Group Blog
 
All Blogs
 
blog KU-ABC" รำลึกวันกู้ชาติไทย ๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๓๑๐ "

               blog KU-ABC " รำลึกวันกู้ชาติไทย ๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๓๑๐  "
                                                                         ดร.ประมุข เพ็ญสุต
" รำลึกวันกู้ชาติไทย ๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๓๑๐  "
ชาวไทยยังจำวันนี้กันได้มากน้อยเท่าไร เมื่อ ๒๕๒
พระเจ้าตากได้กู้ชาติ ขับไล่พม่าออกจากกรุงศรีอยุธยา ราธานีของไทย
นับเป็นวันที่สำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย




ขอลำดับเหตุการณ์โดยยกข้อความจากพระราชพงศาวดาร
กรุงธนบุรี ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) โดยมิได้แก้ไขคำสะกด
แต่ขอเว้นวรรคตอน เพื่อความสะดวกในการอ่าน
นับเป็นเวลาที่พม่าล้อมค่ายอยู่ถึง ๑ ปี ๒ เดือน 
ที่พม่ายกทัพตีกรุงศรีอยุธยา ดังนี้
............................................................................................................................
 
ครั้นถึง พ.ศ. ๒๓๑๐
พระยาตากได้ออกไปตั้งทัพที่วัดพิชัยนอกกำแพงเมือง
แล้วตีฝ่าพม่าออกไปเมื่อวันที่กรุงแตก  ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๕ ปีกุน
ตรงกับวันที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๓๑๐ มุ่งสู่เมืองนครนายก
ตามที่ พงศาวดารจารึกไว้ว่า
............................................................................................................................

..........(พระยาตาก)จึงชุมนุมพักพวกพลทหารไทยจีนประมาณ ๑,๐๐๐ เศษ
สรรพด้วยเครื่องสาตราอาวุธต่าง ๆ
แลประกอบด้วยทหารผู้ใหญ่นั้น พระเชียงเงิน หลวงพรหมเสนา หลวงพิชัยราชา
หลวงราชเสนา ขุน อภัยภักดี หมื่นราชเสน่หา
แล้วยกออกไปตั้งณวัดพิชัยอันเป็นที่ มงคลมหาสถาน
ด้วยเดชพระบรมโพธิสมภาร เทพดาเจ้าอภิบาลรักษาพระพุทธศาสนาส้องสาธุการ
บันดาลให้วรรษาการห่าฝนตกลงมาเป็นมหาพิชัยฤกษ์
จำเดิมแต่นั้นมาจึงให้ยกพลพยุหกองทัพออกจากวัดพิชัย
ฝ่ากองทัพพะม่าออกมาเป็นเพลาย่ำฆ้องยามเสาร์ ได้รบกันกับพะม่า
เป็นสามารถพะม่ามิอาจจะต่อต้านทานพระบารมีได้
ก็ถอยไปดำเนินด้วยพลทหารมาโดยสวัสดิภาพ ไปตามทางบ้านข้าวเม่า
พอบรรลุถึงสำบัณฑิตเพลาเที่ยงคืน 2 ยามเศษ เพลิงเกิดในกรุงเทพฯ...................
............................................................................................................................
 
<พงศาวดารบรรยาย สภาพกรุงแตกเมื่อพม่าเข้าเมืองได้>
...............ฝ่ายพะม่าก็ยกมารบค่ายวัดชัยวัฒนาราม ๙ คืนก็แตกแล้ว
ก็ยกมารบค่ายจีนคลองสวนพลู ๕ คืนจึงสำเร็จ
ครั้นณวันอังคารเดือน๕ ขึ้น ๙ ค่ำ ปีกุรนพศก (จ.ศ. ๑๑๒๙ พ.ศ. ๒๓๑๐ ) เพลาบ่าย ๔ โมง
พะม่ายิงปืนป้อมสูงวัดการ้อง วัดแม่นางปลื้ม ระดมเข้ามาในกรุง
แล้วเอาเพลิงจุดเชื้อที่รากกำแพงครั้นเพลาค่ำกำแพงซุดลงหน่อยหนึ่ง
พะม่าก็เข้ากรุงได้เข้าเผา พระราชวังและวัดพระศรีสรรเพ็ชญ์
แล้วกวาดเอากษัตริย์ขัตติยวงศ์ แลท้าวพระยาเสนาบดี อพยพครอบครัวทั้งปวงพาไป
............................................................................................................................

แต่พระเจ้า แผ่นดินนั้นหนีออกจากพระนครแต่พระองค์เดียว
ได้ความลำบาก ก็ถึงซึ่งพิราลัยไปสู่ปรโลก
ชนทั้งปวงจึงเอาศพมาฝังไว้.....................
............................................................................................................................

พระยาตากได้ยกไปตีเมืองจันทบุรีและใช้เป็นฐานที่ตั้ง
เมื่อทราบข่าวความยากลำบากของชาวอยุธยา
และกำลังทหารพม่ายังคงตั้งค่ายยึดครองอยู่โดยสุกี้พระนายกอง
ตามบรรยายของพงศาวดาร ดังนี้
............................................................................................................................
 
...............ในเวลานั้นก็เสด็จกลับมาณเมืองจันทบูร
ยับยั้งอยู่ต่อเรือรบได้ ๑๐๐ เศษ
จุลศักราช ๑๑๒๙ ปีกุรนพศก ( พ.ศ. ๒๓๑๐ )
พระบรมหน่อพุทธางกูรเจ้าได้ทรงพระเศาวนาการกิติศัพท์ว่า
กรุงเทพมหานครถึงแก่พินาสแล้ว
สมณพราหมณาจาริย์ขัติวงศาเสนาพฤฒามาตย์ราษฎรได้ความทุกข์ลำบากนัก
ทั้งบวรพุทธศาสนาก็เศร้าหมอง
แต่เหตุพะม่าตั้งพระนายกองไว้รั้งเมือง..................
............................................................................................................................
 
พระยาตากจึง ยกทัพไปตีทัพพม่าที่ค่ายโพสามต้น
อยุธยาพระนายกองยอมแพ้เข้าสวามิภักดิ์  ตรงกับวันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๓๑๐ 
เป็นเวลาเจ็ดเดือนเต็มที่ทรงกอบกู้เอกราชและขับไล่พม่าออกไปจากกรุงศรีอยุธยา
เป็นเวลาผ่านมา ๒๕๒ ปีมาแล้ว
............................................................................................................................
 
...........ครั้นรุ่งขึ้นณวัน ฯ ๑๒ ค่ำ เพลาเช้า ๓ โมงเศษ
ยกเข้าตีค่ายโพ สามต้นฟากตะวันออก พะม่าก็แตกหนีเข้าค่าย
จึงตรัสสั่งให้ทำบันไดจะเข้าตีค่ายด้านตะวันตก ซึ่งพระนายกองตั้งอยู่นั้น
แลกองพระยาพิพิธ พระยาพิชัย เป็นทัพหน้า เข้าตั้งค่ายประชิด
ณ วัดกลางห่างค่ายประมาณ ๗ เส้นเศษ
............................................................................................................................

ด้วยพระเดชเดชานุภาพ ฝ่ายข้าศึกให้สยบสยองกลัวเป็นกำลัง
ต่างคนต่างก็หนีออกจากค่ายพระนายกองสิ้น
พระนายกองสะดุ้งตกใจ จึงคิดอ่านให้พระยาธิเบศรบริรักษ์
ผู้เป็นที่เจ้าพระยาศรีธรรมาธิราช ออกมาถวายบังคมสวามิภักดิ
ยอมเป็นข้าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท
เชิญเสด็จพระราชดำเนินเข้าไปณจวน
จึงรับสั่งมิให้ทหารกระทำอันตรายเบียดเบียนแก่ไพร่ฟ้าประชากรทั้งปวง...................
............................................................................................................................

 พระยาตากเห็นเมืองที่เคยรุ่งเรืองก็สลดใจ คิดจะกลับไปจันทบุรี
แต่ชาวอยุธยาขอให้ท่านปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองแผ่นดิน
จึงไปประทับที่กรุงธนบุรี และสถาปนาให้เป็นเมืองหลวงต่อมา
............................................................................................................................
 
.....ทอดพระเนตรเห็นอัฎฐิกเรวฬะคนทั้งปวงอันถึงพิบัติชีพตาย
ด้วยทุพภิกขะ โจระ โรคะ สุมกองอยู่ดุจหนึ่งภูเขา
แลเห็นประชาชนซึ่งลำบากอดอยากอาหาร มีรูปร่างดุจหนึ่งเปรตปีศาจ
พึงเกลียด ทรงพระสังเวชประดุจมีพระทัยเหนื่อยหน่ายในราชสมบัติ
จะเสด็จไปเมืองจันทบุรี
............................................................................................................................
 
จึงสมณพราหมณาจารย์ เสนาบดีประชาราษฎรชวนกัน
กราบทูลอาราธนาวิงวอน สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวพระบรมหน่อพุทธางกูร
ตรัสเห็นประโยชน์เป็นปัจจัยแก่พระปรมาภิเษกสมโพธิญาณนั้นก็รับอาราธนา
จึงเสด็จยับยั้งอยู่ณพระตำหนักเมืองธนบุรี....................
............................................................................................................................
.เตือนใจ เจริญพงษ์ กรรมการชมรมวิชาการนิสิตเก่า มก.
ผู้ post เมื่อ 7 พฤศจิกายน 2562
มี ดร.ประมุข เพ็ญสุต KU 33 เป็นประธาน
( KU ALUMNI BRAIN CLUB ) KU-ABC “

 
ขอบคุณภาพจากยูทูป
 
 
 
 


Create Date : 07 พฤศจิกายน 2562
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2562 10:47:49 น. 1 comments
Counter : 283 Pageviews.

 
เข้ามาอ่านและร่วมรำลึกถึงวันสำคัญของชาติค่ะ


โดย: เพรางาย วันที่: 7 พฤศจิกายน 2562 เวลา:9:47:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 5498498
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชมรมวิชาการนิสิตเก่า มก.
( KU ALUMNI BRAIN CLUB ) KU-ABC
…เกิดจากการรวมตัวของเพื่อนๆ KU 33 ส่วนหนึ่ง
มีองค์ประกอบดังนี้
ก. ดร.วิทูรย์ สิมะโชคดี เป็นที่ปรึกษา
ข. นายเชิดศักดิ์ วงษ์กมลชุณห์ เป็นที่ปรึกษา
1. ดร.ประมุข เพ็ญสุต ประธาน
2. ศ.ดร.จริงแท้ ศิริพานิชย์ กรรมการ
3. นายชัยวุธ ชัยพันธ์ กรรมการ
4. พลตรีไชยสิทธิ์ ตันตยกุล กรรมการ
5. นางเตือนใจ เจริญพงษ์ กรรมการ
6. นางนงลักษณ์ ติรศรีวัฒน์ กรรมการ
7. อาจารย์นิตยา ทับทิมทัย กรรมการ
8. ดร. ปกรณ์ อุ่นประเสริฐ กรรมการ
9. อาจารย์ปัญญา เหล่าอนันต์ธนา กรรมการ
10. นางพัจนา ปัญจมรัศม กรรมการ
11. ดร.รัตนาภรณ์ ธรรมโกศล กรรมการ
12. นายสินชัย สวัสดิชัย กรรมการ
13. นางสุชีลา ธีรภรณ์ กรรมการ
14. นางสุพรรณี จันทโรจน์ กรรมการ
15. นายอดิศักดิ์ จงจิระศิริ กรรมการ
16. นางสาวอรทัย เอื้อตระกูล กรรมการ
17. รศ.ดร.อรพิน เกิดชูชื่น กรรมการ
18. นางอภิญญา รุจิธารณวงศ์ กรรมการ
เพื่อขับเคลื่อนเจตนารมย์ในการรวบรวมสาระความรู้ /ผลงานวิชาการด้านต่างๆของนิสิตเก่ามาเผยแพร่และแบ่งปันแก่สาธารณชน เมื่อ 2 กันยายน 2562 โดยนางเตือนใจ เจริญพงษ์ กรรมการชมรมเป็นผู้นำเสนอ post ทาง bloggang ของพันทิป หวังอย่างยิ่งว่าเนื้อหาของ blog คงให้ประโยชน์แก่สังคมคะ





Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 5498498's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.