อยากให้บอลไทยไปบอลโลก
Group Blog
 
All Blogs
 

คุณคิดว่าเราจะถูกจดจำแบบไหน

วันนี้ดูข่าวชาวบ้านที่บุรีรัมย์ ไม่มีน้ำใช้
ที่นั้นต้องซื้อน้ำใช้ โอ่ง ละ 250 บาท
มีทฤษฎีทางจิตวิทยา ของ อับราฮัม มาสโลว์กล่าวไว้ว่ามนุษย์มีความต้องการหลายระดับ
สำหรับชาวบุรีรัมย์
ความต้องการพื้นฐานของพวกเขา คือ ความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐาน ที่"มนุษย์" ควรจะมีพวกเขายังไม่เคยได้......
อีกข่าวหนึ่ง มีคนมีรายได้ เจ็ดหมื่นล้านภาษีไม่ต้องเสียสักบาท
สำหรับมนุษย์อีกพวกหนึ่ง ซึ่งควรจะไม่ต้องการอะไรอีกแล้วในโลกนี้......
แต่เขายังต้องการอีก.....
ผมเป็นคนขายของรายได้อย่างน้อย สิบเปอร์เซนต์ต้องเข้ารัฐ หากผมหาได้สักหมื่นบาท คงไม่เป็นไรถ้าจะหักให้ประเทศสักหนึ่งพัน เงินของผมคงซื้อน้ำให้เพื่อนร่วมชาติได้สักสี่โอ่ง หรือ อาจจะได้สักสามโอ่ง หักค่าโกงกินประเทศชาติไปสักโอ่งหนึ่ง
คงไม่เป็นไรหากเงินของผมจะทำให้คนสามครอบครัวมีน้ำกินไปอีกหนึ่งเดือน
แต่กับเจ็ดหมื่นล้าน หากจะเจียดให้ประเทศสักเจ็ดเปอร์เซนต์ก็พอ....
จะเป็นเงิน สี่พันเก้าร้อยล้านบาท
จะซื้อน้ำได้ สิบเก้าล้านหกแสนโอ่ง
หากโอ่งหนึ่งกินใช้กันสักหนึ่งครอบครัว
สมมติว่าหนึ่งครอบครัวมีสี่คน
จะเลี้ยงคนได้ เจ็ดสิบแปดล้านสี่แสนคน
เพียงพอสำหรับคนไทยทั้งประเทศ
บวก กับประเทศเล็กๆที่อดอยากอีกหนึ่งประเทศ
หรืออาจจะนำไปสร้างมูลนิธิได้สักหนึ่งร้อยมูลนิธิ
เพราะ มูลนิธิ ต้องอย่าลืมว่า มูลนิธิ สามารถเครดิตภาษีได้ด้วย
หรือเงินแค่นี้จะซื้อมือถือ เวอร์ทูได้เพียง สี่พันเก้าร้อยเครื่อง.......
ตอบสนองความต้องการขั้น"กว่า" ของกลุ่มคนอีกจำพวกหนึ่งได้แค่ สี่พันเก้าร้อยคน...
วันนี้เรารู้แล้ว ว่าคุณพ่อตัวอย่างของเมืองไทยเลือก ลูกคนไหน...

ประวัติศาสตร์สอนพวกเราไว้ว่า...
มนุษย์มีสองประเภท
คือ พวกที่ถูกจดจำเล่าขาน และ พวกที่ไม่ถูกจดจำ
คุณ และ ผม อาจจะเป็นพวกที่สอง แต่ ก็คงไม่สำคัญเท่าไหร่ ชีวิตธรรมดาที่ อยู่ กิน และ ตาย มันก็เป็นสิ่งที่งดงามตามธรรมชาติอยู่แล้ว....
แต่สำหรับพวกที่ถูกจดจำก็ยังสามารถจำแนกได้เป็นสองประเภท
หนึ่งคือ ผู้ทำคุณูปการต่อประเทศชาติ
สองคือ ผู้โหดเหี้ยม ผู้ละโมบ และทรราชย์

ผมไม่รู้ว่าพ่อที่ดีคนนั้นจะถูกจดจำหรือถูกลืม

แต่หากเขาถูกจดจำ.....
ผมไม่คิดว่าเขาคือ ผู้ถูกจดจำประเภทที่หนึ่ง
ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ.....




 

Create Date : 30 มกราคม 2549    
Last Update : 30 มกราคม 2549 12:42:29 น.
Counter : 428 Pageviews.  

อุ้ยตายไอ้โรคจิต

เมื่อวานเป็นน้องสาวพาแม่ไปทำกายภาพบำบัด
ผมเองเลยมีเวลาไปเจอเพื่อนๆสมัยมหาลัย...
เนื่องจากคณะผมมีอัตราส่วนผู้ชายต่อผู้หญิงเป็น1ต่อ5
เมื่อวานผมเลยเป็นผู้ชายที่น่าอิจฉาที่สุดในร้านแอนนาคาเฟ่
เพราะทั้งโต๊ะเป็นผู้ชายคนเดียวในกลุ่มสาวๆเกือบสิบคน
ส่วนเพื่อนผู้ชายคนอื่นหายหัวไปหมด เพราะติดธุระ
คนหนึ่งคงอยู่กับแฟน
คนหนึ่งคงกำลังหาแฟนอยู่
อีกคนคาดว่ากำลังทะเลาะกับแฟน
อีกคนสงสัยกำลังจะมีแฟนใหม่(เรารู้นะว่านายอ่านอยู่)

เมื่อวานมี Hot topic ที่ผมเองก็อดที่จะสนใจฟังไม่ได้
ก่อนอื่นขอกำหนดตัวละครก่อนนะครับ
1.นางสาวA อดีตดาวกลุ่ม
2.นางสาวB อดีตคู่กัดของผม
3.นางสาวC อดีตรักฝังใจ
4. นางสาวD.....ตัวประกอบ เพราะมีบทพูดแค่บทเดียว
5. อีตาคนโรคจิตลึกลับ
6. พระเอกของเรื่อง..... ผมเอง

เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่าอีตาโรคจิตคนนี้โทรไปหานางสาว A คนสวยของกลุ่มเรา โทรกวนจนเธอรำคาญ จากนั้นจึงโทรไปหา สาวๆแทบทุกคนในกลุ่มของเรา โดยมีข้อมูลเชิงลึกมาก โดยอ้างว่าเป็นรุ่นพี่ของพวกเรา แต่ทำไมเพิ่งโทรมาหลังจากทุกคนเรียนจบไปเป็นสิบปีมาแล้ว
อีกทั้งดูเหมือนเขาจะเป็นคนที่มีหน้าที่การงานดีพอสมควรเพราะเรื่องที่นำมาคุยกับสาวๆกลุ่มผม เป็นเรื่องหน้าที่การงานในองค์กรใหญ่ๆมากของประเทศ ซึ่ง นางสาวB ซึ่งเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วภาพที่เราไล่เตะกันรอบๆโต๊ะกลุ่มเป็นภาพที่เห็นประจำที่ธรรมศาสตร์รังสิต

นางสาวB"แก...เค้ารู้ลึกมากเลยนะเว้ย เพราะองค์กรนี้ชั้นทำหน้าที่ดูแลโดยตรงเลย และ เป็นลูกค้ารายใหญ่ของธนาคารชั้นเลย ชั้นว่า อีตาคนนี้ต้องไม่ใช่กระจอกแน่ๆ"

นางสาวA " แต่ขนาดโทรตามคุยกับเพื่อนๆเราทุกคนในกลุ่มอย่างนี้มันน่ากลัวมากๆเลยนะ แล้วเค้าคุยอะไรกับแกบ้างล่ะ"

นางสาวB " เออ...... ก็หลายอย่าง มันยังบอกเลยว่ารู้จักเพื่อนๆเราทุกคน ชั้นก็เลยถามว่ารู้จัก C หรือเปล่ามันก็เงียบๆไป"

นางสาวC "เออ....ใช่ๆเมื่อไม่นานมานี้มีคนโทรมาหาชั้นเหมือนกันดู พูดจาตีซี้โรคจิตยังไงก็ไม่รู้โทรมาดึกๆดื่นๆด้วยแม่เราเองยังตกใจเลย อ๋อ... ไม่เชื่อถามปอนด์ดูดิเรายังเล่าให้ปอนด์ฟังเลย"

นางสาวปอนด์ เอ้ย ไม่ใช่ต้องนายปอนด์สินะ " อืม....จำได้แล้วตอนนั้นเรายังบอก Cเลยว่าเราคิดว่าเป็นพวกขายประกัน หรือ ขายตรงซะอีก เหอๆๆ สาวๆกลุ่มเราฮอทจริงๆ มีโทรไปหาใครอีกบ้างไหมเนี่ย"

นางสาวDผู้หน้าตาจิ้มลิ้ม "อ้อ เราเองก็โดนนะเค้าจะเสียงนุ่มๆหน่อยใช่ปะ" (เธอมีบทพูดแค่นี้ครับ)

นางสาวB "ใช่ๆๆ อีตานี้โรคจิตมากเลยนะ ขนาดคุยครั้งแรกนะมันยังบอกว่า นี่ๆๆ คบกับพี่ได้หรือ เปล่า ดูสิแก"

ปอนด์ " แล้วแกก็ตกลงรับปากเค้าไปแล้วใช่ไหม"

นางสาวB"ไอ้บ้า ....ก็เกือบไปแล้วล่ะ ชั้นกลัวมาก ชั้นก็เลยขอวางเว้ย มันเลยชวนทะเลาะเลย มันบอกว่า มันเองชอบมีความสัมพันธ์ แบบรวดเร็ว คือ คลิ๊กแล้วเป็นแฟนเลย"

ปอนด์ " อื่ม..........." (ผมเองอยากจะบอกว่า ถ้ามีความสัมพันธ์ แบบนี้จริงๆ ผมก็ชอบนะ...แต่ไม่เคยเจอเลยวะ)

ปอนด์(อีกที) " แล้วไม่มีใครรู้เลยเหรอวะ ว่าไอ้นี่จริงๆแล้วมันคือใคร"

นางสาวB "ไม่ต้องห่วงแก ไอ้นี่มันไม่รู้หรอกว่ากำลังเล่นกับใคร ฉันเกือบจะรู้แล้ว เพราะชั้นมีเบอร์โทรศัพท์มัน ฉันก็เลยใช้กำลังภายในนิดหน่อย ข้อมูลแค่นี้ฉันหาได้สบายมาก ตอนนี้รู้แล้วว่าบ้านมันอยู่ตรงไหน ชั้นมีบ้านเลขที่ ที่อยู่ มันหมดแล้ว ถ้ามันยังไม่หยุด ฉันจะเล่นมันกลับไปเอง"

นายปอนด์ นี่ B แกรู้อะไรไหม"
นางสาวBยอดนักสืบ " อะไร..."

นายปอนด์ " ชั้นว่า แก โรคจิตกว่าเค้าอีกนะ"
.....................
..........

คำเตือน เพื่อนๆโรคจิต ทางที่ดีอย่ามายุ่งกับสาวๆที่ทำงาน ทางบัญชีหรือ การเงินเลยนะครับ เพราะเธอสามารถหาข้อมูล ของคุณได้ไม่ยาก สาวๆเหล่านี้ สามารถประเมินสถานะทางการเงิน ของคุณด้วยการพูดจาไม่กี่คำ ดังนั้นก่อนเลือกเหยื่อ กรุณาเช็คอาชีพของเธอก่อนด้วย

นี่คือ คำเตือน
จาก ผู้ชายที่ป่วยเป็นโรคใจ ไม่ใช่ โรคจิต







 

Create Date : 28 มกราคม 2549    
Last Update : 28 มกราคม 2549 7:01:45 น.
Counter : 518 Pageviews.  

แม่ป่วย

ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์ที่ได้ทำงานบ้างไม่ได้ทำงานบ้างครับ...
เหตุผลก็คืออย่างที่หัวเรื่องบอก คือช่วงนี้แม่ป่วย
แม่เป็นคนทำงานหนักมาตลอดชีวิตครับ
จากเด็กผู้หญิงคนหนึ่งทำงานจนส่งเสียลูกสองคนมานั่งต่อปากต่อคำกับเธอได้...
ปกติแม่จะไม่ค่อยป่วย...
ไม่สิครับ ปกติเธอจะไม่ค่อยชอบป่วยมากกว่า
ผมจำได้ตอนเด็กมากๆ แม่เคยเจ็บขาหนักมากครั้งหนึ่ง
ตอนนั้นหมอบอกว่าบางทีแกอาจเดินไม่ได้...
ผมโชคดีที่มีแม่ดื้อครับ คือ แกเดินสายไปรักษาหลายๆที่
ช่วงนั้นแม่เดินทางมากกว่าตอนที่ยังเดินได้อีก...
แต่รู้สึกว่าหลายๆหมอ ก็ยังไม่ทำให้ดีขึ้น...
วันหนึ่งแกก็ฉุนมาก เลยลุกขึ้นมาเดินเองซะอย่างนั้น
ช่วงนั้นขาแกเริ่มลีบแล้ว แต่ แม่เอาแต่เดินจนหายเป็นปกติ
แม่เคยบอกผมว่าให้ลองคิดดูว่าใจสั่งกาย...ถ้าใจสู้ซะอย่างจะทำอะไรก็ได้
จากขาที่เกือบจะเคยลีบ ก็กลับมาอวบใหญ่แข็งแรงดังเดิม

กลายเป็นเรื่องแปลกที่ช่วง 2 อาทิตย์นี้กลับเป็นช่วงที่ผมมีเวลาได้คุยกับแม่มากขึ้น
อาจจะรู้สึกแปลกๆที่ อาการป่วยครั้งนี้ทำให้ผมมีความสุขยังไงก็ไม่รู้ เพราะไม่ค่อยจะได้เคยคุยกับแกนานๆขนาดนี้
รู้สึกตัวอีกที เหมือนจะหลายปีแล้วด้วยสินะ...
ผมเอาเวลาไปทำอะไรอยู่วะ....
ลองคิดดูดีๆนะครับ เวลาในชีวิตเราจะมีอะไรสำคัญมากกว่าคุยกับแม่อีก....
เราจะคุยกันได้อีกกี่ปี....
แปลกไหมครับ ที่ทำไมบางครั้งเราให้เวลา แก่การผ่อนรถมากกว่าคุยกับแม่
ทำไมบางครั้งเราอยากไปดูคอนเสริต กอล์ฟ ไมค์ ไมเคิลแจ็คสัน มากกว่าพาครอบครัวไปกินข้าว...

ทำไม ๆ ๆ และ ทำไม

โลกเกิดมา มากกว่า หกพันห้าร้อยล้านปี...

ทำไมเราต้องบังเอิญ เกิดมาเป็นแม่ลูกกัน

หากเปรียบเวลาของโลก เป็นแค่หนึ่งปี
ช่วงเวลาที่เรามีชีวิตอยู่ด้วยกัน คงแค่ หนึ่งพริบตา...
จากนั้นไม่รู้อีก กี่อสงขัย เราจะได้กลายมาเป็นแม่ลูกกันอีกครั้งหรือเปล่าก็ไม่รู้

ขอให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคน ใช้เวลาชั่วหนึ่งพริบตาให้ดีที่สุดนะครับ
ถ้าไม่เคยกอดแก ก็กอดแกสักครั้งก็ยังดี...
ขอให้เป็นหนึ่งพริบตาที่เราจะไม่ลืมกัน...

จะเป็น พ่อ แม่ หรือ คนที่รักก็ได้....

เหอๆๆ เรื่องนี้จบไม่ลงง่ะ

เขียนไปน้ำตาไหลไปนะเนี่ย...
..........
.....





 

Create Date : 25 มกราคม 2549    
Last Update : 25 มกราคม 2549 23:25:41 น.
Counter : 652 Pageviews.  

รางวัลของนักเขียนและรางวัลแด่คนบางคน

จริงๆวันนี้เตรียมเรื่องไว้แล้ว
แต่พอดีมีโอกาสได้อ่านเรื่องจากบล็อกคุณมัช
วันนี้เลยของขึ้นโดยช่วยไม่ได้

เรื่องจากกระทู้นี้
//www.pantip.com/cafe/library/topic/K4043574/K4043574.html

จริงๆก่อนจะมาเขียนหนังสือกึ่งอาชีพอย่างปัจจุบัน
ผมเองก็เคยส่งเรื่องไปประกวดบ้างเหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยได้ เสียใจก็มีบ้างสำหรับตอนนั้น แต่ความเสียใจก็ไม่ได้มากกว่าความสุขที่ได้จากการเขียนหนังสือ......
ผมยอมรับว่าบางครั้งรางวัลเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจในการทำงานอยู่มาก
ในฐานะคนทำงานก็ยอมรับว่าเคยต้องการมันอยู่มากเหมือนกัน....
ผมว่าผมเข้าใจความรู้สึกของ กรรมการและผู้ถูกกระทำในกรณีนี้....
ผมค่อนข้างจะเห็นเวทีประกวด(มักจะเป็นหน่วยงานรัฐเท่าที่ผมสังเกตนะครับ)
ผลงานที่ได้ผมมักจะตั้งชื่อว่า วรรณกรรมเด็กดี คือ อ่านแล้วให้ค่านิยมน่าชื่นชมตามที่ จุดมุ่งหมายของหน่วยงานต้องการ
ในหลายๆเวที ผมเองชอบงานที่ได้รับรางวัลที่สองที่สามหรือชมเชยมากกว่าด้วยซ้ำเพราะกล้าพูดในประเด็นที่ควรพูด....
ส่วนวรรณกรรม เด็กแนว อย่างผม คงยังไม่มีคุณค่าพอ ฮือๆ....
แต่มีประสบการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นจริงกับผม....
ทำให้ผมมองหลายสิ่งต่างไป...

หลังจากออกหนังสือสอบตก ผมเองก็ได้รางวัลจากสถาบันเอกชนแห่งหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาทางเลือก

เป็นรางวัลแรกๆในชีวิตการเขียนของผม แน่นอนก็ดีใจอยู่เหมือนกัน...

แต่หลังจากนั้นผมเองก็ต้องทำหน้าที่ตามตำแหน่งที่ได้รับ ... คือต้องเชิญชวนคน มา"ซื้อ" ผลิตภัณฑ์ของพวกเขา.... ผมเองไม่ชอบสิ่งที่ได้มาเลยว่ะ...

ตอนนี้รางวัลนี้ไม่รู้เอาไปไว้ไหนแล้ว โยนๆใส่ลิ้นชักแล้วก็จำไม่ได้แล้ว.....

แต่วันนี้ผมมีรางวัลจะมาอวดครับ...
เป็นรางวัลที่ตัดเก็บไว้บนโต๊ะทำงานอย่างดี...
ชื่นชมแล้วมีกำลังใจทุกครั้ง
บางครั้ง ดูก่อนทำงานหลายๆรอบ....
เป็นรางวัลที่ได้มาหลังจากเขียนหนังสือ ยอดขายตามสบาย อย่าง"สอบตก"
ขออวดนะครับ....

รางวัลที่1
หนังสือ พี่ ดีมากๆ เลยครับ ผม เพิ่งจะอ่านจบ ไปเมื่อวานนี้เอง สอนอะไร หลายๆ อย่าง แต่ที่สกิดใจนิดนึงนี่ก็คือ ตอนที่พี่ วาดรูปบนปกสมุดน่ะ ครับ ถ้าผมเป็นครู คนนั้นน่ะ ผมจะชมพี่ต่อหน้าเด็กๆ คนอื่น ด้วยซ้ำ แต่นี่กลับมาฉีกทิ้งซะงั้น ผมว่ามันอาจจะเป็น จุดเปลี่ยน อย่างที่พี่ว่าก็ได้นะครับ ปล. หนังสือดีมากๆ เลยครับ From .........................@hotmail.com


รางวัลงงๆเชิดชูเกียรติ์

สวัดดีคั?ผมได้อ่านหนังสือขอน้าแล้วนะคับเรื่อง "สอบตกจนEntติ?quot; เรารู้ประทับ
ใจมากๆที่ได้อ่านหนังสือของพี?แล้วทำให้ผมมีกำลังใจในการเรียนต่อไปคับ ผมอยาก
ถามพี่ว่าตอนนี้ผมอาย?15 ปีคับผมเรียนอังกฤษไม่รู้เรื่องตั่งแต??4 แล้วคั?ผมก็อยู่ ?จันทบุรี ก็ไม่รู้จะไปเรียนอังกฤษแบบมีวิดิโอที่ไหนแล้วยังไม่รู้เลย
คับว่าตอนนี้ต้องทำยังไงบ้า?ต้องปฎิบัติตัวยังไงบ้า?ก่อนที่เวลาเอ็นจะมาถึงคั
?พี่ช่วยบอกผมได้ไหมคั?ที่เมว.............@hotmail.com แล้วก็ขอบคุณร่วงหน้าเล
ยคับ ขอบคุณคั?


รางวัลซึ้งใจยอดเยี่ยม

สวัสดีค่ะคุณมานนท์ หนูเป็นคนหนึ่งที่ได้อ่านหนังสือดีๆเรื่อง สอบตกจน Ent' ติด พออ่านจบมีแรงบันดาลใจในการอ่านหนังสือขึ้นมาเยอะเลย ขอบคุณคุณมานนท์มากๆ และก็ขอบคุณโชคชะตาด้วยที่ได้เจอหนังสือเล่ม ตอนแรกหนูคิดว่าอีก 10 เดือนที่การเอนทรานซ์ของหนูจะมาถึงอ่านยังไงก็คงไม่ทันแน่ ช่วงนี้เลย ทั้งเครียดทั้งท้อเลยค่ะ แล้วอีกอย่างหนูก็กลัวด้วยว่าถ้าหนูทุ่มเทให้กับการอ่านจนเต็มที่แล้ว แต่หนูยัง Ent' ไม่ติดอยู่ดีหนูคงผิดหวังมาก เลยคิดที่จะยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้สู้ ซะงั้น แต่ตอนนี้มีกำลังใจเพียบแล้วค่ะ

ช่วยตอบจดหมายหนูด้วยนะคะ แล้วก็ขอกำลังใจด้วยค่ะ ^^
ตอง
อิอิ อย่าอิจฉานะครับ
ยังมีเก็บไว้อีกหลายรางวัลครับ.....
ตอนนี้ผมไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เพราะผมมีรางวัลของผมเอง .......

ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของผลงานเรื่องนั้นด้วยครับ ผมไม่ทราบว่าเค้าเป็นใคร ถ้ารู้ ผมจะส่งรางวัล อย่ายอมแพ้นะอวอร์ดไปให้
.....
เชื่อว่าผลงานที่ดีย่อมไม่มีข้อสงสัย

แต่สำหรับมาเฟียวรรณกรรมผู้นั้น ผมก็มีรางวัลให้เช่นกันครับ.......
เอาไปเลย จากหัวใจ.....









 

Create Date : 23 มกราคม 2549    
Last Update : 23 มกราคม 2549 19:57:22 น.
Counter : 444 Pageviews.  

ดินเนอร์ใกล้สวนลุม

“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ” ในสายตาของผมเธอดูเป็นคนที่ ดูเหมือนทันสมัย
คล่องแคล่ว ดูเหมือนจะค่อนข้างมั่นใจ
Q บ้านคุณอยู่แถวไหนเหรอครับ
A กรุงเทพค่ะ แต่ก็มีที่อยู่อีกหลายๆจังหวัดตาม ตัวเมือง และ อำเภอใหญ่ๆ
Q คุณชอบดูหนังไหมครับ
A ชอบคะ
Q คิดยังไงกับหนังไทยปัจจุบัน
A ดีขึ้นค่ะแต่ ยังคิดว่า หนังบ้านเรายังอ่อนเรื่องบทภาพยนตร์ และรัฐบาลก็ยังไม่ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมหนังไทยเท่าที่ควร ทำให้หนังไทยดีๆหลายๆ เรื่องของบ้านเราสู้เขาไม่ได้
Q งั้นหนังสองเรื่องล่าสุดที่ไปดูล่ะครับ
A ................เออ....... พยัคฆ์ร้ายส่ายหน้ากับคิงคองค่ะ
Q อืม............... ดูมหาลัยเหมืองแต่รึเปล่าครับ ผมไม่ได้ดูเห็นเค้าว่าเป็นหนังดี
.....................ไม่ได้ดูคะเห็นเพื่อนบอกไม่สนุก
Q แล้ว คิดยังไงกับวีซีดีแอนนาครับ.....
A แย่ค่ะ สงสารน้องเค้ามาก สังคมเดี่ยวนี้เป็นเหมือนพวกมือถือสากปากถือศีล เหมือนเป็นข่าวที่น่ารังเกียจแต่สื่อยักษ์ใหญ่ต่างๆก็ลงแต่ข่าวพวกนี้ทุกวันโดยเห็นแก่ยอดขาย โดยไม่คำนึงถึงเหยื่อ และ รัฐบาลก็ไม่ยอมทำอะไรอีกตามเคย เยาวชนจึงเป็นเหยื่อ วัฒนธรรมก็อ่อนแอ....
Q โป๊ขนาดนั้นเลยเหรอครับผมเองก็ยังไม่เคยดูเลย
A จริงเหรอคะ ไม่เป็นไรเดียวเรา ไรท์ให้.....
Q เมื่อกี้ทีบอกวัฒนธรรมอ่อนแอ ผมไม่นึกเลยนะครับว่าคนทันสมัยอย่างคุณจะ สนใจเรื่องอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยด้วย คุณคิดว่า วัฒนธรรมไทยของเราปัจจุบันเป็นอย่างไรครับ
A คนไทยลืม กลับมาหารากเหง้าของสิ่งที่เราเป็นคะ เราต้องอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยอย่างจริงจัง เดี่ยวนี้การไหลบ่าของกระแสตะวันตก เกาหลี ญี่ปุ่น ทำให้สิ่งดีๆในวัฒนธรรมของเราอ่อนแอลง รัฐบาลก็ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจังและไม่เข้าใจปัญหา เอะอะก็ รณรงค์ ให้ไปดูรำไทย ใส่ชุดไทยเล่นดนตรีไทย ยิ้มแบบไทย ไหว้แบบไทย สื่อต่างๆ ก็เอา สุดสาคร พระอภัยมณี สามก๊ก รามเกียรติ์ มาเล่าผ่านสื่อใหม่โดยการทำเป็นอนิเมชั่น เหมือนการเล่านิทานพื้นบ้านเรื่องเดิม ผ่านสื่ออื่นเท่านั้นเอง โดยไม่มีการสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆเลยวัฒนธรรมที่ จะก้าวหน้าคือต้องมีการรังสรรค์พัฒนาสิ่งใหม่ได้จากรากฐานที่มีอยู่เดิม ไม่ใช่เล่าเรื่องเดิมผ่านเทคโนโลยีแบบใหม่ เราต้องเข้าใจวัฒนธรรมในหลายมิติก่อนจะ จัดการกับมัน เช่นถามว่าคุณอยากให้ลูกคุณเรียนโขน หรือ แสดงลำตัดเป็นอาชีพไหมในขณะที่แสดงที่ไรก็ไม่มีคนดู ในขณะที่พริตี้ ดารา โคโยตี้ ปอมๆเกิรล์ ออกอีเวนท์ทีไรได้ตังค์หลายพัน
Q คุณดูเข้าใจ อะไรได้ดีจริงๆนะครับ งั้นคุณเคยช่วยทำอะไรเพื่อวัฒนธรรมบ้าง
A อ้อ..................เออ ฉันแสดงความเห็นของฉันผ่านอินเตอร์เน็ตค่ะ
Q คุณคิดยังไงกับเยาวชนไทยปัจจุบันครับ
A เป็นห่วงค่ะ ดูเค้าจะถูกรุกจากความเปลี่ยนแปลงของโลกรอบด้าน เช่นความฟุ้งเฟ้อ “เด็กสมัยนี้น่าเป็นห่วง”(เป็นประโยคที่ได้ยินมาร่วมร้อยปีแล้ว) และ เช่นเคยค่ะรัฐบาลก็เอาแต่ควบคุมห้ามๆๆๆ ไม่ให้เค้าเล่นเกมส์ออนไลน์ แล้วมีอะไรที่ดีกว่าให้เขาทำไหมล่ะคะ ให้เด็กไปเล่นกีฬา แล้วเค้าจะไปเล่นได้ไง ในเมื่อสนามฟุตบอลปัจจุบันกลายเป็นลานจอดรถหมดแล้ว และถึงเค้าจะเอาดีแต่บ้านเรานอกจากมวยไทยแล้วเล่นกีฬาอาชีพไม่ได้สักอย่าง ทั้งหมดนี้ต้องโทษนายก และรัฐบาลอีกตามเคยค่ะ”
Q เออ คุณดูรู้เรื่องเยาวชนเช่นเคยนะครับคุณทำงานอะไรครับ
A เกี่ยวกับการตลาดค่ะ สินค้าเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น
Q ดูคุณสนใจการเมืองมากเลยนะครับ คุณคงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนบ้านบ่อยๆล่ะสิ
A เปล่า ไม่เคยเลยค่ะ เพื่อนบ้านนี่ขนาด หน้าตายังไม่ค่อยคุ้นเลยค่ะ
Q อืม............. งั้นคุณคงเข้าร่วมองค์กรประชาชนที่ไหนแน่ๆเลยใช่ไหมครับ
A เปล่าค่ะ ไม่ได้ว่างงานขนาดนั้น
Q งั้นคุณมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างไรบ้างครับ
A อืม.......... ส่ง เอสเอ็มเอสไปคอมเมนท์ตามรายการต่างๆคะ
Q คุณดูจะไม่ค่อยชอบรัฐบาลเลยนะครับ
A โอ้ย...........ใครจะชอบบ้างล่ะคะ ทั้ง Confict of interest ทั้ง Double Standard ทั้ง Bad Govern ant จริงๆแล้วหมั่นไส้มากค่ะ
Q อืม แปลเป็นไทยให้ผมเข้าใจบ้างได้ไหมครับ
A ไม่ได้ค่ะ ไม่เท่ เป็นภาษาของคนเรียน mba ค่ะ
Q งั้นคราวที่แล้วคุณเลือกพรรคอะไรครับ
A เออ............... อย่าไปพูดถึงมันเลยค่ะ
Q อยากทราบความใฝ่ฝันในชีวิตของคุณครับ
A อยากมีชีวิตเรียบง่าย ปลูกต้นไม้ ติดดิน รักธรรมชาติในต่างจังหวัดค่ะ
Q แล้ว จุดมุ่งหมายในชีวิตจริงล่ะครับ
A ต้องผ่อนคอนโด กลางเมืองให้หมดก่อนค่ะ อีกประมาณ15ปี และไหนจะต้องเก็บเงินซื้อรถ บีเอ็มอีกหลายปีอยู่ ยังมีค่าส่งน้องชายไปเรียนเมืองนอกอีก
Q ผมว่าคุณคล้ายๆจะเป็นไฮโซนะครับ
A อี๋..............ไม่คะฉันเกลียดพวกนั้น คุณรู้ไหมฉันหมั่นไส้ทุกวันเวลาติดตามรายการซุบซิบ ก๊อซซิบ ว่าใครควงใคร ใครเป็นเกย์ ใครไปทำเป็นติดดินกินส้มตำที่ไหน ใครใส่อะไรไปงานฉลองเปิดตัวสินค้าหรู ฉันรู้หมด
Q คุณไม่ชอบไฮโซเหรอครับ แล้วคุณรุ้ข่าวพวกเขาได้ยังไงครับ
Aเออ........... อ่านในกระทู้ ดูคอลัมน์สังคม และ ชมรายการเกือบทั้งวันค่ะ
Q อืม.......... นี่ก็เย็นแล้ว เราไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆนี้ดีไหมครับ
A โอย.........ไม่ไปหรอกคะคนเยอะ วันนี้วันศุกร์ด้วย เค้ามีรายการเมืองไทยรายสับดาห์คนแน่น กลัวรถติด อีกอย่างต้องรีบกลับไปดูละครด้วยคะ แต่ไม่เป็นไรนะคะ นี่คะเบอร์โทรคุยกันก็ได้ แต่ถ้าไม่รับ หรือ พูดอะไรแปลกๆ ให้เรารู้กันนะคะว่าอยู่กับแฟน แล้วเดี่ยว เราโทรกลับเอง เดี๋ยวค่ำๆ แมสเส็จไปหานะคะ...
Q อืม........ถ้ายังงั้น ผมยังไม่รู้ชื่อคุณเลย ตกลงคุณชื่ออะไรครับ

A .........................ชื่อของ ฉันคือคนชั้นกลางค่ะ..........................

.........................เธอเดินจากไปอย่างมั่นใจเหมือนอย่างเคย..............

รู้อะไรไหมครับ
ผมว่าเรามีอะไรคล้ายกันหลายอย่าง..............






 

Create Date : 21 มกราคม 2549    
Last Update : 21 มกราคม 2549 9:48:39 น.
Counter : 505 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  

ช่างประชันพันธุ์ประชด
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




นักเขียน / คอลัมนิสต์
Friends' blogs
[Add ช่างประชันพันธุ์ประชด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.