[Beauty Rescue] ว่าด้วยเรื่องของฟัน เทคโนโลยีการจัดฟันที่นิยมในปัจจุบัน มีแบบไหนบ้างและเหมาะกับใคร
สมัยนี้การจัดฟันให้เรียงตัวสวยถือเป็นการทำสวยขั้นเบสิคที่เรามองกันเป็นลำดับแรกๆเลยนะคะ เพราะคนเรา มีฟันแท้ได้เพียงชุดเดียว และไม่มีใครรับประกันได้ว่าฟันแท้ของเราที่จะงอกมานั้นจะเรียงตัวสวยอย่างที่เราหวัง หรือเปล่า และที่สำคัญนะคะ การเรียงตัวของฟันทำให้รูปหน้าคนเราเปลี่ยนได้ด้วย บางคนคางเบี้ยวหน้ายื่น เพราะฐานฟันไม่ดี พอจัดฟันแล้วโอ้โหวววว อย่างกับคนละคน บางคนหมดความมั่นในเสียบุคลิคเพราะฟันเก ฟันทับซ้อนไม่สวย ไม่กล้ายิ้ม ไม่กล้าคุย สรุปเลยก็คือ ฟันเป็นอวัยวะนึงที่เราต้องให้ความสำคัญมากๆไม่ว่า จะเรื่องของการใช้ชีวิตหรือความสวยงาม
การจัดฟันแบบทั่วๆไปที่เป็นที่นิยมมากที่สุดก็คือ การจัดแบบติดเครื่องมือจัดฟัน มีการใส่ลวดดัดฟันและมีการ ติดBracket ที่เป็นเครื่องมือสีๆติดตรงกลางซี่ฟัน วัยรุ่นบ้านเรานั้นชอบกันมาก ได้จัดเรียงอวดสีBracketสร้าง สีสรรค์ให้การจัดฟันของตนเอง การจัดฟันแบบนี้ค่าใช้จ่ายจะอยู่ในเกณฑ์ปกติทั่วไป เหมาะกับปัญหาฟันใน ทุกรูปแบบ จะเป็นน้อยหรือมากก็สามารถทำได้ค่ะ
หากเป็นเด็กๆเราคงไม่มีปัญหาในการใส่เหล็กดัดฟัน แต่เมื่อเราโตแล้วหรือเป็นผู้ใหญ่แล้วล่ะ? บางทีหน้าที่ การงานก็ไม่ได้อำนวยให้สามารถใส่โลหะได้ ปัจจุบันนั้นเรามีเทคโนโลยีในการจัดฟันเพิ่มขึ้นมามากเลยค่ะ แต่ว่าหากไม่ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด ก็อาจจะไม่รู้ได้ บล็อกนี้ทรายก็เลยหยิบเอาเทคโนโลยีดังๆมาให้เพื่อนๆ ได้ทำความรู้จักกัน ทรายเชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆที่ติดตามบล็อกอยู่ เพราะสมัยก่อนนั้น เราอาจจะมองว่าแฟชั่นดัดฟันคือ เจ๋งน่ารักดี แต่สมัยนี้ทรายว่าความนิยมนั้นมันหมดไปแล้ว การจัดฟันแบบ ให้เห็นชัดเจนอาจจะทำให้หลายๆคนรู้สึกเสียความมั่นใจมากกว่า มาดูกันค่ะว่ามีประเภทของการจัดฟัน แบบไหนบ้างที่เป็นที่นิยมและจะเอื้ออำนวยให้เรา สามารถจัดฟันได้โดยไม่เป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิตค่ะ
ในบล็อกนี้ทรายเขียนโดยได้รับความรู้และข้อมูลมาจาก ทันตแพทย์หญิง ดวงกมล อัชทวีวรรณ คุณหมอจาก COSDENT Clinic สาขา SiamSquare1 ชั้น6 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ความงาม สยามเลเซอร์คลีนิกนะคะ คุณหมอเป็นทันตแพทย์จัดฟันโดยตรงค่ะ
การจัดฟันแบบ Damon System
การจัดฟันแบบนี้ได้รับการพัฒนามาจากการจัดฟันแบบปกติ แต่จะใช้เวลาในการรักษาน้อยกว่า ความเจ็บน้อย กว่า ไม่ต้องใช้ยางรัด ลวดและBracketที่ใข้จะมีความยืดหยุ่นสูงมาก มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าแบบปกติ
ในการทดลองประสิทธิภาพของการจัดฟันระบบนี้ เค้าทดสอบแล้วว่าในเคสเดียวกัน สามารถลดระยะเวลาใน การรักษาได้ ครึ่ง-1ปีเลยทีเดียวค่ะ ทรายว่าน่าสนใจกว่าระบบเดิมมากๆ การจัดฟันที่ดีคุณหมอบอกว่าจะต้อง ไม่ใช้ระยะเวลาเกิน2-3ปีครึ่ง เพราะหากเกินจากนี้จะเริ่มมีปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากแล้ว เพราะอุปกรณ์ จัดฟันนั้นก็ถือว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปรบกวนเนื้อเยื่อช่องปาก จะมีปัญหาเหงือกบวมเรื้อรังและฟันผุซึ่งไม่ เป็นผลดีกับตัวคนไข้เลย
วิธีจัดฟันนี้จะมี2แบบ คือการติดเครื่องมือจัดฟัน ก็จะหน้าตาเหมือนการจัดฟันปกติ หรือจะเป็นการจัดแบบ Damon Clear คือจะติดBracketสีเซรามิกก็ได้ ก็จะดูกลืนไปกับฟันของเรา สำหรับคนที่ไม่ต้องการให้เห็นเหล็ก เป็นสีๆตัวนี้ก็จะเหมาะ สามารถใช้รักษาคนไข้ที่มีปัญหาฟันได้ทุกแบบค่ะไม่ว่าจะมากหรือน้อย ระยะเวลาในการ เข้าพบเพื่อเปลี่ยนอุปกรณ์ก็น้อยลงด้วย ในคนไข้ที่จัดฟันแบบปกติจะต้องมาพบคุณหมอเพื่อเปลี่ยนอุปกรณ์ทุกๆ เดือน แต่ในคนไข้ที่จัดฟันด้วยระบบDamon 2เดือนถึงจะนัด1ครั้งค่ะ คุณหมอบอกว่าเมื่อตอนเทคโนโลยีนี้ออก มาใหม่ๆ แม้แต่ตัวคุณหมอที่เป็นผู้รักษาเองก็ยังอึ้งในประสิทธิภาพ คุณหมอเองก็บอกว่าส่วนตัวเชียร์ตัวนี้ค่ะ
การจัดฟันแบบ Clear Aligner
การจัดฟันแบบนี้จะเหมาะกับคนที่มีปัญหาฟันไม่มาก อาจจะแค่เกบ้างเล็กน้อย เรียงตัวกันไม่สวยงามแต่ไม่ใช่ ฟันทับซ้อนกันนะคะ หรือว่าคนที่เคยจัดฟันมาแล้ว แต่ฟันล้มหรือเคลื่อนตัวไม่อยู่ในตำแหน่งเดิม ก็จะเหมาะกับ การจัดฟันแบบนี้ เครื่องมือในการจัดฟันจะเป็นลักษณะของพลาสติกใส เหมือนถาดฟันที่ต้องพิมพ์ออกมา การจัดฟันแบบนี้สามารถสวมและถอดเครื่องมือได้ด้วยตนเอง มันจะรูปร่างคล้ายๆถาดฟันเวลาที่เราต้องการ ฟอกสีฟันเองที่บ้านเลยค่ะ วิธีการทำงานคือ เค้าจะค่อยๆใช้อุปกรณ์ถาดฟันเนี่ยในการขยับฟัน ด้วยการล็อค รูปแบบที่เราต้องการให้มันขยับไปทีละนิดๆ
การจัดฟันแบบนี้จะเหมาะมากกับคนที่ไม่ต้องการให้มีเครื่องมือจัดฟันใดๆติดอยู่บนผิวฟันของเรา ถ้าคนอื่น ไม่สังเกตดีๆ ก็แทบจะไม่รู้เลยว่าเรากำลังใส่อุปกรณ์จัดฟันอยู่ ส่วนตัวทรายว่าวิธีนี้ดีมากๆและตรงกับทราย คือฟันล่างคู่หน้าบิดเกนิดนึงถ้าต้องจัดทรายก็คงเลือกแบบนี้ แต่แน่นอนว่าเค้าก็จะมีเรตราคาที่ค่อนข้างสูง กว่าวิธีอื่นค่ะ อาจจะต้องใช้เวลาเตรียมตัวปรึกษาคุณหมอเพื่อเลือกรูปแบบให้เหมาะสมอีกที
วิธีการจัดฟันแบบ Clear Aligner จะมีวัสดุอุปกรณ์จากหลายที่นะคะ มีทั้งจาก USA ที่เราอาจจะคุ้นชื่อ หน่อยก็คงเป็น Invisalign ตัวนี้จะราคาสูงมากเนื่องจากข้อมูลทั้งหมดจะต้องส่งไปทำที่Lab USAที่เดียวเท่านั้น เพื่อให้ได้มาตรฐานของเค้า ราคาก็จะเหมือนเราเป็นพลเมืองUSAค่าทำฟันก็จะอู้หูววว์ เหมือนกับเราเป็นชาวอเมริกันคนนึง แต่ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาก็แนะนำเหมือนกันค่ะ ส่วนอีกที่นึงคือ GIKO AsoAligner อันนี้จะมี ช่างเทคนิคจากLabญี่ปุ่นที่ประจำอยู่ไทยมาวัดและเก็บข้อมูลทำให้ถึงที่เลย โดยไม่ต้องส่งไปข้ามประเทศ
ดังนั้นราคาก็จะย่อมเยาว์ลงมาหน่อย ญี่ปุ่นนี้ถ้าเรื่องคุณภาพมาตรฐานก็ไม่ได้แพ้ชาติใดในโลกเหมือนกันค่ะ
ค่ารักษาในการจัดฟัน
ราคานั้นแตกต่างกันไปตามสาเหตุหลักๆดังนี้นะคะ สถานที่ ความน่าเชื่อถือ แพทย์ และรูปแบบการจัดฟัน โดยส่วนใหญ่แล้วเท่าที่สอบถามมา การจัดฟันมักจะต้องใช้เงินก้อนจำนวนนึง คลีนิกต่างๆก็เลยจะมีการ อำนวยความสะดวกให้คนไข้ด้วยการผ่อนจ่ายได้ตามเงื่อนไขของแต่ละที่ ไม่ต้องกังวลว่าต้องใช้เงินก้อน ใหญ่ทีเดียวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
อันนี้ราคาตัวอย่าง อ้างอิงจาก COSDENT CLINICนะคะ
1. การจัดฟันแบบ DAMON System Damon ธรรมดา 90,000 บาท งวดแรก 19,000 (ผ่อน10งวด/งวดละ5,200 บาท) (ผ่อน15 งวด/งวดละ3,000 บาท)
Damon clear 120,000 บาท งวดแรก 26,000 (ผ่อน 10 งวด/งวดละ6,600 บาท)(ผ่อน15 งวด/งวดละ4,400 บาท)
2. Invisalign (อินวิซาไรด์ USA) ราคา 200,000 บาท 3 งวดแรกจ่าย 60,000 บาท งวดสุดท้าย 80,000 บาท
3. Clear aligner (๋GIKO JAPAN) ราคารวม 18,000 บาท ปากบน 9,000 บาท ปากล่าง 9,000 บาท
4. จัดฟันแบบปกติราคาโปรโมชั่น 42,000 บาท (ผ่อน5งวด/งวดละ 5,000 บาท) (ผ่อน10งวด/งวดละ 1,700 บาท)
การเตรียมตัวก่อนการจัดฟัน
ก่อนอื่นเลยก็ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากจากคุณหมอก่อนนะคะ แล้วคุณหมอเค้าจะบอกเราว่า ช่องปากของเรา ฟันของเรานั้นพร้อมสำหรับการจัดฟันแล้วหรือยัง? หรือว่ามีตรงไหนต้องรักษาก่อนไหม สำหรับการจัดฟันนี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่เหมือนกันนะคะ เพราะถ้าตัดสินใจจัดแล้วก็จะต้องมีระเบียบวินัย ในการดูแลตัวเองไปตลอดชีวิต จะต้องใส่Retainerเป็นประจำเพื่อให้ฟันยังคงรูปสวยเหมือนตอนจัดเสร็จ ใหม่ๆ ไม่เกิดปัญหาฟันล้มตามมา จะได้ไม่ต้องจัดใหม่ หลังจากปรึกษาคุณหมอแล้วก็มาหาข้อมูลให้ดีว่า รูปแบบการจัดฟันที่คุณหมอแนะนำเรานั้นมีข้อดีข้อเสียอย่างไร เราอดทนกับความเจ็บปวดระหว่างจัดฟัน ได้หรือไม่อย่างไร แค่ไหน ก็ต้องบอกคุณหมอ ปรึกษาเค้า กล้าพูดกล้าถามในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้นะคะ คุณหมอ จะได้ช่วยแนะนำเราได้ถูกต้อง
การดูแลรักษาหลังจัดฟันเรียบร้อยแล้ว
อันดับ1เลยก็คือ มีระเบียบวินัยในการใส่Retainer หลายคนพอจัดสวยแล้วก็มักจะขี้เกียจและลืม จนเกิด ปัญหาฟันล้มตามมา บางคนก็ว่าคุณหมอทำไม่ดีฟันเลยล้ม จริงๆคือตัวเองขี้เกียจใส่มั่งไม่ใส่มั่งมันก็ล้มสิ นอกจากนี้ต้องหมั่นดูแลรักษาสุขภาพช่องปาก พบแพทย์ตรวจเช็คฟัน มีปัญหาให้รีบรักษาแก้ไข ขูดหินปูน ตามแพทย์แนะนำปีละ 2ครั้ง และอย่าลืมใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์นะคะ
ก็หวังว่าบล็อกนี้จะให้ข้อมูลเกิดประโยชน์กับเพื่อนๆที่ต้องการนะคะ แล้วไว้พบกันใหม่บล็อกหน้าขอบคุณที่ ติดตามกันมาตลอดค่า อยากรู้เรื่องอะไรรีเควสมาได้นะคะ เอาไว้ทรายไปถามคุณหมอมาให้ค่า
Disclaimer: Sponsored Content by Cosdent Clinic by SLC Information: https://www.facebook.com/cosdentbyslc
Create Date : 18 พฤศจิกายน 2557 |
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2557 0:49:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 24002 Pageviews. |
|
|
|
| |