Review: BIOTHERM Life Plankton™ Mask มาส์กที่สาวกแพลงตอนต้องมี!
สวัสดีค่า Blog นี้เป็นรีวิวสกินแคร์ตัวแรกของปี 2016 เลยนะคะ ปกติก็ไม่ค่อยได้รับงานทดลองสกินแคร์อยู่แล้ว แต่เพราะนี่เป็น Life Plankton Mask ทรายไม่ลองไม่ได้จริงๆค่ะ ตั้งแต่ถวายตัวเป็นทาสให้กับ Biotherm Life Plankton™ Essence แล้ว มันหลงหัวปักหัวปำจริงๆ ย้อนไปเมื่อต้นปีที่แล้วนะคะ ทรายได้พาไปทำความรู้จัก กับ Essence บำรุงผิวจาก Biotherm ที่สร้างปรากฎการณ์เป็นกระแสแบบห้างแตกในปีที่แล้ว ของขาดแบบ บ้าคลั่งมาก เพราะว่ามันดีจริงๆค่ะ
ปีนี้เค้าปล่อยหมัดเด็ดอีกแล้ว เปิดตัว BIOTHERM Life Plankton™ Mask ให้ได้เห็นกันเมื่อราวๆเดือน พฤศจิกายน แต่เริ่มขายจริงๆอย่างเป็นทางการทั่วโลกเมื่อวันที่ 15 มกราที่ผ่านมานี้เองค่ะ (พารากอนแอบ มีขายพิเศษก่อนใครตั้งแต่กลางเดือนธันวา) คาดว่ามีหลายคนได้ลองแล้วหละ ตัวทรายเองก็ได้รับโปรดักส์ สำหรับสื่อมาก่อนหน้านั้นเพื่อทดลองใช้ค่ะ ทรายตื่นเต้นมากเลยพอพี่พีอาร์บอกว่า แพลงตอนมีมาส์กแล้ว และมันเป็นแบบ Sleeping Mask ที่ทรายชอบด้วย คาดหวังเอาไว้มากเลยค่ะ เพราะเรารักตัว Essence มาก
พอได้โปรดักส์จริงมาบอกเลยประทับใจตั้งแต่ขนาด แพ็คเกจจิ้ง เนื้อผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ออกแบบมา ให้ใช้คู่กัน มันดูดีไปหมด พูดแล้วจะหาว่าอวย คือตั้งใจอวยจริงๆแหละ อะไรที่ชอบก็มักจะเวิ่นได้ไม่จบไม่สิ้น55
BIOTHERM Life Plankton™ Mask มาพร้อมกับแปรง Smart Brush นะคะ จริงๆขายเป็นแบบอุปกรณ์เสริม ราคา 300 บาทค่ะ จะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้ แต่ว่ามีก็ดีเพราะว่าเค้าออกแบบมาให้หัวแปรงเหมาะกับเนื้อของมาส์ก แล้วก็ในการจุ่มแปรงลงไปตรงๆ 1 ครั้งแบบที่ทรายทำในรูป แปรงมันจะเก็บเนื้อมาส์กขึ้นมาในปริมาณที่เค้า ได้ทำการคำนวนไว้ให้แล้วเรียบร้อยว่า พอเหมาะพอดีกับการทามาส์ก 1 หน้า (ถ้าใครหน้าเล็กมากก็อาจจะพอ เหลือมาทาที่คอได้ด้วยค่ะ) ซึ่งทรายลองแล้ว เป๊ะเวอร์!
คุณสมบัติหลักๆเลยของมาส์กตัวนี้ก็คือ เป็น Healing Mask ช่วยปลอบประโลมผิวจากมลภาวะต่างๆที่เรา ต้องเผชิญตลอดทั้งวันและฟื้นฟูโครงสร้างผิวเรา ปกติแล้วตัว Essence เองก็จะคุณสมบัตินี้เหมือนกันนะคะ แต่พอมาในรูปแบบมาส์กจะเข้มข้นมากยิ่งขึ้นใน ลักษณะแบบ Extreme soothing & intense repair เลยค่ะ
เนื้อมาส์กเค้าออกแบบมาเป็น Essence in Mask เพื่อช่วยให้ Life Plankton™ สามารถทำงานได้ดี และช่วยให้ประสิทธิภาพในการฟื้นบำรุงสามารถทำได้ต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานขึ้น เพราะว่ามีลักษณะแบบ Hydrogel ตัวนี้เค้าพัฒนาให้มีการควบคุมการปล่อยความเข้มข้นของ Life Plankton™ ให้ทีละชั้นผิว โดยที่ ลงได้ลึกถึง 5 ชั้นผิว และล็อคความเข้มข้นของ Life Plankton™ เอาไว้ได้ยาวนาน มันเลยต่อเนื่องและฟื้นฟู ได้ตลอดทั้งคืน ไม่ใช่แค่ทาไปตอนแรกแล้วก็จบเลย
ตัว Life Plankton™เค้าสามารถไปกระตุ้นการสร้าง Collagen ในชั้นผิวของเราได้นะคะ เค้าจะไปกระตุ้น เซลส์ไฟโบบลาสต์ของเราเพื่อให้ขยันไปทำหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน อิลาสติน แล้วก็สร้างเซลส์ผิวใหม่ โครงสร้างใหม่ที่แข็งแรงก็จะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย การร่วงโรยของผิวได้ค่ะ เป็น Anti-Aging ด้วย จริงๆแล้วเรื่องผิวของเรา ถ้าเอาภาษาบ้านๆเลยนะคะ อธิบายง่ายๆก็เหมือนกับบ้าน ถ้าโครงสร้างดีแข็งแรง ผิวเราจะสุขภาพดีค่ะ โครงดีก็จะทนทาน ถ้าโครงไม่ดีก็ถล่มได้
ตอนครั้งแรกที่ทรายทา ทรายแอบตกใจอยู่เหมือนกัน ตอนที่ปาดลงผิวปุ๊ป เห้ยทำไมเย็น คือเย็นโดยที่ เราไม่ได้เอาเข้าตู้เย็นนะคะ ทรายวางไว้ในห้องเฉยๆ และรู้สึกเหมือนเย็นมากขึ้นจนเราไม่แน่ใจว่ามันเย็น หรือว่าชา หรือว่ายิบๆอะไรหรือเปล่า? แต่หน้าก็ไม่แดงนะ ก็เลยไปถามทางแบรนด์ว่า รู้สึกแบบนี้ตอนที่ ใช้ครั้งแรก เราคิดไปเองหรือเปล่า ทางนั้นเค้าหัวเราะเลยค่ะ เพราะว่ามันเป็น Cooling Effect ของมาส์ก ตัวนี้ ที่ออกแบบมาให้สามารถปรับลดอุณหภูมิผิวลงไปได้ถึง 5องศา ประโยชน์คือ ทุกครั้งที่เรามาส์กผิว ด้วย Life Plankton™ Mask ผิวของเราจะได้รับการปลอบประโลมและรู้สึกสดชื่นขึ้นค่ะ
ทรายชอบมากเพราะว่าในการทำงานของทราย มันดูเหมือนสบายนะ แต่จริงๆแล้วมันเหนื่อยมาก เครียด แล้วก็ใช้งานร่างกายเยอะมากๆ ผิวหน้านี่โรยไปตามร่างเลยค่ะ จากเมื่อก่อนทรายไม่เคยมีรอยคล้ำใต้ตา เลยนะ เดี๋ยวนี้ดูรูปหน้าสดทรายสิ มาแล้ว T_T เป็นเพราะเราได้พักผ่อนน้อยมาก แต่โชคดีค่ะ ที่ทรายชอบ บำรุงผิวตัวเอง ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ลืมล้างหน้าทาครีมก่อนนอน ไม่ขี้เกียจเรื่องแบบนี้ตัวเนื้อผิวเองก็เลย ยังดูเด้งพอใช้ได้อยู่ มาส์กช่วยได้เยอะนะคะพูดจริงๆ นี่เสพย์ติดพวก Sleeping Mask มาหลายปีแล้ว เพราะมันใช้ง่ายทาแล้วก็นอนไปเลย อย่าง Life Plankton™ Mask ก็เหมือนกันค่ะ ใช้ทาเป็นตัวสุดท้าย แบบปิดจบแล้วพร้อมนอน ตื่นมาผิวจะรู้สึกต่างมาก มันจะยังรู้สึกชุ่มชื้นอยู่เกือบเหมือนตอนทาครีมเสร็จ ใหม่ๆก่อนนอน อันนี้พูดจริงๆลองสังเกตดูค่ะ ไม่100% แต่ใกล้เคียงมาก เมื่อเทียบกับมาส์กแบบนี้ตัวอื่น ที่สำคัญสำหรับคนบ้าพลัง ตัวนี้ใช้ได้ทุกวันนะคะ ใช้เป็น Routine เลยก็ได้
(หน้าสดจริงๆนะ ก่อนนอนทามาส์กไว้ ตื่นมาล้างหน้าแล้วก็ถ่ายเลย ดูแพนด้าสิ5555 แต่ผิวดีนะ)
เชื่อว่าถึงตอนนี้เริ่มมีคำถามแล้วหละ ว่าใช้อันนี้แล้วต้องใช้ตัว Essence ด้วยไหม? หรือต้องเลือกอย่างใด อย่างหนึ่งเท่านั้นพอ? ทรายคงต้องตอบว่าแล้วแต่ความต้องการ และกำลังทรัพย์เลยค่ะ ส่วนตัวแล้วใช้คู่ มาตลอด คือทรายไม่อยากลดตัว Essence ออกไปเพราะใช้แบบนี้มานานแล้ว ส่วนตัวมาส์กเอง มันก็ เหมาะที่จะใช้แค่ช่วงกลางคืนเท่านั้น กลางวันถ้าใครต้องแต่งหน้าอย่านะคะ อันนี้ขอเตือน เพราะลองแล้ว ตัวเนื้อมาส์กอย่างที่บอกมันเป็น Hydrogel พอมันเคลือบผิวแล้วมันจะเหมือนมีฟิล์มบางๆหุ้มไว้ จริงๆมอง แล้วไม่เห็นนะคะ สัมผัสก็ไม่เป็นไรไม่รู้ด้วยซ้ำ แต่ลงรองพื้นเท่านั้นแหละ หลุดมาเป็นขุยๆแผ่นๆเต็มหน้าเลย ยังลงไปได้แค่แก้ม วิ่งไปล้างออกเลย อุตส่าห์จะลักไก่แบบทาตัวนี้แล้วพุ่งตัวออกจากบ้านเลย ดับฝันค่ะ เพราะฉะนั้นเค้าออกแบบมาให้ใช้กลางคืน ก็ไม่ต้องไปฝ่าฝืนฉลากเค้านะคะ 5555555
และคำถามที่ทรายคิดเผื่อเพื่อนๆค่ะ เชื่อว่ามีคนสงสัยเหมือนกันแน่นอน แต่ทรายตอบเองไม่ได้หรอก เพราะทรายเป็นพวกใช้แล้วคิดยังไงก็เขียน ทรายอ่านส่วนผสมไม่เป็น ก็เลยไปขู่เข็ญเอ๊ยไปถามทาง แบรนด์มาให้เองเลย เรื่องข้อแตกต่างระหว่าง Life Plankton™ Mask และ Aquasource Night Spa เค้าตอบว่างี้นะคะ
ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ตัวจะใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงเหมือนกัน โดยสามารถใช้เป็น Sleeping Mask ค่ะ
แต่ส่วนที่แตกต่างระหว่าง 2 ตัวนี้คือ Aquasource Night Spa จะเน้น benefit ในเรื่อง hydration ค่ะ และเนื้อสัมผัสก็จะโอบอุ้มผิวได้ดีทำให้ผิวคงความชุ่มชื้นตลอดค่ำคืน ตื่นมาพร้อมผิวหน้าใสฉ่ำน้ำ
ส่วน Life Plankton Mask จะเน้นในเรื่องการฟื้นบำรุงผิวให้อ่อนเยาว์ลงและปลอบประโลมผิวค่ะ เนื้อสัมผัสจะซึมซาบได้เร็วกว่า และจะค่อยๆ ปลดปล่อย Life Plankton และสารสำคัญต่างๆตลอดคืน ทำให้รู้สึกได้ถึงการเผยผิวใหม่เพียงชั่วข้ามคืนค่ะ
พิจารณาจากผิวเราก่อน ว่าเราต้องการแก้ปัญหาเรื่องไหน แล้วก็เลือกเอานะคะว่าอยากใช้อะไร ดีทั้งคู่อ่ะ แต่ส่วนตัวทรายเคยบอกไปตอนเขียนบล็อก Night Spa ว่าถ้ามีมาส์กแพลงตอนออกมา ทรายคงกราบถวายตัวเป็นสาวกแน่นอน แล้วมันก็มาจริงๆ สวรรค์! และก็ไม่ผิดหวังเลย ปริ่มมาก กระปุกใหญ่มากทรายว่าทรายใช้ ได้เป็นชาติแน่ ทรายไม่ได้ทาทุกวันค่ะ อาทิตย์ละ 3-4วันได้ ถ้าทาทุกวันคิดว่าคงร่อยหรอกว่านี้มาก ตอนมานี่ มันเต็มกระปุกเลยนะคะ นี่พร่องไปราวๆ 30%แล้ว คนที่เด็ดสุดน่าจะเป็นพี่ปูเป้แกใช้ทุกวันจนมันเหลือแบบ ใกล้หมดแล้ว ทรายแบบเห้ยพี่ ทาหรือโบกค๊าาาาา ไซส์เค้า 75ml นะคะ ราคา 2,100 บาท วางขายแล้ว ไปลองกันได้เลย วันนี้ทรายรู้สึกว่าตัวเองเขียนเยอะมากก 2หน้า A4แล้วอ่ะ พอดีกว่า แล้วไว้พบกันใหม่ค่ะ
*ตัวนี้ทรายแอบใส่ไว้ในวีดีโอ Favorite 2015 ด้วยหละ เพราะว่าทรายได้มาตอนปลายปีก็จริง แต่สำหรับทรายมันปังมากเลยอ่ะ
Disclaimer : Sponsor Content by BIOTHERM Information: https://www.facebook.com/biothermthailand/?fref=ts
Create Date : 19 มกราคม 2559 |
Last Update : 19 มกราคม 2559 14:17:52 น. |
|
0 comments
|
Counter : 60928 Pageviews. |
|
|