Bloggang.com : translucent -

Brownie Fudge

วันนี้น้องสาวอาเฮียเค้ามาชวนทำเค้กแต่.....ทำไมเป็น งานเข้าซะงั้น 555 ก็เลยกลายเป็นเทรนเนอร์จำเป็นนะคร้าวันนี้ คุณน้องเลือกสูตรมาให้ เอามาจาก The photo cookbook-baking ใน Ipad เป็นสูตร Chocolate Fudge cake ดูจากรูปหน้าตาหน้าทานนะเนี้ย แต่ไม่รู้ว่าจะออกมาอร่อยไหม เคยเป็นกันไหมอ่ะ? แต่นุชว่ามันออกจะเหมาะสำหรับคนชอบเค้กเนื้อแน่นๆ ไม่เบาฟู+ความขมของดาร์คชอคโกแลต เพราะเนี้อเค้นที่นุชได้ อารมณืว่าบราวนี่ชัดๆ

มาดูสูตรกันเลย แอบ Adapt อีกแระ เพราะบางอันก็หาไม่ได้
Serves 8
ingredients
75 g unsalted butter, softened, plus extra for greasing
175 g golden caster suger
3 eggs, beaten
3 tbsp golden syrup
40 g ground almonds
175 g self raising flour pinch of salt
40 g cocoa powder

icing
225 g plain chocolate, broken into pieces
55 g dark muscovado sugar
225 unsalted butter, diced
1/2 tsp vanilla extract

วิธีทำมาค่ะ
1 Preheat the oven to 180 celsius/ Gas Mark 4. grease and line two 20-cm/ 8-inch sandwich tins.
2. For the icing, place the ingredients in a heavy-based saucepan. Heat gently, stirring constantly, until melted.

3. Pour into a bowl and leave to cool. Cover and chill for 1 hour, or until spreadable.
4. For the cake, place the butter abd sugar in a bowl and beat together until light abd fluffy. Gradually beat in the eggs. Stir in the golden syrup and almonds.
5. Sift the flour, salt and cocoa powder into a separate bowl, then fold into the mixture. Add a little water, if necessary, to make a dropping consistency.

6. Spoon the mixture into the prepared tins and bake in the preheated oven for 30-35 minutes, or until springy to the touch and a skewer inserted in the centre comes out clean.
7. Cool in the tins for 5 minutes, then turn out onto a wire rack to cool completely

8. when the cake are cold, sandwich them together with half the icing. Spread the remaining icing over the top and sides of the cake, swirling it to give a frosted appearance.

วันนี้ลงสูตรเป็นภาษาอังกฤษเพราะเผื่อมีคนอยากลองทำมั้ง จะได้เอาข้อมูลที่ถูกต้อง กลัวแปลผิดอันนี้นุชปรับสูตรไปบ้างสำหรับเค้กนุช เพราะบางอย่างแอบหาซื้อไม่ได้ก็ปรับๆไป ออกมาก็โอเคอยู่เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปตอนแต่งหน้าเค้ก เพราะน้องสาวอาเฮียมั่วแต่จะเอาไปอวดเพื่อน เหอๆๆๆ พี่มันจะตายแระ 5555 ดีนะที่ยังออกมาเป็นเค้ก ม่ายงั้นเทรนเนอร์จะเหนื่อย+อายด้วย

Create Date : 25 กรกฎาคม 2554
Last Update : 1 สิงหาคม 2554 19:16:05 น.
Counter : 13902 Pageviews.

4 comment

Lemon Cheese Cake

หายนะของหนูนุชในวันเสาร์ที่ผ่านมาก็คือ ใครซักคนในบ้านทำฟรอยด์ที่ห่อครีมชีสขาด....

เฮือกกก.....วันเสาร์ที่ฉันควรจะได้พักผ่อนนะเออ ม่ะเปงไร ไหนๆก็ฉีกแล้ว ก็เอามาทำซะเลย ครีมชีสที่มีคือเจ้าตัวนี้

ไม่รอช้าไปแอบขโมยสูตรชีสเค้กของคุณแม่ปูมาเลย อิอิ ขอบอกว่า ชีสเค้กนี้ชอบกิน แต่ครั้งนี้ คือครั้งแรกที่ทำนะคร๊า หน้าตาอาจมะสวยเท่าไร ไปขโมยสูตรมา แต่....ไม่ได้ตามสูตรเท่าไร เพราะเกิดข้อผิดพลาดบ้าง ใช้อย่างอื่นบ้าง อะไรบ้าง ตามภาษาหนูนุช

มาเริ่มกันเลยนะคะ ขออ้างอิงสูตรของคุณแม่ปูมา แต่มีการ adapt ตามภาษาหนูนุชนิดหน่อย ถ้าอยากได้แบบ Original และูถูกต้อง ต้องไปดูของคุณแม่ปูนะคะ

ส่วนเค้ก

ฟินลาเดเฟีย 250g.+Cottage cheese ของโฟโมสต์ อีก 170 g เปลี่ยนเอง
ไข่ไก่ ๓ ฟอง
นมกระป๋องคาร์เนชั่น 3/4 ถ้วยตวง เปลี่ยนเองอีก
น้ำตาลใช้ 2/4 ถ้วย เพราะหนูนุชเอาครีมโอริโอใส่ไปด้วย มันแอบหวานอยู่แล้ว แล้วกะจะเอาบลูเบอร์รี่มาใส่ด้านบนด้วย ก็หวานอีก หนูนุชเลยลดน้ำตาลลง (มโนไปเองอีกแล้ว)
น้ำเลมอนคั้นสด 1/4 ถ้วยตวง
ผิวเลมอนขูดจากเลมอน 1 ผล
เจลาติน 7 กรัม หนูนุชไปซื้อแบบแผ่นมา ไม่มีแบบผง หาซื้อไม่ได้ในประเทศเชียงราย
วานิลา ๑ ช้อนชา
เลมอนสำหรับตกแต่ง ๑ ผล

ส่วนครัส

หนูนุชใช้โอริโอ้ 1 หลอดถ้วนๆ
เนยจืดละลาย ๓ ช้อนโต๊ะ
ขอเกลือนิดหน่อย โรยใส่โอริโอ ย้ำว่านิสเดียวเท่านั้น

มาทำส่วนฐานก่อนนะคะ ก็เอาโอริโอ้มาแกะครีมออก หนูนุชเพิ่งงย้ายบ้านยังไม่เข้าที่เข้าทาง หาเครื่องปั่นไม่เจอ ก็เลยเอาใส่ถุงทุบๆมันซะเลย 555 รวดเร็วทันใจดีแท้ (แล้วก็ลายเป็นดินสีดำๆ) แล้วก็เอาเนยที่ละลายมาใส่ (รถน้ำต้นไม้ใส่ดิน) ทำให้มันเข้ากัน ใส่เกลือไปอีกนิด (ใส่ปุ๋ย) กดใส่พิมพ์ อารมณ์เหมือนปลูกต้นไม้เลย

หนูนุชแอบเอาฐานไปอบนิสหนึ่ง 10 นาทีกลัวมันไม่แข็งติดกัน

ต่อมาก็มาทำส่วนเค้ก ปั่นชีสให้มันเข้ากันเนียนๆ หนูนุชใส่ครีมโอริโอ้เข้าไปด้วย ปั่น....ปั่น....ปั่น แล้วก็ทิ้งไว้ คั้นน้ำเลมอนแล้วเอาเจลาตินแช่ไว้ มันจะข้นๆเหนี่ยวๆเหมือนวุ้นเลย ลงใส่เป็นตัวทำให้ชีสเค้กนิ่มเด้งดึ๋งดั๋ง (ทำตามสูตรคุณแม่ปูไปเถอะ) พักไว้อีกเช่นกัน

จากนั้นก็ตีไข่ผสมกับน้ำตาลให้เข้ากัน เสร็จแล้วเอาไปตั้งไฟอ่อน ควรใช้กระทะที่เป็นเทบล่อนนะคะ หนูนุชแอบโง่ทำไหม้ด้วยหม้อธรรมดา 555 เลยต้องทำใหม่นะคร๊า

ที่ต้องเอาตั้งไฟเพื่อให้ไข่สุกคะ เพราะเราทำชีสเค้กแบบไม่อบคะ แต่เอาไปอบในตู้เย็นแทน 5555 ต่อด้วยการใส่ผิวเลมอนขูดลงไปในไข่ที่เรากำลังทำให้มันสุก คาดว่า...คิดเองนะว่า ผิวเลมอนมีน้ำมัน คงทำให้เค้กหอมขึ้น มีผิวเลมอนให้เคี้ยวเล่นนิดหน่อย

พอไข่สุกก็เอาไปผสมกับชีสที่เราทำทิ้งไว้ เติมน้ำเลมอนที่ผสมเจลาตินลงไป แอบชิมได้ถ้ายังไม่ได้รสชาติดั่งใจก็แต่ส่วนที่อยากได้เข้าไปนะคะ อย่างชอบเปรี้ยวก็ใส่เพิ่มได้

ผสมให้เข้ากัน จากนั้นก็เอาากรอง เพื่อให้เนื้อเนียนนุ่ม ขาวจั๊วะ น่าเจี๊ยะ

ตักใส่พิมพ์ อบในตู้เย็น 4-5 ชม. หนูนุชทิ้งไว้คืนหนึ่ง แอบห่อพลาสติกตอนแช่ เพราะในตู้เย็นหนูนุชมีสิ่งอื่นที่แช่ไว้ด้วย กลัวกลิ่นมันกวนกัน

และอีกอย่างที่ความโ่ง่ไม่เคยปราณีหนูนุช พิมพ์ที่ใช้ดันเป็นพิมพ์ฐานแคบ ด้านบนกว้้าง พอเวลาเอาออกมันก็จะทรงแปลกๆ ต้องตัดขอบชีสด้านบนออก ให้เท่ากับด้านล่างเพื่อความสวยงาม

อีกซักรูปสำหรับ Lemon Cheese Cake ราด Blueberry

Create Date : 10 กรกฎาคม 2554
Last Update : 10 กรกฎาคม 2554 15:23:35 น.
Counter : 1042 Pageviews.

7 comment

Strawberry VS Whipping Cream

เวิ้นเวอร์กับอากาศร้อนๆมาทำขนมกินน่าจะดี คริคริ เมนูวันนี้ขอเสนอ Strawberry Whipping Cream ง่ายและอร่อย (สำหรับคนชอบหวานอมเปรี้ยวนะคะ)

วัตถุดิบของเราวันนี้ มีตั้ง 3 อย่าง 55 เยอะม๊ากกกก
1. แน่นอนพระเอกของเรา Whipping Cream วันนี้เลือกใช้ยีห้อ Rich กล่องเล็กสีฟ้า สงวนราคาที่ 60 บาท หน้าตาเยี่ยงนี้ ชอบเป็นการส่วนตัว เพราะความหอม มัน แต่ไม่เลี่ยน แต่ว่าจะใช้ยีห้ออื่นก็ไม่ว่ากันนะคะ

2. น้ำตาลทรายขาวป่น(ละเอียด) หรือไอซิ่ง นุชใช้อย่างแรกคะ เพราะรู้สึกว่าไอซิ่งมันหวานไป

3. สุดท้ายนางเอกของเรา Strawerry อันนี้หาซื้อไปตามซุปเปอร์มาร์เก็ตไฮโซ เพราะว่าเป็นหน้าร้อนแล้ว เลยหาซื้อตามตลาดไม่ได้แล้ว (สาวเจียงฮาย อารามณ์เสียยยย หน้าหนาวสตอเบอร์รี่เยอะแยะ ไม่ทำคะ กระแตมาทำหน้าร้อน เลยต้องซื้อของแพงเลย

มาดูวิธีทำการ อย่างแรกจัดการกับวิปปิ้งครีม ก่อนทำขนมนี้วิปปิ้งครีมควรจะนอนแช่อย่างสบายใจในตู้เย็นนะคะ วันนี้นุชในโถแก้วและตะกร้อสำหรับปั่นวิปครีมก็เลยจัดการเอามันเข้าไปแช่ในช่อง Freez (เออ แบบว่าภาษาไทยไม่แข็งแรง บางคำที่ทับศัพท์ภาษาอังกฤษโปรดให้อภัย เพราะเขียนเป็นภาษาไทยไม่ถูกอ่ะคะ ไม่ได้กระแต แต่อ่อนภาษาไทยอย่างร้ายแรง

) ให้มันนอนตายซักพักใหญ่ ถ้ามันเย็นเจี๊ยบก็เป็นว่าใช้ได้ ที่ต้องเอามาแช่เพราะการตีวิปครีมต้องใช้ความเร็ว และเย็นในเวลาเดียวกัน

จากนั้นก็เทวิปครีมประมาณครึ่งกล่อง กะน้ำตาลทราบขาวป่น อันนี้กะเอานะคะ ชอบหวานมากหวานน้อย ของนุชนี้ใช้ประมาณ 1/2 ถ้วยตวง เอาหวานมาตัดเปรี้ยวกันหน่อย อันนี้ทำไปชิมไปได้นะคะว่าหวานได้ตามที่ต้องการรึยัง

เทคนิคอีกอย่างก็คือ เราสามารถเอาโถแก้วแช่น้ำแข็งขณะปั่นได้ จะทำให้วิปครีมจะเซ็ตตัวได้เร็วขึ้น แต่หนูนุชขี้เกียจคร้า เลยปั่นมันทั้งอย่างงั้นแระ อิอิ

มาปั่นวีปครีมกันเถอะ เร็วใช้ความเร็วสูงสุดเลยนะคะ ไม่งั้นมันจะละลาย ไม่เซ็ตตัว ปั่นจนมันตั้งยอดก้เป็นอันว่าใช้ได้ ตั้งยอดแบบที่เราจะเอาไปแต่งหน้าเค้กอ่ะ เสร็จแล้วเราก็เอาไปแช่เย็นอีกที ให้มันเซ็ตตัวอีกทีหนึ้ง จะได้บีบออกมาสวยๆ

เสร็จแล้วคะ ที่นี้ก็เป็นเรื่องการตกแต่ง ก็แต่งได้ตามอัธยาศัยเลยคะ หนูนุชก็ทำหลายๆแบบ สมาชิกในบ้านเยอะ ทำตั้งแบบตักกินเป็นถ้วย กะแบบกินเป็นลูกเลย 555 ลอกเอาไปทำกันดูนะคะ ที่บ้านหนูนุชนี้เวลาหน้าสตอเบอร์รี่นี้ทุกคนจะเรียกร้องให้ทำ...รสชาติก็เหมือนๆไอติม กินเย็น กับอากาศหนาวๆ ก็เริ่ดอยู่คร๊า