Group Blog
 
All blogs
 

Preview: เทคโนโลยียกกระชับผิวแบบไม่เจ็บด้วย Hight Intensity Focused Ultrasound(HIFU)





บล็อกวันนี้จะพาไปทำความรู้จักกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเข้ามาในบ้านเราหมาดๆและกำลังดังเป็นพลุแตก
ใครๆก็พากันไปลอง ไปพิสูจน์ความแจ่มแมวของเทคโนโลยีนี้กัน ด้วยความที่เป็นเทคนิคคล้ายกับเจ้าตัวดัง
อย่างอัลเธอร่าและเทอมาจ ในราคาที่ไม่ได้แพงมาก แถมจุดขายหลักที่ทำให้เจ้า HIFU นี้เป็นที่นิยมมากก็คือ
ไม่สร้างความเจ็บปวดใดๆแก่ผู้รับบริการเลย ไม่ต้องฉีดหรือแปะยาชา ไม่ต้องเตรียมตัว และไม่ต้องมีการดูแล
รักษาหลังทำ เหมาะมากๆกับคนที่ไม่มีเวลาพักฟื้นและไม่ชอบความเจ็บปวดใดๆ


วีดีโอนี้ทรายจะพาไปดูขั้นตอนการทำ โดยมีทรายเองเป็นตัวทดลองทำด้วยตัวเองค่ะ แหมมมมได้รับเชิญแบบนี้
ทั้งที ทรายไม่เคยพลาดอยู่แล้ว อะไรที่จะทำให้หน้าดูกระชับได้ ช๊อบชอบบบบ ทรายเองก็ห่างจากนวัตกรรม
แนวนี้มานานปีกว่าแล้ว แถมน้ำหนักขึ้นจนหน้าบานอีก เหมาะเจาะที่สุดเลยค่ะ ไปดูกันในวีดีโอเลยนะ





ทรายขอให้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องตัวนี้ไว้หน่อยนะคะ เผื่อใครจะใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกทรีทเมนต์
เครื่องตัวนี้เป็นเทคโนโลยีจากประเทศฝรั่งเศสค่ะ รับรองโดย CE Medical Clear  จากยุโรป นวัตกรรมของตัว
เครื่องคือ มีการใช้ Fractionated Beam Technology ปล่อยพลังงานคลื่นอัลตราซาวน์​ความเข้มข้นสูงออกมา
1000ครั้งต่อวินาที

เครื่องนี้จะมีหัวให้เลือก 3 หัวสำหรับการใช้รักษาในพื้นที่และปัญหาที่แตกต่างกันไปบนร่างกายของเรา
แบ่งออกเป็น3ประเภทดังนี้ค่ะ

Spatula Applicator ตัวนี้เป็นหัวหลักที่ใช้บ่อยสุดบนหน้าค่ะ เนื่องจากว่าจะสามารถผลิตคลื่น Focusing Ultrasound ออกมาในรูปแบบที่เหมาะกับการกระชับบริเวณ แก้มและคาง2ชั้น ซึ่งเป็นบริเวณปัญหาที่สาวๆส่วนใหญ่กังวลกัน

Trifocal Applicator ตัวนี้ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เนื่องจากว่าเป็นApplicator ที่เหมาะกับการกระชับรอบดวงตา ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวเดิมให้มีความยิดหยุ่นมากยิ่งขึ้น แก้ปัญหาหนังตาตกหย่อนคล้อย ช่วยยกคิ้ว และกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตได้ เพิ่มความยืดหยุ่นโดยไม่ทำให้สูญเสียความแข็งแรงของผิวไป

Low Level Laser Light Applicator ตัวนี้จะใช้ในการกระตุ้นการฟิ้นฟูเซลส์ผิวและกระตุ้นส่งเสริมกระบวนการผลิตคอลลาเจน ทำให้เกิด Skin Rejunuvation ด้วยเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 653mm. ตัวนี้จะช่วยในการแลกเปลี่ยนออกซิเจนลงลึกระดับเซลส์ทำให้เกิดการผลิตเส้นใยคอลลาเจนเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวเราดูฟูเปล่งปลั่ง





ในขั้นตอนการทำนั้นเราจะใช้เวลาในการทำครั้งละประมาณ 40-60 นาทีนะคะ ของทรายไปทำก็ราวๆ40นาที
ถ้ารวมคลีนหน้าด้วยก็ราวๆ50 นาที ก็เผื่อไปเลย1ชั่วโมง ทรายแนะนำว่าไม่ต้องแต่งหน้าไปไปหน้าคลีนๆ
นี่แหละแล้วเตรียมเครื่องสำอางไปด้วย หลังทำเสร็จก็ค่อยแต่งหน้าไปเที่ยวต่อได้เลย ทรายเตรียมไปแต่ง
หลังทำทรายแต่งหน้าแต่งตัวไปงานต่อได้เลยจริงๆค่ะ ไม่มีผลใดๆต่อการลงเครื่องสำอางหรือสกินแคร์

เรื่องที่ทุกคนอยากรู้คงจะเป็นเรื่องของระยะเวลาการคงอยู่ของผลการรักษา ตัวนี้จะอยู่ได้ประมาณ 6เดือนถึง
1ปีค่ะ ก็จะน้อยกว่าตัว Ulthera และ Thermage หน่อยนึง แต่ด้วยความสามารถของเทคโนโลยีและราคา
ก็สามารถเข้าใจได้นะ ใครทนเจ็บได้มีเงินเยอะหน่อยก็เลือก2อันนั้นไป ใครไม่ชอบเจ็บๆและสามารถไปทำได้
แบบครึ่งปีครั้งนึงสะดวกแบบนี้ก็เลือกตัวนี้





สำหรับทรายแล้วถามว่าเห็นผลไหม ก็เห็นผลดีในระดับนึง อย่างที่บอกไปตอนต้นแล้วว่า ณ ปัจจุบันทรายไม่ได้
ตัวผอมน้อยๆเหมือนปีที่แล้วหรือต้นปีที่ผ่านมา ตอนนี้ทรายอ้วนขึ้นและตอนที่ไปทำก็อ้วนในระดับนึงแล้ว ทราย
อาจจะไม่ใช้ Testimonial ที่ดีในเคสนี้สักเท่าไหร่ เพราะอ้วนเอาๆ แต่ก็สามารถรู้สึกได้ ณ ขณะหลังทำทันทีคือ
คุณหมอให้ส่องกระจกดูก็เห็นว่าหน้าข้างที่ทำดูยกกระชับขึ้นเล็กน้อย จริงๆคุณหมอบอกว่า หลังทำทันทีเราจะ
เห็นเลยว่ามันกระชับแล้วประมาณ10-15นาที มันจะเหมือนเด้งคืนมาหน่อย เพราะความร้อนใต้ผิวที่เราส่งเข้าไป
เห็นผลชัดสุดน่าจะประมาณสัปดาห์ที่2-4ค่ะ





สำหรับบล็อกนี้ก็ต้องขอขอบคุณ The Klinique ที่ชวนทรายไปทดลองนวัตกรรมให้มีข้อมูลมาบอกต่อเพื่อนๆ
ถึงเทรนด์ฮิตในโลกของความงามช่วงนี้กันนะคะ แล้วบล็อกหน้าถ้ามีอะไรมาใหม่อีกทรายจะเอามาแนะนำให้
ได้รู้จักกันอีกค่า


Disclaimer: Sponsored Content by The Klinique
Information: //www.theklinique.com




 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2557 21:00:21 น.
Counter : 4665 Pageviews.  

Review: Laurier Super Gentle+ผ้าอนามัยสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย



บล็อกวันนี้เป็นเรื่องของผู้หญิงๆนะคะ เป็นของสำคัญที่ผู้หญิงทุกคนต้องใช้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผ้าอนามัยนั่นเอง ปัจจุบันเรามีผ้าอนามัยให้เลือกใช้มากมายตามท้องตลาด หลายคนก็คงมีที่ชื่นชอบ
ในใจของตัวเองกันอยู่แล้ว ทรายเป็นลูกค้าประจำของลอรีเอะค่ะ ใช้มาตั้งแต่วัยรุ่น ทรายชื่นชอบใน
ดีไซน์เรื่องความบางและการซึมซับที่ดี ทรายใช้อยู่เป็นประจำคือรุ่น Super Ultra Slimค่ะบางดี

ย้อนไปสมัยวัยแรกสาว ทรายไม่รู้หรอกว่าอันไหนดี อันไหนไม่ดี และเชื่อว่าหลายคนก็เหมือนทราย
คือเราก็อาศัยใช้ตามแม่ ใช้ตามพี่ป้าน้าอา ที่เป็นผู้หญิงพอโตขึ้นมาอีกหน่อยเราเริ่มกล้าลอง กล้าที่จะ
ตัดสินใจเลือกด้วยตัวเองแล้ว ก็เริ่มออกหาสิ่งที่เหมาะที่ใช่กับเราจริงๆ เวลาไปซื้อผ้าอนามัยตามห้าง
เค้าจะมีเทสเตอร์แขวนไว้ให้ดูว่าอันนี้เวลาฉีกซองออกมาเป็นยังไง สัมผัสแบบไหน ความยาวเท่าไหร่
รูปร่างหน้าตาคือสามารถหยิบจับดูได้ แต่มันก็ไม่ได้มีทุกที่ ถ้าแถวบ้านเรามีแค่ร้านขายของชำล่ะจะทำไง?
อาแปะๆหนูขอแกะดูตัวอย่างข้างในได้ป่ะ? แปะคงไล่ออกจากร้าน ก็กลายเป็นว่าต้องลองผิดลองถูกซื้อ
มาใช้ให้เปลืองเงินแทน

บล็อกวันนี้ทรายก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่ต้องการข้อมูลนี้แล้วกันนะคะ สำหรับผ้าอนามัย
ออกใหม่จากแบรนด์ Laurier ที่เค้าพัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย
โดยไม่ทิ้งคุณสมบัติในการซึบซับได้ดีเยี่ยมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ค่ะ





Laurier Super Gentle+ เป็นไลน์ผ้าอนามัยที่ออกมาครอบคลุม3ขนาดนะคะ ตั้งแต่

- 22cm. สำหรับวันมาปกติ-มามากกลางวัน
- 25cm. สำหรับวันมามาก-มากพิเศษกลางวัน
- 30cm.สำหรับวันมาปกติ-มามากกลางคืน

*ทุกขนาดเป็นแบบมีปีกนะคะ ไม่ต้องกลัวเลื่อนหลุด

ส่วนตัวแล้วเป็นคนนอนดิ้น ผ้าอนามัยกลางคืนต้องมีปีกเท่านั้น ทรายอยากให้ออกไซส์35cmมาด้วย
ใส่แล้วมันให้ความรู้สึกกังวลน้อยกว่าในวันที่ประจำเดือนมาแบบก๊อกแตก จริงๆ30ก็เอาอยู่แหละ
เพราะทรายไม่ได้ตัวใหญ่มากมายอะไร แต่ถ้ายาวกกว่าก็จะชอบมากขึ้นไปอีก 55555





มาแกะดูหน้าตาข้างในกันดีกว่าค่ะ ก่อนที่เราจะมาดูคุณสมบัติของรุ่นนี้ที่ว่าแตกต่างจากผ้าอนามัย
ทั่วไปตามท้องตลาด มันมีอะไรพิเศษกันนะ








ห่อบรรจุเป็นแบบปกติทั่วไปนะคะคือเป็นพลาสติกมีปลายให้ดึงออกตามรูป ด้านหลังแถบกาวจะมีลวดลาย
ของดอกไม้ คล้ายๆกับพวกลายลูกไม้ฉลุสีฟ้า เข้าใจว่าต้องการให้ link กับตัวของแพ็คเกจจิ้ง ที่ด้านหน้า
มีลายดอกไม้สีฟ้าเช่นกัน ใครที่ชอบเอาผ้าอนามัยเป็นซองเล็กๆออกจากถุงใหญ่แล้วไปเก็บไว้ในกล่องแทน
น่าจะใช้จุดนี้เป็นจุดจดจำได้ว่านี่รุ่นอะไรแบรนด์อะไร (ทรายเองแหละชอบเอาใส่กล่องกันชื้นแล้วไปเก็บไว้
ในห้องน้ำหยิบใช้ง่ายดี)






ตัวนี้ที่ทรายแกะให้ดูเป็นขนาด 25cm.นะคะ เป็นความยาวสำหรับกลางวันที่ทรายชอบใช้เป็นประจำ
ทรายว่าเรื่องแบบใครชอบยาวแค่ไหนมันอยู่ที่ความชอบแต่ละคนจริงๆนะ ถามหลายคนไม่เคยมีใคร
ตอบแบบมีเหตุมีผลทางวิทยาศาสตร์อ่ะ มีแต่ตอบตามความพอใจส่วนตัว

จะเห็นว่ามีขอบกันซึมอยู่รอบตัวนะคะ ลักษณะของผิวสัมผัสเป็นสีขาว ตรงนี้มีความแตกต่างกับผ้าอนามัย
ทั่วๆไปที่จะพบเห็นได้ชัดเลยก็คือ ลักษณะการออกแบบผิวสัมผัสค่ะ ลอรีเอะเรียกผิวสัมผัสพิเศษของรุ่นนี้ว่า
“Gentle Touch” ถ้าสัมผัสเราจะรู้สึกเลยว่ามันนุ่มมากเหมือนปุยนุ่น ถ้าซูมเข้าไปใกล้ๆเราจะเห็นเป็นเส้นใย
และมีการออกแบบให้เป็นลักษณะคล้ายคลื่น





ผ้าอนามัยทั่วๆไปส่วนใหญ่จะมีผิวหน้าฟูๆเรียบๆ ทำให้มีหน้าสัมผัสที่กว้าง สัมผัสโดยตรงกับผิวของเรา
เวลาเสียดสีเยอะๆอาจจะเกิดอาการระคายเคืองบนผิวน้องสาวของเราขึ้นมา ตรงนี้เองค่ะที่ลอรีเอะ เค้านำ
เสนอความพิเศษของผิวหน้าเจนเทิลทัช ด้วยความที่มันเป็นคลื่น จะทำให้สัมผัสกับผิวของเราเพียง1ใน 3
ของหน้าผิวสัมผัส ทำให้ช่วยลดโอกาสในการเกิดอาการระคายเคืองที่ผิวของน้องสาวเราได้ยิ่งสัมผัสน้อย
ยิ่งลดโอกาสค่ะ ไม่ว่าจะเรื่องของการระคายเคืองหรือเปียกอับชื้น สามารถดูรูปเปรียบเทียบได้ที่หลังซอง
จะช่วยให้เข้าใจมากขึ้นค่ะ





อย่างที่ทรายบอกไปแต่แรกแล้วว่าเค้าทำมาเพื่อผิวที่บอบบาง เรื่องของน้ำหอมนี่ตัดออกไปได้เลยไม่มีแน่นอน
ทรายเป็นคนนึงนะคะ ถ้าใช้ผ้าอนามัยแบบมีน้ำหอมมีกลิ่น จะคันคะเยอ แล้วก็แสบไปหมดเกิดอาการแพ้ขึ้น
มาทันที ถ้ามีน้ำหอมเราเลิกคุยกันเลย แล้วก็ตัวนี้ทรายได้มีการทำการทดลองแล้ว เพื่อนๆสามารถดูได้ใน
คลิปวีดีโอนี้นะคะ







ทรายกับพี่อีก2คนไปถ่ายทำรีวิวให้กับลอรีเอะ ซูเปอร์เจนเทิลพลัส แล้วเราได้ทำการทดลองประสิทธิภาพ
ในการซึมซับ การตกค้างของประจำเดือนโดยใช้น้ำสีฟ้าในการจำลองเป็นประจำเดือนของเราและมีการ
กดทับโดยจำลองเป็นน้ำหนักตัวของคนเราเวลาที่นั่งทับผ้าอนามัยในขณะที่มีประจำเดือนเพื่อดูการซึมซับ
เพราะถ้าการซึบซับไม่ดีก็จะทำให้เกิดการตกค้างของประจำเดือนสัมผัสกับผิวของน้องสาวเราทำให้เกิด
การอับชื้นระคายเคืองและกลิ่นตามมา ซึ่งลอรีเอะ ซุปเปอร์เจนเทิลพลัสสามารถทำได้ดีมากกกกกกก
ทั้งหมดไม่ได้เป็นการตัดต่อผลลัพธ์นะคะ เราทำกันตรงนั้นต่อหน้ากล้องเลย เพื่อนๆเองก็สามารถเอาวิธี
ของเราไปทำการทดลองกับผ้าอนามัยด้วยตัวเองที่บ้านได้เลยค่ะ







ด้วยความที่เค้าบอกว่ามันซึบซับดี ตอนแรกทรายเข้าใจว่ามันจะหนา แต่ไม่เลยค่ะ ไม่ได้บางเท่ารุ่นที่ทราย
ใช้เป็นประจำ แต่ไม่ได้หนาจนทำให้รู้สึกอึดอัด ก็จัดว่าบางอยู่ไม่เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต ทรายบอกตรงๆ
ว่าใช้แล้วรู้สึกดี สะอาด สบายตัว ถ้าไม่ดีและแพ้ จะไม่รับทำงานและไม่มานำเสนอในบล็อกเด็ดขาดค่ะ
เสียเวลาคนอ่าน รุ่นนี้ตอนแรกทรายได้รับมาลองใช้ตั้งแต่ยังไม่วางขาย เพราะเดือนนึงจะมีประจำเดือนแค่
ครั้งเดียว ก็เลยได้มาก่อนจะเขียนบทความนานแล้ว ปัจจุบันนี้รุ่นนี้วางขายแล้วเรียบร้อยนะคะ ตามซุปเปอร์-
มาร์เก็ต และร้านค้าสะดวกซื้อทั่วไป วัตสัน บู้ทอะไรแบบนี้ก็มีค่ะ





Disclaimer: Sponsored Content by Laurier Thailand
Information: //www.lauriermybrand.com/2013/l-product/super_gen.html




 

Create Date : 06 ตุลาคม 2557    
Last Update : 6 ตุลาคม 2557 1:35:40 น.
Counter : 13307 Pageviews.  

Cocoon หรือรังไหมธรรมชาติ เป็นได้มากกว่าเส้นใยทอผ้านะ






ถ้าทรายพูดว่า "Cocoon" หลายคนอาจจะยังงงๆว่ามันคืออะไร เอ๊ะผับดังๆที่เกาหลีหรือเปล่า หรือว่ามันคือ
เครื่องดื่ม หรือแบรนด์เสื้อผ้ากันแน่? Cocoon ที่ทรายจะพูดถึงวันนี้แน่นอนว่าต้องเกี่ยวกับเรื่องของความ
สวยความงามค่ะ Cocoon ภาษาไทยเราเรียกว่า รังไหมธรรมชาติ






จริงๆแล้วคนไทยก็ผูกพันธ์กับหนอนไหม รังไหม ใยไหมมากนะคะ อย่างผ้าไหมไทยก็ทอมาจากไหม
เป็นสินค้าที่น่าภูมิใจของประเทศเรา รังไหมที่เราเห็นเป็นหลอดๆนั้น หลายคนอาจจะงงว่ามันเกิดขึ้นมา
ได้ยังไงกัน แล้วจุดประสงค์คืออะไร เรามาทำความรู้จักกันค่ะ

รังไหมเกิดขึ้นจากการที่หนอนไหมใช้เวลา2วันในการสร้างรังขึ้นมากห่อหุ้มตัวเองเอาไว้ จากอันตรายภาย
นอกไม่ให้มารบการการฟักตัวของเจ้าหนอนไหม พอรังเสร็จสมบูรณ์ หนอนไหมก็จะกลายเป็นดักแด้ ใช้เวลา
ประมาณ 4-7 วัน จากนั้นดักแด้ก็จะฟักตัวเป็นผีเสื้อแสนสวย อันนี้คือกระบวนการตามธรรมชาตินะคะ

ปัจจุบันนี้มีการเลี้ยงไหม เป็นอาชีพ ซึ่งพัฒนาเอาไปใช้ในหลายทาง ทรายจะพูดถึงตัวรังไหมนะคะว่าเค้า
สามารถเอาไปทำอะไรได้บ้าง? หลักๆเลยก็คือ รังสวยๆดีๆ เค้าก็จะเอาไปสาวไหมเป็นเส้น ไว้ใช้ในการ
ทอผ้าไหมคุณภาพดีๆ ส่วนรังที่เสียก็มีการนำไปทำเส้นไหมประเภท Spun Silk ค่ะ






รังไหมนั้นมีหลายสีนะคะ ทั้งสีขาว สีน้ำตาล และสีเหลืองทอง ที่นิยมนำมาทำเป็นผ้าไหมล้ำค่า นอกจาก
เป็นเส้นใยไหมแล้ว Cocoon หรือรังไหมยังสามารถเอามาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ความงามได้ เนื่องจาก
ว่ารังไหมนั้น มีโปรตีนตามธรรมชาติอยู่ถึง18ชนิด คนบ้านเราปลูกหม่อนเลี้ยงไหมโดยเหตุผลหลักคือ
เพื่อทอผ้าไหม โดยที่เราแทบไม่รู้เลยว่ามันมีคุณค่ามากมายซ่อนอยู่ในเจ้ารังเล็กๆนั่น แต่ในประเทศ
มหาอำนาจอย่างญี่ปุ่นและจีนนั้น เพื่อนๆเชื่อไหมคะว่ามีผลวิจัยมากมายเหลือเกินเกี่ยวกับคุณค่าของ
เจ้าไหมรังน้อยๆนี่ ถ้าลองกูเกิ้ลว่า Cocoon Silk จะเจอบทความ รวมถึงวีดีโอมากมายเลยค่ะ





ด้วยผลวิจัยเหล่านั้นจึงมีการต่อยอดดึงเรารังไหมมารีไซเคิลให้เกิดประโยชน์สูงสุดมากมายเหลือเกินค่ะ
อาทิเช่น การเอารังไหมมาใช้เป็นอุปกรณ์ในการขัดทำความสะอาดผิวกาย ผิวหน้า ช่วยผลัดเซลส์ผิว
มีการนำเอารังไหมที่มีโปรตีนตามธรรมชาติไปสกัดเป็นผงไหม เอาไว้ใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญของ
เวชสำอาง หรือเป็นส่วนผสมของเครื่องดื่ม





คุณสมบัติที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คงเป็นโปรตีนชนิดสำคัญอย่าง เซอริซิน และไพโบรอิน ที่สามารถอุ้มน้ำ
ได้ดีและสามารถรักษาความชุ่มชื่นของผิวได้ ช่วยลดการเกิดเม็ดสี ช่วยผลัดเซลส์ผิว และมีสารต้าน
อนุมูลอิสระด้วยในทางความงามแล้ว หากเป็นโปรดักส์เกี่ยวกับการบำรุงผิวหน้า ก็จะช่วยให้ผิวดูนุ่ม
ชุ่มชื้น ไม่หยาบกระด้าง สีผิวสม่ำเสมอขึ้น และการที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ก็จะช่วยชะลอวัยให้ผิว
ลดการเกิดริ้วรอยร่องลึก ความเหี่ยวย่นได้ค่ะ ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมคะ


จากนี้ไปถ้าเพื่อนๆเห็นเทรนด์ผลิตภัณฑ์จากรังไหมเกิดขึ้นหลายๆแบบก็ไม่ต้องแปลกใจไปนะคะ
อย่างที่ทรายอธิบายให้ฟังไปแล้วว่าเจ้ารังไหมน้อยๆนี่มีคุณค่ามากมายเหลือเกินจริงๆค่ะ




*ภาพประกอบบทความและข้อมูลต่างๆ ทรายรวบรวมมาจากInternetนะคะ ต้องขอบคุณทุกแหล่งความรู้ด้วยค่า




Disclaimer:
Sponsored Content by Glow Mori
Information: www.glowmori.com




 

Create Date : 01 กันยายน 2557    
Last Update : 9 กันยายน 2557 17:38:55 น.
Counter : 13672 Pageviews.  

Sulwhasoo Luminature Essencial Finisher เซรั่มขั้นตอนสุดท้ายชิ้นแรกของโลก





โปรดักส์ใหม่ของ Sulwhasoo ตัวนี้เป็นนวัตกรรมล่าสุดของโลกที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน
ทรายว่าน่าสนใจมากๆเลยค่ะ อย่าตกเทรนด์กันนะคะ เราต้องมาอัพเดตกันค่ะ สำหรับเพื่อนๆ
ที่ใช้ตัว Sulwhasoo First Care Serum อยู่แล้ว ยิ่งต้องไม่ควรพลาดเพราะเค้าออกมาเป็นคู่
ที่ใช้เพื่อส่งเสริมกันและกันให้เป๊ะ ปัง ยิ่งกว่าเดิม ไปดูกันค่ะว่าเป็นยังไง



Disclaimer: Sponsored Content by Sulwhasoo Thailand
Information: //www.sulwhasoo.co.th
Information: //www.facebook.com/sulwhasoothailand






 

Create Date : 01 กันยายน 2557    
Last Update : 1 กันยายน 2557 13:41:15 น.
Counter : 6903 Pageviews.  

Review: GoodSkin Labs True Hydration เจลครีมบำรุงสำหรับผิวขาดน้ำ




พบกันอีกแล้วค่ะทุกคน บล็อกวันนี้ทรายมีเรื่องของสกินแคร์ที่ทรายทดลองใช้มาสักพักนึงแล้ว
จะมาเล่าให้ฟัง แนะนำให้รู้จักกัน อย่างที่รู้ว่านานๆทีทรายจะรับทดลองใช้สกินแคร์สักที เพราะ
ทรายกลัวมากว่าผิวจะพัง จะต้องเลือกโปรดักส์ที่ดูแล้วเหมาะสมกับผิวทรายจริงๆ ตัวนี้ที่ทราย
ไม่ลังเลรับทดลอง ก็เพราะว่า เป็นสกินแคร์สำหรับคนที่ผิวขาดน้ำ ซึ่งเป๊ะเลย! ใช่สุดๆค่ะ






ก่อนอื่นต้องบอกเพื่อนๆเป็นข้อมูลเบื้องต้นก่อนว่า ผิวขาดน้ำนั้นเกิดกันได้ทุกคนนะคะ ไม่ว่า
จะเป็นคนที่มีผิวมัน/ ผสม/ ธรรมดา หรือผิวแห้ง ก็สิทธิ์มีผิวแบบ Dehydrated Skin กันทั้งนั้น
อย่างทรายเป็นคนผิวค่อนไปทางแห้งและขาดน้ำ ถึงแม้ว่าทรายจะเป็นคนที่ดื่มน้ำเปล่าเยอะมาก
ในปริมาณต่อวันก็ตาม อาจจะเพราะการใช้ชีวิตรวมถึงสภาพแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่ เช่น
การอยู่ในห้องแอร์เป็นประจำ ก็สามารถทำให้เกิดอาการผิวขาดน้ำได้ นอนน้อย พักผ่อนไม่พอ
ไม่ค่อยดื่มน้ำ และอีกมากมายก่ายกอง

ผิวขาดน้ำจะทำให้เกิดปัญหาผิวตามมาอีกหลายประการค่ะ อาทิเช่น ที่เห็นชัดๆคือ ผิวหน้าจะมี
การผลิตน้ำมันมาหล่อเลี้ยงผิวมาก ทำให้บางคนคิดว่าตัวเองผิวมัน ก็ไปหาสกินแคร์สำหรับผิวมัน
มาใช้ ทีนี้มันก็ไประงับการผลิตน้ำมันตามธรรมดา แต่ทีนี้พื้นผิวที่มันขาดน้ำมันแห้ง ร่างกายก็ต้อง
พยายามผลิตน้ำมันออกมาอีก เลยทำให้เกิดวงจรที่ก่อเกิดสิว หนักเข้าไปอีก และอีกอย่างที่ชัดเจน
สำหรับคนผิวขาดน้ำก็คือ ริ้วรอยค่ะ ริ้วรอยบางๆทั่วไปหน้าจะมา เหมือนคนผิวเหี่ยว นึกถึงผิว
ที่ความชุ่มชื้นขาดหายไปออกใช่ไหมคะ? เหมือนผลไม้ ต้นไม้ที่ขาดน้ำ เหี่ยวๆ ถ้าเราได้รับน้ำอย่าง
ชุ่มชื้น เพียงพอ ผิวเราก็จะกลับมาเปล่งปลั่ง มีชีวิตชีวาอีก


เหล่านี้ที่ทรายเล่ามาคือเรื่องจริง จากประสบการณ์ตรงของตัวทรายเอง ทรายมีปัญหาเรื่องผิวขาดน้ำ
มาตั้งแต่อายุประมาณ 23ปี ปัจจุบันทรายกำลังจะอายุครบ 28ปีแล้ว ทรายใช้สกินแคร์สำหรับเติมน้ำ
คงความชุ่มชื้นให้กับผิวมาตลอดเวลา 5 ปี ไม่ว่าจะเปลี่ยนสกินแคร์ไปกี่ตัว ปรับสูตรยังไง จะต้อง
ยังมีโปรดักส์ที่ช่วยเรื่องนี้ติดอยู่เสมอ ห้ามขาด ผลที่ได้คือ ผิวหน้าทรายดูไม่แห้งกร้าน และแทบจะ
ไม่มีริ้วรอยที่บ่งบอกว่าเหี่ยว ทั้งนี้เพราะขยัน เอาใจใส่ผิว ให้อาหารเค้าตรงกับที่เค้าต้องการได้รับ
แต่มันก็มีนะ ช่วงเวลาที่ผิวป่วยเพราะพฤติกรรมเราเอง หรือฮอร์โมนอะไรแบบนี้ แต่ก็ถือว่าดีขึ้นกว่า
ตอนเด็กๆมากๆ






เข้าเรื่องค่ะ โปรดักส์ที่จะพามาทำความรู้จักกันวันนี้ ทรายได้ทดลองใช้จริง และได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง
แล้วว่าตัวเองไม่แพ้ (ถึงกล้าเขียน) 55555 และก็ใช้งานได้ดีเลยทีเดียวค่ะ TRUE HYDRATION
24H GEL CREAM
จากแบรนด์เวชสำอาง GoodSkin Labs ซึ่งเป็นแบรนด์สกินแคร์ที่มีชื่อเสียง
มากนะคะ เชี่ยวชาญเรื่องนวัตกรรมชะลอวัยค่ะ แต่วันนี้เราพูดถึงตัวเติมน้ำให้ผิว คงความชุ่มชื้นให้ผิว
เป็นโปรดักส์ใหม่ล่าสุดของเค้าค่ะ







เนื้อเป็นลักษณะของเจลครีม เคลมว่าช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ถึง 24 ชั่วโมง ทรายไม่เคยลองถึง
24ชม.หรอกนะคะ เพราะ12ชม.เราก็อาบน้ำกันแล้วใช่ไหม 55555 ตัวนี้เป็นออยล์ฟรี ไม่มีน้ำหอม
ไม่มีกลิ่น (จริงๆคือไม่มีกลิ่นหอมๆแบบน้ำหอมน่ะค่ะ) ใช้ได้แม้ผิวแพ้ง่ายไม่ก่อให้เกิดอาการระคาย
เคืองผิว นี่คือสิ่งที่ทางแบรนด์เคลมนะคะ ในความเป็นจริงไม่มีใครการันตีได้ว่า เราใช้แล้วจะแพ้
หรือไม่แพ้ แต่การันตีไว้เบื้องต้นแล้ว ก็คือ คนโดยส่วนใหญ่โอกาสแพ้น้อยมากๆค่ะ











เนื้อเจลฉ่ำมากๆ เหมือนเราโบกน้ำลงผิวเราเองเลยจริงๆ ทรายมีเทคนิคกระตุ้นผิวให้เฟรชในทันที
ด้วยนะคะ อันนี้ส่วนตัวได้ค้นพบโดยบังเอิญ เอาเจ้า GSL True Hydration นี้ไปแช่ตู้เย็นค่ะ แล้วเอา
มาทาที่ผิว โอ๊ยยยเย็นฉ่ำจี๊ดใจ ตื่นเฟรชมากค่ะ ด้วยความเป็นเจลมันซึมลงผิวไว้ ไม่ทิ้งความเหนอะ
อยู่แล้ว มันจะให้ความรู้สึกสบายผิวค่ะ ทาหลังจากลงเซรั่ม ใช้เป็นตัวบำรุงนี่แหละค่ะ ได้ทั้งเช้า-เย็น
โบกหนาๆหน่อยก็เป็น overnight mask ได้เลยนะ (ปกติใช้ไม่ต้องเยอะค่ะ พอประมาณ)


สิ่งที่ประทับใจคือ ทรายพกไปทริปญี่ปุ่นเมื่อเดือนที่แล้วด้วย โบกไปก่อนจะขึ้นเครื่อง ทรายบินดึกมาก
แล้วคือไปถึงเช้าและตะลอนทั้งวัน ไม่ได้นอน ที่สัมผัสได้คือ มันช่วยอุ้มผิวไว้ได้ ปกติขึ้นเครื่องผิวเราจะ
เดรนค่ะ น้ำในผิวจะแห้งเหือดหายไป ผิวระอุร้อนๆ เมคอัพเละเทะ ไม่ต้องพูดถึงตอนลงเครื่องแล้วไม่ได้
พักผ่อนนะ เรียกได้ว่าแย่ ทุกครั้งที่บิน แต่ตัวนี้ช่วยได้ประมาณ 70% คือดีงาม เป็นสิ่งที่ทรายเห็นได้
ชัดเจนถึงประสิทธิภาพสุดๆแล้ว ก็เลยอยากเล่าให้ฟัง







ส่วนใช้ในชีวิตประจำวันนั้น ก็ใช้ได้ดีเลยค่ะ ดีของทรายคือ สามารถmaintainผิวของทรายให้เป็นปกติ
ได้ ไม่มีอาการขาดน้ำ หรือริ้วรอยเหี่ยวย่นให้เห็น คือ ประสิทธิภาพสามารถแสดงผลได้จริงค่ะ ^^
(ลองเอานิ้ววางแนวขวางบนแก้มแล้วดันผิวดูนะคะ ถ้ามีเส้นริ้วเล็กๆแปลว่ามีอาการขาดน้ำค่ะ จะเห็นว่า
ในรูปทรายแทบจะไม่มีเส้นริ้วเลย น้อยมากๆ)

ps. ทรายต้องบอกก่อนว่าหลังจากกลับจากทริปญี่ปุ่น ทรายแพ้น้ำค่ะ มันเป็นภาคที่ทรายไม่ค่อยได้ไป
น้ำเค้าคงไม่เหมือนแถบภาคกลาง ผื่นขึ้นเต็มหน้าเลย ทรายก็ได้เจ้านี่แหละช่วยประโลมผิว คูลท์ดาวน์ผิว
อาจจะเห็นรอยแผลเหลือบ้างให้เห็นในรูปนะคะ นี่คือความจริงของผิวที่เกิดขึ้นค่า







GoodSkin Labs เป็นเคาเตอร์แบรนด์นะคะ มีตามห้างใหญ่ๆเกือบทุกที่พารากอน เซ็นทรัลมีหมดเลยค่ะ
ตัวนี้ราคาอยู่ที่ 1,500 บาท ปริมาณ 50ml ค่ะ ทรายใช้มาได้เกือบเดือนละ หมดไปประมาณ 20% กระปุก
นึงก็น่าจะใช้ได้นานอยู่ค่ะ เพราะเนื้อเจลเค้าแน่น คว่ำกระปุกยังไม่ย้อยเลย เหมือนไอศครีมยี่ห้อดัง555
แตะนิดหน่อยก็ทั่วหน้าแล้วค่ะ  ก็ฝากไว้อีก1โปรดักส์สำหรับผิวขาดน้ำที่แนะนำนะคะ ลองจริง ใช้จริง
แนะนำจริงค่ะ








Disclaimer: Sponsored Content by GoodSkin Labs Thailand
Information: https://www.facebook.com/GoodSkinLabsThai







 

Create Date : 01 สิงหาคม 2557    
Last Update : 5 สิงหาคม 2557 14:38:31 น.
Counter : 13712 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  

feonalita
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 908 คน [?]




 photo icon_facebook_48_zpsb497412b.png photo icon_instagram_48_zps84436242.png photo icon_youtube_48_zpsfc801391.png photo icon_twitter_48_zps6e17cf8d.png photo icon_pinterest_48_zps16047ffb.png

FEONALITA: Beauty & LifeStyle Blog✰
คำว่า"สวย"ของแต่ละคน มีคุณค่าไม่เท่ากัน
∙•The Beauty of an Individual◀•∙

บล็อคนี้เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 22-11-2006 ค่ะ

feonalita@gmail.com feonalita@gmail.com





Golden Rose Liquid Matte Lipstick “London
“Citra THREE 4D-Plus Eye Palette พาเลทอายแชโดวซัมเมอร์ครบทุกสี
Canmake New Collection ฟรุ้งฟริ้งหลายสิ่งน่ารักจากญี่ปุ่น Winged Liner & Chocolate Lips Inspired by Kylie Jenner
No 7 Matte Lip Crayon & Precision Lips Pencil 9สี LANCOME Juicy Shaker Full Collection










New Comments
Friends' blogs
[Add feonalita's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.