โศลกเศร้าจากแดนตะวันตก

เคยนอนพักปลอดภัยอยู่ในบ้าน
เมื่อวันวาน..วันนี้ต้องหนีถิ่น
ทิ้งแว่นแคว้นแสนระกำยากทำกิน
ทิ้งแผ่นดินเคยอุดมแดนสมบูรณ์

ผู้ปกครองเผด็จการสันดานหยาบ
เมืองต้องสาปบาปซ้ำทุกสิ่งสูญ
ประชาหมองนองน้ำตาแสนอาดูร
ในกองกูณฑ์โหมไหม้ไฟอาธรรม์

ถูกสูบเลือดเชือดเนื้อเขาเถือสิ้น
ทั่วแผ่นดินของเราเขาห้ำหั่น
อยู่แค่เพียงหายใจไปวันวัน
เขาบีบคั้นทั้งเสรีในชีวา

มุ่งความหวังยังถิ่นแผ่นดินใหม่
หนทางไกลใจหมายตายดาบหน้า
มุ่งหลั่งเหงื่อเพื่อบ้านเมืองมารดา
ทิ้งครอบครัวคอยท่าหาทำงาน

ทางเสี่ยงภัยไกลถิ่นแผ่นดินเกิด
หวังบรรเจิดเลิศค่ามหาศาล
หวังค่าจ้างมีเหลือได้เจือจาน
คนทางบ้านอดอยากหลายปากท้อง

ดินแดนแห่งความฝัน...ตะวันออก
ในม่านหมอกเลือนไกลใจลอยล่อง
เปี่ยมความหวังตั้งใจไปขุดทอง
ตามครรลองคนทุกข์บุกบั่นไป

การเดินทางครั้งนั้นกลับสั้นนัก
อุปสรรคหนักหนาเกินฝ่าได้
โอ้อนาถชีวิตลิขิตไว้
ต้องสิ้นลมหายใจก่อนได้งาน

แม้กระทั่งอากาศยังขาดช่วง
ถูกหลอกลวงแย่งชิงทิ้งสังขาร
เป็นเหยื่อเหล่ามิจฉาคนสามานย์
เหลือวิญญาณสิ้นไร้ในต่างแดน

พ้นวังวนข้นแค้นอันแสนโศก
สิ้นอาลัยในโลกอันโศกแสน
ฝังความช้ำชิงชังความคลั่งแค้น
ยังคงความขาดแคลนแผ่นดินเดิม

สุดโค้งขอบฟ้านั้น...ตะวันตก
เลือดนองอกธรณีที่แตกเพิ่ม
ทรราชรายเก่าเอาศพเติม
โศลกเริ่มย้อนใหม่สุมไฟแค้น




 

Create Date : 24 เมษายน 2551   
Last Update : 24 มกราคม 2552 10:09:31 น.   
Counter : 453 Pageviews.  


ผู้แพ้

เเบกทุกข์เศร้าหดหู่สู้สัญจร

เร่ร่อนในวิถีที่เปล่าว่าง

ใต้เงาเมฆสีหม่นคนอ้างว้าง

เดินทางเดียวดายในสายลม


ที่พัดพลิ้วปลิวไปใบไม้แห้ง

ฤดูแล้งร้อนอ้าวอกร้าวขม

เส้นทางใดไหนเล่าล้างเศร้าตรม

ใบไม้ถมถนนเก่าดูเศร้าแท้


ชีวิตรักแสนเศร้าเรื่องเก่าก่อน

เหมือนละครตอนเศร้าเรื่องเก่าแก่

จบบทตอนจากกันไปไม่เหลียวแล

เราผู้แพ้ผิดหวังทุกครั้งครา


คงไม่มีครั้งใหม่หมดใจแล้ว

สิ้นวี่แววพิศวาทปรารถนา

เหลือแต่ทุกข์ทดท้อทรมา

เสี้ยววิญญาแหว่งวิ่นรอสิ้นใจ


ระยะทางห่างกันยังฝันถึง

วจีหนึ่งฝากฝังยังจำได้

เป็นคำเดียวที่มิเคยเอ่ยกับใคร

เธอคงลืมสิ้นไปไม่นำพา


วันเวลาผ่านไปใจเธอเปลี่ยน

ฉันยังเวียนคิดถึงคนึงหา

ในความช้ำจำเจ็บเก็บน้ำตา

ลูกผู้ชายขายหน้าไม่กล้าร้อง


เธอคือกลางวันฝันเช้าชื่น

ฉันคือกลางคืนขมขื่นหมอง

เธอเพลิดเพลินรักใหม่ที่ไฝ่ปอง

ฉันยังตรองเรื่องเก่าอยู่เศร้าตรม


รักใหม่เธอเริงรื่นชื่นฉ่ำหวาน

รักเก่าฉันเนิ่นนานกลับพาลขม

หวังรักเธอคู่เคียงได้เพียงลม

หวังจักชมชื่นเคียงได้เพียงช้ำ




 

Create Date : 15 เมษายน 2551   
Last Update : 24 มกราคม 2552 10:08:57 น.   
Counter : 312 Pageviews.  


นิยายรักไม่รู้จบ



ดังแสงแรกสาดส่องท้องทุ่งร้าง

อันเวิ้งว้างแห่งห้วงดวงจิตฉัน

ซึ่งเคยมืดครึ้มมัวชั่วชีวัน

กลายกลับพลันกระจ่างพราวคราวพบเธอ


ปวงบุปผาแห่งปีติผลิสะพรั่ง

แว่วระฆังกังวานหวานเสมอ

เริ่มแต่เมื่อนาทีที่พบเจอ

อยากเสนอรักสนองร่วมห้องใจ


ห้วงหทัยให้ระทึกเพียงนึกถึง

แรกสบตรึงซึ้งตาพาหวามไหว

ปีกแห่งรักกระพือร่อนบินว่อนใน

ห้องหทัยให้สะท้านเสียวซ่านซึ้ง



ใจฉันเริ่มบรรเลงบทเพลงฝัน

เมื่อชีวันอับเฉาได้เข้าถึง

อมฤตรสรักสลักตรึง

เธอเพียงหนึ่งที่รักสลักฤดี


แค่ฟังเสียงหวานใสใจดื่มด่ำ

อยากตอบคำลืมตัวใจรัวถี่

ลืมหมดสิ้นลำนำคำกวี

อายวจีที่เอ่ยกลัวเผยใจ


ฉันอยากกล้ากว่านี้นะที่รัก

อยากถามทักรักมากอยากชิดใกล้

เธอก็อายยามเอ่ยฉันเผยนัย

แก้มแดงใสเลือดสาวคงผ่าวร้อน


ทุ่งดอกไม้แย้มบานตระการสี

กลอนกวีแสนหวานจากกาลก่อน

เราขับขานหวานคำลำนำวอน

ร่วมทางจรร่วมใจรักวัยเยาว์



รสรักซ่านหวานแทรกแรกสัมผัส

โอบร้อยรัดวิญญาณผ่านวันเศร้า

เหมือนลบลืมโลกหมองเหลือสองเรา

โลกใบเก่ากลับใหม่เปลี่ยนไปพลัน


เพียงนิ้วเดียวเกี่ยวก้อยร้อยปรารถนา

พันธนาหัวใจไว้คงมั่น

หวังสนองรักสนิทนิจนิรันดร์

ฟากฟ้านั้นฝันไกลไปสุดฟ้า


เพียงมือเธอยื่นมาพาหวามไหว

สัมผัสแผ่กระแสใจต่างไฝ่หา

หวังร่วมฝันวันคืนชื่นชีวา

ร้อยวิญญาเราสองคู่ครองกัน



แรกจุมพิตจิตไหวใจหวามหวิว

สัมผัสผิวเอียงอายกายเธอสั่น

วงแขนเราทั้งสองคล้องสัมพันธ์

อ้อมกอดฉันโอบแนบเธอแอบอิง


อ่อนละมุนอุ่นละไมในอ้อมอก

เธอสะทกอกสะท้อนอ่อนใจหญิง

ฉันสะท้านซ่านกายชายใจจริง

ราวไฟผิงร้อนผ่าวปนหนาวทรวง


ราวกุหลาบกลีบละมุนกลิ่นกรุ่นหอม

ความรักย้อมแรกแย้มปากแก้มหวง

เชยผกาผลิดอกพันลอกดวง

ฝันสุดห้วงเสน่หาสู่ฟ้าไกล



เสพน้ำทิพย์จิบดื่มจนลืมโศก

จวบหล้าโลกสิ้นลงอสงไขย

ไม่สิ้นรักแรงถวิลอจินไตย

ร้อยสายใยใจฝันอนันตกาล


แรกหลอมรวมใจกายเชื่อมสายรัก

ซึ้งสลักชั่วกัลปาวสาน

ความลี้ลับแห่งรักเลี้ยงจักรวาล

ร้อยวิญญาณดูดดื่มไม่ลืมเลือน


ลบสิ้นความอ้างว้างให้จางหาย

ล้างสิ้นความเดียวดายให้คลายเคลื่อน

สู่คืนวันฝันดีผ่านปีเดือน

เมื่อมีเพื่อนชีวิตร่วมชิดชม



รับหยาดชลหยดชื้นคืนวสันต์

ชโลมฝันวันชื่นคืนสุขสม

ผืนดินชุ่มชอุ่มน้ำที่ฉ่ำพรม

เราเพาะบ่มพืชพันธุ์สรรค์ชีวิต


บนเส้นทางมนุษย์ชาติปรารถนา

สืบชีวาเชื้อสายสืบกายจิต

คือของขวัญล้ำค่าฟ้านิรมิต

สืบความคิดจิตวิญญาณผ่านช่วงชนม์


นิยายรักไม่รู้จบทุกภพชาติ

พิศวาทปรารถนาหาหลุดพ้น

วิถีโลกโศกสุขทุกข์เวียนวน

วิถีคนหวังสุขทุกคืนวัน



ดังแสงแรกสาดส่องท้องทุ่งร้าง

.......








 

Create Date : 11 เมษายน 2551   
Last Update : 24 มกราคม 2552 10:08:24 น.   
Counter : 295 Pageviews.  


ราตรีกานท์

ค่ำคืนตื่นฝันเห็นจันทร์แจ่มหาว
ดึกดื่นคืนหนาวดาวส่องฟ้าใส
ฟังเสียงกรีดกริ่งหรีดหริ่งเรไร
เมฆลอยคล้อยไปรุ้งใสล้อมจันทร์

ดูภาพคืนเพ็ญเดือนเด่นดาวดาษ
เวิ้งฟ้าดังวาดผ่องผาดเพียงนั้น
ทุ่งหญ้าเย็นเยือกเทือกผาสูงชัน
น้ำค้างค่อยกลั่นหยาดฝันหยดพรม

มนตราราตรีเสกสีส่งเสียง
คอยร่ำคำเรียงสำเนียงเหมาะสม
แผ่วหวานพลิ้วไหวซ่านในสายลม
เอิบอิ่มอารมณ์ฟังชมชื่นบาน

บันทึกถ้อยคำดื่มด่ำล้ำลึก
จดจำสำนึกรู้สึกประสาน
สรรถ้อยสุนทรีย์กวีตระการ
กาพย์กลอนอ่อนหวานจารไว้ใจจำ

ลำธารรินทกเลี้ยววกเลาะไหล
สะท้อนเงาใสจันทร์ในสายน้ำ
เงาไผ่ไหวพลิ้วทิวไม้ร่ายรำ
นกร้องลำนำสูงต่ำทำนอง

ดื่มด่ำล้ำลึกดึกดื่นโลกหลับ
ค่อนดึกดาวดับเดือนลับลอยล่อง
ปรัชญาล้ำลึกนั่งนึกนิ่งตรอง
ค้นหาครรลองของโลก,ชีวิต

โลกหล้าเปลี่ยนผันคืนวันเปลี่ยนหมุน
สรรพสิ่งสมดุลย์เกื้อหนุนกายจิต
โลกซ่อนปรัชญาล้ำค่าควรคิด
เพียรค้นนิมิตลิขิตกาพย์กลอน

เดือนต่ำดาวตกวิหคเริ่มร้อง
ใกล้สางแสงทองเรืองรองเรื่ออ่อน
ราตรีผ่านผันดวงจันทร์ผ่านจร
จบคืนจบท่อนบทตอนกวี




 

Create Date : 08 เมษายน 2551   
Last Update : 24 มกราคม 2552 10:05:28 น.   
Counter : 311 Pageviews.  


กลียุค

แผ่นดินณ ยามภววิกฤต
ปะทุพิษพญามาร
เหล่าพวกสถุลบริวาร
มุจะผลาญไผทไทย

วันวันสิแหย่ยุกุกระแส
พิษแพร่ขยายไป
เมืองล่มเพราะด้วยธนประลัย
ระอุไฟจะไหม้ลาม

แตกแยกระหว่างนิกรชน
ทะเลาะบ่นวิกลตาม
พรรคเลวจะนำคณะสยาม
ประลุทรามและเสื่อมโทรม

หากโคตรตระกูลบุรพกาล
พิศหลานฤญาติโยม
กัดกินประเทศตะกละตะโบม
สิจะคิดอนิจจา

น่าอายอุบาทว์ประดุจมูล
ปฏิกูลสะสมคา
ริมฝั่งประดังระดะประสา
สวะเน่าคละเคล้าเหม็น

จวนเริ่มกลียุคปฐมบท
ผิวะกดประชาเป็น
สองขั้วผิว์ชนบทเข็ญ
ก็กระตุ้นกิเลสเหิม

คนเมืองประสมคณะระคน
คละปะปนก็แตกเติม
แยกขั้วเพราะคำประทุษเสริม
ระยะห่างระหว่างกัน

บ้านเมืองเสมือนนรกมัว
คณะชั่วจมูกชัน
เหล่าพลเมืองจะเยาะจะหยัน
ฤจะอาจประศาสน์ชน

เหล่าปวงวธูวิพุธมวล
ตละล้วนมิอาจทน
ขี้ฉ้อตะกลามตะกละจะฉล
ฤจะปกประเทศครอง

เสนาบดีตละพระหน่อ
พิศท้ออนาถมอง
ล้วนพวกระยำคณะผยอง
คละกะเหล่ากะล่อนไหล

ผู้นำอุบาทว์มนพิการ
บริหารประเทศไทย
โอ้ว่าประชาอธิปไตย
ทุรชนจะปล้นชิง

ผู้แทนถนัดผรุสวาท
ทุรชาติอุบาทว์จริง
วาจาเสมือนนรกสิง
ทะเลาะท้าประสาทราม

อ้าองค์สยามเทวธิราช
ฤปลาตสุธายาม
สัตว์ต่ำจะนำภพสยาม
ทะลุขุมอเวจี

(วสันตดิลกฉันท์๑๔)




 

Create Date : 01 เมษายน 2551   
Last Update : 24 มกราคม 2552 10:04:48 น.   
Counter : 318 Pageviews.  



คมเย็น
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add คมเย็น's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com