สตง.สั่งรัฐแจงงบใช้จ่ายศอ.รส. หลังพบผิดปกติ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สั่งนำเอกสารการใช้เงินของ ศอ.รส. มาให้ตรวจสอบ หลังมีกระแสข่าว หลายรายการไม่มีใบเสร็จ ที่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้มีเอกสารถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้สั่งการให้ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. ให้นำเอกสารหลักฐานการใช้จ่ายงบประมาณทุกประเภทให้ สตง. ได้ดำเนินการตรวจสอบว่า มีการใช้ถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ ในการดำเนินดูแลรักษาความสงบทางการเมือง หลังมีกระแสข่าวว่า หลายรายการใช้จ่ายไม่มีหลังหลักฐาน ซึ่งอาจจะมีการทุจริตได้ เนื่อง จากเห็นว่า ศอ.รส. เป็นหน่วยงานพิเศษ มีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องหลายแห่ง และต้องสนับสนุนงบประมาณจำนวนมาก มีการขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุม ระหว่างวันที่ 22 ม.ค.-22 มี.ค. 2557 เป็นวงเงินงบประมาณ 2,747 ล้านบาท ให้กับ 10 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น นายกรัฐมนตรี ควรสั่งการให้ผู้อำนวยการ ศอ.รส. กำหนดแนวปฏิบัติในการจัดเก็บเอกสารหลักฐานการจ่ายเงินงบประมาณทุกประเภทให้ ครบถ้วน สตง. ยังตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ค่าใช้จ่ายของ สตช. เป็นหน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณสูงสุด วงเงิน 1,987 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายด้านกำลังพลของตำรวจ 1,444 ล้านบาท ที่ส่วนใหญ่จะเป็นผลตอบแทนอัตราคนละ 300 บาท ค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการ 534 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ งบดำเนินการ 303 ล้านบาท โดยมีค่าใช้จ่ายสูงสุดอันดับแรกๆ ได้แก่ เครื่องแบบสนาม 59 ล้านบาท วัสดุอุปกรณ์สำนักงาน 47 ล้านบาท ส่วนงบลงทุน 231 ล้านบาท ได้แก่ หมวกกันกระสุน 208 ล้านบาท กล้องส่องทางไกลดิจิตอลบันทึกภาพสองตา 18 ล้านบาท และครุภัณฑ์กล้องวงจรปิดและระบบบันทึกภาพ 3 ล้านบาท ด้าน รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ในฐานะที่ กกต. เป็นผู้เห็นชอบอนุมัติงบประมาณให้ ศอ.รส. จำนวนเงิน 1,250 ล้านบาท  เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ยอมรับว่ากกต. ตั้งข้อสังเกตและได้ทักท้วงในหลายราชการของ ศอ.รส. โดยหาก สตง. ต้องการรายละเอียด กกต. ก็พร้อมที่จะให้ข้อมูล   Create Date : 18 พฤษภาคม 2557     0 comment Last Update : 18 พฤษภาคม 2557 21:30:38 น.     Counter : 1363 Pageviews.   Share Tweet

จอดลงมาตบ ! สองสาว เปิดศึกกลางถนน เหตุไม่พอใจขับรถปาดหน้า จอดลงมาตบ ! สองสาว เปิดศึกกลางถนนคู่ขนานบรมราชชนนีฯ เหตุไม่พอใจขับรถปาดหน้า ตำรวจสั่งปรับข้อหาทะเลาะวิวาท วันนี้(18 พ.ค.) สมาชิกเว็บไซต์ยูทูป ชื่อ กมล แย้มอุทัย ได้เผยแพร่คลิปชื่อ จอดลงมาตบ โดยเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา บริเวณทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีขาเข้า เกิดปัญหาจราจรติดขัดเนื่องจากมีผู้หญิง 2 คนจอดรถลงมาตบกันอยู่ที่ข้างถนน โดยมีคนที่ขับรถผ่านไปผ่านมาชะลอรถดูและถ่ายคลิป รวมไปถึงมีพลเมืองดีเข้าไปช่วยแยกทั้งคู่ออกจากกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะหยุดยืนด่ากัน แต่ผู้หญิงอีกรายก็ยังไม่หยุดใช้รองเท้าฟาดที่หัวของอีกฝ่ายจนหัวแตก เลือดไหล ซึ่งท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาระงับเหตุและนำสร้อยเวรดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับข้อหาทะเลาะวิวาทและจอดรถกีดขวางการจราจร เบื้องต้นทราบว่าชนวนของการทะเลาะวิวาทในครั้งนี้เกิดจากการขับรถปาดหน้ากันไปมา จนทำให้เกิดความไม่พอใจและจอดรถลงมาตบกันในที่สุด MThai News คลิปโดย-มาโนช สยามรัฐ   Create Date : 18 พฤษภาคม 2557     0 comment Last Update : 18 พฤษภาคม 2557 21:30:09 น.     Counter : 1342 Pageviews.   Share Tweet

เศร้า! เครื่องบินทหารลาวตก ที่เชียงขวาง รมต.ป้องปท.-เจ้าเวียงจันทน์เสียชีวิต เครื่องบินกองทัพลาว ตก  ทำรมต.ป้องปท.-เจ้านครเวียงจันทน์ เสียชีวิต ด้าน ทอ.ไทยพร้อมเข้าให้การช่วยเหลือ ชี้ ต้องรอทางการลาวแถลงการณ์  ส่วนแอร์โฮสเตสสาวรอดชีวิตปาฏิหาริย์ (ภาพจาก js100.com) วันนี้ 17 พ.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรายงานข่าวระบุว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 06.23 น.ตามเวลาท้องถิ่น เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินทหาร LAO202 แบบ AN74 บินจาก เวียงจันทร์ ไปเชียงขวาง ตกระหว่างทางก่อนถึงที่หมาย โดยรัฐมนตรีกลาโหมลาวเสียชีวิต พร้อมด้วยผู้โดยสารอีกประมาณ 40 คน ในเบื้องต้นมีรายชื่อผู้เสียชีวิต 5 รายได้แก่ พล.อ.ดวงใจ พิจิต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงป้องกันประเทศ ท่านสุกัน มะหาลาด เจ้าครองนครหลวงเวียงจันทน์ เจือง สมบูนขัน หัวหน้าคณะกรรมการโฆษณาอบรม ปราณี ยาท่อตู้ ประธานสภาแห่งชาติ นายบัวเสี้ยง จำปาพันธ์ ข้าราชการเกษียณอายุ อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เที่ยวบินดังกล่าวเป็นเที่ยวบินพิเศษของกองอากาศ ซึ่งมีภารกิจพารัฐมนตรี ผู้นำพรรคประชาชนปฏิวัติลาว และนายทหารชั้นผู้ใหญ่กองทัพประชาชนลาว ไปร่วมงาน “รำลึกวันฝ่าวงปิดล้อม ของกองพันที่ 2″ ที่แขวงเชียงขวาง ขณะที่ด้านพล.อ.ท.มณฑล สัชฌุกร ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ ระบุ ต้องรอทางการลาวมีแถลงการณ์ถึงกรณีอุบัติเหตุดังกล่าว ส่วนจะมีการขอความช่วยเหลือจากกองทัพอากาศไทยอย่างไรหรือไม่ต้องรออีกครั้ง นอกจากนี้ รายงานระบุว่า มีแอร์โฮสเตสรอดชีวิต 1 ราย ข้อมูลข่าวจาก js100.com MThai News   Create Date : 17 พฤษภาคม 2557     0 comment Last Update : 17 พฤษภาคม 2557 21:24:09 น.     Counter : 1667 Pageviews.   Share Tweet

กรณ์ โพสต์เหน็บ “ใคร (ใช้เงิน) กู้เก่ง?” กรณ์ โพสต์เหน็บ “ใคร (ใช้เงิน) กู้เก่ง?” วันนี้ (17 พ.ค. 57) นายกรณ์ จาติกวณิช พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค Korn Chatikavanij แสดงความเห๋นทางการเมือง โดยระบุว่า ใคร (ใช้เงิน) กู้เก่ง? ในขณะที่การต่อสู้ทางการเมืองเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย เรามาทบทวนความท้าทายทางเศรษฐกิจที่รอเราอยู่ครับ สมัยผมเป็นรัฐมนตรีคลัง พรรคเพื่อไทยชอบกล่าวหาว่าเรา ‘เก่งแต่กู้’ และอ้างว่าเมื่อมีอำนาจเขาจะบริหารประเทศโดยไม่ต้องกู้ เอาเข้าจริงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ตลอดระยะเวลา ๒ ปี ๙ เดือน ๒ วัน เพิ่มหนี้สาธารณะประมาณ ๑.๒๔ ล้านล้าน ถ้าบวกกับการขาดทุนในบัญชีจำนำข้าวอีกประมาณ ๕ แสนล้านก็เท่ากับสร้างหนี้เพิ่มให้ประเทศไทยทั้งสิ้น ๑.๗๔ ล้านล้าน เทียบกับช่วงรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นประมาณ ๐.๘๓ ล้านล้านเท่านั้น ทั้งๆที่ต้องกระตุ้นช่วยแก้วิกฤติเศรษฐกิจ การกู้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ‘ประสิทธิภาพการใช้เงินกู้’ นั้นลดลงไปอย่างมากระหว่างสองรัฐบาล นักเศรษฐศาสตร์เขาเรียกว่า ‘debt intensity’ คือตัววัดว่าต้องใช้หนี้เพิ่มขึ้นเท่าไรจึงจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ - จากข้อเท็จจริงคือ GDP ของไทยเพิ่มขึ้น ๑.๕ ล้านล้านบาท ด้วยหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น ๐.๘๓ ล้านล้านในสมัยอภิสิทธิ์ (เศรษฐกิจขยายตัวเกือบสองเท่าเทียบปริมาณหนี้ที่เพิ่มขึ้น หรือ 2 คูณ multiplier effect) - มาดูช่วงยิ่งลักษณ์ GDP เพิ่มขึ้น ๑.๖ ล้านล้าน แต่หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น ๑.๗ ล้านล้าน (เศรษฐกิจขยายตัวน้อยกว่าหนี้ที่เพิ่มขึ้น หรือ mulitiplier effect ติดลบ) ตามสถิตินี้ชี้ให้เห็นว่าการใช้เงินกู้มีประสิทธิภาพที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเพราะกู้มาใช้ผิดที่ผิดทางหรือเป็นเพราะทุจริตรั่วไหลก็ตาม และนี่ยังไม่นับรวมหนี้ครัวเรือนของประชาชนที่เพิ่มขึ้นในช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ถึง ๓.๓ ล้านล้านบาท แต่กลับไม่ส่งผลในการเพิ่มกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ ทั้งหมดเป็นปัญหาสำคัญที่พวกเราต้องเตรียมแก้ไขครับ มิเช่นนั้นคนไทยจะมีหนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่รายได้อยู่กับที่ MThai News   Create Date : 17 พฤษภาคม 2557     0 comment Last Update : 17 พฤษภาคม 2557 21:23:39 น.     Counter : 1034 Pageviews.   Share Tweet

หนุ่มลำปางซวย! เจอของเข้าตัว หลังลบหลู่ขุดจอมปลวกในวัด หนุ่มลำปางซวย! เจอของเข้าตัว หลังเข้าไปขุดจอมปลวก หวังทำความสะอาดสถูปโบราณในวัด ภาพจาก @dailynews.co.th รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อช่วงคืนของวานนี้ได้เกิดเหตุระทึกขึ้นที่วัดพระธาตุกู่สี่ขันธ์ ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง เมื่อมีชายวัยรุ่นคนหนึ่งคลุ้มคลั่ง เสียสติ คล้ายคนของเข้า ตะโกนโวกเวกโวยวาย ปีนต้นไม้สูง 5 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบ และได้พยายามเกลี้ยกล่อมช่วยเหลือ แต่กลับไม่สำเร็จ แถมมีท่าทีหึกโหมกระโดดเกาะกิ่งไม้ไปมาคล้ายลิงลมอย่างน่าหวาดเสียว จนเวลาผ่านไปนานกว่า 30 นาที ชาวบ้านรายหนึ่งจึงไปจุดธูปขอขมาเจ้าที่ภายในวัด เพราะจากลักษณะแล้วคาดว่าชายคนดังกล่าวต้องถูกของเข้าเนื่องจากไปลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวันแน่นอน ทั้งนี้หลังจากจุดธูปขอขมาไปได้ไม่นานชายคนดังกล่าวก็มีอาการดีขึ้นและได้ลงมาจากต้นไม้ แต่ยังมีอาการโวยวายอยู่เจ้าหน้าที่จึงท่องคาถาและนำเครื่องลางของขลังมากดที่ลำตัวจนในที่สุดชายคนดังกล่าวจึงสงบลง จากการสอบถาม หลวงพ่อสุรินทร์ ปะสัณโน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุกู่สี่ขันธ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้จ้างวานให้ชายคนดังกล่าวไปเก็บทำความสะอาดกู่เจดีย์เก่าหรือ สถูปโบราณ ซึ่งมีอายุมาหลาย 100 ปี เนื่องจากมีปลวกมาทำรังจนกลายเป็นจอมปลวกขนาดใหญ่ แต่หลังจากที่เข้าไปทำความสะอาดได้ไม่นาน เขาก็ได้ตะโกนโวยวาย ก่อนจะกระโจนขึ้นไปบนต้นไม้อย่างรวดเร็ว ซึ่งชาวบ้านที่พบเห็นต่างลงความเห็นว่าเขาน่าจะไปพูดจาดูถูกลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพยายามขุดจอมปลวกเลยเกิดอาการเหมือนของเข้าดังกล่าว MThai News   Create Date : 17 พฤษภาคม 2557     0 comment Last Update : 17 พฤษภาคม 2557 21:22:57 น.     Counter : 1534 Pageviews.   Share Tweet