เมื่อเธอหยุดรักฉัน

เมื่อเธอหมดรักฉันโลกพลันหมอง

รังษีทองอุทัยหยุดไขแสง

ทุกลีลานาฏกรรมที่สำแดง

ก็ล้วนแฝงเรื่องโศกโลกเศร้าตรม


เมื่อเธอหยุดรักฉันโลกพลันเฉา

ดอกรักเก่าร่วงสิ้นไร้กลิ่นฉม

สวนรักเก่าเคยชื่นระรื่นชม

ล่มสลายในสายลมขื่นขมทรวง


เมื่อเธอหมดรักฉันโลกพลันหม่น

ทุกแห่งหนเหลียวเห็นน่าเป็นห่วง

ดุจดาวเลือนเดือนดับมาลับดวง

น้ำตาดาวพราวร่วงจากห้วงฟ้า


เมื่อเธอเลิกรักฉันโลกพลันล่ม

อยากสิ้นลมหายใจไปจากหล้า

เหมือนมีร่างร้างใจไร้ชีวา

หมดเวลานาทีของชีวิต


เธอสิ้นรักฉันโศกโลกสับสน

ยากผ่านพ้นคืนวันอันวิกฤต

ในโลกอันหมองหม่นจนมืดมิด

ยังหวังสิทธิ์รักเธอเสมอไป


วงจรโลกเหมือนสะดุดจวนหยุดหมุน

เสียสมดุลย์ยากฟื้นคืนมาใหม่

ส่วนตัวฉันยากฟื้นคืนจิตใจ

อยู่อย่างไร้วิญญาณใจลาญแล้ว




 

Create Date : 11 มีนาคม 2552   
Last Update : 21 มกราคม 2553 15:22:35 น.   
Counter : 479 Pageviews.  


กาลครั้งหนึ่ง




ฟังนิทาน"กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว..."

แม่เล่าแว่วริมหูมิรู้เบื่อ

ฟังนิทานก่อนนอนหนุนหมอนเนื้อ

ที่แม่เอื้อตักอุ่นให้หนุนนอน


เรื่องเก่าเก่าเล่าซ้ำฟังจำได้

เรื่องใหม่ใหม่ให้ค่าอุทาหรณ์

แม่ย้ำเตือนลูกฟังพึงสังวรณ์

แม่สั่งสอนลูกสดับคอยรับฟัง


"เจ้าหญิงน้อยกำสรดแม่มดสาป

เจ้าชายหนุ่มกำราบมนต์บาปขลัง

ได้ครองคู่อยู่ปราสาทราชวัง"

เรื่องเก่าครั้งเมื่อกาลนานมาแล้ว


"เงือกน้อยในธาราน่าสงสาร"

"โฉมสะคราญในป่า,ปราสาทแก้ว"

"เขาวงกตลดหลั่นหลายชั้นแนว"

เพริศแพร้วจินตภาพอาบอิ่มทรวง





อบอุ่นในอ้อมอกแม่กกกอด

รับสืบทอดจิตวิญญาณแม้กาลล่วง

ความดีงาม,ศรัทธา,คุณค่าปวง

ให้ฉายโชนโชติช่วงแม้ล่วงกาล


แม่รักลูกปลูกฝังแต่ยังเด็ก

ตัวยังเล็กเริ่มเรียนหัดเขียนอ่าน

ให้รู้ผิดรู้ชอบกอปรการงาน

ไม่เกียจคร้านพาลทั่วรู้ชั่วดี


เรียนชีวิตง่ายงามตามประสา

รู้คุณค่าความซื่อคือศักดิ์ศรี

ไม่บิดเบือนสับปลับทำอัป.ปรีย์

ไม่เบียดเบียนกดขี่บีฑาใคร





กาลเวลาเลื่อนไหลผ่านไปเรื่อย

แม้ล้าเหนื่อยเด็กน้อยค่อยเติบใหญ่

สิ่งต่างต่างที่เห็นความเป็นไป

ไม่เหมือนแม่สอนไว้ตอนวัยเยาว์


ในเส้นทางสับสนที่วนว่าย

หาความหมายว่ายวนเหมือนคนเขลา

ชีวิตช่างทุกข์ทนหนอคนเรา

ไขว่คว้าเอาเท่าไรไม่รู้พอ


ความดีงาม,ศรัทธา,คุณค่าเก่า

ที่แม่เฝ้าปลูกฝังยังเติบต่อ

แม้บางครั้งสั่นคลอนโลกหลอนล้อ

บางครั้งท้อทุกข์โศกกับโลกร้าย


เส้นทางเวียนโลกวุ่นหมุนสับสน

อนาถหนอผู้คนผู้คนที่วนว่าย

เริงกิเลสกาลีไม่มีอาย

บ้างกระหายบ้าระห่ำท้ากรรมเวร


ฤาเขาขาดพ่อแม่คอยแผ่รัก

ไร้เสาหลักสิ่งดีที่โดดเด่น

จึงหลงทิศผิดทางบ้างเบี่ยงเบน

เหมือนไม้เอนรากอ่อนจึงคลอนแคลน





เมื่อคิดย้อนตอนเยาว์แม่เล่าขาน

เรื่องนิทานฟังสนุกเป็นสุขแสน

"ดาบวิเศษปราบอธรรมที่ล้ำแดน"

"พรมวิเศษโลดแล่นเหนือแผ่นฟ้า"


"มังกรไฟพ่นไฟโลกไหวหวั่น

เหล่าผู้กล้าเข้าประจัญใจหาญกล้า

เทพธิดาใจดีมีมนตรา

เสกคาถาช่วยคนดีให้มีชัย"


ผ่านมาแล้วเนิ่นนาน"กาลครั้งหนึ่ง..."

รักลึกซึ้งตรึงฝันอันสดใส

ปลุกปลอบฝันปันหวังกำลังใจ

สู้ต่อไป..ไปต่อ...ไม่ท้อแท้




 

Create Date : 11 มิถุนายน 2551   
Last Update : 29 พฤษภาคม 2552 12:43:37 น.   
Counter : 332 Pageviews.  


สายน้ำไม่ไหลกลับ

สายน้ำเชี่ยวเกลียวไหลไม่หวนกลับ

รักลอยลับลาไกลไม่กลับหวน

ริมสายน้ำแห่งนี้เคยชี้ชวน

ชมจันทร์นวลแนบชิดสนิทชม



อดีตรักสลักซึ้งฝังตรึงจิต

เคยใกล้ชิดเคียงชื่นกลายขื่นขม

เคยเล่นว่ายสายน้ำฉ่ำสายลม

เอารักห่มเสน่หาทุกราตรี



ดูสายชลวนเชี่ยวเป็นเกลียวไหล

พาสายใจไกลพรากไปจากพี่

เย็นสายลมยิ่งหนาวร้าวฤดี

นับแต่นี้มีแต่ร้างไปห่างกัน



ยืนเบื้องหน้าสายน้ำเย็นฉ่ำใส

ที่ผ่านไปหรือเป็นเช่นความฝัน

ภาพต่างต่างลางเลือนเหมือนหมอกควัน

ภาพหนึ่งนั้นยังกระจ่างอยู่กลางใจ



เป็นภาพเธอเสมอไปแม้ในฝัน

ปลุกชีวันบางครั้งเริ่มหวังใหม่

ลบรอยโศกเสน่หาความอาลัย

จุดเปลวไฟในฝันพลันเรืองรอง



ชีวิตจริงทุกอย่างต่างจากฝัน

ความสัมพันธ์เก่าเก่าของเราสอง

ไม่อาจเป็นเช่นเก่าดั่งเราปอง

ฉันหลงไปในครรลองของผู้แพ้



มองสายน้ำสะท้อนเงาอย่างเหงาหงอย

ฝากรักลอยล่องไปในกระแส

ธารคดเคี้ยวเลี้ยวไปใกลตาแล

รักไม่แปรแม้หมดหวังยังคงรัก






 

Create Date : 05 มิถุนายน 2551   
Last Update : 29 พฤษภาคม 2552 12:44:25 น.   
Counter : 324 Pageviews.  



คมเย็น
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add คมเย็น's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com