Group Blog
 
All blogs
 

Beauty Rescue: รายงานเด็ดๆ Olay Beauty Report 2011 สำรวจดูสิเรากำลังหลอกตัวเองกันอยู่หรือเปล่า?







หัวข้อบล็อควันนี้รู้อยู่แล้วว่าจะพูดถึงผลงานวิจัยของโอเลย์ใช่ไหมคะ? แต่สงสัยกันละสิว่าความลับอะไร?
ที่จริงมันก็ไม่ใช่ความลับหรอกค่ะ มันเป็นเรื่องของริ้วรอยแห่งวัย กับผลิตภัณฑ์Anti-Ageing ของโอเลย์
ที่มีชื่อว่า โอเลย์ โททัล เอ็ฟเฟ็คส์ ที่ทรายเชื่อว่าพวกเราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่แล้ว แต่ทีนี้ทางโอเลย์เค้ามีการ
ปรับรูปลักษณ์ใหม่ให้ดูทันสมัยขึ้น โดยยังคงจุดเด่นเดิมคือ คุณสมบัติลดเลือดริ้วร้อยแห่งวัยทั้ง 7 ประการ


ทีนี้ที่ผ่านมา เราได้แต่เคยดูภาพยนต์โฆษณา แต่ไม่เคยรู้เลยว่ากว่าผลิตภัณฑ์แต่ละตัวจะออกมาสนอง
ความต้องการของผู้บริโภคมันต้องมีขั้นตอนในการสำรวจหาแรงบรรดาลใจ ในการคิ้นค้นผลิตภัณฑ์
อย่างไรบ้าง?

ทางโอเลย์เค้าเลยอยากจะให้พื้นที่บล็อคของทราย ช่วยส่งต่อข้อมูลยาวๆเกี่ยวกับผลงานการวิจัย
ในเรื่องของความเชื่อและความปรารถนาด้านการดูแลผิวของผู้หญิงม ซึ่งทางโอเลย์เค้าจัดทำเป็น
Beauty Report 2011ร่วมกับที่ปรึกษาด้านผิวหนังชั้นแนวหน้าของสิงคโปร์เลย เพื่อให้ทำการสำรวจ
โดยที่เน้นไปที่กลุ่มตัวอย่างเป้าหมายเป็นผู้หญิงในทวีปเอเชียล้วนๆเลย 5 ประเทศ มี อินเดีย อินโดฯ
เกาหลี ฟิลิปปินส์ และไทยค่ะ ทั้งหมดแล้วมีสาวๆถูกสำรวจไป 1,800 คน อายุระหว่าง 20-39ปี
ทีนี้ทรายเชื่อว่าหลายคนอยากรู้แล้วหละว่าไอ้เจ้าผลสำรวจมีเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้างแล้วเป็นยังไงบ้าง?
เรามาดูกันเป็นข้อๆไปเลยดีกว่า

1. ผลสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างเผยให้เห็นว่าผู้หญิงเอเชียช่วงอายุ 20-30ปี มีฝันวาดหวังไว้ว่าผิวสวยใน
อุดมคติของพวกเธอคือผิวที่ดูอ่อนเยาว์ แต่ในทางปฎิบัติแล้วตรงกันข้ามกับอุดมคติสิ้นเชิง คือไม่ได้สนใจ
ใส่ใจดูแล้วเรื่องของริ้วรอยอย่างเหมาะสมและถูกต้องเลย แถมบางคนยังคิดว่าตัวเองยังไม่ถึงเวลาที่ต้องดู
แลเรื่องของริ้วรอย แต่กลับอยากได้ผิวที่ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ!!!! นอกจากนี้ผลสำรวจยังบอกว่าผู้หญิง
บางกลุ่มยังมุ่งเน้นให้ความสำคัญ กับการมีผิวขาวสว่างใสอย่างเดียวเท่านั้นอีกด้วย

2. จากการสำรวจ ยังทำให้ค้นพบว่า ลักษณะผิวของผู้หญิงเอเชียส่วนใหญ่เริ่มส่งสัญญาณแห่งวัยเร็วกว่า
ที่ตัวเองคิด โดยพบว่า 61% เชื่อว่าผิวของตัวเองจะเริ่มร่วงโรยหลังอายุ30ปีไปแล้ว แต่ในความเป็นจริง
ผู้หญิงถึง 65% เริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวตัวเองในเรื่องของสัญญาณแห่งวัยที่เพิ่มขึ้น
อย่างน้อย 1 อย่างตั้งแต่อายุ24โดยเฉลี่ย (แปลว่าพวกเรากำลังหลอกตัวเองกันอยู่สินะ?!!!!!!!) เค้าบอกงว่า
ผู้หญิงไทยเริ่มเห็นและสังเกตเจอความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ช่วงอายุ20ปีถึง63% (อย่างน้อยจากตัวเลขก็ทำให้
รู้ว่าสาวไทยก็ใส่ใจผิวหน้าตัวเองอยู่ไม่น้อยเลยนะ)


สัญญาณความโรยราแห่งวัย 7 ประการที่โอเลย์เค้าบัญญัติไว้มีอะไรบ้าง?

- ผิวแห้งกร้าน
- จุดด่างดำ
- รูขุมขนกว้างขึ้น
- ผิวหมองคล้ำ
- ผิวไม่เรียบเนียน
- สีผิวไม่สม่ำเสมอ
- ริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น

เอ้าเริ่มเช็คกันเลยว่าตัวเองมีไหม? หยิบกระจกมาส่องดู ถ้ามีสักข้อนึงที่ติ๊กถูกไว้ อย่าชะล่าใจว่าตัวเองยังสาว
อายุยังน้อย ตัวอย่างเช่นทราย อายุ24ปี มีสัญญาณตามด้านบนถึง 4 อย่าง… หมดเวลาภูมิใจกับความเต่งตึงT^T

จากผลสำรวจอีกเช่นกัน บอกว่าผู้หญิงช่วงอายุ20ปีจะพบการเปลี่ยนแปลงของผิวมากที่สุดคือ ผิวแห้งกร้าน
ตามด้วยจุดด่างดำ รูขุมขนกว้าง แต่!… ไม่มีใครคิดจะใช้ผลิตภัณฑ์ต่อต้านลดเลือนริ้วรอยเลย มายก๊อชชชชช!
(อันนี้ยอมรับว่าเห็นด้วยกับผลวิจัยมาก เพราะตัวเองก็คิดแบบนี้เหมือนกัน T^T )

ทีนี้ผลสำรวจยังตอกย้ำให้ชอกช้ำใจ ด้วยคำตอบของกลุ่มสำรวจวัยช่วงอายุ30ปีกว่า72% บอกว่ารู้สึกเสียใจ
ที่ไม่ได้เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยให้เร็วกว่านี้ …… รู้ตัวเมื่อสายสินะ! อนิจจา.

ที่ว่ามาทั้งหมดนี้เป็นผลสำรวจจากทางโอเลย์และผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ที่อยากจะชี้ให้ผู้หญิงเอเชียเล็งเห็น
ถึงความสำคัญของการดูแลผิวจากฐานของความเป็นจริง ไม่ใช่อุดมคติหลอกตัวเอง จริงๆฝรั่งชอบมองว่า
คนเอเชียแก่ช้า เพราะหน้าเด็กและตัวเล็ก เราจะไปเทียบกับฝรั่งไม่ได้ มันคนละชาติพันธุ์กัน ถ้าเทียบกับฝรั่ง
ไม่เถียงอ่ะ ว่าพวกเราดูเด็กมาก แต่ถ้าเทียบกับคนเอเชียด้วยกันเอง.... นั่นก็อีกเรื่องนึงนะ

มันก็คือการที่อยากจะกระตุ้นให้สาวๆเอเชียเปลี่ยนความคิดเรื่องของอายุและความสัมพันธ์ของผิวนั่นแหละ
เอาง่ายๆคือ คิดว่าอายุตัวเองน้อยแล้วผิวจะไม่เหี่ยวเต่งตึงตามตัวเองอายุด้วย คิดผิดนะคะ คิดใหม่มองใหม่
สำรวจใส่ใจตัวเองแต่เนิ่นๆ ดีกว่าไปเสียใจภายหลัง หยิบกระจก หยิบปากกา หยิบกระดาษ แล้วดูสิว่า
เจอไหม? 7 ประการที่ว่า ถ้าเจอก็อย่าชะล่าใจไป เพราะผิวสาวนั้นร่วงโรยเร็วกว่าที่คิดเด้อออ....

ปล. สมัยนี้คิดแต่จะขาวใสอย่างเดียวมันไม่พอแล้วนะคะ ขาวใส แต่เหี่ยวย่นเป็นริ้วๆก็สยองนะ

=========

Photobucket

จบเรื่องของผลวิจัยดีๆไปมาต่อกันที่ข่าวของผลิตภัณฑ์โอเลย์ โททัล เอ็ฟเฟ็คส์ โฉมใหม่บ้านเราหน่อย

Photobucket

นอกจากจะมีโฉมใหม่ โฉบเฉี่ยว เปรี้ยว ทันสมัยแล้ว ยังมีพรีเซนเตอร์คนใหม่ด้วยนะคะ … ใครเอ่ยๆๆๆ?

หมดเวลา.. คิด สาวคริส หอวัง ผู้นี้นี่เองงงงงงงง!!!!!!

Photobucket


เค้าเพิ่งมีงานแถลงข่าวเปิดตัวกับสื่อกันไป ทรายได้เชิญแต่ไม่ได้ไปด้วย

Photobucket

ก็เลยขอใช้ภาพข่าวจากทางโอเลย์มาให้เพื่อนๆดูเลยแล้วกันนะ นอกจากพูดถึงโฉมใหม่พรีเซนเตอร์คนใหม่แล้ว
ยังมีการพูดถึงปัญหาริ้วรอยทั้งหลายที่ว่าไปด้านบนๆโน้นให้พี่ๆสื่อมวลชนได้ฟังและได้ทำความเข้าใจกันด้วย

Photobucket

Photobucket

Photobucket

อ่อไฮไลต์อยู่ที่คุณนัทมีเรีย พรีเซนเตอร์คนก่อนหน้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์โอเลย์จริงๆมากว่า10ปี
มาแชร์ประสบการณ์ตรงและส่งมอบตำแหน่งทำหน้าที่แอมบาสเดอร์ให้คุณคริสหอวังด้วย

Photobucket


ที่ตะลึงที่สุดก็คือ....

......

....

Photobucket

ดูผิวคุณนัทสิ มายก๊อชชชชชชชชชชชชชชช มันเด้งมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก เห็นแล้วอิจฉาสุดพลัง

Photobucket

ต่อไปนี้เราก็จะได้เห็นสาวคริสกับโอเลย์มากขึ้นละนะ วันนี้ทรายก็ขอลาไปแล้วหละ เขียนซะเยอะเลย
ถ้าใครอยากได้ข้อมูลที่แบบว่าเจาะลึกมากกว่านี้ อยากจะหาอ่านศึกษาจริงจัง ก็ไปตามลิงค์reference
ที่อยู่ด้านล่างแล้วกันนะคะ เพราะว่าทรายก็แบบว่า จับใจความมาให้อ่านกันง่ายๆคร่าวๆอ่าจ้า
แล้วเจอกันใหม่บล็อคหน้านะ ;D





Disclaimer: Sponsored by OLAY THAILAND
Credit Reference : //www.olay.com/skin-care-products/total-effects




 

Create Date : 11 สิงหาคม 2554    
Last Update : 11 สิงหาคม 2554 14:40:48 น.
Counter : 4868 Pageviews.  

ฟิฟิ : เจ็บ ตื่นเต้น ขนลุก สยิว อาย เขิล สะดุ้ง กระตุก กรี๊ด เรียบ โล่ง




WARNING :



Photobucket



ชื่อหัวข้อบล็อคมันบอกทุกอย่างที่จะเขียนวันนี้ … มันคือเรื่องของจิมมี่น้อย
เรื่องมีอยู่ว่าฟังเจ๊มดเล่ามาเยอะ ก็เลยอยากลองบ้าง... พาจิมมี่ไปบวชชี

บวชชีพราหมณ์มันจะไม่ได้รสชาติ ต้องบวชแบบจริงจังสักระยะ ก็เลยหาข้อมูล
หาในเน็ตมันคงไม่ได้อะไรนอกจากรีวิวที่เคยผ่านๆตา แค่เขียนเล่าสู่กันฟัง
ก็เลยหามันทางเฟซบุคตัวเองนี่แหละ เอาวะ อย่างน้อยเพื่อน5,000คนในลิส
มันต้องมีสักคนสองคนแหละที่เคยพาจิมมี่ไปเข้าพิธีมาแล้ว...

และแล้วเราก็ค้นพบสัจธรรมว่าจิมมี่ของเพื่อนๆ ได้ผ่านการเข้าพิธีเก็มปุกุกันแล้ว
มากมายก่ายกอง … อย่างนี้นี่เองที่เค้าว่าเรื่องลับๆที่น่าค้นหา มันจะเผยออกมา
ให้เราประหลาดใจ 5555 แล้วก็ได้รู้ว่าคนไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก

เพื่อนๆพี่ๆน้องๆก็มาแชร์ประสบการณ์ที่นั่นที่นี่ให้ฟังกันเยอะแยะ แนะนำที่ทำหลายที่
จนสุดท้ายทรายก็ตัดสินใจ ไปที่ๆรู้สึกว่าราคายังพอจ่ายไหว เครื่องไม้เครื่องมือ
เซอร์วิสต่างๆรวมถึงสถานที่ที่ทรายพอใจ และคิดว่าปลอดภัยในชีวิต ก็โทรนัดมัน
เมื่อบ่ายนี่แหละ บอกเค้าว่าจะไปเย็นนี้พอจะมีคิวว่างไหม? ดั่งฟ้าเป็นใจ ว่างคิวนึงพอดี

ไม่ได้เตรียมการอะไรไว้เลย รวมถึงเงินก็ไม่ได้เตรียม = =' รู้แต่ว่าวันนี้อยู่คนเดียว
ต้องไปเอาของที่พระราม9 หลังจากนั้นก็ว่างมาก ไม่อยากกลับห้อง อยากไปสักแห่ง
ก็เลยเอาวะ วันนี้แหละลองกันสักตั้ง เป็นไงเป็นกัน ชีวิตเป็นของฉัน จิมมี่เป็นของฉันนิ!

จะไม่เล่าอะไรเพิ่มนะ เก็บบรรยากาศรายงานสดในFBมาฝาก คือมันอดไม่ได้จริงๆ
ต้องรายงานอ่ะ มันอาย มันเขิล มันหลายอย่าง หยิบไอโฟนมาจิ้มๆนี่แหละแก้ได้
เหตุการณ์มันจะไล่เลี่ยงมาเป็นลำดับนะ ใครสนใจก็ลองอ่านๆดูแล้วกันเด้อ …

Photobucket
Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket
Photobucket


จบแล้วด้วยประการฉะนี้ค่ะ กลับบ้านมาแบบโล่งๆ ได้อารมณ์อีกฟีลนึง รู้สึกเหมือนเคย
เจอกันมาก่อนเมื่อสัก15ปีที่แล้ว ยังเจ็บปวดอยู่หน่อยๆ มันคงอักเสบหละ พี่waxerบอกว่า
น้องผิวเซนซิทีฟมากเลย พี่ปิดเตาอุ่นแว็กซ์ไปตั้งนานแล้ว ป้ายไปน้องยังร้อนอยู่ T^T
ดึงไป2-3แคว๊ก พี่เค้าบอกว่า ครั้งแรกละสิ แบบนี้แหละ ไม่ต้องกลัวนะ สบายๆ เจ็บนิดนึง
ครั้งต่อไปก็ชิลแล้วจ้ะ … พี่ทำให้หนูรู้สึกเหมือนตอน14 … 55555555555555555


Disclaimer: Sponsored by FEONALITA






 

Create Date : 31 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 31 กรกฎาคม 2554 1:39:41 น.
Counter : 2363 Pageviews.  

Beauty Rescue : สำลี สำลี สำคัญอย่างไร? สิ่งเล็กๆที่สัมผัสหน้าเราทุกวัน


บล็อควันนี้มาในโหมดที่ว่าด้วยเรื่องของสำลีๆ เป็นเรื่องที่แทบจะไม่มีใครพูดถึงกันเลย
เท่าที่ทรายอ่านๆบล็อคมา ดูเหมือนว่าสำลีจะเป็นเรื่องที่ทุกคนมองข้าม ตัวทรายเองก็ด้วย
ไม่ได้ดีไปกว่าคนอื่นหรอก 55 วันนี้ที่จะชวนสาวๆมาอ่านเรื่องของสำลีกัน ก็เพราะว่าทราย
ค้นพบคำตอบของคำถามที่ว่า ทำไมต้องใช้สำลีแพง? ทำไมแบรนด์ต้องผลิตสำลีขาย?

Photobucket

เคยมะ? ไปลองนวดหน้าหรือแต่งหน้าที่เคาเตอร์แบรนด์ดังๆ แล้วBAหยิบสำลีนุ่มๆมาเช็ด
หน้าเช็ดตาเรา ความรู้สึกมันจะแบบว่าแหมทำไมมันนุ่มจัง แค่ตรงนั้นแล้วก็ผ่านเลยไป
ทรายอ่ะชอบช็อปปิ้งออนไลน์ เห็นแม่ค้าคนนึงเอาสำลีแพ็คใหญ่ๆมียี่ห้อแบรนด์นั้นแบรนด์นี้
มาขายก็แอบสงสัยเกิดคำถามในใจ ทำไมกะอีแค่สำลีต้องใช้ของแพงด้วยวะ? เอาแบบที่มี
ขายตามร้านสะดวกซื้อใช้ไม่ได้หรอ? ยังเคยนึกขำพวกที่ซื้อสำลีแพงๆมาใช้ ว่าเสียเงินทำไม

ตอนนี้เปลี่ยนทัศนคติแล้ว เพราะความอยากรู้ว่าต่างกันยังไง ปกติทรายใช้สำลีEvergreen
ธรรมดาๆอันละไม่กี่สิบบาท หาซื้อก็ง่าย สะดวกสบาย ปริมาณก็เยอะ แต่วันนึงก็เกิดความ
อยากเจือก เลยไปลองซื้อสำลี I'PSA มาลองใช้ดู ที่จริงแล้ว เคยลองสำลีของอิ๊ปซ่าครั้งนึง
เมื่อตอนไปเวิร์คช็อปนอกสถานที่ ตอนนั้นไม่ค่อยได้หยิบจับด้วยตัวเอง แต่จำได้ว่ามันนุ่ม
เหนียว แต่ก็ยังไม่ได้ติดใจเท่าไหร่ เป็นแค่ความรู้สึกที่นึกถึงแล้วก็OK ด้วยความที่พี่คนนี้
ขายถูกมากก ปกติถ้าซื้อเคาเตอร์จะ 200 บาทต่อแพ็ค พี่เค้าขายแค่ 140 บาท ก็เลยเอาวะ
แพงกว่าevergreenรีดขอบสุดเลิฟหลายเท่า แต่ลองดูหน่อยแล้วกัน ก็เลยสอยมาซะสมใจ

หน้าตาเจ้าสำลี I'PSA เป็นแบบนี้

Photobucket

แกะซองออกมาจะเป็นสำลีอัดแน่น อันนี้ทรายตัดผิดข้างมั้ง -*- มันเลยเน่าๆ นี่ใช้มาแพ็ค
ที่4แล้ว เกิดอาการปลื้มสุดตัว จะเล่าให้ฟังว่าปลื้มยังไง

Photobucket

หน้าซองเขียนว่าเป็นสำลีที่เป็น Cotton 100% ถามว่าต่างกับธรรมดายังไงอ่ะ?
อันนี้เท่าที่ได้ยินมาเค้าบอกว่ามันนุ่มเหนียวกว่า แล้วก็ละมุนละไมกับใบหน้ามากกว่าค่ะ

Photobucket

เป็นสำลีไม่รีดขอบ หนานุ่มเหนียว ประทับใจมากตรงนี้ คือมันหนานุ่มได้ใจ แต่ไม่ยักจะ
ย้วยๆเวลาโดนน้ำหรือเวลาเช็ดถู เหมือนสำลีบ้านๆ แรงอ่ะ

Photobucket

เหตุผลที่ชอบสำลีI'PSA มากๆ ก็เพราะมันไม่กินเนื้อผลิตภัณฑ์มาก อย่างทรายใช้เช็ดโทนเนอร์
ก็อุ้มน้ำไว้ และปล่อยออกมาเวลาเช็ด คือไม่กลืนหายไปเลย เวลาใช้เช็ดเครื่องสำอางค์ออกก็
ไม่เปื่อยยุ่ย แถมแผ่นใหญ่มาก ในแพ็คทรายจำไม่ได้ว่ามีกี่แผ่น รู้แต่ว่าบางทีขยันก็จับมาตัดครึ่ง
จะได้แผ่นทำลำสี evergreen เท่ากับว่าแพ็คนั้นเราได้x2 คุ้มสุดคุ้ม ที่สำคัญ ใครชอบมาร์คหน้า
ทำโลชั่นมาร์ค สำลีอิปซ่าทำได้ด้วยอ่า ถึงว่าทำไมต้องทำมาแบบเหนียวนุ่ม ทรายไม่มีอะไรจะติ
เพราะซื้อมาใช้ด้วยความอยากส่วนตัว แล้วปรากฎว่าปลื้มสุดพลัง

ตอนนี้ทรายซื้อเคาเตอร์ตลอดแล้ว เพราะพี่คนนั้นบอกว่าสำลีของขาด ไม่มีมาขาย แต่ไปเคาเตอร์
ก็มีนะ ทรายอาศัยว่ามีบัตรแพตตี้ของพารากอนลดได้อีก10% ก็ยังดีอ่ะนะ

Photobucket

ส่วนตัวข้างบนนี้ เพิ่งจะมาเลิฟๆ อันนี้ไม่ได้ซื้อมาใช้เอง แต่ได้มาตอนงานประกวดเจ้าหญิงอีทูดี้
แล้วไปพักต่างจังหวัดกัน ทางทีมงานเตรียมไว้เป็นของใช้ในห้องทุกชิ้นเป็นอีทูดี้หมดเลย ทราย
เอาสำลีที่แกะแล้วที่บ้านไป ก็เลยเก็บกล่องนี้กลับมา เก็บมาไว้จนนานนม ไม่เคยหยิบมาเปิดใช้
จนหลายวันก่อน ไปเดินพารากอนกับพี่ตูน แล้วพี่ตูนบอกว่าจะแวะเคาเตอร์อีทูดี้ซื้อสำลีหน่อย
ทรายก็เลยถามๆว่าใช่ตัวนี้หรือเปล่า? ใช้ดีหรอ? อะไรยังไง? ก็เลยเปิดแกะลองบ้าง ปรากฎว่า
เออก็ใช้ดีแฮะ เป็น cotton 100% เหมือนกันกับอิ๊ปซ่า แต่มันมีความต่างกันอยู่มากเหมือนกัน

Photobucket

ตัวนี้ในกล่องมี 80แผ่น เป็นแผ่นขนาดพอๆกับ evergreen เรียกว่าไงดี ขนาดมาตรฐานแล้วกัน
ใหญ่กว่า evergreen หน่อยนึง ไปสืบราคามา 155บาท ถูกกว่าอิ๊ปซ่าแฮะ

Photobucket

ที่แปลกคือ เมื่อพลิกกลับด้านดูเราจะเห็นช่องแหวกออกมาได้ เหมือนกับว่าเป็นถุงที่ยัดใยcotton
เอาไว้ข้างในอ่าค่า ในรูปทรายลองแหวกออกมาให้ดู ข้างในมีใยนุ่มๆอยู่เต็มเลย

Photobucket

ทีนี้ด้วยความไม่รู้ว่ามันใช้ยังไง อ่านก็ไม่ออก ก็เลยลองเดามั่วๆว่า มันคงจะสอดนิ้วเข้าไปได้
เหมือนกับเวลาที่BAสอนใช้สำลี จะให้เอาสำลีสอดระหว่างนิ้วชี้/กลาง/นาง เพื่อจับให้มั่นๆเวลาเช็ด
อีทูดี้เค้าชอบทำอะไรเก๋ๆที่คนอื่นไม่ค่อยคิดทำกัน ทรายก็เลยอุปมาอุปไมยเอาเองว่าใช้แบบนี้หละ

Photobucket

แบบนี้เค้าเรียกสำลีรีดขอบใช่ไหม? เวลาใช้ไปมันจะไม่ยุ่ยเปื่อยออกมา แต่ว่าตัวนี้ข้างในนุ่มจริง
แต่ส่วนข้างนอกมันค่อนข้างกระด้างนิดนึง ทรายว่าเหมาะกับการที่เราเอาไว้เช็ดผผิวหน้าโดยรวม
หรือเหมาะเวลาใส่โทนเนอร์อ่า มันไม่กินเนื้อผลิตภัณฑ์

Photobucket

ลองฉีกออกมาให้ดูเลย หน้าตาข้างในเป็นแบบนี้ แต่ต้องระวังพอโดนน้ำเปียกเกินไปช่องที่เอา
นิ้วสอดเข้าไปมันจะขาดออกมาแบบนี้ แต่อันนี้ทรายจงใจฉีกเองนะ แต่กว่ามันจะขาดเราก็เช็ด
จนสะอาดไปแล้วหละ

Photobucket

สรุปคือตัวนี้ก็ค่อนข้างชอบ อาจจะไม่มากเท่าอิปซ่า แต่ฟังชั่นความเก๋ กับการใช้งานง่ายให้ไปเต็มๆ

Photobucket

ทีนี้มาถึงสำลีสามัญประจำบ้าน ใครไม่มี ใครไม่เคยใช้ โครตเชย! คือทรายใช้ Evergreenมา
ตลอดตั้งแต่โตจำความแรดของตัวเองได้ 55555 คือตั้งแต่เริ่มแต่งหน้าก็ใช้มาตลอด โดยเฉพาะ
ต้องเป็นแบบรีดขอบเท่านั้น บางคนอาจจะไม่ชอบ แต่ทรายชอบเพราะมันกันยุ่ยได้ระดับนึงเลยอ่ะ
คือทรายไม่ชอบเวลาสำลีมันยุ่ยๆเปื่อยๆแบบเช็ดไม่เท่าไหร่ อะไรวะยุ่ยละ เสียอารมณ์ -*-

Photobucket

Evergreen นี่ไม่น่าจะใช้ Cotton 100% แต่มันแสนจะถูกแล้วก็หาซื้อโครตง่าย สะดวกมากๆ
ส่วนคุณภาพก็ตามราคา แต่ก็จัดว่างดงามเพราะใช้มาหลายปีก่อนที่จะเจอสำลีแบรนด์เข้าไป
ทรายก็ปลื้มใจกับ evergreen อยู่มากโขนะ ที่สำคัญมันชอบแถมคัตตอนบัด ถูกแล้วยังใจดีอีก!

Photobucket

น่าเสียดายที่evergreenยุ่ยง่าย ใช้แรงนิดนึงก็ย้วยยานแล้ว แต่ก็ยังดีกว่าอีกหลายยี่ห้อในเกรด
เดียวกันนะ บางยี่ห้อแบบว่า ถูไปที่หน้าปืดเดียว มันย้วยเหมือนจะขาดออกจากกันแล้ว T0T

Photobucket

ตอนนี้ทรายก็ยังคงใช้ Evergreen อยู่ด้วย มีเป็นสามัญติดบ้านไว้ เวลาไหนที่ไม่ค่อยจะมีกินก็จะ
หยิบevergreenมาใช้เหมือนเดิม อู้หูฟู่ฟ่าหน่อย ก็ไปสอยแบรนด์แพงๆมาใช้ ตามอัตภาพค่ะ

Photobucket

สรุป : ที่พูดๆมาทั้งหมดเนี่ย คือมันเป็นความชอบส่วนตัว ความตระหนักส่วนตัว อย่างที่เคยเขียน
ไว้ในบล็อคที่พูดเกี่ยวกับBioderma ว่าอยากให้สาวๆใส่ใจกับการเช็ดทำความสะอาดหน้า อย่าไปงก
ว่าแบบว่าเปลืองจังใช้สำลีหลายแผ่น หรือเปลืองจังใช้น้ำยาทำความสะอาดเยอะ คือใบหน้าเราอ่ะ
มันเป็นที่สุดของที่สุดแล้ว ต้องดูแลรักษา ลงทุนกับตรงนี้ดีกว่าไปลงทุนกับหมอนะ ราคามันไม่คุ้มกัน

สำลีที่ดี ไม่บาดหน้า บาดผิว มันก็จะช่วยชะลอความแก่ได้ด้วย ผิวเราจะไม่ถูกทำร้ายโดยตรงมาก
บางแบรนด์นี่ถึงกับคอนเซินเรื่องของการที่เอามือสัมผัสผิวหน้า หรืออะไรพวกนี้เลยนะ แต่ทั้งหมด
มันก็แล้วแต่ความชอบ ความรู้สึกส่วนตัวของแต่ละคน ทรายแค่แชร์ในมุมมองของทรายน๊า

Wishlist : ตอนนี้มีสำลีที่อยากลองอีกหลายยี่ห้อเลย
1. Shisedo แบรนด์นี้พี่แม่ค้าคนนั้นบอกว่าอันนี้ก็เริศไม่แพ้อิปซ่า
2. Kanebo แบรนด์นี้เคยได้ยินใครสักคนพูดในเวิร์คช็อปว่าเจ๋ง ไม่รู้ว่ามีขายไหม?
3. The Body Shop เห็นพี่มดไปซื้อมาใช้อยากลองบ้าง เป็นแผ่นกลมๆประหลาดดี
4. Muji สำลีเทพในตำนาน เห็นเค้าว่าราคาในไทยแพ๊งแพง แถมขาดตลาดตลอดเวลา สักวันจะต้องโดนนนน


เอาหละค่ะ ก็จบกันเท่านี้ก่อนเนอะ ไว้วันหลังมาเขียนอะไรแชร์ด้วยใหม่ พบกันใหม่น๊า <3

Disclaimer: NON SPONSOR CONTENT




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 22 กรกฎาคม 2554 18:40:48 น.
Counter : 17010 Pageviews.  

Review: Bioderma Cleansing Water ตัวเช็คเครื่องสำอางค์ที่ปลื้มมาก

เกริ่นถึงผลิตภัณฑ์ของBiodermaในช่องทางFBกันมาพักใหญ่แล้ว สาวๆที่ตามแต่ในบล็อค
อาจจะยังไม่คุ้นเคย และสงสัยว่าเจ้าไบโอเดอม่าที่ทรายพูดถึง มันคืออะไร? ทำไมต้อง
เขียนถึงด้วย งั้นก่อนอื่นเรามาเริ่มทำความรู้จักกับแบรนด์Biodermaกันก่อนแล้วกันนะคะ

Bioderma หากใครเรื่มเล่นอินเตอร์เน็ตแล้วสนใจเรื่องของความสวยความงามมาตั้งแต่
ช่วง2-3ปีก่อน น่าจะคุ้นเคยกับชื่อนี้กันนี้เพราะว่ามีผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง
ชื่อดังที่เรียกว่าฮิตติดลมบนกลบทุกกระแส ขาดตลาดเป็นประจำ ด้วยความที่หาซื้อง่ายตาม
วัตสันและหลายเสียงที่ใช้แล้วยืนยันว่าดีจริง จึงได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งเจ้าผลิตภัณฑ์
ทำความสะอาดผิวหน้า เช็ดเครื่องสำอางพวกนี้ก็จำเป็นมากสำหรับพวกที่แต่งหน้าทุกวันอย่าง
เราๆ แน่นอนว่าตัวทรายเองก็เป็น1ในจำนวนคนเหล่านั้น ที่สนใจและหันมาใช้ไบโอเดอร์มา
ด้วยความคิดในใจที่ว่า แต่งหน้าทุกวันต้องล้างให้สะอาด สิวจะได้ไม่มาเยือนนั่นเอง

แต่… เหมือนกรรมซัดทรายใช้ได้เพียงแค่2ขวด ก็หาซื้อไม่ได้อีกเลย หมดเกลี้ยงทุกวัตสัน
ถึงขั้นไปตามหากันแถวห้างต่างจังหวัดก็หมด มันเกิดอะไรขึ้นไม่มีใครทราบ โลกอินเตอร์เน็ต
ปั่นป่วนกันมาก แล้วก็ได้รับข่าวร้าย ว่าBioderma หมดสัญญากับผู้นำเข้าเก่า จะต้องลาจาก
ประเทศไทยไป...T^T ทีนี้สาวกเก่าที่ยังพอมีหนทางและกำลังทรัพย์ก็พากันกว้านซื้อกักตุน
จากต่างประเทศ ในขณะที่อีกหลายคนถอดใจ ตามหายี่ห้ออื่นมายาใจ ทรายเป็นพวกหลังค่ะ

หลังจากทดลองใช้ยี่ห้ออื่นอยู่ปีนึง … ก็ได้รับอีเมลล์ไม่คุ้นหน้าคุ้นตา จากบริษัทนำเข้าเวชภัณฑ์
รายหนึ่งแจ้งว่า มีผลิตภัณฑ์ที่กำลังจะนำเข้ามาอยากจะให้ทดลองใช้ อ่านไปเรื่อยๆปากก็เริ่มยิ้ม
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด กลับมาแล้ว!!!!!! Bioderma กลับมาแล้ว ดีใจราวกระดี่ได้น้ำ - -'

พี่ๆร่วมวงอีกหลายคนที่รู้ข่าวก็พากันดีอกดีใจ ก็นะ.. ของชอบกลับมาใครเล่าจะไม่ดีใจบ้าง?
อย่าหาว่าเชียร์ออกนอกหน้าเลย เพราะใช้จริง ชอบจริง แล้วที่เขียนมันก็ออกมาจากใจจริงๆ
เป็นแฟนมานานแสนนาน มีโอกาสได้ร่วมงานกันถือเป็นเกียรติมากๆ

เข้าเรื่องละนะ เกริ่นยาวมากกกก เหมือนคนอัดอั้นภาระทางโลก ฉุดรั้งเลยไม่ค่อยได้อัพบล็อค
สักเท่าไหร่ นี่พิมพ์ออกมาได้เรื่อยๆไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ราวกับทำวิทยานิพนธ์อยู่ - -' ช่วยด้วย!

Photobucket

สำหรับครั้งนี้ทางตัวแทนจำหน่ายประเทศไทยส่งผลิตภัณฑ์ของ Bioderma มาให้ทรายทดลอง
ทั้งหมด 4 ชิ้น ตามรูปนะคะ ซึ่งตอนนี้มีขายแล้วในวัตสันเหมือนเดิม แล้วก็กำลังจะมีขายในโรง
พยาบาลชั้นนำด้วย แต่ยังไม่รู้เมื่อไหร่เน้อ เค้าบอกว่าเร็วๆนี้ แถมจะยกขบวนกันมาจากฝรั่งเศษ
ทั้งครอบครัวเลยด้วย (ถ้าลองGoogleดูจะเห็นว่าแบรนด์นี้ผลิตภัณฑ์เวชสำอางเยอะมากค่ะ)

Photobucket

แนะนำตัวกันหน่อย รูปบนนี้เป็นครีมกันแดดนะคะ ชื่อว่า Photoderm Max 50+ ตามข้อมูล
ของผลิตภัณฑ์เค้าบอกว่าเป็นครีมกันแดดเนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะ ทนเหงื่อและน้ำ
สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA ได้สูงสุด PA38 และปกป้องรังสี UVB ได้สูงสุด SPF50+
แถมยังได้รับการจดสิทธิบัตร "Cellular Bioprotection" ในเรื่องของการปกป้องผิวล้ำลึก
ตัวทรายเองยังไม่เคยได้ลอง เพราะคิวทดลองกันแดดยาวเป็นหางว่าว เอาไว้ในภายภาคหน้า
หากมีโอกาสจะมาเล่าให้ฟังกันนะคะ

Photobucket

ตัวต่อมาอยู่ในไลน์ที่ชื่อว่า Sebium สังเกตง่ายๆคือจะฝาสีเขียวและช่วงตัวเป็นสีฟ้าค่ะ
แล้วตัวนี้เหมาะกับผิวแบบไหน?

1. ผิวผสมหรือผิวมัน
2. ผิวที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดสิวง่าย
3. ผิวที่มีรูขุมขนกว้าง

แปลได้ว่าผลิตภัณฑ์ของBioderma เป็นUnisexนะจ๊ะหญิงหรือชายก็มีสิทธิ์ใช้ได้เหมือนกันจ้า

Photobucket

ตัวCleaner Sebium จะมีอยู่ 2 สูตรให้เลือกคือ สูตรที่ไม่ต้องล้างออกด้วยน้ำ (รูปด้านบน)
กับใช้แล้วต้องล้างด้วยน้ำตามอีกที (รูปบนที่มีฝาปั๊ม) ซึ่งทั้งสองสูตรนอกจากทำความสะอาด
ผิวลึกถึงรูปขุมขนแล้ว ก็จะมีผลช่วยลดปัญหาผิวด้านบนนั่นแหละนะ

Photobucket

ทีนี้เราก็มาถึงพระเอกของบทความนี้ คือทรายเลือกเขียนรีวิวตัวนี้เพราะว่าส่วนตัวซื้อใช้อยู่แล้ว
ในรูปขวดที่ลูกศรชี้ไปคือขวดของทรายที่ใช้อยู่ กับอีกขวดที่เค้าส่งมาให้ลอง ที่จริงแล้วเรียกว่า
ไม่ต้องทดลองกันให้เสียเวลา สามารถเขียนออกมาจากประสบการณ์ตรงได้เลย >///<

Photobucket

ตัวนี้เป็น Cleanserสูตรน้ำ ชื่อว่า Sensibio H2O สังเกตไหม? ว่าหน้าตามันเหมือนกับเจ้าตัว
สีฟ้าๆข้างบน แต่มันมีความแตกต่างกันตรงที่่ ตัวฝาชมพูนี้มีคุณสมบัติเหมาะกับผิว4ชนิดนี้ค่ะ

1. สำหรับผิวธรรมดา หรือผิวแห้ง
2. สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย
3. ผิวหลังการทำ Laser, Peeling หรือพวก Treatment ต่างๆรวมถึงผิวที่ถูกแดดเผาด้วย
4. ผิวหน้าที่แดงจากการอักเสบโดยเฉพาะ เช่นคนที่มีปัญหาทางโรคผิวหนัง

ทรายเลือกใช้สูตรนี้ เพราะหลายปีก่อนทรายก็เลือกตัวนี้ 555 ตอบง่ายไปไหม? แต่ว่าก็หา
คำตอบให้ตัวเองเหมือนกัน โดยการถามกับทางแบรนด์ว่าทรายเลือกถูกหรือเปล่า? คำตอบ
ก็คือถูกแล้ว จากที่ทรายเล่าปัญหาผิวและอาการของผิวปกติให้เค้าฟัง ก็เหมาะสมกับตัวฝา
สีชมพูนี้แล้วค่ะ^^ ที่จริงทรายเป็นคนผิวแดง แบบว่าแดงโดยกำเนิด เช็ดหน้าออกมาจะเห็น
ว่าผิวแดงมาก =*= แล้วก็แพ้ง่ายมากๆ ไปทำทรีทเม้นหรืออะไรเกี่ยวกับหน้าทีไรจะต้องถูก
ถามทุกทีว่า ทำไมหน้าแดงจังคะ เจ็บป่วยตรงไหนไหม? ไม่สบายหรือเปล่า? ทั้งๆที่ก็ปกติดี
แต่เวลาแพ้อะไร หน้าจะออกอาการแสบคันมาอันดับแรกเลย แพ้มากก็จะคันยิบๆแล้วผื่นขึ้น
ทันตาเห็น น่ากลัวแท้ ...

แต่ทรายก็ยังแอบสงสัยนะว่า แล้วทรายเองก็รูุมขนกว้างแถมเป็นสิวง่ายมากๆ อย่างนี้ก็น่าจะ
เหมาะกับตัวสีฟ้าด้วยหรือเปล่า? คำตอบคือ ตัวฝาเขียวเกรงว่าจะแรงไป ดูจากผิวทรายแล้ว
ฝาชมพูที่อ่อนโยนกว่าเหมาะกว่าแน่ๆ

Photobucket

ตัวสีชมพูตัวนี้ตามเอกสารแล้ว Oil-free, Soap-free, Alcohol-free สวรรค์ของผิวแพ้ง่าย
โดยแท้กันเลยทีเดียว อันที่จริงแล้วบอกตรงๆตอนเลือกซื้อเมื่อครั้งแรกโน้น ทรายไม่ได้สนใจ
ข้อมูลอะไรของผลิตภัณฑ์หรอก เห็นเค้าว่าดีกัน แล้วก็มันเป็นสูตรน้ำตัวแรกเลยที่ทรายรู้จัก
ก็เลยอยากลองใช้ เพราะส่วนตัวแล้วทรายแพ้cleansing สูตรoil แพ้ยับเยิน จนต้องหันมา
ซบสูตรน้ำนม แต่ก็ยังไม่ได้ปลื้มเต็มที่เพราะบอกว่าน้ำนม แต่ถูตอนแรกมันก็เป็นน้ำมันอยู่ดี
โดนน้ำถึงจะเป็นน้ำนม อย่างนี้เรียกน้ำนมปลอมหรือเปล่า? ในท้องตลาดส่วนใหญ่เป็นงี้หมด
พอได้ใช้ Bioderma หลงรักมากนี่ไม่แปลกใจแต่อย่างใด ตรงตามที่ต้องการ

วิธีใช้ผลิตภัณฑ์ก็คือ เปิดฝาออกมา ทรายชอบมากเลยอ่ะ ไม่ต้องปั๊มๆมันกดยาก เทๆเลยง่ายดี
ทีนี้ก็เทลงบนสำลีค่ะ พอประมาณไม่ต้องชุ่มมากเกินไป แต่ก็อย่างกมากนัก จากนั้นก็เช็ดทั่วหน้า

Photobucket

ส่วนตัวอยากแนะนำให้เพื่อนๆเลือกสำลีดีๆหน่อย มันจะไม่บาดหน้า พวกCotton 100%จะดีมาก
เช็ดไปในทางเดียวกัน ไม่ใช่ถูเหมือนหน้าเป็นกระดานซักผ้า ขวดชมพูนี้เช็ดได้แม้กระทั่งรอบดวงตา
ดังนั้นใครที่ใช้พวก eye-remove ลบพวกเครื่องสำอางหนาๆรอบดวงตาไปก่อนแล้ว อย่าได้กลัว
เช็ดทับไปเลย เอามันออกไปด้วยให้หมดอีกรอบ

แต่... ปัญหาของพวกเราคือ “ความงก” ทรายอ่ะ เลิกงกมานานแล้ว ก็เลยอยากจะแชร์อีกครั้ง
เคยพูดไปในคลิปล้างหน้าแล้วทีนึงว่า อย่าไปคิดเล็กคิดน้อย กับการเช็ดล้างเครื่องสำอาง บางคน
กลัวเปลืองสำลี ทั้งที่ใช้ห่อละแค่ 20บาท - -’ เช็ดทีนึงทบแล้วทบอีก หน้านึงใช้ไม่เกิน3แผ่น OMG!

Photobucket

ทรายอยากเตือนน๊า ประหยัดสำลี แต่ไปเสียค่ารักษาหน้าเป็นหมื่นๆ มันไม่คุ้มหรอก ลงทุนตรงนี้
รักจะแต่งหน้า ก็ต้องรู้จักทำความสะอาดหน้าให้ดี ..ผิวสวย เริ่มต้นที่การทำความสะอาด..
อย่าไปกังวลว่าจะเปลือง เช็ดๆเข้าไปเถอะ ทรายอ่ะ เช็ดหน้าทีนึงใช้สำลีไม่ต่ำกว่า 8 แผ่นนะ
ไม่ได้โม้ แต่ทรายเช็ดจนกว่ามันจะค่อนข้างขาวเลยอ่ะ ให้แน่ใจว่าเครื่องสำอางไปหมดแล้วแน่ๆ
เข็ดแล้วกับผิวหน้าเละเทะแบบเมื่อตอนวัยรุ่น ไม่เอาแล้วเสียดายผิวมากๆ เพราะความไม่รู้จักหา
ความรู้นี่แหละ ถึงเสียใจจนทุกวันนี้ ตอนนี้บอกได้เตือนได้ก็อยากจะเตือนเพื่อนๆจริงๆนะ

Photobucket

หลังจากเช็ดเสร็จแล้วใครจะไม่ล้างด้วยอย่างอื่นต่อก็ได้ เพราะแบรนด์เค้าเคลมว่าสะอาดพอ
แต่สำหรับตัวทราย ทรายเป็นโรคจิต มันคุ้นเคยกับการล้างด้วยอย่างอื่นต่อมากกว่า ทรายก็
จะล้างด้วยโฟมล้างหน้าที่ใช้ประจำก็เป็นอันว่าเสร็จขั้นตอนค่ะ

สรุป ;

พูดมาเยอะมากอ่ะ เลยอยากสรุปสั้นๆ ต้องมีคนถามอยู่แล้วว่าระหว่าง Bioderma กับ Cx
ต่างกันยังไง? อันไหนดีกว่ากัน? คำถามเบสิคมากเพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำความสะอาดหน้า
สูตรน้ำเหมือนกัน คนใช้เยอะเหมือนกัน แถมหาได้ในวัตสันเหมือนกันอีก ทรายคิดว่าคงไม่ผิด
อะไรถ้าจะมาตอบให้อ่านกันตรงนี้ ว่าทรายก็ชอบทั้ง2 ยี่ห้อ เพราะก็ใช้ทั้ง2ยี่ห้อมาตลอดเช่นกัน
เอาเป็นว่าทรายให้คำตอบแบบนี้นะ

Cx(แบรนด์ที่คุณก็รู้ว่าอะไร) = มากจากญี่ปุ่น , ดีมาก , ราคาถูกมาก, หาซื้อง่าย
Bioderma ตัวH20 นี้นะ = มาจากฝรั่งเศส, ดีมากกว่า, ราคาแพงเมื่อเทียบกับCx, หาซื้อง่าย

สรุปให้แบบนี้แล้ว ทรายว่าน่าจะเป็นคำตอบให้เพื่อนๆตัดสินใจเลือกซื้อกันได้ง่ายๆตามความ
ต้องการมากน้อยแค่ไหนและกำลังทรัพย์ของแต่ละคนค่ะ

ทีนี้หากพูดถึงเรื่องที่หลายๆคนบ่นกันมาแต่ไหนแต่ไรว่า Bioderma ทำไมแพงจัง ขายอยู่แค่
ในวัตสันราคาเกือบพัน เป็นไปได้ไง? ..

ตอนแรกฟังเฉยๆทรายก็เคยคิดแบบนี้เหมือนกัน จนได้ฟังทัศนคติหลายๆคนมากขึ้น ก็เริ่มคิด
เองเป็นบ้างแล้ว ก็อยากจะแชร์ในมุมมองของตัวเองบ้าง ว่าหากคิดว่าเทียบกับแบรนด์เล็กๆใน
วัตสันแล้ว แน่นอนว่าขวดขนาด 250ml. ราคา 8xx บาท แหมมันแพงจัง อีกยี่ห้อปริมาณ
มากกว่า ราคาถูกกว่าตั้งครึ่งนึง ...

ก็จริงนะ ถ้ามองแบบนั้นมันก็จริง แต่บังเอิญว่าทรายเคยเห็น shop ของ Bioderma ที่ฮ่องกง
ซึ่งเป็น Stand alone stores จริงๆ แล้วก็จัดเป็นเวชสำอาง ที่สามารถขายในโรงพยาบาล
ได้ด้วย ก็เลยทำให้รู้ว่า Position ของแบรนด์มันควรไปเทียบกับCounter Brand ดังๆ มุมมอง
ของทรายเลยต่างไปว่า เมื่อเทียบกับจุดที่ควรเทียบ ราคาของBioderma ไม่ได้แพงอย่างที่เคย
เข้าใจ ออกจะราคาน่าคบด้วยซ้ำ เวลาไปซื้อโฟมล้างหน้าที่counter brand ราคาส่วนใหญ่ก็
เริ่มต้นที่ 1,100 บาทแล้ว ... ไบโอเดอร์มาน่ารักไปเลยใช่มะ?

แต่ก็อย่างว่ามันอยู่ที่กลไกลการตลาด จะสื่อสารออกมายังไงให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเข้าใจ
ตรงนี้ทรายไม่เกี่ยวข้องด้วย เพียงแต่ทรายมองมุมนี้เห็นแบบนี้ แค่นั้นเองค่ะ ^^ ส่วนใครใคร่
มองมุมไหน เลือกซื้อหรือไม่ ก็สุดแท้แต่การตัดสินใจของแต่ละคนนะคะ ;D




Disclaimer : Sponsored by Bioderma Thailand Sole Distributor s.m. pharmaceutical.

ข้อมูลอ้างอิง: //www.smpharma.co.th/bioderma1.html







 

Create Date : 19 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 19 กรกฎาคม 2554 0:22:46 น.
Counter : 76971 Pageviews.  

Review: ผลทดลองใช้1สัปดาห์กับ SMOOTH E BABY FACE GEL



รีวิววันนี้เป็นความรู้สึกหลังจากทดลองใช้เจลล้างหน้าของสมูทอี ที่เพิ่งออกใหม่นะคะ
ทรายรับหน้าที่ทดลองใช้ดู เค้าคงเลือกแล้วหละว่าผิวทรายเหมาะกับผลิตภัณฑ์
ตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรเจลนะคะ เหมาะกับคนเป็นสิว แล้วก็ผิวแพ้ง่ายค่ะ

ข้อความในรูปนี้ทรายไปแคปมาจากเว็ปสมูทอีแฮ่ะๆ //smoothebabyfacegel.com

Photobucket

หน้าตาตัวจริงเป็นแบบนี้ค่ะ ในมือทรายคือหลอดไซส์ใหญ่น๊า 359บาทจากวัตสัน
แต่มีคนบอกว่าซื้อตามร้านขายยาไซส์นี้ 240บาทเองอ่า มันต่างกันขนาดนั้น?!!!!
ดีนะไม่ต้องจ่ายเอง ถ้าต้องจ่ายเองคงแอบเฟลน่าดู >///<

Photobucket

เทียบกับมือทราย หลอดใหญ่มากอ่าาาาาา เห็นแล้วแอบตกใจนึกว่าแชมพู

Photobucket

ด้านหน้าจะมีสติกเกอร์แบบนี้ด้วย ไม่รู้ใช้กันปลอมหรือเปล่า555 กำลังอินน์นะ

Photobucket

ส่วนนี่เป็นด้านหลังค่ะ ก็จะมีส่วนผสมบอกครบถ้วนเผื่อใครชอบอ่านส่วนผสมด้วย

Photobucket

ฉลากภาษาไทยจะอยู่ที่ซองพลาสติกแพ็คเกจด้านนอกนะคะ

Photobucket

ตอนทรายทดลองก็เลยลองถามสาวๆในFanpageดูด้วยว่ามีใครเคยใช้บ้างหรือเปล่า?
แล้วเป็นอย่างไรกันบ้าง? ปรากฎว่าเข้ามาตอบกันเต็มเลย คือทรายก็อยากทราบความเห็น
คนอื่นด้วยเหมือนกันแฮ่ะๆ ก็เลยแคปมาแปะไว้ด้วย เผื่อใครอยากอ่านความเห็นท่านอื่นด้วย
(ชี้แจงวันที่ในรูปนิดนึง คือทรายแคปเจอร์ออกมาวันถัดจากที่ลองวันแรกนะ)

Photobucket

Photobucket

ทีนี้มาดูเนื้อผลิตภัณฑ์กันบ้างดีกว่า

Photobucket

บีบออกมาจะเป็นเนื้อเจลเหลวลื่นๆ สีขาวค่ะ ทรายว่าบีบประมาณนี้ก็พออ่า ประมาณเหรียญสิบ

Photobucket

พอถูเบาๆบนฝ่ามือ จะไม่เหมือนยี่ห้ออื่นตรงที่ ไม่ค่อยมีฟองนะคะ ซึ่งสมูทอีจะเคลมเรื่องของ
เทคโนโลยีโฟมไม่มีฟอง เจลไม่มีฟอง มาตลอด เค้าว่าจะได้ไม่มีประจุไฟฟ้า ไม่ทิ้งสารตกค้าง
ตรงนี้ทรายเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่มีความรู้ทางด้านนี้ เอาเป็นอาศัยความรู้สึกเล่าแล้วกันเนอะ

Photobucket

ความรู้สึกจากครั้งแรกที่ได้ลองใช้ :

ครั้งแรกที่ได้ลองทรายติดใจเรื่องของความลื่นค่ะ คือตอนที่ล้างออกมันเหลือความรู้สึกว่า
เอ๊ะ! ทำไมมันลื่น หรือเราล้างไม่หมดเอง? ก็เลยล้างๆอีกหลายน้ำ ก็ยังลื่นๆผิวเหมือนเดิม
จนทำให้เกิดแว๊บในหัวว่า ชักไม่แน่ใจ ว่ามันจะสะอาดหรือเปล่าเนี่ย? ก็เลยมาลองถามสาวๆ
ในเฟซบุคดู ปรากฎว่า ทุกคนยืนยันความรู้สึกเดียวกัน ว่าเป็นปกติของสมูท อี เจล ตัวนี้
ทรายก็เลยสบายใจว่า โอเค รู้สึกตรงกันแปลว่าเราไม่ผิดปกติ 555 ส่วนตอนซับหน้าแล้ว
ก็รู้สึกดีค่ะ ผิวไม่แห้งตึง ไม่แสบ ไม่เคืองอะไร เห็นเค้าเคลมว่าไม่กระทบแม้แต่ผิวในส่วน
ของรอบๆดวงตา ที่บอบบาง ก็เลยนวดไปทั้งหน้าเลยไม่ได้เว้นส่วนตาไว้ ซึ่งก็ไม่เป็นไรตาม
ที่เค้าว่านั่นแหละค่ะ

หลังจากทดลองใช้ 1สัปดาห์ :

ทรายเริ่มชินกับความลื่นค่ะ ไม่รู้สึกตะหงิดๆเหมือนตอนแรกแล้ว แล้วก็รู้สึกดีกับผิวที่ไม่ตึง
ไม่แห้ง ต้องบอกว่าทรายอ่ะเป็นคนผิวเซนซิทีฟมาก ถ้าอะไรนิดหน่อยมากระทบหน้าแล้วแพ้
อาการจะขึ้นทันทีตั้งแต่ครั้งแรกเลย สรุปแล้วคือ สมูท อี เจล ผ่านกับผิวหน้าทราย ไม่แพ้
ไม่เคืองอะไร สิวไม่ขึ้นเพิ่ม (หมายถึงสิวที่จะขึ้นถ้าเราแพ้นะคะ) ส่วนสิวเก่าๆก็ยังคงเป็น
ตามปกติของมัน ต้องชี้แจงว่า สิวของทรายเป็นสิวฮอร์โมนโดยส่วนมาก แต่มันไม่ค่อยขึ้นหรอก
จะมาที่กรอบหน้าซะมากกว่า แต่ถ้าแพ้อะไรบนหน้า มันจะมาแบบจัดเต็ม ก็สังเกตมาตลอด
สัปดาห์ไม่มีกลุ่มสิวอักเสบหรือผื่นขึ้นเพิ่มที่หน้าตรง ตรงนี้ทรายก็ขอถือว่าผ่านเหมือนกัน
สำหรับผิวหน้าเป็นสิวและบอบบางของทราย ทรายไม่รู้ว่าคนผิวมันๆใช้แล้วจะชอบหรือเปล่า
แต่ตัวทรายที่เป็นคนผิวแห้ง ชอบนะคะ มันทำให้ทรายรู้สึกว่าผิวหลังการล้างชุ่มชื้นดี จริงๆ
แล้วตัวล้างหน้าในฝันของทราย ก็ขอแค่ไม่แพ้ เพราะแพ้แล้วสิวจะบุกกระหน่ำ ไม่แห้งตึง
เพราะว่าทรายผิวแห้งมากๆอยู่แล้ว แล้วก็ล้างได้สะอาดจะได้ไม่เสี่ยงกับสิ่งสกปรกที่อุดตัน
เพราะถ้าอุดตันสิวมันก็มาอีกอยู่ดี T^T ตัวนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์ทรายได้ดีในระดับนึงเลยหละ

ส่วนสิ่งที่ส่วนตัวของทรายเองยังรู้สึกไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่และถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ปรับ
สักนิดก็ยังดี คือเรื่องของกลิ่นหอมในผลิตภัณฑ์ คือครั้งแรกๆมันก็หอมดีนะคะ แต่หลังๆจมูก
มัันคงเริ่มชินกลิ่น แล้วทรายรู้สึกว่าเวียนหัว มันเป็นกลิ่นบอกไม่ถูกอ่า คือหอมแต่ไม่ใช่แบบ
ที่ทรายชอบ ทรายชอบกลิ่นหอมอ่อนๆ สบายๆ อันนี้มันเกือบแล้ว แต่มันยังไม่ค่อยสบายเท่า
ที่จินตนาการไว้กับความเป็นเจลอ่าค่ะ หรือว่าเป็นกลิ่นปกติของทุกรุ่นที่สมูท อี ทำหรือเปล่า?
ทรายก็ไม่แน่ใจเพราะว่าไม่เคยใช้นานมากๆแล้ว เมื่อก่อนทรายก็เคยเป็นแฟนสมูทอี อยู่พัก
นึงเหมือนกันนะ แต่เป็นตอนที่เริ่มเป็นวัยรุ่นโน้นน นานแสนนานมาแล้ว >///< แต่ว่าก็เข้าใจ
อ่าค่ะ ว่าคนเราอาจจะมีเซ้นต์และความชอบที่ไม่เหมือนกัน ไม่หอมสำหรับทราย ก็อาจจะเป็น
ที่ชื่นชอบสำหรับคนอื่นได้ ^ ^

เพื่อนๆที่กำลังเล็งหาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่เหมาะกับผิวตัวเองอยู่แล้วมีปัญหา
เรื่องของสิวและผิวที่บอบบางแพ้ง่าย สมูท อี เจล ตัวนี้ ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของ
เพื่อนๆนะคะ ด้วยราคา ความน่าเชื่อถือในตัวแบรนด์ และสถานที่จัดจำหน่ายที่หาซื้อง่าย
ข้อมูลจากทรายก็เป็นแค่เพียงความรู้สึกส่วนตัวนะคะ แชร์ให้ฟังกันเป็นหนึ่งความคิดเห็นค่า


แล้วก็ทรายมีวิธีการล้างหน้าด้วย Smooth E Baby Face Gel อย่างถูกต้องมาฝากกันด้วย
ทั้งหมดมี 6 ขั้นตอนนะคะ ล้างตามนี้จะได้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดสูงสุดค่า


Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

ทรายก็อปมาจากเว็ปเช่นกัน 555 เค้ามีเวอร์ชั่นดุ๊กดิ๊กๆด้วยนะคะ แต่ว่าทรายเอาออกมา
ไม่ได้อ่า เพื่อนๆต้องไปดูที่เว็ปตามลิ้งค์ด้านบนที่ทรายให้ไป หรือว่าไปดูที่หน้าเฟซบุค
ของสมูท อี เอง //www.facebook.com/video/video.php?v=10150097907454621

ขอเตือนสาวๆนิดนึงในขั้นตอนสุดท้าย ผ้าที่ใช้เช็ดหน้าควรเป็นผ้าขนหนูที่สะอาด แล้วก็
ขนอ่อนนุ่ม ไม่แข็งบาดหน้านะคะ แล้วก็อยากเช็ดแบบถูจริงจัง ซับๆเอาน้ำออกดีกว่า ผิวจะ
ได้ไม่กระทบกระเทือนมาก มันดูกระแดะ แต่อยากให้ใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้นะคะ<3

Q&A: ทรายคอมเมนต์เรื่องความลื่นให้ทางสมูทอีค่ะ เค้ามีคำตอบให้สาวๆที่
สงสัยเหมือนๆกับทรายด้วยนะคะ โดยเป็นคำแนะนำและความรู้จากทางทีมแพทย์เค้าค่า

- จริงๆ แล้วแพทย์แนะนำว่าหลังล้างหน้า หน้าต้องไม่แห้งตึง ต้องรู้สึกลื่นๆ ไม่เช่นนั้น
ผิวหน้าจะผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมามากกว่าปกติ เพราะเข้าใจว่าผิวหน้าเราแห้ง ทำให้
หน้ามันกว่าเดิม และนอกจากนี้ยังเป็นการทำลายความชุ่มชื้นของผิวหน้า ทำให้มีโอกาสเกิด
สิวและริ้วรอยได้ง่ายกว่า ซึ่งตรงนี้คนยังเข้าใจผิดกันอยู่เยอะ คิดว่าหลังล้างหน้าหน้าต้อง
แห้งตึง ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดๆ ค่ะ



Disclaimer : This review content sponsored by Smooth E.












 

Create Date : 01 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 1 กรกฎาคม 2554 0:08:40 น.
Counter : 49906 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  

feonalita
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 908 คน [?]




 photo icon_facebook_48_zpsb497412b.png photo icon_instagram_48_zps84436242.png photo icon_youtube_48_zpsfc801391.png photo icon_twitter_48_zps6e17cf8d.png photo icon_pinterest_48_zps16047ffb.png

FEONALITA: Beauty & LifeStyle Blog✰
คำว่า"สวย"ของแต่ละคน มีคุณค่าไม่เท่ากัน
∙•The Beauty of an Individual◀•∙

บล็อคนี้เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 22-11-2006 ค่ะ

feonalita@gmail.com feonalita@gmail.com





Golden Rose Liquid Matte Lipstick “London
“Citra THREE 4D-Plus Eye Palette พาเลทอายแชโดวซัมเมอร์ครบทุกสี
Canmake New Collection ฟรุ้งฟริ้งหลายสิ่งน่ารักจากญี่ปุ่น Winged Liner & Chocolate Lips Inspired by Kylie Jenner
No 7 Matte Lip Crayon & Precision Lips Pencil 9สี LANCOME Juicy Shaker Full Collection










New Comments
Friends' blogs
[Add feonalita's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.