กาลครั้งหนึ่ง




ฟังนิทาน"กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว..."

แม่เล่าแว่วริมหูมิรู้เบื่อ

ฟังนิทานก่อนนอนหนุนหมอนเนื้อ

ที่แม่เอื้อตักอุ่นให้หนุนนอน


เรื่องเก่าเก่าเล่าซ้ำฟังจำได้

เรื่องใหม่ใหม่ให้ค่าอุทาหรณ์

แม่ย้ำเตือนลูกฟังพึงสังวรณ์

แม่สั่งสอนลูกสดับคอยรับฟัง


"เจ้าหญิงน้อยกำสรดแม่มดสาป

เจ้าชายหนุ่มกำราบมนต์บาปขลัง

ได้ครองคู่อยู่ปราสาทราชวัง"

เรื่องเก่าครั้งเมื่อกาลนานมาแล้ว


"เงือกน้อยในธาราน่าสงสาร"

"โฉมสะคราญในป่า,ปราสาทแก้ว"

"เขาวงกตลดหลั่นหลายชั้นแนว"

เพริศแพร้วจินตภาพอาบอิ่มทรวง





อบอุ่นในอ้อมอกแม่กกกอด

รับสืบทอดจิตวิญญาณแม้กาลล่วง

ความดีงาม,ศรัทธา,คุณค่าปวง

ให้ฉายโชนโชติช่วงแม้ล่วงกาล


แม่รักลูกปลูกฝังแต่ยังเด็ก

ตัวยังเล็กเริ่มเรียนหัดเขียนอ่าน

ให้รู้ผิดรู้ชอบกอปรการงาน

ไม่เกียจคร้านพาลทั่วรู้ชั่วดี


เรียนชีวิตง่ายงามตามประสา

รู้คุณค่าความซื่อคือศักดิ์ศรี

ไม่บิดเบือนสับปลับทำอัป.ปรีย์

ไม่เบียดเบียนกดขี่บีฑาใคร





กาลเวลาเลื่อนไหลผ่านไปเรื่อย

แม้ล้าเหนื่อยเด็กน้อยค่อยเติบใหญ่

สิ่งต่างต่างที่เห็นความเป็นไป

ไม่เหมือนแม่สอนไว้ตอนวัยเยาว์


ในเส้นทางสับสนที่วนว่าย

หาความหมายว่ายวนเหมือนคนเขลา

ชีวิตช่างทุกข์ทนหนอคนเรา

ไขว่คว้าเอาเท่าไรไม่รู้พอ


ความดีงาม,ศรัทธา,คุณค่าเก่า

ที่แม่เฝ้าปลูกฝังยังเติบต่อ

แม้บางครั้งสั่นคลอนโลกหลอนล้อ

บางครั้งท้อทุกข์โศกกับโลกร้าย


เส้นทางเวียนโลกวุ่นหมุนสับสน

อนาถหนอผู้คนผู้คนที่วนว่าย

เริงกิเลสกาลีไม่มีอาย

บ้างกระหายบ้าระห่ำท้ากรรมเวร


ฤาเขาขาดพ่อแม่คอยแผ่รัก

ไร้เสาหลักสิ่งดีที่โดดเด่น

จึงหลงทิศผิดทางบ้างเบี่ยงเบน

เหมือนไม้เอนรากอ่อนจึงคลอนแคลน





เมื่อคิดย้อนตอนเยาว์แม่เล่าขาน

เรื่องนิทานฟังสนุกเป็นสุขแสน

"ดาบวิเศษปราบอธรรมที่ล้ำแดน"

"พรมวิเศษโลดแล่นเหนือแผ่นฟ้า"


"มังกรไฟพ่นไฟโลกไหวหวั่น

เหล่าผู้กล้าเข้าประจัญใจหาญกล้า

เทพธิดาใจดีมีมนตรา

เสกคาถาช่วยคนดีให้มีชัย"


ผ่านมาแล้วเนิ่นนาน"กาลครั้งหนึ่ง..."

รักลึกซึ้งตรึงฝันอันสดใส

ปลุกปลอบฝันปันหวังกำลังใจ

สู้ต่อไป..ไปต่อ...ไม่ท้อแท้




Create Date : 11 มิถุนายน 2551
Last Update : 29 พฤษภาคม 2552 12:43:37 น. 11 comments
Counter : 335 Pageviews.  
 
 
 
 
ในโลกฝันวันเยาว์เคยเฝ้าฝัน
อาจสักวันเหินฝ่าเวหาหาว
ขี่คอยักษ์ตัวเขื่องตามเรื่องราว
ที่เขากล่าวในนิทานสำราญใจ

บินข้ามฟ้าสู่ฝันที่มั่นมุ่ง
เพื่อผดุงยุติธรรมนำสุขให้
เมืองที่ถูกมนต์บาปมารสาปไว้
พิชิตชัยพ่อมดร้ายทำลายมนต์
 
 

โดย: คมเย็น (คมเย็น ) วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:12:23:54 น.  

 
 
 
นกพิราบเบนปีกบินหลีกหลบ
เกาะคาคบไม้ใหญ่ร่มใบหนา
พญาเหยี่ยวกระพือปีกบินฉีกฟ้า
พุ่งถลาบินตรงกางกรงเล็บ

กระต่ายแข่งกับเต่าหนีเข้าป่า
เหยี่ยวถลาคว้าพลาดจนบาดเจ็บ
หน้าแหกไปหาหมอนอนรอเย็บ
ถูกว่าเหน็บเก็บชังฝังรอยแค้น
 
 

โดย: คมเย็น (คมเย็น ) วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:12:24:37 น.  

 
 
 
มีนิทานนมนานกาเล
ปูนาขาเกเดินเป๋ปัด
ริมหาดทรายชายฝั่งคลื่นยังซัด
เดินไม่ค่อยถนัดปัดเป๋ไป

ลูกปูเดินตามแม่
ทะล่อทะแล่เดินเฉียงเอียงเฉไฉ
เป็นเด็กอยู่ไม่รู้เรื่องเดินเซื่องไป
ตามผู้ใหญ่หมาไม่กัดคลื่นซัดกระเด็น
 
 

โดย: คมเย็น (คมเย็น ) วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:12:25:24 น.  

 
 
 
ราตรีประดับดาว
ระดะหาวกระจ่างเห็น
น้ำค้างละอองเย็น
เผาะเผาะพรมสุธาพราว

ดินชุ่มชอุ่มชื้น
วนผืนประหนึ่งราว
หลับไหลณคืนหนาว
ภพเงียบสงบงัน

เรไรระหริ่งเสียง
เสนาะเพียงจะกล่อมฝัน
ดาวตกวะวาบพลัน
กระจะพร่างกระจ่างพราย

ใบรุกขหล่นโปรย
วตะโชยสะบัดชาย
อ่อนล้าจะเอนกาย
ขณะดาวสกาวดวง

(อินทรวิเชียรฉันท์๑๑)
 
 

โดย: คมเย็น (คมเย็น ) วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:12:27:22 น.  

 
 
 

แวะมาอ่านนิทาน
 
 

โดย: larnkawee วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:14:49:02 น.  

 
 
 
จุดเทียนแห่งศรัทธา
เพื่อประชามหาขน
จุดไฟเผาไหม้ตน
เพื่อส่องฉายประกายแสง

ไฟโชนลุกโชติช่วง
รวมทุกดวงเทียนเริงแรง
ชีพพลีคุณค่าแพง
ย้อมเลือดแดงลงโลมดิน

แสงเทียนที่ถ่องแท้
เพื่อตีแผ่พวกโกงกิน
เลือดไทยยอมไหลริน
เพื่อล้างสิ้นกังฉินทราม

หยดหนึ่งน้ำตาเทียน
เปลี่ยนเป็นไฟลุกไหม้ลาม
ล้านหยดเทียนสยาม
เพื่อแสงโชติจักฉายโชน

สวัสดีครับท่านลาน
กำลังรวบรวมงานที่ไปเขียนตกๆหล่นๆ
ตามที่ต่างๆ
 
 

โดย: คมเย็น (คมเย็น ) วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:18:39:31 น.  

 
 
 
กลอนเพราะดีคะ
 
 

โดย: Anitapa วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:20:21:11 น.  

 
 
 
จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ขาเป๋ขาปัด
ยามเคราะห์ซ้ำกรรมซัดตุหรัดตุเหร่
ตำแหน่งใหญ่ใกล้หลุดก็ทรุดก็เซ
ทำปากเบ้ตาดุทุเรศทุรัง

เคยป่องแก้มแย้มยิ้มทั้งชิมทั้งด่า
ใครถามมาว่ากลบกระทบกระทั่ง
จิ้งจอกเฒ่าโรคจิตนิจจานิจจัง
ไม้ใกล้ฝั่งเคียดขึ้งตะบึงตะบอน

สวัสดีครับคุณanitapa
 
 

โดย: คมเย็น (คมเย็น ) วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:22:40:21 น.  

 
 
 
เสนาบดีมนพิการ
บริหารประสาควาย
ท้าตีเตะต่อยปะฉะดะหมาย
จะทลายขบวนคน

วันวันสิพ่นผรุสวาท
ทุรชาติอุบาทว์ชน
ร้อยเล่ห์อุบายสติวิกล
มุหะปนประสมเหลิง

หูตาประชาพณสิปิด
ระอุฤทธิชั่วเริง
เคยหนีคดีกระกระเซิง
ก็มิจำนะยำจริง

รอกรรมสนองนรกสาป
มนบาปกระสือสิง
เสรีประชาประทุษชิง
ทะเลาะทั่วประเทศไทย

(วสันตดิลกฉันท์๑๔)
 
 

โดย: คมเย็น (คมเย็น ) วันที่: 14 มิถุนายน 2551 เวลา:15:05:32 น.  

 
 
 
กลอนเพราะถูกใจทุกบทเลยค่ะ
กาลครั้งหนึ่ง....ทำให้คิดถึงแม่มากเลย
 
 

โดย: ม่านฟ้านาคราช วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:11:45:25 น.  

 
 
 
ตอนเขียนก็คิดถึงแม่เหมือนกันครับ
คุณม่านฟ้า
 
 

โดย: คมเย็น (คมเย็น ) วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:12:00:18 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

คมเย็น
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add คมเย็น's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com