|
บาหลีในแสงแดด ภาคสอง
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -



** เริ่มต้นสองวันสุดท้ายของทริปบาหลีด้วยวิวข้างทาง เมื่อรถทัวร์ไปถึงวัดเบซากิห์ สิ่งที่ทำให้ลูกทัวร์พร้อมใจกันเสียเงินก็คือ สละนั่นเอง ซื้อกันมาคนละ 5 กิโล อย่างที่บอกไว้แล้วในบล็อกก่อนว่า สละไทยกับสละบาหลีไม่เหมือนกัน สละบาหลีจะค่อนข้างแข็งกว่าไทย ออกจะกรอบๆหน่อย รสชาติก็ไม่จัดเท่าของเรา กินเสร็จเราเก็บเม็ดกลับมาไทยด้วย ว่าจะลองเอาไปปลูกที่บ้าน ไม่รู้จะขึ้นไหม






หลังจากเสียเงินกันคนละหนุบคนละหนับแล้ว เหล่าลูกทัวร์ก็ออกเดินเข้าสู่วัดเบซากิห์ บ้างก็นั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างขึ้นไป เพราะจุดรถจอดกับตัววัดอยู่ห่างกันเกือบๆกิโลนึง ที่นี่ถือเป็นวัดหลวงของคนที่นี่ เป็นวัดที่สำคัญที่สุด ใหญ่ที่สุด และศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของบาหลี ภายในตัววัดยังมีวัดเล็กวัดน้อยอีก 23 แห่ง วัดที่อยู่ภายในวัดหลวงแห่งนี้ที่สำคัญที่สุด คือวัด เปนาทารัน อากุง อยู่ตรงกลางของวัดหลวงแห่งนี้ แต่ที่น่าเสียดายก็คือวัด เปนาทารัน อากุง แห่งนี้ ห้ามนักท่องเที่ยวและบุคคลทั่วไป ที่ไม่ได้นับถือศาสนาฮินดูเข้าไปเยี่ยมชมภายในวัด เลยอดดูต้องไปดูวัดอื่นๆแทน เกาะบาหลีมีผู้นับถือศาสนาฮินดูมากที่สุดในอินโดนีเซีย เกาะอื่นๆส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม





เบื้องหลังวัดแห่งนี้เป็นทิวทัศน์ของภูเขาไฟ กุนุง อากุง มีหมอกมาลอยเล่นรอบภูเขาไฟตลอดเวลา วัดแห่งนี้ต้องนุ่งโสร่งและผ้าคาดเอว ทั้งหญิงทั้งชาย ไม่อย่างนั้นต้องเช่าใส่เพื่อเข้าวัด แถวนี้ไกด์ว่ามีมาเฟียเยอะ มักเข้ามาตีสนิทบอกเล่าความเป็นมานู่นนี่นั่น แล้วก็เรียกเก็บเงินจากการเป็นไกด์ผีในภายหลัง เราเองก็เจอ เจอสองแบบเลย แบบแรก เข้ามาช่วยนุ่งโสร่งให้ใหม่ พอซักถามกันดีแล้วรู้ว่าเป็นคนไทย ก็ขอเงินไทยไว้เป็นที่ระลึก แบบที่สอง เข้ามาแนะนำสถานที่ว่ามีความเป็นมาอย่างไร ดีที่ไกด์ให้บอกไปเลยว่า มีไกด์ส่วนตัวมาด้วย ไกด์ผีเหล่านี้ก็จะไม่ยุ่งกับเรา
พอไปยืนอยู่ตรงนั้น อารมณ์ของสถาปัตยกรรมรายรอบ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในจีน ธิเบต ภูฏานมากๆ (แม้จะไม่เคยไปประเทศดังที่ว่ามาก่อนก็ตาม) ข้างบนอากาศเย็นสบาย ตระไคร่ ไลเค็นขึ้นให้เห็นตามผนังอาคาร แต่ในขณะเดียวกัน แดดร้อนมาก หาที่หลบไม่ค่อยได้ เราเองไม่ได้เอาหมวกลงมาด้วย ไม่นึกว่าต้องเดินไกลและนาน กลับมาที่พักตัวดำเลย ไกด์บอกว่ากรุ๊ปทัวร์เราโชคดีมากขนาดไหน ไปที่ไหนก็ไม่เจอหมอกลง ธรรมดาต้องเจอหมอกบ้างซักที่ แต่ปรากฏว่ากรุ๊ปทัวร์เราไม่เจอหมอกตามสถานที่ท่องเที่ยวเลย ก็คงนับได้ว่าโชคดี แต่เราเกือบเดี้ยง เพราะต้องอยู่กลางแดดเป็นชั่วโมง วันต่อมาเลยหมดสภาพ หน้าดำ นั่งนิ่ง หมดแรง เพราะเพลียแดด







จากนั้นก็เดินต่อไปอีกหน่อย เพื่อไปสู่ยอดด้านบน เหล่ากรุ๊ปทัวร์ที่เดินมาถึงตรงนี้ก็ลดน้อยถอยลง เหลืออยู่ไม่ถึงยี่สิบคน ตอนหลังเหลือเราเป็นคนสุดท้าย เลยต้องรีบถ่ายรูปแล้วจ้ำเดินลงมาด้านล่าง








ระหว่างทางจากยอดไปถึงที่จอดรถของกรุ๊ปทัวร์ ไกลพอควร ขาขึ้นเรานั่งมอเตอร์ไซค์มา ขาลงเราเดินลง เพราะอยากดูวิวข้างทางและถ่ายรูปสัพเพเหระไปในตัว สมใจจริงๆ เห็นวิถีชีวิตของคนแถวนั้นผ่านจาก อาคารบ้านเรือน ร้านขายของ ร้านผลไม้ ต้นไม้ ข้าวของเครื่องใช้ เห็นร้านขายบัคโซ (คล้ายๆก๋วยเตี๋ยว) ไกด์ชวนไปกินบัคโซทุกวันเลย แต่ด้วยคิวเที่ยวที่แน่นทุกวัน และทุกวันต้องใช้เวลาช็อปปิ้งเกินกว่ากำหนดตลอด จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ลิ้มรสบัคโซซักคำ





จากนั้นขบวนของเราก็มุ่งไปสู่ร้านอาหาร บรรยากาศที่ร้านดีอีกแล้ว เห็นภูเขากุนุง บาตูร์ เป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดในบาหลี ระเบิดไปครั้งสุดท้ายเมื่อ พ.ศ. 2506 เคยปะทุพ่นลาวาและเถ้าภูเขาไฟ ซึ่งส่วนใหญ่พ่นหินทรายสีดำกับควันไฟออกมา กินเสร็จลูกทัวร์ขึ้นรถมานั่งรอรถออก ขบวนสินค้าเร่ก็แห่กันมาขายของที่ประตูด้านหลัง โอ้โห ต่อราคาสนุกมาก ยิ่งรถทำท่าจะออก ยิ่งต่อง่ายขึ้นมาก เลยได้ของติดมือมาชิ้นนึง ราคาถูกมาก






จากนั้นก็มุ่งสู่วัดอูลูบาตูร์ มาถึงตอนนี้ เวลานี้ เริ่มชินและเฉยกับวัดแล้ว เห็นน้องหมานอนสลบไม่สนนักท่องเที่ยวอย่างเรา เลยถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ไกด์บอกว่า ที่บาหลีอนุญาตให้เลี้ยงหมาได้ครอบครัวละหนึ่งตัว มิน่าถึงไม่ค่อยเจอหมาเยอะแยะมากมายเหมือนอย่างไทยเรา พอเริ่มๆเบื่อวัด เลยไปดูกลุ่มแม่บ้านบาหลี (อันนี้เราตั้งให้เอง) มารวมตัวกันทำของบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อีกเช่นเคย คนที่นี่เป็นมิตร ขอถ่ายรูปง่าย ไม่มีปัญหา


ต่อด้วยวัดปุราเตียร์ตาอัมปึล หรือวัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ มีบ่อน้ำพุร้อนศักดิ์สิทธิ์ใสสะอาดผุดขึ้นจากใต้ดิน เชื่อว่าพระอินทร์เป็นผู้ดลบันดาลให้เกิดน้ำพุ ชาวบาหลีจึงนิยมมาอาบน้ำชำระล้างร่างกาย เพราะเชื่อว่าจะเป็นสิริมงคล ขับไล่สิ่งชั่วร้าย และรักษาโรคได้ด้วย เราแค่เอามือไปวักๆน้ำเล่น คงลงไปอาบไม่ไหว เพราะไม่ได้เตรียมชุดมา





ตบท้ายด้วยรูประหว่างทางก่อนจะกลับที่พัก วันสุดท้ายกินข้าวเสร็จ คืนห้อง คืนคีย์การ์ด ออกเดินทางไปสนามบินเลย
บาหลีในความทรงจำของเรา เป็นเมืองที่มีมนต์ขลัง งดงามด้วยการดำรงชีวิตของผู้คนแบบดั้งเดิม เพียบพร้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าจดจำ และแสงแดดจัดจ้าตลอดสี่วัน
ทำให้เรารู้สึกว่า เกาะบาหลีถูกห่อหุ้มด้วยแสงแดด เป็นบาหลีในแสงแดดที่จัดจ้านเหลือเกิน **
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Create Date : 16 มกราคม 2553 |
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2553 16:13:33 น. |
|
14 comments
|
Counter : 1411 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: Neilnuch_T วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:14:51:23 น. |
|
|
|
โดย: แม่ปู (myroom_pu ) วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:16:50:20 น. |
|
|
|
โดย: BeachBum วันที่: 17 มกราคม 2553 เวลา:20:04:17 น. |
|
|
|
โดย: little_fuku (บ่ได้ล๊อกอิน) IP: 75.85.190.226 วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:1:30:08 น. |
|
|
|
โดย: art camp (Trairattana ) วันที่: 23 มกราคม 2553 เวลา:11:33:28 น. |
|
|
|
โดย: pimmetje วันที่: 23 มกราคม 2553 เวลา:23:25:25 น. |
|
|
|
โดย: ปลายแปรง วันที่: 25 มกราคม 2553 เวลา:8:56:56 น. |
|
|
|
โดย: โคซารุ วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:16:13:29 น. |
|
|
|
โดย: ถ่านหินจำศีล วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:37:26 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
สมุทรสงคราม Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]

|
///////////////////////////////////////////////
© ถ่านหินจำศีล ผันตัวจากอาชีพอาร์ตไดเร็คเตอร์ มาเป็นนักเขียนและนักวาดภาพประกอบนิทาน เมื่อราวๆเดือนมีนาคม 2545 ทำงานและใช้ชีวิตส่วนใหญ่ที่แม่กลอง
บล็อกแห่งนี้ถือกำเนิดเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2550 มี 11 กรุ๊ปบล็อก รวมบล็อกได้ 354 บล็อก มีอายุบล็อกนับถึง 16 ก.พ. 2557 ครบ 7 ปีแล้ว ------------------------------------------------------- https://www.trytobeillustrator.bloggang.com ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายลิขสิทธิ์ปี 2537 © ถ่านหินจำศีล -------------------------------------------------------
|
|
|
|
|
|
|
จบซะแล้ว..