<ภาพดีไซน์ส่วนหัวและใบหน้าแบบต่างๆ ใช้                                      อิมเมจจากแมลงปอพันธ์ุมูคาชิ สังเกตภาพ                                      ด้านล่างที่ดีไซน์ให้มีปีกด้านข้างศีรษะ

<ดีไซน์ส่วนหัวอีกเวอร์ชั่น ส่วนใบหน้ายังเป็นรูปแบบแมลง และเป็นหน้ากากครอบไปบนส่วนหัวโดยมีเส้นสยายไปด้านหลัง

<ภาพร่างแบบเต็มตัวของไรเดอร์อมาซอนที่ถูกตั้งชื่อแบบไม่เป็นทางการว่า DRAGON RIDER จะเห็นความพยายามที่จะฉีกแนวการออกแบบจากที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเส้นผม และปีกแมลงขนาดใหญ่

<ดีไซน์ส่วนหัวอีกเวอร์ชั่น ส่วนใบหน้ายังเป็นรูปแบบแมลง และเป็นหน้ากากครอบไปบนส่วนหัวโดยมีเส้นสยายไปด้านหลัง

<ภาพดีไซน์พร้อมลงสีซึ่งด้านหลังศรีษะเปลี่ยนเป็นหนามแหลม สีถูกกำหนดให้เป็นลวดลายแบบฟรีฟอร์ม ใช้สีแดงและเขียวเป็นหลัก

<ภาพดีไซน์อีกเวอร์ชั่นที่ค่อนข้างหลุดคอนเซ็ปท์ในตอนแรก หนามตามตัวถูกลบออกจนหมด ส่วนใบหน้าดูเป็นหน้ากากที่สวมเข้ามาอีกชั่นแต่ลายบนตัวกับแผงหน้าอกเริ่มใกล้เคียงกับปัจจุบัน

^ภาพดีไซน์ส่วนหัวที่ลงตัวมากขึ้นโดยกลับมาหาคอนเซ็ปท์เดิมแต่คลี่คลายอิมเมจของแมลงจนแทบไม่หลงเหลือ <ภาพดีไซน์ส่วนศีรษะ และภาพเต็มตัวที่ลงตัวมากขึ้นแสดงภาพลักษณ์ของ DRAGONRIDER ผู้มาจากป่าลึกและหนาบแหลมยังคงมีอยู่ทั่วตัว

ACTION ลักษณะเฉพาะตัวที่วางไว้ก็คือ ACTION HERO สไตล์กังฟู บรู๊ช ลี กี่นิยมในยุค 70

AMAZON RIDER แบบที่ใช้อย่างเป็นทางการหลังจากเปลี่ยนแก้ไขมาหลายครั้ง รายละเอียดในส่วนต่างๆที่ลงทั้งกำไลกีกิ หัวเข็มขัด มีครีบด้านหลังเพิ่มเข้ามาเป็นรูปร่างที่เห็นในปัจจุบัน

แบบร่างของ JUNGLER ที่ออกแบบได้แหวกแนวไม่แพ้ตัวอมาซอน ทั้งส่วนหน้าของรถ และปีกขนาดใหญ่  โดยภาพร่างนี้เป็นเฟรมชิ้นส่วนที่จะติดตั้งกับรถจริง

ประวัติและข้อมูล

ยามาโมโตะ ไดสุเกะ ผู้รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์จากอุบัติเหตุทางเครื่องบิน ซึ่งตกกลางป่าอเมซอนที่อเมริกาใต้เมื่อ 23 ปีก่อน และถูกสัตว์ป่าเลี้ยงมาตั้งแต่เป็นทารกมีความแข็งแรงกว่ามนุษย์ปกติ ห่างไกลจากสังคมอารยธรรม ไม่เข้าใจภาษามนุษย์ คนทั่วไปจะเรียกเขาว่าอเมซอนตั้งแต่ ก่อนการแปลงร่าง  ผู้เฒ่าบาโก้แห่งจักรวรรดิอินคาโบราณ ได้แปลง “ยามาโมโตะ ไดสุเกะ” ชาวญี่ปุ่นที่เติบโตในป่าดงดิบให้เป็นมนุษย์แปลงอาราดาราโอไทคาเงะ เพื่อคอยปกป้องสมบัติลับของเผ่าอินคาจาก เมนกอลกอส เป็นมนุษย์แปลงที่มีระบบประสาทที่ไวมาก เมื่อมาเป็น MASKED RIDER AMAZON ก็ได้รับพลังแห่งสัตว์ป่า อาวุธของอามาซอนคือเขี้ยวเล็บ และครีบที่มีความคมดุจใบมีดที่แขน และขา ในการต่อสู้จะไม่มีแบบแผน จะใช้เพียงความดุดันและความว่องไวแบบสัตว์ป่าเป็นพลังพิเศษ

อุปกรณ์แปลงร่างและเข็มขัด

	เข็มขัดอเนกประสงค์คอนโดเลอร์ (コンドラー) ส่วนหัวเข็มขัดของอเมซอนเป็นอาวุธสารพัดประโยชน์ที่ชาวอินคาโบราณใช้เก็บอุปกรณ์ 7 ชนิดไว้เพื่อการดํารงชีวิตในป่าดงดิบ เช่นเชือก สําหรับปืน โจมตี สามารถนําอุปกรณ์ต่าง ๆ มาใช้ ก่อนท่าแปลงร่างได้ (S.I.C. ได้เพิ่มออริจินัลไอเท็มเข้า ไปได้แก่ แส้ และ กระบองสองท่อน แถมยังสามารถถอดหัวเข็มขัดคอนโดเลอร์ออกมาได้อีกด้วย)
	กำไลแขนกีกิ (ギギの腕輪) เมื่อรวมกับกําไลกาก้าจะเป็นกุญแจสําคัญในการไขความลับทาง วิทยาศาสตร์ของเผ่าอินคาโบราณ บาโก้ได้ผ่าตัดกําไลใส่ไว้ที่แขนของ อเมซอนเพื่อป้องกันกําไลจากผู้ที่หมายปอง หากถอดกําไลออกจะหมายถึง ความตายของอามาซอน
	กําไลกาก้า (ガガの腕輪) ถ้ารวมกับกำไรกีกิ จะสามารถใช้ท่า Super Daisetsudan ได้ เดิมติดอยู่ที่แขนของกอร์โกสปีศาจสิบหน้า

การแปลงร่าง ด้วยกำไลแขนกีกิ เขาสามารถแปลงร่างเป็นไรเดอร์ได้โดยร้องตะโกนว่า "อา-มา-ซอน!"
แล้วก็หมุนแขนและมือที่ทำท่ากรงเล็บออก ดวงตาของเขาเริ่มเป็นสีแดงราวกับปีศาจ จากนั้นการแปลงกายจึงสมบูรณ์

กายวิภาคศาสตร์

1.เอลล่า (エラ) เหงือกที่อยู่ด้านในแก้มช่วยให้หายใจใต้น้ำได้ 2.ดวงตา (目) เนื่องจากเส้นประสาทตามีการพัฒนาอย่างผิดปกติ จึงมีการมองเห็นที่เหนือกว่านกล่าเหยื่อ สามารถมองเห็นมดตัวหนึ่งจากความสูง 100 เมตรขึ้นไปได้ มีวิสัยทัศน์ตอนกลางคืนที่ช่วยให้เห็นได้ดี 3.ประสาทสัมผัส (触覚) สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของความดันบรรยากาศ อุณหภูมิ ความชื้น และทิศทางลมได้อย่างละเอียดอ่อน สามารถตรวจจับสัญญาณของภัยพิบัติทางธรรมชาติได้อีกด้วย และสามารถควบคุมจังเกลอร์ได้แบบอัตโนมัติ 4.จมูก (鼻孔) มันมีประสาทรับกลิ่นที่เฉียบแหลมยิ่งกว่าสุนัข และความสามารถของมันนั้นสูงกว่าคนทั่วไปตั้งแต่ 1 ล้านถึง 10 ล้านเท่า 5.เขี้ยว (牙) ปลายแหลมคมเหมือนมีด ท่าโจมตี จากัวร์ช็อค คือการกัด ซึ่งใช้แรงกัดมากกว่า 3 ตัน สามารถกัดแผ่นเหล็กหนาให้ขาดได้อย่างง่ายดาย