อยากให้บอลไทยไปบอลโลก
Group Blog
 
All Blogs
 
การที่คุณจะมีหนังสือเป็นของตัวเองสักหนึ่งเล่ม

เมื่อ ประมาณ 1 ปีที่แล้ว ผมนั่งดูแอคคาเดมี่ แฟ่น เท้ เชียร์ ปี 1 อยู่
วันนั้นผมดู คุณ แอนดรู บิกซ์มาสอนน้องๆ แอคคาเดมี่ปี 1 เรื่องภาษาอังกฤษ
แต่ ผมคิดว่าสิ่งที่คุณ แอนดรูได้เปิดโลกทรรศ์อันคับแคบของผมวันนั้น กลับเป็นประโยคภาษาไทย..
คือน้องๆนักล่าฝันเขาอยากเป็นนักร้องใช่ไหมครับ เลยต้องมาแข่งกันแทบตาย
แต่คุณ แอนดรูกลับบอกง่ายๆว่า ถ้าคุณอยากเป็นนักร้อง คุณก็เป็น นักร้องซะสิ !!!!
ไม่ต้องคิดอะไรไม่ต้องกังวลเรื่องอะไร แค่ถือกีตาร์ออกมานอกบ้าน แล้ว ร้องเพลง...
คุณก็ได้เป็นนักร้องแล้ว...
ทำไมต้องรอให้คนอื่นอนุญาตให้คุณเป็นด้วย......... ผมตาสว่างเลยครับ
วันนั้นผมคนที่อยากเขียนหนังสือ ผมเคยเขียนเรื่องส่งไปหลายๆ(ร้อยบทความ)
แต่ได้ลงนิตยสารเพียงแค่ฉบับเดียว......... ค่าเรื่อง 500 บาท
อีกทั้ง ผมยังต้องช่วยงานที่บ้านเป็นธุรกิจเล็กๆในครอบครัว
ทำให้ผมไม่ คิดว่า การเขียนจะทำให้ผมมีชีวิตอยู่ได้ในโลกปัจจุบัน
มันคงเป็นได้แค่ความฝันมากว่า......
จุดเริ่มที่ทำให้ผมรักการเขียน คือ ผมได้เขียนหนังสือรุ่นให้เพื่อนๆ หลายๆคนชอบมัน
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมรู้สึกดี และ คิดว่าผมเองน่าจะทำมันได้
แต่ก็เหมือนจุดเริ่มต้นของหลายๆสิ่ง คือ มันคงไม่ได้เริ่มต้นด้วยความราบรื่น
อุปสรรค.........คำถาม............ ความสงสัย
บางครั้งเขียนเสร็จผมก็ขยำงานทิ้งแล้วคิดอยู่ว่ามึงกำลังทำเหี้ยอะไรอยู่
รัฐบาลก็บอกปาวๆว่าคนต้องมีธุรกิจ เพื่อนผมที่เคยชวนไปขายแอมเวย์ก็บอกว่าผมผิดที่ไม่มีความฝันที่ยิ่งใหญ่
วันหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าผมขายของไม่เป็น สปอนเซอร์คนไม่เก่ง และ ต้องช่วยงานที่บ้านตามปรกติ
วันนั้นผม ฆ่าเวลาที่ลองเสริชหาเรื่องต่างๆในกูเกิ้ล
ผมนึกอะไรก็ไม่รู้ลองเสริชชื่อตัวเอง
ผมเห็นคนโพสบทความเรื่องแรกของผมที่ได้ลงนิตยสารในกระทู้ซึ่งมีอายุ 3 ปีแล้วทุกๆคนชอบมัน
ผมมารู้ทีหลังว่ามันเป็น ฟอเวิร์ดเมลที่คนยังส่งให้กันอยู่บ่อยๆ มันเป็นความรู้สึกที่...................................
ดีมากๆ....................................
ยิ่งหลังจากที่ได้ยินประโยคนี้จากแอนดรู......บิค
ความสงสัยหลายๆอย่างก็หายไป
ทำไมมึงต้องเขียน เพื่อ ให้ขายได้ เพื่อให้อยู่ได้
ทำไมมึงต้องรอให้คนอื่นอนุญาตให้มึงเป็นนักเขียน...
ทำไมต้องกลัวจะเป็นนักเขียนไส้แห้ง
จะแคร์อะไรที่คนบางคน อ่านงานเราแล้วคิดว่าไม่ดีพอที่จะลง
อยากเป็นนักเขียน ก็ แค่ เขียน.......... อย่างอื่นค่อยว่ากัน
ผู้เดียวที่มีสิทธ์จะตัดสินงานของเรา น่าจะเป็นคนอ่าน
หลังจากนั้นไม่นาน ผมไปคุยกับแม่ ขอ เวลา 3 เดือนกับการไล่ตามความฝัน
ผมจะพิมพ์หนังสือของตัวเอง วันนั้นผมไม่มีตังค์เลยสักบาท
ผมรู้ว่าการพิมพ์หนังสือมันต้องใช้ทุนมากสำหรับคนอย่างผม.........
แต่วันนั้นผมไม่ได้คิดเรื่องนี้.....
เขียนให้เสร็จก่อนแล้วอย่างอื่นค่อยว่ากัน
3 เดือนต่อมากับการ นั่งเรือข้ามฝาก ไป ห้องสมุดธรรมศาสตร์ นั่งรถไปหอสมุดแห่งชาติเกือบทุกวัน
ผมก็ได้ต้นฉบับมาหนึ่งเล่ม
ผมเลือกช่วงชีวิตที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ กับ เยาวชนคนอื่นๆ
ผมเลือกช่วงเอนทรานซ์ จากคนที่ได้เกรดศูนย์หลายตัว ภาษาอังกฤษ ไม่รู้แม้แต่จักแม้แต่ is am are
กับหนึ่งปีที่ต้องเปลี่ยนตัวเอง
สิ่งที่ผมอยากจะสร้างไม่ใช่แค่เพียงหนังสือ แต่มันคือ แรงบันดาลใจ ให้คนอื่นๆ
เนื่องจากผมไปๆมาๆระหว่างห้องสมุด ไม่ได้ไปไหน 3 เดือนต่อมาผมมีเงินเก็บประมาณหนึ่ง
แต่มันก็ยังไม่พอค่าพิมพ์อยู่ดี แต่ผมรู้ดีว่าสิ่งที่ผมทำลงไปน่าจะเป็นประโยชน์ต่อเยาวชนไทยอีกหลายคน
ผมถือต้นฉบับ ปึกหนึ่งแล้ว พร้อมกับเรื่องเล่าของความฝัน
โชคดีที่ผู้ใหญ่ที่นับถือ หลายท่าน มองเห็นมัน จึงทำให้สิ่งที่ผมตั้งใจเกิดขึ้นได้จริง
หนังสือเล่มนี้ ยังถือเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดกับชีวิตของผม...... คือได้รับเกียร์ติในการเขียนคำนิยมให้โดย
...............คุณ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ........................
วันแรกที่ผมได้รับกระดาษ คำนิยมที่เขียนด้วยลายมือของท่าน
ผมเอามันไปใส่กรอบ ไว้บนโต๊ะทำงาน ......แล้วบอกตัวเองว่า ผมจะทำให้หนังสือเล่มนี้ออกมาดีที่สุด
ถึงแม้ การทำหนังสือเล่มนี้จะมีอุปสรรคในการทำงานค่อนข้างมาก เนื่องจากความอ่อนด้อยประสบการณ์ของผม
แต่วันนี้เชื่อว่าทุกอย่างออกมาดี อย่างที่ได้ตั้งใจไว้
ผมเชื่อว่าหลายๆสิ่ง มีส่วนจากโชคชะตา แต่ อย่างไรก็ตาม ความมุ่งมั่นก็สำคัญ
เมื่อวานผมได้เห็นหนังสือของตัวเองวางอยู่บนชั้นวางของซีเอ็ดที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตต์ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ........เหลืออยู่ 1เล่มบนชั้นวาง(^_^)
แต่อีกไม่นานน้องๆก็เอามาเติม แต่สิ่งที่ดีใจที่สุดไม่ใช่เรื่องนั้น
ที่ดีใจคือหนังสือผมได้มีโอกาสวางอยู่ใกล้ๆ ผู้ชายตัวใหญ่ๆที่มาแจกลายเซ็นที่บู้ทซีเอ็ดเช่นเดียวกัน
............. คุณ แอนดรู บิ๊ก...............................
บางครั้งโชคชะตาก็อารมณ์ดีจนไม่น่าเชื่อ....ใช่ไหมครับ



Create Date : 10 ตุลาคม 2548
Last Update : 10 ตุลาคม 2548 12:14:07 น. 14 comments
Counter : 410 Pageviews.

 
ดีใจด้วยจ้ะ ปอนด์คุง เราเองก็มีความฝัน แต่ไม่กล้าแม้จะเดินตามฝัน เมื่อไรที่เดินตามฝัน ก็มานั่งด่าตัวเอง ว่าทำอะไรอยู่ มีหน้าที่อีกมากที่จะต้องทำ แต่ก็มีแอบๆ ทำตามฝันบ้าง เมื่อไรที่รู้ว่าไปทำตามฝันมากเกินไป จนทำหน้าที่บกพร่องก็ต้องหยุด...ก็ได้แต่แอบทำ...อยากอ่านจังค่ะเล่มนี้ ฝันนี้ที่เป็นจริงของคุณปอนด์


โดย: ฝนทราย วันที่: 10 ตุลาคม 2548 เวลา:17:25:45 น.  

 
แหมๆๆๆ ไม่มาโพสต์ก่อนหน้านี้นะ


เราเพิ่งไปงานหนังสือฯ เมื่อเสาร์ที่ผ่านมานี่เอง ถ้ารู้ก่อนจะได้อุดหนุนไง


ไม่เปงไร ถ้าได้ไปอีกที (หวังอยู่นะ) จะไปอุดหนุนนะ




คนบางคนถ้ามีบางเรื่องที่ทำให้เขาไม่สามารถทำความฝันของตัวเองสำเร็จได้


แต่ถ้ามีส่วนช่วยให้คนอื่นได้ทำฝันของเขาสำเร็จ


นั่นก็เป็นความสุขอีกอย่างหนึ่งนะ



ดูแลตัวเองด้วยนะ เหมือนๆ ลมหนาวจะมาแล้ว


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 10 ตุลาคม 2548 เวลา:18:31:07 น.  

 
ปักเป้าชอบเขียนเหมือนกันค่ะ
ทุนน้อยเลยทำขายแบบหนังสือทำมือ
ช่วยกันกับเพื่อนๆที่รักแนวๆเดียวกัน
สนุกมากๆ...มีความสุขค่ะ

ยินดีด้วยนะค่ะกับคุณปอนด์^O^


โดย: ปักเป้า (puxkapou ) วันที่: 10 ตุลาคม 2548 เวลา:21:23:34 น.  

 
คุณฝนทรายครับ ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับ และก็ขอให้คุณฝนทรายได้ทำตามความฝันโดยไม่บกพร่องต่อหน้าที่ได้ในสักวันนะครับ
ขอบคุณนะสาวไกด เข้าไปอ่านในบล็อกเหมือนกันได้ข่าวว่าช็อบกระจายเลย ยังไงขอให้อ่านจบเร็วๆเน้ออย่าเหมือนเราที่หนังสือปีที่แล้วบางเล่มยังไม่ได้แตะเลย
ขอบคุณคุณปักเป้าครับ ดีจังเลยนะครับที่มีแนวร่วมช่วยๆกันทำ ผมว่ามันจะต้องนำไปสู่สิ่งที่ดีๆแน่นอนครับ


โดย: ช่างประชันพันธุ์ประชด (ช่างประชันพันธุ์ประชด ) วันที่: 10 ตุลาคม 2548 เวลา:22:25:09 น.  

 
หนังสือสวยครับ เดี๋ยวผมจะไปหาซื้อวันพรุ่งนี้แหละครับ เป็นกำลังใจให้ครับ ก้าวแรกของพี่เป็นก้าวที่สวยงามแล้วครับ จากคนอยากเขียนหนังสือเหมือนกัน
ปล.พี่ปิดชื่อทำไมอ่ะ เท่านี้คนเขาก็รู้แร้วว ว่าพี่มีชื่อเสียงเรียงนามว่าอย่างไร


โดย: แจ้น วันที่: 11 ตุลาคม 2548 เวลา:1:18:35 น.  

 
ดีจังค่ะ ที่ฝันเป็นจริงแล้ว หลายๆ คนยังวิ่งตามความฝันกันอยู่เลย (เราก็ด้วยคนนึง) ปลื้มคุณแอนดรูว์ บิ๊กอยู่เหมือนกัน และเรื่องราวของคุณมีส่วนคล้ายคุณวงศ์ทนงเลยค่ะ


โดย: รักเด็กข้างบ้าน วันที่: 11 ตุลาคม 2548 เวลา:2:54:17 น.  

 
แวะมาอีกรอบ ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะค้า ไปอ่านหนังสือต่อแล้วน้าค้า


โดย: ปักเป้า (puxkapou ) วันที่: 11 ตุลาคม 2548 เวลา:11:32:50 น.  

 
ชอบตรงที่คุณมีความฝัน แล้วเดินตามความฝันของตัวเอง เราซะอีกที่มีความฝันเหมือนกัน แต่มักจะชอบขี้เกียจเสมอเลย


โดย: tabebuia วันที่: 11 ตุลาคม 2548 เวลา:16:25:52 น.  

 
ดีใจด้วยค่า


โดย: มณฑารัตน์ วันที่: 11 ตุลาคม 2548 เวลา:19:18:03 น.  

 


ยินดีด้วย

ดีใจด้วย

จะไปซื้อมาอ่านด้วยยยยยย




โดย: มัช IP: 58.9.5.37 วันที่: 11 ตุลาคม 2548 เวลา:20:37:29 น.  

 
555 บังเอิญมั๊กๆเพิ่งซื้อมา แต่ยังไม่ได้อ่านเลย ...ขอให้ขายดีๆนะคะ..


โดย: ninja IP: 203.151.140.116 วันที่: 12 ตุลาคม 2548 เวลา:0:21:14 น.  

 
คุณประชด
วันไหนนัดกินเหล้ากัน แล้วผมเอาหนังสือไปให้เซนต์นะ ตอนนี้ยังไม่ได้ซื้อหรอกครับ แต่อีกไม่กี่วันคงซื้ออ่ะครับ


ผมว่าต้องมีมุกตลก อ่านแล้วอดอมยิ้มไม่ได้อยู่พอควรแน่เลย (HA-HA)


โดย: กึ่งยิงกึ่งผ่าน วันที่: 12 ตุลาคม 2548 เวลา:15:16:56 น.  

 
ขอบคุณสำหรับกำลังใจเสมอๆนะครับน้องแจ้น และหนังสือดีๆหลายๆเล่มที่แนะนำให้ผมอ่าน จริงๆผมก็ไม่ได้ปิดชื่อนะครับน้องแจ้น คือ ชื่อ ลี ยอง เจ สำหรับคนไทยมันค่อนข้างเรียกยากน่ะครับ ผมเลยต้องใช้นามปากกาแทน
ขอบคุณคุณรักเด็กข้างบ้านครับ ผมเองก็เคยอ่านหนังสือของคุณวงทนง เหมือนกัน ผมเองก็ได้เรียนรู้บทเรียนจากหนังสือของพี่เค้าเยอะมากๆ
ขอบคุณคุณปักเป้าอีกรอบครับ ยังไงก็รีบอ่านหนังสือให้จบเน้อ...
ไม่หรอกครับคุณ tabebuia ผมตามอ่านงานของคุณอยู่เรื่อยๆ ชอบมากจริงๆนะครับ ยังไงสู้ๆผมว่าต้องเห็นทางต่อไปแน่นอนครับ
ขอบคุณนะครับคุณมณฑารัต สำหรับกำลังใจและการเยี่ยมเยือนครั้งแรก(หรือเปล่า)ครับ ว่างๆก็มาเยี่ยมกันอีกนะครับ
ขอบคุณนะครับคุณมัชที่ยอมเปลี่ยนชื่อเป็น มัชชิ(หน้า)ม้าให้ ยังไงๆก็รักษาสุขภาพนะครับ ขอให้หายเร็วๆจริงๆนะ
นินจาซื้อแล้วเหรอครับ เอ อยากรู้จังตอนซื้อรู้ว่าผมเขียนหรือเปล่า ยังไงก็ขอบคุณมากๆเลยนะครับสำหรับการเยี่ยมเยือนอย่างสม่ำเสมอ
555 คุณกึ่งยิงกึ่งผ่านครับดีใจจังเลยหาคนร่วมวงได้แล้ว นี่จริงๆนะว่างๆพวกเราชาวบล็อกน่าจะนัดสังสรรค์กันบ้างก็ดีนะเนี่ย ยังไงก็ขอบคุณด้วยนะครับ

ยังรอเค้ามาตอบอีกหลายคนเน้อ หลายๆคนที่ช่วงนี้เงียบๆไป เรารู้ตัวหมดแล้วนะ เดี่ยวจะตามไปที่บล็อคทีละคนนะ
แต่บล็อกบางบล็อกเข้าไม่ได้ง่ะ ว่าจะตามไปอ้อนเจ้าของบล็อกซะหน่อยไม่รู้หายไปไหน


โดย: ช่างประชันพันธุ์ประชด (ช่างประชันพันธุ์ประชด ) วันที่: 12 ตุลาคม 2548 เวลา:17:00:28 น.  

 
แอบมาเมนท์ให้กำลังใจแล้วไม่รู้ตัวเหรอจ๊ะ ปอนด์คุง อิอิ อ๊ะอ๊ะ รู้แล้วอย่าบอก รู้แล้วอย่าบอก กับใครน๊า ...น่าน มาแบบลูกทุ่งเลยเรา

ยินดีด้วยจ้า เย้ๆๆๆ คัมไป (คัมมา)


โดย: น้ำผึ้ง ^^ IP: 133.1.128.95 วันที่: 13 ตุลาคม 2548 เวลา:12:48:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ช่างประชันพันธุ์ประชด
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




นักเขียน / คอลัมนิสต์
Friends' blogs
[Add ช่างประชันพันธุ์ประชด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.