อยากให้บอลไทยไปบอลโลก
Group Blog
 
All Blogs
 

เข้าไปตอบบล็อกเกี่ยวกับการบอกเลิก....

อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ
การบอกเลิกก็คือการบอกเลิกครับ...ต่อให้นิ่มนวลยังไงผู้ถูกบอกก็เจ็บปวดอยู่ดี....
ฉะนั้นผมว่าการบอกเลิกที่ดีที่สุดคือบอกความจริงครับ...
เหตุผลเป็นยังไงก็บอกเขาไป...ผมว่าเปล่าประโยชน์ที่จะเราจะกลัวว่าเขาจะเสียใจยังไง เพราะบางครั้งความเจ็บปวดเองซะอีกที่จะช่วยทำให้เขาตัดใจได้อย่างรวดเร็ว....
ไม่ว่าปัญหาจะคืออะไร
นิสัยเข้ากันไม่ได้
ไม่อยากทะเลาะกัน
หรือเจอคนที่ใช่กว่า... ผมว่าก็บอกกันได้ครับ
ปัญหานี้มันอยู่คู่กับมนุษยชาติมาตั่งแต่โบราณแล้ว...
ยังไงคนเราก็ต้องพบกับมันอย่างน้อยหนึ่งถึงสองครั้งในชีวิตอยู่แล้วล่ะ ซึ่งมันจะทำให้เราเติบโต...
เป็นไปได้ว่าเมื่อบอกความจริงไปแล้วมันอาจจะสูญเสียอะไรบางอย่างไป เช่น มิตรภาพที่ดี เพื่อนที่ดีอีกสักคน...หรืออะไรก็ตาม ซึ่งนั้นผมคิดว่าเราก็ต้องเคารพทางเลือกของคู่กรณีของคุณเช่นเดียวกันครับ เพราะเขาเองก็น่าจะมีสิทธิ์ที่จะเลือกบ้างเช่นเดียวกัน เขาจะเลือก เป็นเพื่อนกับคุณหรือจะจากไปเพื่อลืมความเจ็บปวด นั่นก็เป็นสิ่งที่เขาต้องเลือกเองเช่นเดียวกันครับ...
ยังไงก็ขอให้โชคดีแล้วกัน...




 

Create Date : 14 กันยายน 2548    
Last Update : 14 กันยายน 2548 10:35:19 น.
Counter : 461 Pageviews.  

แหยมยโสธร.....รายได้นอนมา...

เมื่อวานไปดูเรื่อง แหยมยะโส มา......
คนเต็มโรงทีเดียว
ช่วงนี้คุณหม่ำจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด..
เคยไปเยี่ยมคุณป้าคนหนึ่งซึ่งป่วยมาก ท่านเคยสอนผมขณะอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยประโยคที่ผมไม่ลืม
จำไว้นะลูก เงิน จะไม่อยู่กับคนจน......
เออ....เป็นคำสอนที่เปี่ยมไปด้วยเหตุผลครับ...
แต่เมื่อผมมาคิดอีกทีก็เห็นด้วยเพราะคนที่ไม่มีเงินส่วนใหญ่มักจะคิดว่าหาเงินเพื่อเอาไปใช้อะไร แต่คนมีเงินมักจะคิดว่าหาเงินเพื่อเอาไปหาเงินยังไง...เออ คงไม่งงนะครับ
คุณหม่ำเป็นตัวอย่างที่ดีครับ ผมเคยอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ...คือบางคนอาจจะไม่รู้ว่าคุณหม่ำเล่นหุ้นด้วยนะครับ แต่คุณหม่ำซื้อหุ้นเพียงแค่ตัวเดียว เวอร์คพอยน์ คุณหม่ำให้เหตุผลว่าเพราะเขารู้ว่าเวอร์คพอยน์กำไรดีมาก...คือ แกเล่นหุ้นคล้ายวอร์เรนบัฟเฟต ปรามาจารย์การลงทุนของโลกเลยนะครับคือ จะซื้อหรือทำอะไรจะต้องรู้ลึกในธุรกิจที่ทำอยู่
คือดูแกจะเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองรู้ดีที่สุด
ดูจากเรื่องแหยมก็เช่นกันคุณหม่ำรู้ดีมากที่สุด...ว่าจะทำอย่างไงให้คนไทยตลก คือในขณะที่ดูรู้สึกเลยว่าถ้ามุขนี้คนอื่นที่ไม่ใช่คุณหม่ำเล่นจะขำไหม....
คือในหนึ่งชั่วโมงกว่า ฮา กันจนเหนื่อยเลยครับ
ถ้าดูสไตล์การทำหนังของคุณหม่ำผมคิดว่าน่าจะเป็นสไตล์กระเพราไก่ไข่ดาว คือ ถ้าเราสั่งไปอาจจะโดนกระแนะกระแหนว่ากินอะไรก็ไม่รู้สิ้นคิด แต่คุณค่าที่ดีที่สุดของมันก็คือ เราไม่เคยนึกจะสั่งอย่างอื่นเลยเวลาคิดอะไรไม่ออก....สิ่งที่ดีมีแน่เพราะอย่าลืมว่าคนกินกระเพราไก่ไข่ดาวกันเกือบทั้งประเทศ....
ซึ่งอาจจะไปขัดใจนักวิจารณ์บางท่าน ซึ่งมักจะโทษว่าความสำเร็จของรายได้ มัน มักจะเกิดจากการเอาใจตลาด...หนังที่ดีมันต้องอาร์ตต้อง ซ่อนสัญญะ ต้องเดาใจว่าผู้กำกับคนนี้แม่งต้องการจะพูดถึงประเด็นสังคมต่อต้านระบบทุนนิยม ผ่านการหวีผมเปข้างซ้ายของพระเอก.....และการเดินหัวเอียงซ้ายของนางเอก...ก็กูจะรู้ไหมละ เห็นเดินคอเอียงคนอย่างเราก็คงคิดว่าน้ำในหูไม่เท่ากัน(ขอบคุณ มุข จาก คุณมัช) คือ ถ้าเทียบเป็นอาหารอีกนั้นแหละ เหมือน ท่านนักวิจารณ์เชียร์ให้ชาวบ้านไปกินโกเบเสต็ก แล้วบอกว่า เนื้อชนิดนี้อร่อยตรงที่ วัวจะถูกดูแลอย่างดีในฟาร์มที่มีคนคอยนวดวัวระหว่างกินเบียร์ และ เปิดเพลงให้ฟัง คือถ้าแกจะกินให้อร่อยต้องมีความรู้กำกับ ถามว่าใครจะมีปัญหาไปหารีเสริชก่อนทานข้าวสักกี่คนครับ...ถ้านักวิจารณ์เหล่านั้นเคยทำธุรกิจเองมาบ้างน่าจะรู้ว่าการทำยังไงให้คนซื้อของนี่มันโคตรจะใช้ศิลปะเลยนะครับ...
แล้วจะว่าไปดูๆไปแล้วตอนนี้ไปๆมาๆคุณหม่ำกลายเป็นผู้กำกับไทยที่จะว่าไปดูแล้วน่าจะอนาคตสดใสเกือบที่สุดเลยนะเนี่ย แต่ละเรื่องว่ากันที่หลักแตะๆร้อยล้านขณะที่คุณนนทรีย์ก็เงียบๆไป พี่เก้งก็ยังหลบเลียแผลใจอยู่ที่เหมือง.......555ไม่อยากจะคิดเลยว่าชั่วโมงนี้ผู้กำกับมือหนึ่งของไทยกลายมาเป็นคนจากค่าย บั้งไฟภาพยนตร์....

จากใจผู้เขียนอาจจะดูเป็นบทวิจารณ์ที่เลียแข้งเลียขาไปนิดหนึ่งนะครับ แต่ผมไม่ได้วิจารณ์ที่ตัวงานแค่ดูถึงความสำเร็จในแง่การตลาดของหนังเฉยๆ เพราะจะว่าไปแม้แต่หนังห่วยๆสักเรื่องผมก็ยังไม่เคยมีปัญญาจะทำจึงไม่กล้าวิจารณ์ตัวงานแค่ชอบดูก็บอกว่าชอบดู และผมก็ไม่เคยรู้จักคุยกับคุณหม่ำสักทีเหมือนกัน เพราะยโสธรมันค่อนข้างห่างจาก ลอนดอนบ้านผมไปไกลเหมือนกัน...
viva ยโสธร จาก ปอนด์ บางกรวย




 

Create Date : 09 กันยายน 2548    
Last Update : 9 กันยายน 2548 10:48:46 น.
Counter : 973 Pageviews.  

โหวตให้นักล่าฝันวี13 ปั้นฝันให้เป็นตัว...มั่วจริงๆ

เคยคิดกันไหม ใครคิดว่าทุกวันนี้มีความสุขดี้ดี ไม่มีอะไรต้องการอีกแล้ว
แต่คนที่ผมรู้จักส่วนใหญ่ก็ยังเห็นมี สิ่งที่ต้องการมากน้อยต่างกันไป
คนเป็นสิ่งมีชีวิตที่นาสงสารนิดหน่อยคือ ส่วนใหญ่มักคิดว่าวันนี้ยังมีสิ่งที่ไม่ได้ดังใจอยู่
สิ่งนี้บางทีก็ทำให้มีทุกข์
“โลกมีทรัพยากรพอสำหรับเลี้ยงคนทั้งโลก แต่ไม่พอสำหรับตอบสนองความต้องการของคนๆเดียว”
ไม่แน่ใจว่าโคฟี่อานัน แห่งสหประชาชาติเป็นคนพูดประโยคนี้หรือเปล่าแต่ใครพูดก็ช่างเถอะ คือฟังแล้วชอบมาก
เมื่อเช้าเลยคิดเล่นๆว่าหากได้ทุกสิ่งที่ต้องการมาแล้วชีวิตผมจะเป็นยังไงซึ่งเป็นที่มาของเรื่องนี้
วันฝันของปอนด์.....

แสงสว่างของดวงอาทิตย์ แยงหน้าต่างเข้ามาทำให้ผมต้องลืมตารับวันใหม่ สิ่งแรกที่ผมเห็นคือข้อความจากปลายเตียงว่า “ นั่งเจ็ทของเราไปถ่ายละครที่เมืองไทยกลับ ค่ำๆแล้วจะทำอาหารให้กินนะคะพี่ปอนด์.........จากเชียร์”
“อีกแล้วหรือนี่” ผมกลุ้มใจเล็กน้อยเพราะคิดว่าวันนี้อยากปลีกตัวไปอัพบล็อกให้เสร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่ผมก็ไม่อยากทำร้ายความตั้งใจของน้องเค้า......หลายปีแล้วสินะที่เราอยู่ด้วยกัน ด้วยวัยที่ต่างกันมักจะทำให้เราไม่เข้าใจกันบ้าง แต่เธอก็พยายามเอาใจผมตลอดมา ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมอยู่กับเธอ.....
ผมหิวเล็กน้อยผมนึกถึงโจ้กเจ้าประจำที่เคยกินเมื่อตอนอยู่ที่บ้านเก่า แต่ก็คงได้แค่คิดถึง เพราะคงยากที่จะหาโจ้กหมูใส่ไข่สักชามได้ ใน ชายทะเลแถบมาลิบูแห่งนี้ ...... ผมต้องจัดการกับอาหารเช้าพื้นเมืองซึ่งไม่ค่อยถูกปากเท่าไร่นัก........เช็คอีเมล์ซะหน่อยดีกว่า........ผมเปิดอีเมล์คุ้นชื่อขึ้นมา Patcharapa….
เป็นเมลสั้นๆไม่กี่ประโยค....... ปอนด์คะ เราเจอกันอีกได้ไหม........จากอั้ม ผมถอนหายใจ.......แล้วตอบเมลกลับไปว่า..... “ลืมผมซะเถอะ ขอให้คิดว่าเรื่องคืนนั้นของเราเป็นแค่ฝันไป........” มันเป็นความผิดของผมเองแหละ จะไปโทษบรรยากาศ และ แอลกอฮอล์อย่างเดียวก็ไม่ถูก
หนึ่งเหตุผลที่ผมหลบมาซื้อบ้านเล็กๆที่ชายหาดส่วนตัวแห่งนี้ เพราะเบื่อการตามของปาปาราซซี่....
ผมนึกถึงชีวิตช่วงที่ไม่ต้องคิดอะไรที่ใส่กางเกงบอลไปเดินเซ็นทรัลก็ไม่มีคนสนใจไม่ได้
เห้อช่างเถอะเปิดทีวีดูดีกว่า ....... อ้าวข่าวเทนนิสวิมเบิลดั้นหญิงเดี่ยว
อืม......มาเรีย ชนะอีกแล้ว ผมอดนึกถึงช่วงที่เราคบกันพักหนึ่งไม่ได้......การต้องเดินทางแข่งแกรนด์สแลมเป็นเพื่อนเธอสนุกก็จริง แต่มันทำให้ผมรู้ตัวเองว่าผมเป็นคนที่ชอบอยู่กับที่มากกว่า
ลืมมันดีกว่าดูช่องบันเทิงเถอะ อ้อวันนี้ประกาศผลรางวัลออสการ์นี่เอง สตาร์วอร์เอพิโซด 8 ของสปิลเบอร์กวาดรางวัลที่ 8 ไปแล้ว แต่ไม่ได้ทำลายสถิติ ของภาพยนตร์ปีที่แล้ว เพราะยังห่างชั้นกันอีกมาก....
ปีที่แล้ว “ ต้มเลือดหมู” ของ โทนี่จา กวาดไปทุกรางวัล แต่ทุกอย่างคงไม่ได้สำเร็จขนาดนั้น หากไม่ได้บทภาพยนตร์ของผม เรื่องมันเป็นยังไงแล้วนะ อ้อ เป็นเรื่องของนักสู้ชาวไทย ที่ไปตามหาเครื่องตรวจระเบิดสนามบินถึง อเมริกา เพื่อกู้ศักศรีคนไทยกลับคืนมา........... เอผมเก็บรางวัลไว้ไหนแล้วนะ อ้อ...เอาไปกองรวมกับรางวัลซีไรท์นั้นเอง.......ตอนได้รางวัลซีไรท์ก็เหมือนกันมีคนแซวนิดหน่อยว่า คนได้รางวัลมี 2 ประเภท ประเภทแรกคนเขียนหนังสือดีจริงๆ อย่างคุณวินทร์ คุณบินหลา คุณวิมล.......อีกประเภทได้รางวัลเพราะเขียนไม่รู้เรื่อง อย่างคุณ........เออไม่พูดดีกว่า...555 ผมเกรงว่าจะเป็นอย่างหลัง.....
แต่ใครจะว่าไงก็ว่าไปเถอะ.....นอกจากเพื่อน ซึ่งผมไม่ค่อยได้เจอเหมือนเมื่อก่อน ผมก็ไม่สนใจคนอื่นว่าจะคิดยังไงอยู่ดี..... หากแลกทุกสิ่งที่ผมมีวันนี้ได้ ผมแค่อยากกลับไปมีเวลาเจอเพื่อนเหมือนเมื่อก่อน อยากไปซื้อโจ้กใส่ไข่ตอนเช้าทุกวัน ว่างๆก็ไปดูหนัง เบื่อๆก็ไปเตะบอล แค่นั้นผมก็พอใจแล้ว.........
ผมต้องการแค่นั้นเอง........

จากใจผู้เขียน พอเขียนเรื่องนี้จบรู้สึกว่าชีวิตทุกวันนี้ก็มีความสุขดีเหมือนกันนะอิๆๆๆ อยากฟังความฝันของเพื่อนๆมาปั้นเรื่องบ้างจังเล่าให้ฟังบ้างนะๆๆ





 

Create Date : 07 กันยายน 2548    
Last Update : 7 กันยายน 2548 19:23:23 น.
Counter : 471 Pageviews.  

โลกแห่งความจริง และ โลกแห่งความฝัน

คำถาม ใครคือผู้ที่น่าเชื่อถือที่สุดในประเทศ
ความฝัน นายกรัฐมนตรี....
ความจริง ซ้อเจ็ด

คำถาม ใครทำนายความเป็นไปของประเทศ
ความฝัน รัฐมนตรี คลัง และ สภาพัฒฯ
ความจริง ฟันธง!!อาจารย์ลักษณ์

คำถาม วิธีแก้ปัญหาเยาวชน
ความฝัน ทำงานไปเงียบๆเถอะ
ความจริง ด่าทาทายังออกทีวี

คำถาม วิธีการมีส่วนร่วมทางการเมือง
ความฝัน ประชาพิจารณ์
ความจริง ส่ง เอส เอ็ม เอส ออกทีวี

คำถาม เรื่องที่เราต้องจับตาดูทุกฝีก้าว
ความฝัน ราคาน้ำมัน
ความจริง แหม่มท้อง5เดือนแล้วไม่รู้ได้ยังไง

คำถาม รายการที่ต้องการเรตติ้งมากที่สุด
ความฝัน เกมส์โชว์
ความจริง หลุมดำ

คำถาม รายการอะไร นักเสแสร้ง แสดงเก่งที่สุด
ความฝัน ละครหลังข่าว
ความจริง เรียลลิตี้โชว์ (ยกเว้นครูลักษณ์ คนเดียว)

คำถาม ที่พึงของพวกเรา.....
ความฝัน ตำรวจ
ความจริง สรยุทธ์

คนที่เป็นตัวของตัวเองน้อยที่สุด ทำตามกันมากที่สุด
ความฝัน วัยรุ่นที่ยังค้นหาตัวเองไม่เจอ
ความจริง คนเล่าข่าวตอนเช้าเกือบทุกช่อง (ยกเว้นที่พึ่งของเรา)

นักการเมืองที่ทำหน้าที่ด้วยความกล้าหาญมากที่สุด
ความฝัน สส รํฐบาล
ความจริง ชูวิทย์

ผู้หญิงที่นักข่าวควรถามความเห็นในปัญหาเด็กและสตรี
ความฝัน ครูน้อย(ไม่รู้จักละสิ)
ความจริง เจ้เบียบ

รายการทีวีเพื่อคนกลุ่มเล็กๆที่ประสบปัญหา
ความฝัน รายการเพื่อสมัชชาคนจน
ความจริง รายการเพื่อนักกอลฟ์( วงสวิงไม่สวยมันจะตายไหมวะ)


โลกแห่งความจริงฉันเป็นเหมือนคนตาบอด
โลกแห่งความฝันฉันมองเห็นวันสดใส
และในวันนี้โลกแห่งความฝันทอดทิ้งฉันไปไหน
โลกไม่สดใสเหมือนวันก่อน.....

จากใจผู้เขียน ตอนเขียนบทความนี้ใกล้ๆจบรู้สึกขอบตาอุ่นๆจริงๆนะ แต่เราไม่ได้ร้องไห้มานานแล้วล่ะ..




 

Create Date : 05 กันยายน 2548    
Last Update : 5 กันยายน 2548 16:56:45 น.
Counter : 513 Pageviews.  

ผู้ชนะ

( ต้นฉบับก่อน อีดิทลงนิตยสารฉบับหนึ่งครับ)
ฉบับที่แล้วคุณ บินหลา เขียนเรื่องผู้แพ้ ไปแล้วครับ.....
ผมเลยไม่อยากไปหากินที่ไหนไกลๆ เลยเอาง่ายๆคือเขียนเรื่องผู้ชนะดูบ้าง
การใฝ่หาชัยชนะเป็นสัญชาติญาณของสิ่งมีชีวิต
บางวันตื่นขึ้นมาไม่รู้จะไปแข่งกับใคร.....สำหรับ บางคนวั้นนั้นแค่เอาชนะใจตัวเองได้ก็สะใจดี
ชัยชนะเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการครับ....แต่มันเป็นแค่สถานการณ์ หมายถึงมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถชนะได้ตลอดไป
ประมาณ 3 ปีที่แล้วผมเคยทำงานด้านการตลาดให้กับบริษัทเกมส์ออนไลน์ ทำให้ต้องผมต้องไปศึกษาความเป็นไปของร้านอินเตอร์เน็ต คาเฟ่ อยู่สักพักหนึ่ง ช่วงนั้น เกมอย่างแรกน่าร็อกก็ยังไม่เข้ามาในเมืองไทย ตอนนั้นร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เปิดกันเยอะมากครับ(แต่ก็ยังน้อยกว่าปัจจุบัน) มีทั้งร้านใหญ่ๆ และร้านเล็กๆแข่งกันเปิดขึ้นมามากมาย ร้านใหญ่พอเห็นร้านเล็กๆเปิดขึ้นมามากๆตัวเองก็กลัวคู่แข่งก็เลยตัดราคาค่าชั่วโมงบริการ ร้านเล็กๆแม้จะเสียเปรียบร้านใหญ่ๆ แต่เจ้าของร้านเล็กๆส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่ไม่ค่อยมีทุน ดังนั้นทุนที่นำมาเปิดร้านก็มักจะเป็นเงินก้อนสุดท้าย เหมือนทุบหม้อข้าวตัวเองมาแล้วจะยอมแพ้ง่ายๆก็กะไรอยู่ จึงจำเป็นที่จะต้องสู้ยิบตา สงครามการตัดราคากันไปมาจึงเริ่มขึ้น ร้าน ใหญ่ลด ร้านเล็กก็ลดตามแถมยัง ให้เล่นเกินเวลาด้วย ร้านใหญ่ๆเห็นดังนั้นก็ไม่ยอมลดราคาลงมาอีก ร้านเล็กๆก็ลดตามลงมาอีกจนในช่วงนั้นบางร้านเก็บค่าเล่นชั่วโมงละไม่ถึง 10 บาท ผมเคยคุยกับเจ้าของคาเฟ่เล็กๆดู ว่าทำไมไม่ลองรวมตัวแล้วนัดบรรดาเจ้าของร้านใหญ่น้อยทั้งหลายเพื่อที่จะสงบศึกสงครามตัดราคานี้เพราะมันจะทำลายกันทุกฝ่ายจะว่าเป็นประโยชน์ต่อนักเล่นเน็ตก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเมื่อร้านเน็ตหลายๆร้านตายลงคนเล่นเน็ตก็จะหาที่เล่นลำบาก ตลาดคนเล่นอินเตอร์เน็ตก็จะโตช้า ผมก็ได้รับคำตอบจากเจ้าของร้านเล็กๆส่วนใหญ่บอกว่า “เคยรวมตัวกันไปคุยแล้ว ร้านใหญ่ๆก็ไม่ยอมเพราะ มันถือว่า มันอยู่ได้...ใครจะเป็นยังไง มันก็ไม่สนใจหรอก” .
แต่สงครามครั้งนั้น ทุกคนแพ้กันหมดครับ เพราะร้านใหญ่ๆเองก็ไม่สามารถขยายร้านรับคนที่เพิ่มขึ้นได้เพราะ กำไรส่วนเพิ่มน้อยลงไม่คุ้มกับCostสำหรับการขยายร้าน ตอนนี้ธุรกิจร้านอินเตอร์เน็ตจึงไม่มีร้านใหญ่ร้านเล็ก....มีแต่ร้านเล็ก กับ ร้านเล็กมากๆ
จริงๆแล้วชัยชนะมีมากกว่าหนึ่งแบบครับ ไม่ใช่แค่ชนะคู่แข่ง ......ยังมีการ ชนะใจคนดู ชนะใจกรรมการ และ แน่นอนที่สุดชนะใจตนเอง
จอห์น แนช ได้รางวัลโนเบลจากทฤษฎีสมดุลระบบเป็นวิธีการที่จะทำให้เกิดผลลัพธ์แบบได้กันทุกฝ่าย หรือ Win-Win เขาบอกว่าผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มาจากการที่ทุกคนในกลุ่มทำดีที่สุดเพื่อตัวเองและเพื่อกลุ่ม พูดง่ายๆให้เป็นภาษาคนก็คือ ถึงแม้เราจะต้องแข่งขันกันแต่ถ้าทุกคนต่างมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน เชื่อใจกัน เอื้อเฟ้อกัน ก็จะทำให้ทุกๆคนได้รับประโยชน์มากกว่าที่เป็นอยู่
ผมรู้สึกว่าสิ่งที่แย่ที่สุดของชัยชนะไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเราไม่ได้มันมา
แต่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากเราได้มันมาแล้ว....แต่กลับคิดว่ามันจะอยู่กับเราตลอดไป
เราหา ตัวอย่างได้ทั่วไปในสังคมครับ คนที่หลงยึดติดอยู่กับชัยชนะอดีต แต่ถ้าใครหาไม่เจอนะครับ
ให้ลองไปเดินแถวสภา
.........ผมเห็นประมาณ สามร้อยกว่าตัวอย่างครับ




 

Create Date : 02 กันยายน 2548    
Last Update : 2 กันยายน 2548 23:29:00 น.
Counter : 481 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  

ช่างประชันพันธุ์ประชด
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




นักเขียน / คอลัมนิสต์
Friends' blogs
[Add ช่างประชันพันธุ์ประชด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.