ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

ชาวเน็ตสวดยับ! พระสงฆ์ทำท่าแพลงกิ้ง

ชาวเน็ตสวดยับ! พระสงฆ์ทำท่าแพลงกิ้ง
ชาวเน็ตสวดยับ! พระสงฆ์ทำท่าแพลงกิ้ง

(16 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รูปภาพพระสงฆ์ห่มจีวร ทำท่าแพลงกิ้ง หรือท่าแกล้งตายที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคมไทย ถูกนำมาโพสลงในโลกอินเตอร์และโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างแพร่หลาย สร้างความประหลาดใจแก่ชาวเน็ตที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก

โดยภาพดังกล่าวถูกโพสต์และส่งต่อกันในเว็บไซต์ทวิตเตอร์ เป็นภาพพระสงฆ์ทำท่าแพลงกิ้ง บริเวณราวบันได เหยียดลำตัวตรง โดยใช้ขาดันติดอยู่กับประตู โดยผู้ที่พบเห็นและส่งต่อต่างแสดงความคิดเห็นในแง่มุมว่าความเหมาะสมหรือไม่ เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวเป็นกิริยาที่ไม่สำรวมนักในหมู่พระสงฆ์

ล่าสุด นายสด แดงเอี่ยม อธิบดีกรมศาสนา เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวแล้วว่า เป็นการทำท่าทางที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นท่าแพลงกิ้งหรือท่าใด พระสงฆ์ ก็ไม่สามารถทำได้เพราะถือว่าผิดวินัยของสงฆ์ รวมทั้งภาพที่ทำแพลงกิ้งที่ปรากฏในอินเทอร์เน็ต ขณะนี้โดยส่วนตัวตนเองยังไม่เห็นภาพดังกล่าว แต่ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพระสงฆ์ที่กระทำการดังกล่าวแล้ว

อย่างไรก็ตาม การทำท่าแพลงกิ้งนั้น กำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น ซึ่ง กรมสุขภาพจิต ออกมาเตือนผู้ที่กระทำดังกล่าว ควรทำในที่ที่ปลอดภัยและไม่เสี่ยงอันตรายและไม่ต้องการเห็นภาพการเสียชีวิต จาการทำแพลงกิ้งของคนไทย เหมือนที่เคยเกิดขึ้นที่ต่างประเทศมาแล้ว




 

Create Date : 16 มิถุนายน 2554   
Last Update : 16 มิถุนายน 2554 19:43:08 น.   
Counter : 968 Pageviews.  

เผยซากไก่เน่ามาจากภาคกลาง - ตำรวจสาวหาต้นตอ














เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 , ครอบครัวข่าว 3, ครอบครัวข่าว 3

ตำรวจโคราชเตรียมสอบแหล่งที่มา และผู้ร่วมขบวนการตั้งโรงชำแหละไก่เถื่อนเพื่อดำเนินคดี เผยซากไก่ถูกขนมาจากภาคกลาง ด้านกัมพูชาสั่งแบนไก่ไทยทั้งหมด

นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีข่าวซากไก่เน่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนนายอำเภอปากช่อง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปากช่อง และปศุสัตว์อำเภอปากช่อง โดยมีคำสั่งให้ย้ายปศุสัตว์อำเภอปากช่อง ไปช่วยราชการที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา เป็นการชั่วคราวแล้ว จนกว่าผลการสอบสวนจะเสร็จสิ้น โดยเท่าที่ทราบขณะนี้ คือ ซากไก่ทั้งหมดถูกขนมาจากพื้นที่ภาคกลาง แล้วมาชำแหละที่อำเภอปากช่อง ก่อนจะลำเลียงไปยังท้องถิ่นชนบทในจังหวัดอื่น เพื่อไปขายให้กับพี่น้องที่อยู่ห่างไกลที่ไม่รู้เรื่อง ซึ่งจากนี้จะสอบสวนหาความคืบหน้าต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาได้ตั้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเพื่อสืบหาถึงแหล่งที่มาของไก่ ผู้ที่ร่วมขบวนการ และสถานที่รับซื้อไก่ เพื่อให้สังคมได้คลายข้อสงสัยถึงไก่ที่นำมาชำแหละ ซึ่งเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไว้นั้น ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเคลื่อนย้ายซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ซากไก่ตายที่ชำแหละทั้งหมด เฉพาะส่วนที่เป็นชิ้นส่วนไก่ส่วนใหญ่จะนำไปขายเป็นอาหารเลี้ยงปลาในพื้นที่จังหวัดลพบุรี และส่วนที่เป็นเนื้อไก่จะนำไปเป็นอาหารให้กับฟาร์มเลี้ยงจระเข้ในจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตามดูเส้นทางของซากไก่ที่ชำแหละว่าส่งลงไปในพื้นที่ที่ผู้ต้องหาได้กล่าวอ้างจริงหรือไม่

ส่วนการสืบหานายทุนรายใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังโรงงานชำแหละไก่เถื่อนนั้น จากการสอบสวนเบื้องต้นขณะนี้พบว่า โรงงานที่ใช้ชำแหละไก่เป็นบ้านพักอาศัยของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเอง อย่างไรก็ตามขณะนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาได้ประสานการทำงานร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา เพื่อดำเนินการกวาดล้างโรงงานชำแหละซากสัตว์เถื่อนทุกพื้นที่ทั้งจังหวัดแล้ว

พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาปัญหาต่าง ๆ คือการไม่เอาจริงเอาจังของเจ้าหน้าที่ จึงทำให้เกิดปัญหา ฉะนั้นจะให้ความมั่นใจว่าครั้งนี้เอาจริง และจะไม่มีข้อแก้ตัวอีก ถ้าเกิดเหตุขึ้นอีกนายอำเภอในพื้นที่ต้องรับผิดชอบ ผู้กำกับสถานีตำรวจต้องรับผิดชอบ ปศุสัตว์อำเภอต้องรับผิดชอบ จะมาบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ รวมไปถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องรับผิดชอบทุกระดับ และจะมาอ้างโน้นอ้างนี่ไม่ได้อีกต่อไป

ด้านกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา ได้สั่งการไปยังหน่วยงานทุกระดับตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อป้องกันการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่ทั้งหมดที่ส่งมาจากประเทศไทย แม้จะมีใบรับรองก็ตาม ซึ่งคำสั่งห้ามนำเข้าดังกล่าวของกัมพูชา มีขึ้นหลังมีการรายงานข่าวออกมาว่า เจ้าหน้าที่ไทยบุกค้นโรงชำแหละไก่ ใน จ.นครราชสีมา และสามารถยึดของกลางเป็นซากไก่เน่า 8 ตัน และตรวจสอบพบว่า โรงชำแหละไก่ดังกล่าวมีการนำไก่ตายที่เริ่มเน่าไปแช่ฟอร์มาลีน ก่อนจะมีการนำมาแปรรูปเป็นอาหาร











[14 มิถุนายน] สั่งย้าย! นายอำเภอ-ปศุสัตว์ปากช่อง เซ่นไก่เน่า

ผู้ว่าฯ โคราช ออกโรงขอโทษประชาชน เหตุปล่อยให้มีโรงงานชำแหละไก่เถื่อน พร้อมสั่งเด้งนายอำเภอ-ปศุสัตว์ปากช่อง ขณะที่ตำรวจบุกจับได้อีก 6 โรงงาน

ความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีที่มีโรงงานชำแหละไก่เถื่อนใน ต.กลางดง อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา ที่ได้ซื้อไก่ตายจากฟาร์มต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้ผ่านการตรวจโรคจากกรมปศุสัตว์ นำมาชำแหละขายให้แก่ผู้ซื้อในราคาถูก อีกทั้งโรงงานดังกล่าวยังสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะส่งกลิ่นเหม็นเน่ารบกวนเป็นอย่างมากนั้น

ล่าสุด นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ออกมากล่าวว่า ตนต้องขอโทษประชาชนทุกคนที่ปล่อยให้มีโรงงานแห่งนี้เกิดขึ้น ซึ่งส่งกลิ่นเหม็นเน่า และสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนเป็นอย่างมาก สำหรับไก่ตายดังกล่าว ทางโรงงานเถื่อนคงจะส่งไปทำไส้กรอก ตามชนบท ไม่เกี่ยวกับไก่ที่ขายอยู่ในตลาดสดแน่นอน ขอให้ประชาชนวางใจ ทั้งนี้ ตนก็ต้องขอขอบคุณไปยังสื่อมวลชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ช่วยเป็นหูเป็นตาคอยให้ข้อมูลแก่ทางราชการ

อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องดังกล่าว ตนได้เซ็นคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้แล้ว และจะมีคำสั่งให้นายอภเภอปากช่อง และปศุสัตว์ปากช่อง ออกนอกพื้นที่เป็นเวลา 30 วัน โดยให้ไปช่วยราชการในจังหวัดแทน เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนเป็นไปด้วยความสะดวกนอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปบุกจับโรงงานชำแหละไก่เถื่อน ในพื้นที่ ต. กลางดง ได้ 6 แห่ง จากทั้งหมด 14 แห่ง พบซากไก่เน่ากว่า 8 ตัน โดยได้จับกุม นายสุชาติ บุบสาคร นายอินทิรา อินวัน และนายชัชวาล เพ็ชรพรม เพื่อดำเนินคดีต่อไป ส่วนโรงงานอื่น ๆ ไหวตัวทัน ได้ปิดโรงงานหนีไปก่อน

นายระพี ได้กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นนั้น พบการกระทำผิดอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ปล่อยปละละเลยต่อหน้าที่ จนทำให้เกิดกระบวนการค้าเนื้อไก่เที่ผิดกฎหมาย และตนเชื่อว่า จะต้องมีผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นเจ้าหน้าที่ในภาครัฐอีกหลายระดับ อย่างไรก็ตาม ตนได้ร้องขอให้ พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดตั้งแต่ นายอำเภอ ปศุสัตว์อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. นายก อบต. ที่อยู่ในพื้นที่ว่า มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวหรือไม่ หากพบผู้กระทำผิดจริง ต้องดำเนินการเอาผิดทางวินัยและอาญา ฐานปล่อยปละละเลยหรือรู้เห็นเป็นใจให้ผู้อื่นกระทำการโดยผิดกฎหมายต่อไป

ขณะที่ นางจงกลนี วิทยารุ่งเรืองศรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการความ ปลอดภัยด้านอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรณีการนำเนื้อสัตว์ต่าง ๆ มาผสมสารฟอร์มาลิน หรือน้ำยาดองศพ เพื่อยืดอายุอาหารให้เก็บได้นานนั้นเป็น เรื่องที่เกิดขึ้นนานแล้ว แต่ไม่สามารถป้องกันและปราบปรามให้หมดไปได้ เนื่องจากความเห็นแก่ผลประโยชน์ของผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย และความไม่รู้อันตรายของผู้บริโภค ล่าสุดได้ตรวจพบโรงงานชำแหละซากไก่ผสมฟอร์มาลินที่จังหวัดนครราชสีมา ขณะนี้ได้ดำเนินคดีผู้กระทำผิดตามกฎหมายแล้ว

อย่างไรก็ตาม กรณีที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดสำหรับการนำเนื้อสัตว์ผสมฟอร์มาลินคือ กระเพาะวัว หรือขี้ริ้ววัว หรือสไบนาง ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวดกวดขันมากกว่านี้ ทั้งนี้ จากการรวบรวมรายงานการเฝ้าระวังและสุ่มตรวจตัวอย่างเนื้อสัตว์ที่จำหน่ายตาม ตลาดสดและร้านอาหารทั่วประเทศประจำปี 2553 พบการปนเปื้อนฟอร์มาลินในผ้าขี้ริ้ววัวมากที่สุด รองลงมาเป็นปลาหมึกกรอบ จึงขอแนะนำให้ผู้บริโภคหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะผ้าขี้ริ้ววัวที่ผ่านการกัดหรือฟอกขาวไม่ควรรับประทาน

"เมื่อเดือนมกราคม 2554 มีการบุกทลายแหล่งขายส่งเนื้อสัตว์ในจังหวัดขอนแก่น ตรวจพบผ้าขี้ริ้ววัวปนเปื้อนฟอร์มาลิน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นได้ยึดไว้และเผาทำลายพร้อมดำเนินคดีตาม กฎหมาย จากการสอบสวนเจ้าของร้านพบว่า ผ้าขี้ริ้ววัวอันตรายนี้ถูกส่งมาจากโรงงานแคทแอนคอม ถ.พระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ซึ่งมีแหล่งใหญ่ผลิตผ้าขี้ริ้ววัวแช่น้ำยาดองศพอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร แต่ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบโดยด่วน" ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยด้านอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าว


[13 มิถุนายน] สั่งปิดแล้ว! 4 โรงงานชำแหละไก่เน่าส่งขายแม่ค้า


เผยโรงชำแหละเถื่อนที่โคราช ซื้อไก่เน่าตัวละ 3 บาท ก่อนนำมาชำแหละ-ชุบฟอร์มาลีนขายส่งแม่ค้า และแปรรูปเป็น กุนเชียง ไก่หยอง ราคาถูก!!! ล่าสุดสั่งปิดแล้ว 4 โรงงาน

วานนี้ (12 มิถุนายน) รายการข่าว 3 มิติ ได้รายงานว่าโรงงานชำแหละไก่แห่งหนึ่งใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา รับซื้อไก่ตายที่ไม่ผ่านการตรวจโรคของกรมปศุสัตว์ นำมาชำแหละขายต่อ โดยก่อนหน้านี้มีประชาชนในพื้นที่เข้าร้องเรียนกับกรมปศุสัตว์ว่า โรงงานดังกล่าวได้นำไก่ตายซึ่งประมูลขายในราคาถูก จากฟาร์มเลี้ยงไก่หลายแห่งทั้งภาคกลาง และภาคอีสาน โดยซื้อได้ในราคาตัวละ 3 บาท นำมาชำแหละและชุบฟอร์มาลีนก่อนนำไปขายได้ในราคาประมาณ 40 บาท

สำหรับโรงงานดังกล่าว เปิดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ปี โดยมีแรงงานต่างด้าว เป็นชาวกัมพูชากว่า 100 คน คอยรับไก่ตายจากฟาร์ม โดยไม่ผ่านกรมการตรวจโรคของปศุสัตว์ เพราะว่า ถ้าผ่านกรมปศุสัตว์แล้ว ไก่ตายเหล่านี้ จะต้องถูกฝัง ทางฟาร์มจึงได้นำไก่ตายมาขายเพื่อเพิ่มรายได้ โดยแรงงานจะชำแหละอกไก่ขายไปยังตลาด และผู้ซื้อต่าง ๆ ส่วนขาไก่ และปีกไก่ ที่จะเน่าเสียเร็ว ก็จะนำไปผสมดินปะสิว เพื่อทำให้สีเนื้อไก่ไม่เขียว และกลับมาเป็นสีแดงเหมือนเดิม

ทั้งนี้ ผู้รับซื้อไก่เน่ามีทั้งร้านค้าอาหารตามสั่ง ร้านปิ้งย่าง ซึ่งจะนำไปทำกุนเชียง ไก่หยอง ขายในราคาถูก นอกจากนี้โรงงานดังกล่าวยังสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในละแวกนั้นเป็นอย่างมาก เพราะไก่เน่านั้นส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วหมู่บ้าน

อย่างไรก็ตาม ได้มีการสอบถามไปยังผู้อำนวยการสำนักควบคุมป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ ภายหลังจากที่จับกุมเจ้าของโรงเชือดไก่เถื่อนดังกล่าวได้ แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ โดย ผอ.สำนักควบคุมป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ กล่าวเพียงว่ายังไม่สามารถให้รายละเอียดที่ชัดเจนได้ในขณะนี้ ต้องรอทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา สอบสวนไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อน ถึงจะแจ้งผลเรื่องดังกล่าวต่อไป

ต่อมานายปรีชา สมบูรณ์ประเสริฐ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวถึงประเด็นนี้หลังจากได้รับรายงานว่า ได้สั่งปิดโรงงาน 4 แห่งในจังหวัดนครราชสีมาที่นำไก่ตายมาชำแหละขายแล้ว และจากการตรวจสอบพบว่า โรงงานเหล่านี้เคยถูกจับกุมมาแล้วเมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา แต่ก็ยังลักลอบเปิดชำแหละไก่ตายอยู่ ซึ่งมีไก่ตายที่รอชำแหละรวมกันอยู่ถึง 9 ตัน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างไก่ตายเข้าห้องแล็บ เพื่อตรวจโรคแล้ว พร้อมกับพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันโรคระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยทราบว่าไก่ดังกล่าวตายโดยธรรมชาติจากการติดเชื้อ ทำให้ท้องเสีย แต่ไม่ได้เป็นเชื้อโรคร้ายแรงเหมือนโรคไข้หวัดนก และสามารถฆ่าเชื้อได้ด้วยการใช้ความร้อนมากกว่า 70 องศาขึ้นไปปรุงให้สุก



ไก่เน่า

ไก่เน่า

ไก่เน่า


ทางด้าน นายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ออกมาเตือนถึงอันตรายของฟอร์มาลินที่ปนเปื้อนในไก่ดังกล่าว ว่า ฟอร์มาลินจะมีผลกระทบต่ออวัยวะสืบพันธุ์ ทำลายระบบทางเดินหายใจ และทางเดินอาหาร พร้อมทั้งสั่งเอาผิดผู้ประกอบการทุกรายที่นำฟอร์มาลีนมาใส่อาหารทุกชนิด

นายแพทย์พิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ฟอร์มาลินเป็นสารต้องห้ามในอาหาร ทาง อย. ไม่เคยอนุญาตให้มาใส่ในอาหาร เพราะฟอร์มาลีนเป็นยาฆ่าเชื้อ ถ้าเกิดบริโภคเข้าไปก็จะเกิดพิษโดยตรง และถ้าสัมผัสก็จะเกิดอาการผื่นคัน หรือถ้ารับประทานเข้าไป จะส่งผลให้ทำลายระบบทางเดินหายใจ ทำลายเซลล์สืบพันธุ์ ส่งผลให้เป็นหมันได้ นอกเหนือไปกว่านั้นคือ ทำให้เกิดโรคมะเร็ง ทำลายระบบประสาทส่วนกลาง และระบบทางเดินอาหาร จนทำให้กระเพาะอักเสบเป็นแผล มีอาการอาเจียน และอุจจาระร่วง

ทั้งนี้ ทาง อย. ได้แนะวิธีตรวจสอบไก่ที่ปนเปื้อนฟอร์มาลิน ด้วยการดม เพราะกลิ่นฟอร์มาลินจะติดอยู่ที่อาหารชัดเจน และควรหลีกเลี่ยงอาหารชนิดนั้นทันที อย่างไรก็ตาม ถ้าหากทาง อย. ตรวจพบร้านค้า หรือผู้ประกอบการใด ที่นำฟอร์มาลีนมาปนเปื้อนกับอาหาร จะดำเนินการเอาผิดทันที ตาม พรบ. อาหาร โทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 2,000 บาท


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




 

Create Date : 15 มิถุนายน 2554   
Last Update : 15 มิถุนายน 2554 15:42:29 น.   
Counter : 1802 Pageviews.  

หรือว่า "พิ้งค์กี้" จะเปลี่ยนแนวเอาดีทางนี้จริงๆ

วันนี้อ่านข่าวเจอว่าน้องพิ้งค์กี้บินอินเดีย ไปร่วมเปิดตัวหนังที่ถ่ายทำไปนานตั้งแต่ปีแล้ว ในวันที่ 15 มิ.ย. เธอให้สัมภาษณ์แนวว่ารู้สึกตื่นเต้น ในฐานะคนไทยคนแรกที่เข้าไปเป็นนางเอกหนังของบอลลีวู้ด .....

ก็ดีเหมือนกันหากเธอจะหันมาเอาดีทางนี้อย่างจริงจัง ไม่บินไปก็บินมา เปลี่ยนเมืองเปลี่ยนเรื่องไปทั่ว.....

ถามจริงๆ...หากเธอได้ดิบได้ดีกับการโกอินเตอร์ดังพลุแตก คุณๆ ทั้งหลายที่รุมกระหนำด่า (รวมเจ๊เจ๋อด้วย) จะยินดีและพร้อมจะเปิดใจรับเธอกลับมาเป็นดาราในดวงใจได้อีกหรือเปล่า




//webboard.sanook.com/forum/3443914




 

Create Date : 14 มิถุนายน 2554   
Last Update : 14 มิถุนายน 2554 9:20:07 น.   
Counter : 1183 Pageviews.  

รวบเดนสังคม ฉุดนร.ข่มขืนปล้นทรัพย์

ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว

ตร.ขอนแก่น ตามรวบตัว2 วัยรุ่น ก่อเหตุขับรถเก๋งปาดหน้าจยย.นักเรียนสาวให้เสียหลัก ก่อนฉุดไปข่มขืน และปล้นทรัพย์ สารภาพก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วกว่า 40 ครั้ง

(14 มิ.ย.) เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 13 มิ.ย. สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหากลุ่มวัยรุ่นที่ตระเวนก่อเหตุขับรถยนต์เก๋งปาดหน้ารถจยย.นักเรียนสาวจนเสียหลักลงข้างทาง ก่อนลงมือจับใส่กุญแจมือใช้ผ้าปิดตาแล้วอุ้มขึ้นรถไปข่มขืน โดยสามารถติดตามจับกุมตัวได้ 2 คน จากทั้งหมด 4 คน ประกอบไปด้วย นายวัชระ ยอดภิรมย์ อายุ 22 ปี นายอภิชาต โพนยะเขต์ อายุ 20 ปี ส่วนอีก 2 รายทราบชื่อว่า นายบาส(นามสมมุติ) นายบอย (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ทั้งสองคน ขณะนี้ได้หลบหนีการจับกุมตัว

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 เม.ย.54 เวลาประมาณ 01.00 น. มีคนร้ายเป็นชาย 4 คน ขับรถยนต์เก๋งดักฉุดนักเรียนหญิง อายุประมาณมาณ 17 ปี ริมถนนบ้านแคนเหนือ ต.แคนเหนือ อ.บ้านไผ่ แล้วพาไปข่มขืนที่กระท่อมในทุ่งนา นอกจากนี้เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 54 เวลาประมาณ 19.30 น. ขณะที่ น.ส. เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านไผ่ ขับขี่รถจักรยานยนต์ เดินทางกลับจากโรงเรียน เมื่อถึงบริเวณปากทางเข้าหมู่บ้าน มีคนร้ายจำนวน 3 คน ขับขี่รถยนต์เก๋งปาดหน้ารถจักรยานยนต์ ของ น.ส.เอ เสียหลักตกลงข้างทาง จากนั้นจับตัวน.ส.เอ ใส่กุญแจมือและใช้ผ้าปิดตา แล้วอุ้มตัวขึ้นรถไป

จากนั้นผู้ต้องหาได้นำตัว น.ส.เอ มาข่มขืนที่บริเวณป่ายูคาลิปตัส ริมถนนมิตรภาพ ต.บ้านไผ่ อำเภอบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น แล้วปล่อยตัวไป แต่คนร้ายได้นำรถจักรยานยนต์ของ น.ส.เอ ไปด้วย หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกสืบสวนติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ จนกระทั่งพบรถจักรยานยนต์ของ น.ส.เอ ไปเก็บไว้ที่บ้านของ นายอภิชาต ซึ่งได้หลบหนีไปอยู่กับเพื่อนที่ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ตำรวจจึงขอหมายจับติดตามจับกุม นายวัชระ และนายอภิชาต จนสามารถจับกุมได้ที่บ้านเช่าในพื้นที่ ต.เสาไห้ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี และจากการตรวจค้นบ้านพักหลังดังกล่าว พบบัตรประชาชน บัตรบัตรเครดิต และบัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหายจำนวนมาก

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุทำการชิงทรัพย์ ในท้องที่ จ.ปทุมธานี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.กรุงเทพฯ จ.ขอนแก่น และ จ.มหาสารคาม มาแล้วกว่า 40 ราย ส่วนวิธีการลงมือนั้น จะขับขี่รถยนต์ตระเวนหาเหยื่อที่เป็นหญิง เมื่อสบโอกาสจะใช้รถยนต์ขับขี่ปาดหน้าจนเหยื่อเสียหลักก็จะลงจากรถแล้วใช้ปืนข่มขู่ผู้เสียหายปลดเอาทรัพย์ไป หากเหยื่อเป็นหญิงสาวจะนำตัวไปในที่เปลี่ยว และร่วมกันข่มขืน

ทั้งนี้หลังจากแถลงข่าวจับกุมได้คุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพก่อนที่จะนำตัวส่งดำเนินคดีในข้อหาปล้นทรัพย์และข่มขืนต่อไป




 

Create Date : 14 มิถุนายน 2554   
Last Update : 14 มิถุนายน 2554 9:16:40 น.   
Counter : 1312 Pageviews.  

จับตา ! เวียร์-แพน นางฟ้ากับมาเฟีย

แพนเค้ก - เวียร์



จับตา ! "เวียร์-แพน" นางฟ้ากับมาเฟีย (ภาพยนตร์บันเทิง)


มีโอกาสได้มาร่วมงานกันในละครแอ็กชั่นคอมเมดี้ของ บริษัทกันตนาฯ เรื่อง "นางฟ้ากับมาเฟีย" งานนี้ไม่ต้องสงสัยว่า "เวียร์" ศุกลวัฒน์ คณารศ กับ "แพนเค้ก" เขมนิจ จามิกรณ์จะต้องตกเป็นที่จับตามองแน่นอนในเรื่องของข่าวคราวต่างๆ โดยที่เวียร์ก็บอกว่าทำใจเอาไว้ยังไงต้องมีข่าว ไม่ว่าจะข่าวดีหรือไม่ดีก็ตาม

เวียร์ ศุกลวัฒน์ : เรื่องข่าวมีชัวร์แน่นอน เราก็มองข้ามไปซะ เพราะเราต้องเดินหน้าทำงานต่อไปดีกว่ามานั่งติดตามมีข่าวอะไรบ้างปวดหัว เพราะมันค่อนข้างเป็นประเด็นอยู่ ก็เป็นเรื่องปกติ เราก็ทำงานตอ่ไปเพราะงานตอนนี้ก็ 7 วันนะใช้ได้อยู่ไม่มีเวลาไปคิดเรื่องข่าวหรอก แต่ผมอยากให้ดูละครมากกว่า อย่าไปจับตาหรือจับผิดอะไรเลย จริง ๆ ก็เป็นการกลับมาร่วมงานกัน ซึ่งเราก็รู้จักกันอยู่แล้วก็คุยได้ปกติ อยากให้ดูว่าละครเรื่องนี้น่าสนใจกลับมาเล่นด้วยกันอีกจะเป็นยังไง อยากให้ติดตามละครมากกว่า

รู้ตัวนานไหมว่าจะได้เล่นละครกันแพนเค้ก

เวียร์ ศุกลวัฒน์ : เขาติดต่อผมมานานแล้ว แต่ตอนแรกไม่ทราบนางเอกเป็นใคร แต่ถามจริง ๆ ผมมองไม่มีใครหรอก ต้องเป็นน้องแน่ ๆ ผมเคยอ่านเรื่องย่อ นางเอกต้องมีอายุหน่อยและต้องเป็นแอร์โฮสเตส ซึ่งผมมองไม่มีใครก็เป็นแพนนี่แหละ แล้วจังหวะที่แพนว่างพอดีและบทเหมาะสม

เร็วไปไหนถ้าจะกลับมาร่วมงานกัน

เวียร์ ศุกลวัฒน์ : ถ้าจะคิดเรื่องเวลาจะเร็วจะช้ายังไงเราก็ต้องเจออยู่ดีเพราะเราอยู่ช่องเดียวกัน ผมว่ารีบๆ เจอกันดีกว่าจะได้แบบร่วมกันได้ปกติ คือเราบริสุทธิ์ใจเราทำงานได้ปกติ เหมือนมาเจอกันคุยกันตามปกติ ไม่ได้แบบเครียดว่าตายแล้วมาทำงานด้วยกันจะทำไงดี แต่คงเหมือนทำงานถ่ายละครเรื่องแรก เพราะมันไม่ได้แบบสมมติเราไม่เหมือนเดิม พอมาเจอกันก็ไม่ได้คุยเหมือนที่เราเคยเป็น ก็คุยอีกแบบหนึ่งซึ่งไม่ได้แตกต่างกันเลยเพราะเราก็ยังเป็นพี่เป็นน้องกัน คือความสัมพันธ์มันเปลี่ยนมากกว่า ผมว่าไม่แน่นะอาจจะคุยกันมากขึ้นก็ได้ ขำๆ เป็นพี่เป็นน้องฮาๆ กันไปอาจจะดีก็ได้ ดูอย่างโดมกับพลอยคุยกันสนุกสนานผมว่าน่าเป็นไปได้นะ

เรื่องนี้ต้องมีฉากเลิฟซีนกุ๊กกิ๊กด้วย

เวียร์ ศุกลวัฒน์ : มีบ้างแหละ เพราะในเรื่องต้องแต่งงาน และมาอยู่ด้วยกัน เราก็คิดว่าเล่นละครอยู่ ก็เล่นตามบทไป ผู้กำกับฯ ว่าไงเพราะเขาดูแลให้หมด ฉากบู๊ก็เซฟให้ ฉากเลิฟซีนก็เซฟให้ ผมเลยไม่ห่วง แต่ถ้าเขาต้องการอย่างนั่นจริง ๆ ถ้าเราทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็บอกเราไม่โอเค.เท่านั้นเอง

เล่นละครด้วยกันคนก็จับตามองและลุ้นอยู่

เวียร์ ศุกลวัฒน์ : คงมีบ้างสำหรับคนดูละครแล้วอินหรือคนที่เคยลุ้นเรามาก่อน ก็ดีครับ ก็ขอบคุณ แต่ผมว่ามาดูละครดีกว่าว่าโอเค.ไหม

เรื่องนี้ต้องบู๊เยอะเลยลงทุนเล่นฟิตเนสเพื่อให้หุ่นเฟิร์มและแข็งแรง

เวียร์ ศุกลวัฒน์ : ตอนเล่นบู๊ในเรื่อง "พระจันทร์ลายพยัคฆ์" เป็นอะไรที่เหนื่อยมากเกือบตาย เพราะเราไม่ฝึกให้ร่างกายแข็งแรงหรือพร้อม ก็เลยค่อนข้างกลัวว่า จะไม่ไหวเลยต้องฟิตไว้ก่อน แล้วเมื่อก่อนมีพุงแต่ตอนนี้ไม่มีแล้วนะหน้าท้องแบนเรียบ ผมก็ปรึกษาน้องที่เล่นฟิตเนสเขาบอกต้องกินอาหาร 6 มื้อกินไข่ขาว เราต้องหันมาดูแลตัวเองและต้องเปลี่ยนลุกส์เพราะเริ่มแก่แล้ว เวียร์ ศุกลวัฒน์ ที่คนรู้จักเป็นคนนิ่ง ๆ เฉย ๆ มีความเป็นคนอีสาน เป็นคนตรง ๆ มาตลอด พอถึงจุดหนึ่งอยากเปลี่ยนคาแรกเตอร์อยากเปลี่ยนตัวเองบ้าง ดูแลตัวเองมากขึ้นอยากเล่นให้หุ่นเฟิร์มและแข็งแรง มันจะได้ดูดีด้วยเวลาใส่เสื้อผ้า คือเรากลับไปเจอเพื่อน ๆ ที่ขอนแก่น ซึ่งบางคนไม่ดูแลตัวเอง บางคนก็ป่วย แต่คนที่ดูแลตัวเองดูดีเห็นได้ชัด เราก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องดูแลตัวเองก็เล่นมาได้เดือนหนึ่งแล้ว อีกอย่างแม่ก็เป็นห่วงเพราะตอนนี้เหลือเราคนเดียว แล้วแม่ไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลาก็เลยทำให้ตัวเองแข็งแรงแม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง

และพอได้ออกกำลังกายมันติดนะ ต้องเล่นทุกวัน ตื่นมา 6 โมงเช้าเล่นถึง 7 โมง กินโปรตีนก็ไปถ่ายละครตกเย็นก็มาเล่นอีกเราเล่นเองที่บ้านก็ได้ ก็จะเล่นไปเรื่อย ๆ อยากให้ต้นแขน หน้าอก หน้าท้องกระชับ ซึ่งต้องใช้เวลานานหน่อยนะ ไม่ได้ง่าย ๆ แต่อย่างผมเขาบอก 2 เดือนนี้ขึ้นแล้ว เพราะหุ่นเราผอมและสูงมีโครงอยู่แล้ว แต่ผมไม่เอาใหญ่มากแบบเป็นกล้ามปู แค่เอาให้ดูชัดและแข็งแรงเท่านั้นเอง

ลดละเลิกดื่มแล้ว

เวียร์ ศุกลวัฒน์ : ไม่ได้เลิก มีดื่มบ้างเล็กน้อย จิบไวน์กับแม่ ไม่ไหวแล้วเพราะร่างกายทำงาน 7 วัน และเราใช้มาเยอะตั้งแต่เรียนปี 1 หน้าตาก็ไปก่อนวัย ตอนนี้พอหันมาดูแลตัวเองดีขึ้นนะ ออกกำลังกายแล้วติดนะ

เพื่อน ๆ แปลกใจที่เวียร์เปลี่ยนไป

เวียร์ ศุกลวัฒน์ : เพื่อนงงเลย พูดขำ ๆ นะโทร.มาชวนเราไปกินเหล้า เราบอกขอโทษที ขี้เกียจกินไม่กินแล้ว วันหลังไปตีกอล์ฟกันหรือเปล่าเพื่อนงงไปเลย นอกจากฟิตเนสก็ไปเล่นกีฬา ว่ายน้ำ ตีกอล์ฟ

กระแสข่าวเม้าท์แม่หน่อยสูบเงินเวียร์

เวียร์ ศุกลวัฒน์ : จริง ๆ ไม่ได้มีปัญหากันระหว่างความสัมพันธ์ของผมกับแม่อย่างที่เป็นข่าวเลย ไม่มีปัญหาอย่างนี้ และไม่ได้เป็นตามข่าวที่เสนอมาก็แล้วกัน ผมกับแม่เหมือนเดิมปกติ ผมไม่ทราบว่ามีข่าวนี้ได้ยังไง ก็รู้สึกเห็นใจเพราะข่าวไม่มีมูล

ความรักที่ผ่านมาให้ประสบการณ์อะไรกับเวียร์บ้าง

เวียร์ ศุกลวัฒน์ : เราต้องพร้อมถ้าจะมีความรักต้องใช้เวลาศึกษากันนานหน่อย แล้วคนที่ใช่ก็ใช่ คนที่ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ ก็เป็นไปตามที่เขาพูดกันมา ผมไม่ได้เจาะจงแต่มองว่าปล่อยไปเรื่อย ไม่ได้รีบมีแฟนหรือขวนขวายหาก็ปล่อยไปตามธรรมชาติถ้ามีก็มีไม่มีก็ไม่มี และถ้ามีผมก็ต้องเป็นคนเลือก

แล้วตอนนี้มีหรือยัง

เวียร์ ศุกลวัฒน์ : ไม่มีเพราะเขาคงคิดว่าเรายังไม่พร้อมซึ่งเราก็ไม่พร้อมจริง ๆ ด้วย และชอบชีวิตแบบนี้มากกว่า เป็นโสดดีได้ดูแลตัวเองเพราะมีเวลามากขึ้น คือเราไม่ได้อยากมีแต่ไม่ขวนขวายมากกว่าถ้ามีเข้ามาก็มี

ถ้าเวียร์จะมีความรักครั้งต่อไป 1-2-3-4 ต้องมี

เวียร์ ศุกลวัฒน์ : ไม่รู้ครับ แล้วแต่ เพราะผมไม่ได้มีหลักเกณฑ์อะไร ผมปล่อยไปตามปกติ คือเราไม่ได้เสแสร้งทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ เราก็ทำไปตามที่เราอยากจะทำเราก็ทำ และคอยดูแลความรักดี ๆ ก็พอแล้ว




ขอขอบคุณข้อมูลจาก



ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทีวีอินไซด์




 

Create Date : 12 มิถุนายน 2554   
Last Update : 12 มิถุนายน 2554 21:23:38 น.   
Counter : 1459 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  

zulander
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




หวยซอง เลขเด็ด
หวยซอง เลขเด็ด หวยซองแม่นๆ หวยซองดัง รวมหวยซอง






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add zulander's blog to your web]