะครับ

ในที่สุด การตัดสินใจครั้งนี้ก็จบสิ้นลงซะที ...

แล้วก็เป็นข่าวดีนะครับ ที่บล๊อกของคนชื่อ "ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์" จะได้มีเรื่องน้องหมาน้องแมว ขำ ขำ ให้ได้อ่านกันสมตามชื่อล๊อกอินซะหน่อย

ปล. ด้วยจรรยาบรรณ ผมไม่สามารถบอกชื่อโรงพยาบาลสัตว์เอกชนที่ผมทำงานอยู่ได้ แต่ถ้าผมเอ่ยชื่อขึ้นมา คิดว่าคนเชียงใหม่น่าจะรู้จักกันดีอ่ะครับ ถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือก็ยินดีเสมอนะครับ



Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2550 2:48:17 น. 14 comments
Counter : 15508 Pageviews.

 
อืม...เปิ้นว่าอีกสามปีนี่คุณต้องมีการจัดการเองแน่ๆเลย
นั่นก็คือมีคลีนิคสัตว์เป็นของตัวเองไง การตลาดก็สำคัญน๊า

มีความสุขจ้า........


โดย: fonrin วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:6:26:53 น.  

 
สวัสดียามเช้าจ้า
ไว้จะมาอ่านเรื่องของน้องแมวน้องหมา ขำ ขำ คะ


โดย: nakwan6 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:7:05:39 น.  

 
ยินดีด้วยครับกับงานใหม่

อย่าเพิ่งเสียใจกับเรื่องเรียน
อยากเรียนเมื่อไหร่ไปสอบอีกก็ได้

สั่งสมประสบการณ์วิชาชีพในวิชาที่เรียนมาเป็นสิ่งที่ดีครับ


โดย: กะได วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:8:32:52 น.  

 
อิจฉาจัง...ผมยังหาที่เรียนมะได้เลยอ่ะครับ...
แต่ตอนนี้ก้อเป็นลูกพ่อขุนไปแระเรียบโร้ย...
มะได้เสียใจที่เรียนที่นี่...เพียงแค่...มะมีก๊วนแค่นั้นเอ๊ง....


โดย: cascade วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:24:50 น.  

 
ขอให้สนุกกับการทำงานนะคะ คุณต้องเป็นคุณหมอที่น่ารักของน้องหมา น้องแมว แน่เลย


โดย: once_day วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:55:36 น.  

 
เก่งจังเลยเราอะสอบที่ไหนก็ไม่ผ่านสรุปเลยต้องลงที่พ่อขุนราม...แต่ก็ยังดีที่มีที่ให้เรียน


โดย: ผู้หญิงใจดี วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:13:08 น.  

 
คนเก่งนี่นา ทำอะไรก็เฮงไปหมดแหล่ะคร้าบบ


โดย: กิด (Antonymer ) วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:13:08:48 น.  

 
เก่งจังเลยค่ะ แต่ก็น่าเสียดายเหมือนเนอะที่ไม่ได้เรียน แต่ไม่เป็นไรค่ะ ก็ทำงานก่อนดีกว่าค่ะ ไม่แน่นะคะเผื่อจะชอบงานที่ทำก็ได้ค่ะ มีความสุขมากๆ นะคะ แวะมาทักทายค่ะ


โดย: jeab (annyjeab ) วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:56:28 น.  

 
จะได้ไม่ต้องจ้างใครมาบริหารตอนเปิดคลีนิคไงคะ แบบทำการตลาดเอง รักษาเองไปเลย อิอิ


โดย: มดมารน้อย วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:00:23 น.  

 
ยินดีด้วยนะค๊า

อ่ะ

เอาเค้กมาฝากอีกแล้วค๊า



โดย: หมูน้อยหน้าใส วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:41:15 น.  

 
มาแสดงความยินดีด้วยคนคะ สู้ๆนะคะ


โดย: หนูคิสสเปเชียล (KissAhoLicGal ) วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:51:40 น.  

 
ยินดีด้วยน้าและก็สู้ๆ นะจ๊ะ


โดย: patthanid (patthanid ) วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:19:06:58 น.  

 
เคยอึ้งกับคำถามนี้ มาเหมือนกันครับ

- อุตส่าห์เรียนจนจบสัตวแพทย์ คุณไม่เสียดายวิชาชีพของคุณเลยหรือ?

สุดท้ายก็ไม่ผ่านแฮะ..



ไปทำงานเถอะ..ระหว่างทำงานยังสามารถหาลู่ทางเรียนได้นี่ครับ อาจจะได้เป็นเด็ก ป.โท มช.ก็ได้นี่นา...คิดในแง่ดีไว้สิครับ


โดย: prapasawat วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:50:51 น.  

 
เริ่มต้นทำงานแล้วหรือยังครับ

ผมว่าทำงานก่อนซักปี - 2 ปี ครับ แล้วค่อยเรียน จะได้มองภาพได้ถูก และกว้างขึ้น

ผมเพิ่งจบโทฯ ม. เกษตร มา แบบว่า ทำงานจันทร์ถึงศุกร์ แล้วเรียน เสาร์ อาทิตย์ แม้ว่า มันจะยุ่ง ๆ แต่ว่า ชีวิตก็ไม่เบื่อดีครับ ทำงานเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ เสาร์ อาทิตย์ เปลี่ยนบรรยากาศไปอยู่ใน ม. เวลาเบื่อ ๆ กับตำรา และหอสมุด ก็ได้เวลากลับไปทำงานพอดี

ยินดีกับว่าที่บัณฑิตด้วยนะครับ


โดย: ECie (ECie ) วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:10:32:33 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 37 คน [?]




Friends' blogs
[Add ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.