Lexus ปลื้มยอดจอง RX 200T พุ่งทะลุเป้า นายสกล ชีวมงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เล็กซ์ซัส กรุงเทพ จำกัด (พระราม9) เปิดเผยว่า จากการที่ล่าสุด บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด โดยเลกซัสกรุ๊ป ได้มีการเปิดตัว Lexus RX ใหม่ล่าสุด สำหรับตลาดครอสโอเวอร์ระดับหรู (Premium Crossover SUV) ซึ่งมีความโดดเด่นด้วยการแปลงรูปโฉมใหม่ทั้งหมดด้วยดีไซน์ที่สง่างามโฉบเฉี่ยวลงตัว ผสานกับสมรรถนะอันโดดเด่นทางเทคโนโลยี แต่คงไว้ซึ่งความสะดวกสบายและสมรรถนะในการขับขี่อันยอดเยี่ยมตามแบบฉบับ Lexus RX โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม และมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างอย่างมีระดับภายใต้คอนเซ็ป Live by your own rules ชีวิตในแบบที่เป็นคุณ โดย Lexus RX ประกอบด้วย RX 200t ครอสโอเวอร์หรู รุ่นใหม่ สุดยอดแห่งพลังการขับเคลื่อนในเครื่องยนต์ เทอร์โบไดเรคท์อินเจคชั่นขนาด 2.0 ลิตร มาพร้อมกับทางเลือกแห่งประสบการณ์สปอร์ต RX 350 กับขุมพลังเครื่อง V6 ไดเรคท์อินเจคชัน 3.5 ลิตร และ RX 450h ยนตรกรรมชั้นเลิศจากขุมพลังระบบไฮบริด โดยรถรุ่น RX 200t ได้เปิดให้มีการจองในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 หรือ มอเตอร์เอ็กซ์โป 2015 ที่ผ่านมาปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยมียอดจองเข้ามาสูงถึง 28 คัน ส่งผลทำให้ยอดจองรวมทั้งหมดทะลุ 79 คัน มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 27.42% ส่วนยอดผลประกอบการปีนี้คาดว่าเล็กซ์ซัส กรุงเทพ ยังครองแชมป์ผู้นำดีลเลอร์อันดับหนึ่งไว้อย่างแน่นอน นายสกล ชีวมงคล กล่าวทิ้งท้าย //men.mthai.com/car/news/11648.html   Create Date : 03 มกราคม 2559     0 comment Last Update : 3 มกราคม 2559 21:40:26 น.     Counter : 1280 Pageviews.   Share Tweet

Toyota GT86 GRMN เติมเต็มอารมณ์ความแรงจากสนามแข่ง  เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งความแรงเลยกับ Toyota GT86 และในคราวนี้ถือเป็นของขวัญส่งท้ายปีที่ทางโตโยต้าจัดมาให้แฟนๆ กับ Toyota GT86 GRMN ที่ได้รับการพัฒนามาเป็นพิเศษสำหรับสนามแข่ง แต่ได้จัดเต็มมาอยู่บนท้องถนนเพื่อการขับที่เต็มอารมณ์ความแรงกันเลยทีเดียว โดยอักษร 4 ตัว GRMN ที่มาตามหลังชื่อ GT86 ตัวนี้นั้น ย่อมาจาก Gazoo Racing Master of Nurburgring เป็นการบอกชัดๆเลยว่ามันได้รับการพัฒนามาเพื่อสนามแข่งระดับโลกอย่าง Nurburgring โดยเจ้า Toyota GT86 GRMN คันนี้ได้ทำการอัพเดทใหม่ในหลายจุด อาทิ กระโปรงแบบคาร์บอนไฟเบอร์ใหม่, สปอร์ยเลอร์หลังขนาดใหญ่, ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ความกว้างด้านหน้า 7 นิ้ว ด้านหลังใช้ล้อใหญ่กว่าที่ขนาด 8 นิ้ว, ระบบกันสะเทือนได้รับการปรับแต่งใหม่ รวมไปถึงชุดเบรกใหม่อีกด้วย ภายในเติมเต็มอารมณ์ความเร้าใจด้วยการตกแต่งเป็นโทนสีแดงและดำ ส่วนเรื่องกำลังของเจ้า Toyota GT86 GRMN เพิ่มจากเดิม 200 แรงม้า เป็น 216 แรงม้า แรงบิดสูงสุดเพิ่มเป็น  160 ปอนด์-ฟุต เรียกว่าจัดกันมาให้แบบเต็มที่เลยทีเดียว สุดท้ายนี้ต้องนับว่าเป็นอีกเรื่องที่น่าเสียดายมากเพราะเจ้า Toyota GT86 GRMN ใหม่คันนี้จะวางจำหน่ายเพียง 100 คันในญี่ปุ่นเท่านั้น น่าเสียดายจริงๆที่ความเร้าใจแบบนี้ควรจะได้โลดแล่นอยู่บนท้องถนนทุกที่ในโลกจริงๆ แต่เชื่อว่าแฟนพันธ์แท้คงจะหากันได้ไม่ยากหรอกว่าไหม //men.mthai.com/car/news/11633.html   Create Date : 29 ธันวาคม 2558     0 comment Last Update : 29 ธันวาคม 2558 23:10:07 น.     Counter : 524 Pageviews.   Share Tweet

Chevrolet Colorado เวอร์ชั่นอเมริกา คว้ารางวัลรถกระบะยอดเยี่ยมแห่งปี 2016 ของมอเตอร์เทรนด์ Chevrolet Colorado เวอร์ชั่นอเมริกาที่บรรจุเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ 2.8 ลิตร ดีเซล เทอร์โบ จากศูนย์การผลิตเพาเวอร์เทรนของเจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย คว้ารางวัลรถกระบะยอดเยี่ยมแห่งปีของมอเตอร์เทรนด์มาครองได้เป็นปีที่สองติดต่อกัน เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ในโคโลราโดที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดามีพื้นฐานเดียวกับเครื่องยนต์ที่เป็นขุมพลังของโคโลราโดและเทรลเบลเซอร์ที่จำหน่ายในประเทศไทยและภูมิภาคนี้ โคโลราโด เวอร์ชั่นอเมริกา ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์มีความประหยัดน้ำมันสูงสุดในตลาดรถกระบะของสหรัฐอเมริกา โดยมีอัตราการบริโภคน้ำมันที่ประเมินโดยหน่วยงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ อยู่ที่ 31 ไมล์ต่อแกลลอน (ราว 13.1 กม./ลิตร) สำหรับรุ่นขับเคลื่อนสองล้อบนถนนทางไกล พร้อมกับมีศักยภาพการลากจูงที่เหนือชั้นที่สุดในตลาดรถกระบะขนาดกลางที่สูงสุด 7,700 ปอนด์ (ราว 3,492 กก. สำหรับรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ) เมื่อติดตั้งชุดสำหรับการลากจูง เครื่องยนต์รุ่นนี้ มาพร้อมเทอร์โบแบบแปรผันที่ทรงพลังและประหยัดน้ำมัน มีพละกำลังที่ได้รับรองโดยสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ที่ 181 แรงม้า และแรงบิด 369 ฟุต-ปอนด์ที่ 2,000 รอบ/นาที หนึ่งในคุณสมบัติสำคัญที่เพิ่มศักยภาพของขุมพลังดูราแม็กซ์คือระบบเทอร์โบแปรผันหล่อเย็นด้วยน้ำและระบบจ่ายเชื้อเพลิงคอมมอนเรลแรงดันสูงสุด 2,000 บาร์ (29,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) เครื่องยนต์รุ่นนี้เป็นหนึ่งในรุ่นแรกที่ใช้ระบบควบคุมเครื่องยนต์อิเล็กทรอนิกส์ที่พัฒนาโดยจีเอ็ม เครื่องยนต์รุ่นนี้ยังใช้เพลาพ่วงสมดุลซึ่งทำหน้าที่หมุนสวนทางเพื่อลดแรงสั่นสะเทือนและเพิ่มความนุ่มนวลและเงียบสงบตลอดการทำงานในทุกรอบเครื่องยนต์ ขุมพลังดูราแม็กซ์ 2.8 ลิตรไม่เพียงทัดเทียมมาตรฐานไอเสียของสหรัฐอเมริกา แต่ยังรองรับมาตรฐานไอเสียยูโร 4 และสามารถยกระดับเป็นยูโร 5 และยูโร 6 ได้ //men.mthai.com/car/news/11628.html   Create Date : 28 ธันวาคม 2558     0 comment Last Update : 28 ธันวาคม 2558 21:52:25 น.     Counter : 445 Pageviews.   Share Tweet

สรุปยอดจอง รถ และ มอเตอร์ไซค์ ในงาน Motor Expo 2015 รวมทะลุ 40,000 คัน ปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อยกับมหกรรมยานยตร์ส่งท้ายปีกับงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2558 ซึ่งยอดรวมของทั้งรถและมอเตอร์ไซค์รวมกัน 44,874 คัน โดยมีจำนวนผู้เข้าชมงานปีนี้สูงถึง 1,476,936 คน เพิ่มขึ้น 6.7% จากปีก่อนที่มีผู้ชม 1,384,182 คน ส่วนรุ่นรถมียอดจองสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) Honda City 2) New Mazda 2 Skyactiv 3) All New Mitsubishi Pajero Sport 4) Ford Ranger  และ 5) ISUZU D-MAX Ddi Blue Power โดยในกลุ่มรถยนต์ อันดับ 1) Toyota 5,975 คัน อันดับ 2) Honda 4,864 คัน อันดับ 3) Mazda 4,542 คัน ในส่วนกลุ่มมอเตอร์ไซค์ อันดับ 1) Yamaha 1,323 คัน อันดับ 2) GPX 775 คัน อันดับ 3) Kawasaki 738 คัน //men.mthai.com/car/news/11529.html   Create Date : 16 ธันวาคม 2558     0 comment Last Update : 16 ธันวาคม 2558 12:38:59 น.     Counter : 362 Pageviews.   Share Tweet

VICTORY Empulse TT 2016 บิ๊กไบค์ที่รวดเร็วดุจสายลม หลังจากที่แอบดูซุ่มเงียบอยู่นาน ต้นสังกัดอย่าง VICTORY ก็เลยปล่อยตัวเด็ดพลังไฟฟ้าออกมาจนได้ ซึ่งแม้ว่ารถไฟฟ้าจะต่างชั้นผิดแบบอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับรถที่ต้นสังกัดเคยผลิต แต่นี่คือบทพิสูจน์ทางความคิดว่าพลังงานไฟฟ้าเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นกว่าแต่ก่อน รูปทรงของรถรุ่นนี้ไม่เหมือน “อินเดียน” ที่เคยขี่ แถมเสียงเครื่องที่คำรามก็มลายหายสิ้น คงไว้เพียงแต่ความเร็วและเสียงกระซิบจากสายลมเท่านั้น ส่วนจะเป็นรุ่นไหน? ติดตามได้เลยครับผม เล่นเอาทีมงานออกอาการ “มึน” อยู่พักใหญ่ ตามด้วยการขยี้ตา เพราะรถที่เห็นอยู่ในหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นคือ VICTORY Empulse TT 2016 มันโดดเด่นด้วยรูปทรงชนิดที่เรียกได้ว่า ถ้าไม่คาดโลโก้ของค่ายก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเป็นรถจากค่ายใด ไฟหน้าที่แทรกความคิดของอินเดียนไว้อย่างลงตัว โดยเป็นโคมไฟหน้าแบบสปอร์ต ใช้ไฟสูงและต่ำได้ในหลอดเดียวกัน ส่วนด้านบนจะเป็นไฟหรี่ ครอบหัวอีกชั้นด้วยชุดครอบกระโหลกไฟหน้า ลองมองดีๆ จะเห็นว่ามันคือการดัดทอนรูปทรงของหมวกอินเดียนแดงแบบขนนกของหัวหน้าเผ่า ชุดเรือนไมล์มีหน้าตาไม่ต่างจากรถที่ใช้เครื่องยนต์ที่สันดาปด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง มีการรายงานรอบเครื่องยนต์ด้วยระบบไฟฟ้าผ่านมาตรวัดแบบเข็ม และมีหน้าจอดิจิตอลรายงานเรื่องความเร็วและจำนวนกระแสไฟที่คงเหลือในการใช้งาน ชุดแฮนด์บังคับมาแบบสบายๆ ด้วย T-Bar ผสานกับเบาะนั่งที่กดเป็นหลุมลงไปเล็กน้อยเพื่อช่วยให้ควบคุมรถได้ดีขึ้น พักเท้ามาแบบรถสปอร์ตที่มีการยกองศาขึ้นมานิดๆ เพื่อเรียกดีกรีความสะใจเวลาขี่ ชุดเบาะเป็นเบาะแบบใบเดียวไม่ได้เน้นความนิ่มสบายอะไรมากนัก เพราะนี่ไม่ใช่รถเดินทางไกลและไม่ใช่รถสปอร์ตกำลังสูงๆ หากแต่มันคือรถที่จะใช้ในชีวิตประจำวัน กล่าวคือ เอาไว้ใช้ขี่ไปเที่ยวใกล้ๆ ไปห้างสรรพสินค้า ไปทำงานที่ออฟฟิศ แต่ก็ควรอย่าลืมเช็คเรื่องกระแสไฟด้วยว่าต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง “เราจะไปได้ไกลขนาดไหน” ชุดไฟท้ายยกไฟร่วมรวมสุขอยู่กับชุดติดป้ายทะเบียน โดยเป็นชิ้นส่วนที่แยกออกจากเฟรมของรถ ไฟเลี้ยวทั้งหน้าและหลังเป็นทรงลูกดิ่งแบบหน้าเลนส์ใส หลอดในไส้ส้ม เก๋กว่าด้วยการเป็นรถไฟฟ้าที่มีพักเท้าสำหรับผู้โดยสาร เรียกได้ว่าสาวๆ คนไหน? ชอบโลกสวย หรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รถรุ่นนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุด ขุมกำลังนั้นมาจากชุดมอเตอร์ไฟฟ้าที่หมุนขับเคลื่อนด้วยกำลังกระแสไฟ โดยมีโซ่และสเตอร์ทำหน้าที่ส่งกำลังในการหมุนไปยังล้อหลัง อ้าวๆ รถไฟฟ้า ใช้โซ่สเตอร์!!! ถามว่าจะดีหรือเปล่า? บอกเลยนะครับว่า “ดีเลิศ” เพราะมันสามารถลดหรือเพิ่มขนาดจำนวนของฟันสเตอร์ได้แบบง่ายๆ ใครชอบแบบเก๋าก็ใส่สเตอร์หลังใหญ่ หรือจะชอบเป็นเจ้าหนูลมกรด ก็สามารถลดสเตอร์หลังให้เล็กลง การใช้โซ่สเตอร์ในระบบขับเคลื่อนก็เพื่อเพิ่มสีสันของสไตล์ในการขับขี่ ในส่วนของระบบกันสะเทือน ด้านหน้าเป็นช็อคอัพเทเลสโคปิคหัวกลับ MARZOCCHI ด้านหลังเป็นช็อคอับเดี่ยวที่ติดตั้งแบบเยื้องเซ็นเตอร์ SACHS กล่าวคือ การติดตั้งจะโยกมาทางด้านขวาของตัวรถบริเวณใต้เบาะคนขี่ ลักษณะของช็อคอัพเกือบๆ จะขนานกับพื้นถนน ส่วนเรื่องรถไฟฟ้าพอใช้นานๆ แล้วความร้อนสะสมจะเกิดที่มอเตอร์ พอมาเป็นรถคันนี้ บอกเลยว่า “หมดห่วง” เพราะเล่นสนุกด้วยการระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ หลักการทำงานแบบเดียวกับเครื่องยนต์ หรือจะคิดแบบหลักคอมพิวเตอร์ ก็ไม่ต่างอะไรจากการใส่ Cool System โดยมีปั๊มน้ำไฟฟ้าเป็นตัวผลักน้ำในระบบ จานเบรคหน้ากลัวจะหยุดความแรงไม่อยู่ เลยมาพร้อมกันถึง 2 จาน ขนาบดุมล้อหน้า และเป็นจานเบรคแบบกึ่งให้ตัวได้ คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ เรเดียลเมาท์ BREMBO สั่งงานด้วยระบบไฮดรอลิค จานเบรคหลังตายตัว คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ ขนาดยางหน้าและหลัง เท่ากับ 120 / 60 ZR 17 นิ้ว และ 160 / 60 ZR 17 นิ้ว แถมยังมีการเสียบชาร์จคล้ายๆ กับการเติมน้ำมันเชื้อเพลิง โดยมีปลั๊กตัวเมียติดอยู่ที่ตัวรถ รอแค่ปลั๊กตัวผู้ที่ทำหน้าที่เป็นหัวจ่ายส่งกำลังไฟเท่านั้น รัศมีการใช้งาน ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งแบบเต็มๆ เท่ากับ 232 กิโลเมตร ระยะเวลาในการชาร์จ คือ 3.9 ชั่วโมง เรียบเรียงโดย A’Lure Magazine victorymotorcycles thecarconnection autoevolution //men.mthai.com/car/superbike/11145.html   Create Date : 15 ธันวาคม 2558     0 comment Last Update : 15 ธันวาคม 2558 9:01:05 น.     Counter : 463 Pageviews.   Share Tweet