กลอนกลบท

ฝนหลั่งมาฟ้าแลหม่นคนหมองเศร้า
คิดถึงเราเขาทิ้งร้างอ้างว้างหนัก
จำเดิมในใจดวงนี้มีใจภักดิ์
เราอกหักรักออกห่างอ้างว้างใจ

ยามฟ้าหม่นยลฟ้าหมองมองฟ้าเปลี่ยว
ลมพัดเกรียวเรียวไผ่กรายดังว่ายไหว
ฝนสั่งลาฟ้าโศกร่ำพร่ำอาลัย
น้ำตาไหลในตาร่ำช้ำชอกตรม (กบเต้นต่อยหอย)

ยามฝนซายลฟ้าใสในวันเศร้า
ยังคอยเหงายามเขางอนตอนรักล่ม
สัญญาใจสิ้นใยจางเหมือนอย่างลม
ใกล้จะล้มก่อนจมร่างลงกลางดิน

ทุกวันนี้ทวีในเทวษหนอ
เฝ้าแต่รอฝันต่อรักเกรงจักสิ้น
รวีฉายรักวายช้ำน้ำตาริน
คำชังยินคงชินย้ำให้ช้ำทรวง (ระลอกแก้วกระทบฝั่ง)




 

Create Date : 26 ตุลาคม 2550   
Last Update : 23 พฤษภาคม 2551 15:25:56 น.   
Counter : 538 Pageviews.  


จำลา

ระยะทางห่างไกลเกินใจฝัน
ระหว่างเธอกับฉันยากฟันฝ่า
เธอเปรียบเป็นเช่นดาวสกาวฟ้า
ฉันด้อยค่าเพียงดินถวิลดาว

รักเกินรั้งเธอไว้ให้ตกต่ำ
สิ่งที่ทำเส้นทางที่ย่างก้าว
ไม่อยากให้เธอมีราคีคาว
ยอมปวดร้าวเปล่าเปลี่ยวอยู่เดียวดาย

อนาคตสดใสยากไฝ่ฝัน
เกินจะดั้นฉันสุดหาจุดหมาย
หวังหลุดลอยเลือนลางเหลือร่างกาย
รอสลายคล้ายธุลีที่ร่วงดิน

โลกจะเย้ยเหยียบย่ำฉันต่ำต้อย
มีค่าน้อยน่าทุเรศเช่นเศษหิน
หากเคียงคู่คงหลู่ค่าให้ราคิน
ชนจะฉินนินทาเสื่อมค่าเธอ

ขอเธอเดินเพลินสวรรค์ดังฝันไฝ่
ฉันจะเป็นกำลังใจให้เสมอ
แม้นไม่อาจน้อมนำรักบำเรอ
ยังฝันเพ้อเผลอใจคอยไฝ่ปอง

แม้นชาติหน้าถ้ามีเหมือนที่หมาย
จะมอบกายมอบใจให้ทุกห้อง
ขอร่วมเรียงเคียงอยู่เป็นคู่ครอง
อย่าให้ต้องหมองหม่นทนทุกข์ตรม

ถึงแสนรักจำหักใจไม่อาจเอื้อม
กลัวเธอเสื่อมศักดิ์ช้ำจำใจข่ม
ชาตินี้บุญน้อยนักรักระทม
หวังชื่นชมชาติใหม่ได้ครองกัน




 

Create Date : 25 ตุลาคม 2550   
Last Update : 23 พฤษภาคม 2551 15:25:08 น.   
Counter : 303 Pageviews.  


น้ำค้าง น้ำตา

เพ็ชรน้ำค้างพร่างละอองล่องจากสรวง
มาหยาดดวงร่วงหล่นลงบนหญ้า
เย็นหยดน้ำฉ่ำชื่นผืนสุธา
พรมบุปผาหยดพราวสกาวดวง

หยดน้อยน้อยค่อยค่อยหล่นบนกลีบดอก
น้ำค้างหยอกเบาเบากลีบเก่าร่วง
กลีบใหม่คลี่คอยรับซึมซับปวง-
น้ำจากสรวงห่วงหล้ายังอาลัย

จะจากลาผกาบานจากลานหญ้า
ยามสุรีย์เรื่อฟ้าทิวาใหม่
เมื่ออุสุมรุ่งอุษามาอบไอ
จะเหือดหายแห้งไปไม่เหลือรอย

ดอกไม้วอนอ้อนน้ำค้างที่ค้างกลีบ
อย่าด่วนรีบลี้หายรอสายหน่อย
น้ำค้างบอกดอกไม้ให้รอคอย
ดึกเดือนคล้อยดาวเคลื่อนจะเยือนซ้ำ

แดดสายฉายแสงเริ่มแรงกล้า
น้ำค้างลาดอกไม้เหลือไอฉ่ำ
ตะวันแผดแดดเผาเข้ากระทำ
ระเหยน้ำสู่ฟ้าลาผืนดิน

จนเย็นย่ำสนธยาอาทิตย์ดับ
ดอกไม้หลับฝันเศร้าเฝ้าถวิล
คอยน้ำค้างค้างสรวงให้ร่วงริน
ชะโลมถิ่นทุ่งหญ้าลดามาลย์

จนค่อนดึกเดือนคล้อยดาวลอยคว้าง
ท้องทุ่งกว้างทางไกลไอหมอกซ่าน
น้ำค้างหยดหยาดพร่างลงกลางลาน
ดอกไม้หว่านเสน่หามาหอมแรง

น้ำค้างรินค่อนรุ่งฟุ้งละออง
ครั้นแดดส่องตอนสายจะหายแห้ง
น้ำค้างลาผกาบานผ่านเปลี่ยนแปลง
ดอกผ่านแล้งหล่นร่วงตามห้วงกาล

ในคืนหนึ่งน้ำค้างร่วงจากห้วงหาว
ในคืนหนาวหมอกหนาเหมือนฝ่าม่าน
มวลดอกไม้ถึงวันอันตรธาน
กลีบหล่นร่วงกลางลานกระจัดกระจาย

ในหมอกมัวสลัวหม่นบนโลกเหงา
น้ำค้างเศร้าโศกใจไร้จุดหมาย
หยดรินหลั่งดังน้ำตาไหลพร่าพราย
ก่อนสลายกลายเป็นไอด้วยใจช้ำ




 

Create Date : 16 ตุลาคม 2550   
Last Update : 23 พฤษภาคม 2551 15:24:05 น.   
Counter : 379 Pageviews.  


โลกร้อน

ดาวโลกลอยล่องห้วง.........เวหน
เวียนรอบดวงสุริยน............เยี่ยมฟ้า
เลี้ยงหล่อสรรพชีพคน.........พืช,สัตว์
เป็นสุขทั่วแหล่งหล้า............แหล่งน้ำอาศัย

ในเวลาจรดเบื้อง...........ปัจจุบัน
โลกที่เคยสุขสันต์..............สุดสิ้น
โลกแปรเสื่อมเปลี่ยนผัน..........ผลจาก มนุษย์นา
สร้างพิษพาด่าวดิ้น....................เดือดร้อนทรมา

วนเวหาว่ายเวิ้ง.............จักรวาล
โลกมืดหม่นอนธการ.........เมฆคลุ้ม
โลกในหมอกพิษผลาญ..........สรรพชีพ
ควันกรุ่นไอร้อนกลุ้ม..................เกลื่อนด้าวดินระแหง

แรงร้อนเผาโลกเพี้ยง.........อเวจี
ศิขรระเบิดเคลื่อนธรณี........ภพสะเทื้อน
ครืนโครมคลื่นชลธี.............ซัดกระหน่ำ
ผืนแผ่นดินเขยื้อน...............เขย่าโย้โยกไหว

ไฟแดดแผดผ่าวร้อน..........เรืองฉาย
เผาโลกน้ำแข็งละลาย.........อุทกล้น
ไหลหลากท่วมจมหาย.........ตายเกลื่อน
ชนทุกข์ทนทุกข์ท้น.............ทุกด้าวถิ่นแดน

แสนภัยพิบัติพ้อง...............พร่าผลาญ
เจียนโลกจักแหลกลาญ..........ล่มแล้ว
สูญธรรมชาติพลังงาน................สิ้นหมด
ชาวโลกคงมิแคล้ว........................คว่ำล้มตายสลอน

ก่อนสิ้นสลายแหล่งหล้า..........ชโลทร
มวลมนุษย์พึงสังวร..............เร่งรู้
ลดมลพิษนาคร.................ลดขยะ
ลดบริโภคเพื่อสู้...............โลกร้อนก่อนสาย

มุ่งหมายเพื่อโลกพ้น..........พิบัติภัย
รักษ์แหล่งหล้าชลาลัย........ป่าไม้
ปลูกสำนึกไว้ใน.................มนุษย์ชาติ
หวังเพื่อคงโลกไว้...............คู่ฟ้าดินเข็ญ

เห็นทิศทางเช่นนี้...........วิถีโลก
ในวิกฤตนำวิปโยค.............อย่าเศร้า
เป็นโอกาสแปรโศก.............สู่สติ พินิจนา
ไม่ปล่อยความอยากเร้า..........มุ่งล้างโลกมลาย

มุ่งหมายเพื่อโลกนี้..........ยืนนาน
รักษ์โลกลดพลังงาน........ที่ใช้
รู้พอเพื่อสืบสาน..............โลกสงบ
คงชีพสัตว์โลกไว้.............ตราบสิ้นกาลสมัย




 

Create Date : 12 ตุลาคม 2550   
Last Update : 23 พฤษภาคม 2551 15:23:10 น.   
Counter : 500 Pageviews.  


สัตว์ร้ายเดือนตุลา

ประวัติศาสตร์ขาดวิ่นแผ่นดินเดือด
เพื่อนหลั่งเลือดโลมดินลืมสิ้นหมด
ไร้ศักดิ์ศรีขี้ฉ้อทรยศ
เชิดคนคดโกงปล้นจนชาติพัง

ประวัติศาสตร์ขาดวิ่นคลุ้งกลิ่นเลือด
ตุลาเดือดเชือดฆ่าเหมือนบ้าคลั่ง
ด้วยวาทีผีสิงให้ชิงชัง
คนเช่นดังสัตว์ป่าเข่นฆ่าคน

ด้วยสัตว์ร้ายกระหายเลือดดุเดือดบ้า
บิดเบือนด่าป้ายสีจนปี้ป่น
ปั้นวาจาชักจูงฝูงทรชน
โกหกพ่นบ่นพร่ำคำบิดเบือน

พวกสัตว์ร้ายกระหายเลือดดุเดือดพล่าน
เที่ยวประหารผลาญคลั่งดังแดนเถื่อน
ลูกหลานไทยถูกตอกอกติดตาเตือน
อย่าลืมเลือนเพื่อนเอ๋ยมันเคยทำ

สนามหลวงลานเลือดเชือดประหาร
คนสามานย์ผลาญฆ่าอยู่คลาคล่ำ
จับแขวนคอลากศพไปเผาซ้ำ
สัตว์ละยำอำมหิตผิดผู้คน

เสพเลือดเนื้อเพื่ออำนาจอุบาทว์หนัก
ปากสมัครด่าแช่งทุกแห่งหน
มุ่งพิฆาตฟาดฟันฉันท์ทรชน
ตายปี้ป่นหนีเข้าป่าอย่าลืมเลือน

จำได้ไหมใครทำจำได้ไหม
ลูกหลานไทยถูกฆ่าอย่างป่าเถื่อน
คนหน้าหมูชมพู่พิษมันบิดเบือน
ติดตาเตือนเพื่อนตุลาอย่าลืมไป

คนนี้หรือคือผู้นำผู้ล้ำเลิศ
แท้หุ่นเชิดชั่วช้าข้ารับใช้
ทรราช,ทรชน,คนจันรัย
ขี้หมูไหลมารวมปลัก...พรรคการเมือง




 

Create Date : 05 ตุลาคม 2550   
Last Update : 23 พฤษภาคม 2551 15:22:11 น.   
Counter : 327 Pageviews.  


1  2  

คมเย็น
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add คมเย็น's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com