เมืองหลอดไฟ

วันหนึ่ง มีพ่อค้ารับแลกของเก่าจากต่างเมืองแวะเวียนผ่านมาในตลาด
เขามีสิ่งของรูปร่างประหลาด บอกว่าจะมาแลกกับเสื้อผ้าเก่า
“หลอดไฟจ้า…หลอดไฟ ใครมีเสื้อผ้าเก่าๆ เอามาแลกกับหลอดไฟ” พ่อค้าตะโกนบอก
“หลอด…ไฟ…?” หญิงสาวคนหนึ่งทำท่าสนใจ เธอจูงลูกเข้ามาดูใกล้ๆ พลางทำหน้าสงสัย “หลอดอะไรไม่เห็นมีรูให้ดูดเลย?”
“หลอดไฟไม่ได้มีไว้ดูด แต่เอาไว้ให้ความสว่าง ให้แสงสวยงามต่างหาก” พ่อค้าอธิบาย “แค่เอาไปติดบนต้นไม้ให้กลายเป็นต้นหลอดไฟ เท่านี้ต้นไม้ก็จะสว่างไปทั่ว”
หญิงสาวได้ฟังก็สนใจ เธอตัดสินใจถอดเสื้อของลูกน้อยแลกหลอดไฟมาหนึ่งดวง
เธอลากแขนลูกวิ่งตื๋อกลับบ้าน จัดแจงเอาหลอดไฟไปติดบนต้นมะม่วงผลดกหน้าบ้าน
แต่หลอดไฟก็ไม่สว่าง…

เธอรีบย้อนกลับไปที่ตลาด ต่อว่าต่อขานพ่อค้าจอมหลอกลวง
“ใจเย็นๆ ก่อนสิ ฉันยังอธิบายไม่จบ ต้นหลอดไฟจะสว่างได้ เธอต้องใช้ถ่านหินเป็นปุ๋ย ที่บ้านเธอคงพอมีถ่านหินอยู่บ้างสินะ”
หญิงสาวกลับบ้านไปอีกครั้ง เธอเข้าครัวหยิบถ่านหินมากำมือหนึ่ง โรยรอบๆ โคนต้นไม้
หลอดไฟบนต้นมะม่วงเริ่มเปล่งแสง แม้ท้องฟ้ามืดครึ้ม แต่ต้นมะม่วงหน้าบ้านของหญิงสาวกลับสว่างรำไร
เพื่อนบ้านที่รู้เรื่องนี้ต่างสนใจมาดูต้นหลอดไฟหน้าบ้านของเธอ
จากนั้นก็รีบกลับบ้านไปรื้อเสื้อผ้าเก่าๆ เพื่อแลกหลอดไฟคนละดวงสองดวง
บ้านทุกหลังเริ่มสว่างไสว

“ทำไมเราไม่ทำให้เมืองนี้เป็นเมืองแห่งต้นหลอดไฟไปเลยล่ะ เราจะได้ไม่ต้องทนอยู่ในความมืดมิดอีกต่อไป” ใครคนหนึ่งเสนอ
ทุกคนต่างเห็นพ้อง จึงพากันขนเอาเสื้อผ้าไปแลกหลอดไฟมาติดบนต้นไม้ทั่วเมือง
ใครที่ไม่มีเสื้อผ้าเก่าก็เอาเสื้อผ้าใหม่ไปแลก เมื่อเสื้อตัวเองหมดก็เอาเสื้อลูกไป
ไม่ว่าจะต้นสนหน้าบ้าน กอบัวในบึง ต้นส้มในสวนสาธารณะ หรือแม้แต่บนยอดมะพร้าว ทั้งหมดกลายเป็นต้นหลอดไฟในไม่ช้า…
พ่อค้ารับแลกหลอดไฟได้เสื้อผ้าไปมากมาย เขาจึงออกเดินทางต่อไปยังเมืองอื่น
เมื่อปลูกต้นหลอดไฟจำนวนมาก ถ่านหินในครัวก็หมด พวกเขาต้องไปซื้อถ่านหินจากเมืองข้างเคียงมา เพื่อที่ต้นหลอดไฟจะได้เปล่งแสงสว่าง

สามเดือนผ่านไป ใบไม้และดอกไม้บนต้นหลอดไฟต่างร่วงหมด ผลไม้ก็หยุดออกผล เผยให้เห็นแสงไฟสุกสว่างบนต้นเพียงลำพัง
ตกดึก ต้นหลอดไฟให้แสงหลากสีสันหลายรูปทรง สว่างไสวระยิบระยับไปทั่วเมือง
หญิงสาวมักลากเก้าอี้มานั่งที่ลานบ้านกับลูกแล้วชื่นชมความงามของต้นหลอดไฟ
คู่รักก็นั่งกุมมือกันในสวนสาธารณะใต้แสงของต้นหลอดไฟ
ในโลกนี้ไม่มีใครจะมีความสุขและมีเมืองที่สว่างไสวเท่ากับพวกเขาอีกแล้ว
ใครๆ ต่างพากันเรียกเมืองนี้ว่า “เมืองที่ไม่เคยมืด” เป็นที่เชิดหน้าชูตายิ่งนัก
หลอดไฟทำงานอย่างซื่อสัตย์ แต่ขณะเดียวกันมันก็เป็นหลอดดูดพลังงานชีวิตของต้นไม้ไปจนหมดสิ้น…

อีกหลายเดือนผ่านไป แสงไฟยังคงเรืองรองบนต้นไม้ที่เหี่ยวเฉากลายเป็นซาก และชาวเมืองเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง
ความสว่างของต้นหลอดไฟไม่เคยเปลี่ยน แต่ความรู้สึกในจิตใจของพวกเขากลับไม่เหมือนเดิม
ถ่านหินที่ใช้เป็นปุ๋ยของต้นหลอดไฟส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งจนคนจำนวนมากล้มป่วยลง
ต้นหลอดไฟให้แสงสวย แต่ไร้ใบให้ร่มเงา ไร้ผลบรรเทาความหิวโหย
จิตใจของชาวเมืองต่างมืดสลัวและขมุกขมัวลงทุกที ขณะที่ต้นหลอดไฟยังคงสว่างเจิดจ้าอยู่บนซากต้นไม้
“เราน่าจะลองหยุดให้ปุ๋ยถ่านหิน แล้วก็ถอดเอาหลอดไฟออกนะ” เด็กน้อยลูกของหญิงสาวเสนอ
“แต่ถ้าทำอย่างนั้นเราก็จะไม่มีไฟสวยๆ ให้ดู และเมืองของเราก็จะกลับไปสู่ความมืดอีกครั้ง”
ไม่มีใครยอมให้บ้านตนเองมืดขณะที่บ้านคนอื่นสว่าง
มีเพียงเด็กน้อยที่ขอร้องให้แม่ถอดหลอดไฟออกจากต้น หยุดให้ปุ๋ยถ่านหิน
ไม่นานซากอันเหี่ยวแห้งก็จำได้ว่าครั้งหนึ่งมันเคยเป็นต้นมะม่วง มันกลับมาออกผลอีกครั้ง
ชาวเมืองคนอื่นที่ทนกลิ่นเหม็นและความหิวโหยไม่ไหว ก็พากันถอดหลอดไฟออกจากต้นคนละดวงสองดวงตามเด็กน้อย
ในที่สุดเมืองที่สว่างไสวก็มืดลงครึ่งหนึ่ง แต่กลิ่นเหม็นจากปุ๋ยถ่านหินก็ลดลงครึ่งหนึ่ง
และพวกเขาได้ร่มไม้กับผลไม้จำนวนมหาศาลเพิ่มขึ้นมา
แม้เมืองจะมืดลง แต่จิตใจของชาวเมืองกลับสว่างขึ้น พวกเขาเบิกบานขึ้น
ปัญหาที่เหลืออยู่ประการเดียวของชาวเมืองคือ ไม่มีสวนหลอดไฟที่ให้แสงสว่างมากๆ สำหรับครอบครัวหรือคู่รักได้เชยชมอีกแล้ว
แต่ไม่นานพวกเขาก็แก้ปัญหานี้ได้
...
เธอรู้ไหมว่าคู่รักในเมืองทำอย่างไร
ถ้าอยากรู้ก็จงชวนคนที่เธอรักไปที่ทุ่งโล่งกว้างในยามค่ำ เกาะกุมมือคนที่นั่งเคียงข้างเธอ แล้วแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยกัน
แล้วเธอจะได้พบคำตอบ

--------------------------------
เคยลงแล้วในถนนนักเขียน ที่
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3449827/W3449827.html


Create Date : 24 พฤษภาคม 2548
Last Update : 24 พฤษภาคม 2548 22:08:19 น. 2 comments
Counter : 409 Pageviews.

 
อ่านสนุกเหมือนเดิม

^_____^..


โดย: GTW IP: 61.90.69.40 วันที่: 1 สิงหาคม 2548 เวลา:19:36:27 น.  

 
ขออนุญาตไปเล่าให้เด็กๆฟังบ้างน่ะครับ


โดย: mouse4006 วันที่: 9 ธันวาคม 2548 เวลา:11:48:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aka Prita
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Aka Prita's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.